10 หนังหายนะที่ดีที่สุด ตีแผ่ชีวิตหลังวันโลกแตก สภาวะดิ้นรนเพื่อต้องเอาตัวให้รอด
ข่าวสารวงการหนัง หนังหายนะโลกแตก
คุณเตรียมพร้อมกับ "วันโลกแตก" แล้วหรือยัง? เราคงจะได้ยินข่าวว่า ในวันที่ 21 มิถุนายน 2020 นี้นั้น จะเกิดเหตุการณ์วันสิ้นโลก ในช่วงจังหวะไล่เลี่ยกับการเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาของวันพอดี ข่าวดังกล่าวกลายเป็นที่สนใจของผู้คนส่วนหนึ่ง แต่กลับไม่ได้คึกโครมเหมือนกับเมื่อคราวก่อนๆ เพราะว่านี่คือโลกในปี 2020 เราเคยผ่านช่วงเวลาอันน่าตื่นเต้นมาแล้วหลายครั้ง แต่โลกก็ยังคงอยู่ต่อมาได้เรื่อยๆ แต่กว่าจะถึงวันที่โลกแตกจริงๆ นั้น วงการฮอลลิวูดก็มักจะมีหนังที่กล่าวถึงประเด็นนี้ออกมาอยู่เสมอๆ
หนังที่ว่าด้วยประเด็นหลังวันสิ้นโลก วันที่วิถีชีวิตทุกอย่างของโลกได้เปลี่ยนแปลงไปจากปกติ การใช้ชีวิตไม่เป็นเหมือนเดิมอีกต่อไป เราเคยได้ดูหนังหายนะเหล่านี้ที่กลายเป็นความประทับใจแบบไม่รู้ลืมมาแล้ว Movie.TrueID จึงได้รวบรวมหนังประเภทที่จัดว่าที่สุดในรอบทศวรรษ เป็นตัวอย่างในการเรียนรู้และใช้ชีวิต เมื่อถึงเวลาที่ต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจากโลกใบเดิมที่เปลี่ยนแปลงไปเพราะปัจจัยหลายๆ อย่าง
A Quiet Place
อันที่จริงเราควรจะได้ดูภาคต่อของหนังเรื่องนี้แล้ว แต่ก็เพราะถูกเลื่อนไปตามสถานการณ์ก็ย่อมเข้าใจ นี่เป็นหนึ่งในนั้นหายนะหลังโลกแตกที่นำเสนอออกมาได้อย่างมีชั้นเชิงและแปลกใหม่จริงๆ เพราะต้องนั่งดูไปกลับบรรยากาศเงียบๆ กินป๊อบคอร์นไปด้วยยังเกรงใจ หนังตีแผ่ถึงโหมดการใช้ชีวิตและเอาตัวรอดจากภัยอันตรายที่ไวต่อเสียง มันคืออสูรกายที่บุกมาทำลายโลก และทำให้ผู้คนต้องดิ้นรนอย่างหลบๆ ซ่อนๆ โดยที่พวกเขาแทบจะไม่มีความหวังใดๆ หลงเหลืออยู่ในโลกใบนี้อีกเลย นอกจากดูแลซึ่งกันและกัน
Children of Men
หนึ่งในผลงานอันทรงพลังของผู้กำกับ "อัลฟอนโซ กัวรอน" แม้ว่าจะเป็นหนังที่เหมาะกับเฉพาะกลุ่มไปหน่อย แต่ก็ว่าด้วยเรื่องราวโลกอนาคตอันบิดเบี้ยวเพราะการล่มสลายของมวลมนุษยชาติ ที่แปรเปลี่ยนให้ทุกคนไม่สามารถขยายพันธุ์โดยทางธรรมชาติได้อีกต่อไป กระทั่งการปรากฏตัวของเด็กสาววัย 18 ปี ที่กลายมาเป็นความหวังเดียวของคนทั้งโลก ท่ามกลางความขัดแย้งและกระเสือกกระสนของผู้คน ทำให้อดีตนักเคลื่อนไหวหนุ่มต้องยื่นมือเข้ามาช่วยปกป้องเธอให้รอดปลอดภัยจากโลกที่แสนอันตรายใบนี้ เป็นหนึ่งในหนังที่บรรยายด้วยภาพของโลกหนังหายนะออกมาได้น่าจดจำไม่เบาเลยทีเดียว
Snowpiercer
ในขณะที่ฉบับซีรีส์ยังคงออนแอร์อยู่ ย้อนกลับไปดูความขัดแค้นในฉบับหนังใหญ่ของผู้กำกับมือดี "บงจุนโฮ" ที่ถือว่าเป็นงานระดับมาสเตอร์พีชของเขาเลยทีเดียว ที่หยิบยกเอาประเด็นการล่มสลายของมนุษย์ หลังเกิดภาวะเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ ทำให้โลกตกอยู่ในอุณหภูมิหนาวสุดขั้วเกินกว่าที่จะดำรงชีวิตได้ มีเพียงรถไฟขบวนเดียวขบวนสุดท้ายที่จะออกวิ่งไม่หยุดไปทั่วโลก แต่ไม่ได้รองรับเอาไว้สำหรับคนทั่วโลก บนรถไฟขบวนนั้นจึงเต็มไปด้วยการแบ่งขั้วแบ่งชนช้ั้น ความเหลื่อมล้ำปรากฏขึ้นอยู่ในทุกๆ ที่ เพราะความต่างฝ่ายต่างก็ดิ้นรนจะเอาชีวิตให้รอดจากภาวะหลังโลกแตกเช่นนี้
The Road
ปรับโฟกัสในวันโลกแตกมาที่พ่อลูกคู่หนึ่งก็กลายเป็นเรื่องราวที่ชวนรัดทนอดสูอยู่ไม่เบา ผลงานของผู้กำกับ "จอห์น ฮิลลโคต" ที่ว่าด้วยเรื่องราวการเดินทางของพ่อลูกกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก หลังการล่มสลายของโลกใบนี้ ถนนทุกสายเป็นเส้นทางอันตราย แต่ชีวิตยังคงดำเนินต่อไป การเดินไปตามถนนหนทางที่ไม่รู้จัก ไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับอะไรข้างหน้า นี่คือหนังที่ว่าด้วยการดิ้นรนเอาชีวิตรอดที่แสนจะขมขื่น เพียงแต่โทนของหนังที่มักจะขมุกขมัวอยู่ตลอดทั้งเรื่อง ก็ช่วยสร้างบรรยากาศได้ดีแล้ว หนังยังมาพร้อมกับบทสรุปที่ยังเป็นที่กล่าวถึงมาจนถึงทุกวันนี้
Wall-E
ปรับโหมดมาที่หนังแอนิเมชั่นดูบ้าง เพราะก็มีการ์ตูนที่ว่าด้วยเรื่องราวชีวิตหลังโลกแตกเช่นเดียวกัน ก็คือเจ้าหุ่นยนต์เก็บขยะบนโลกที่เคยงดงาม โลกที่กลายเป็นโลกที่ไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่ได้อีก เพราะปัญหามลพิษที่แสนสาหัส ทำให้สภาพอากาศกลายเป็นพิษและไม่เหมาะกับการดำรงชีวิต ทำให้มนุษย์ยุคใหม่ย้ายไปใช้ชีวิตสุขสบายอยู่นอกอวกาศแทน เจ้าหุ่นยนต์ที่เฝ้าทำหน้าที่เก็บขยะแบบเดิมๆ มาหลายร้อยปี มันได้ซึบซับและเรียบร้อยจากวิถีชีวิตอดีตของมนุษย์ผ่านทางสื่อวิดีทัศน์เก่าๆ ที่เก็บได้ นี่คือหนังหลังจากหายนะของโลกที่คิดว่าน่ารักที่สุดตั้งแต่ที่เคยมีมาเลย
Cargo
เป็นหนึ่งที่ค่อนข้างหนักอึ้ง ไม่ต่างกับสิ่งมีชีวิตที่ตัวละครหลักแบกใส่หลังมาตลอดทั้งเรื่อง นี่คือหนังที่กัดกินใจหลังจากภาวะโรคระบาดที่ทำให้ทั้งโลกแปรเปลี่ยนสภาพเป็นโลกที่ไม่เหมือนเดิม ผู้คนกลายเป็นเยี่ยงสัตว์ดุร้ายกระหายเลือด แต่คุณพ่อลูกอ่อนคนหนึ่งได้เลือกกระเตงลูกสาวตัวน้อยออกไปหาใครสักคนที่ช่วยดูแลลูกของเขาได้ปลอดภัยในเวลานี้ เพราะเขาเองก็กำลังติดเชื้อและจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เวลาที่จำกัดทำให้เขาเดินไปอย่างไร้จุดหมาย เพื่อหวังว่าจะหาคนอุปการะลูกเอาไว้ในได้ทัน ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีหัวอกหัวใจของความเป็นพ่ออีกต่อไป
This Is The End
หรือบางทีก็เปลี่ยนบรรยากาศอันแสนหดหู่ของวันโลกแตก กลายเป็นความสนุกบ้าคลั่งแบบที่ชีวิตไม่เคยทำมาก่อน นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเหล่าเซเลบฮอลลิวูดที่มารวมด้วยกันในที่ใครๆ ก็ต่างหวาดกลัวว่าจะเป็นวันสุดท้ายของโลกใบนี้ แต่จะมัวมาอดสูอยู่ทำไม เปลี่ยนความทุกข์ที่กำลังเผชิญหน้ากับจุดจบ มาเป็นความบ้าบอสัปดนสุดเหวี่ยง นี่จึงกลายเป็นหนังที่ว่าหายนะโลกแตกที่เพี้ยนที่สุดเท่าที่เคยมา ถึงแม้ว่าโลกภายนอกจะวุ่นวาย แต่การพบเจอกันของพวกเขากับวายวุ่นยิ่งกว่าภัยที่จะเกิดขึ้น ใครจะคิดว่าในวันที่โลกจะแตกยังฮากระจายได้ขนาดนี้
Dawn of the Planet of the Apes
เมื่อวิวัฒนาการทางวิทยาศาสตร์ได้กระตุ้นทำให้สิ่งมีชีวิตดั้งเดิมที่มาก่อนมนุษย์ แปรเปลี่ยนเป็นสัตว์ประเสริฐที่เรียนรู้ได้เทียบเท่ามนุษย์ หรือเผลอๆ อาจจะฉลาดกว่ามนุษย์เสียด้วยซ้ำ จึงกลายมาเป็นฉากหายนะล่มสลายของมนุษยชาติที่กลายเป็นสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ หนังที่เริ่มต้นจากการเป็นหนังไซไฟธรรมดาๆ แต่มีการปูทางและเนื้อหาที่หนักแน่นขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายกลายเป็นแฟรนไชส์หนังที่ทรงคุณค่าอีกเรื่องของวงการ ที่ว่าด้วยเรื่องการต่อสู้ดิ้นรนเอาชีวิตให้รอด ไม่แค่เพียงมนุษย์ แต่ยังรวมทั้งสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ด้วย (คุณสามารถดูหนังเรื่องนี้ได้ที่ TrueID)
Mad Max: Fury Road
หนังชุดนี้ดำเนินเรื่องราวมาเรื่อยๆ กินเวลาผ่านมาหลายทศวรรษก็ยังคงสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ ให้กับวงการหนังได้เสมอ ก็เช่นเดียวกับภาคล่าสุดของหนังที่ตีแผ่ภาพอันแสนหดหู่ของโลกที่ล่มสลาย เพราะความหมดสิ้นทางทรัพยากรล้ำค่า แม้กระทั่งหยดน้ำก็มีค่าเท่ากับเพชร กลายเป็นหนังแอคชั่นสุดคัลท์ที่มีประเด็นของการดิ้่นรนต่อสู้ในยามยาก ช่วงเวลาที่โลกต้องต่อสู้เพื่อแย่งกับครอบครองทรัพยากรกันเอง ด้วยวิสัยทัศน์อันหลักแหลมของ "จอร์จ มิลเลอร์" ยังทำให้หนังชุดนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์ แม้จะเป็นหนังแอคชั่นสุดมันส์ แต่ก็มาพร้อมกับประเด็นเตือนใจผู้คนในยามยากได้เป็นอย่างดี (คุณสามารถดูหนังเรื่องนี้ได้ที่ TrueID)
28 Days Later
ถ้ามีหัวข้อ "หนังโลกแตก" จะไม่มีหนังเรื่องนี้ไม่ได้ ผลงานขึ้นหึงของผู้กำกับ "แดนนี บอยล์" ที่ยังคงตรึงใจคนดูไม่เสื่อมคลาย แม้จะเวลาจะผ่านไปเกือบ 20 ปีแล้วก็ตาม นี่คือหนังหายนะซอมบี้ในยุคแรกๆ ที่เป็นการปลุกกระแสขึ้นมา ชายหนุ่มที่ตื่นขึ้นมาจากที่โรงพยาบาลและพบว่าเมืองทั้งเมืองไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะเชื้อไวรัสได้ระบาดและแปรเปลี่ยนผู้คนให้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ดุร้าย ต้นฉบับของความโหดล่าซอมบี้เริ่มต้นจากตรงนี้ ทุกคนต่างต้องการเอาชีวิตให้รอดจากสภาวะเช่นนี้ แม้จะไม่รู้เลยว่ายังมีความหวังมากน้อยแค่ไหน หนังมีภาคต่อออกมาด้วย แต่ก็สู้หนังต้นฉบับไม่ได้อยู่ดี ภาพของฉากเดินเดี่ยวๆ ในกรุงลอนดอนที่ว่างเปล่ายังจำติดตาได้เป็นอย่างดี
----------------------------------------------------