ลองเอ่ยชื่อ Super Hero มาสักสามชื่อแบบไม่ต้องคิดสิครับ!!! Superman Batman Spiderman มันจะวนอยู่แถวนี้แหละเป็นฮีโร่มหาชนที่ไม่ว่าสร้างมากี่ครั้งก็ยังมีสาวกตามไปชม โดยเฉพาะ “Batman” ไม่ว่าจะเป็นซีรีย์แบบตลกโปกฮาในปี ’66 ของอดัม เวสต์ “Batman และ Batman Return” ของทิม เบอร์ตันที่นัวร์และจิตตกเหมือนดูหนังอาชญากรรมบวกกับภาพ Dark Fantasy พิลึกพิลั่นอันเป็นลายเซ็นต์ของผู้กำกับ หรือ Batman ของโจเอล ชูมัคเกอร์ที่สีรุ้ง ดูขนาดโปสเตอร์ยังสีสันฉูดฉาด ยิ่งในเรื่องด้วยแล้วแสงสีนี่จัดมาครบอย่างกับสวนสนุก (สีลูกกวาดพอ ๆ กันทั้งสองภาคเลย) แม้ว่าตัวหนังมันจะลงเหวหรือชุดมันจะมีหัวนมเป้าตุงขนาดไหนก็ยังทนดู (ฮา ฮา) จนมากู้ชื่อเสียงพร้อมกับฝากบทบาท Joker ที่กลายเป็นตำนานของฮีธ เลดเจอร์ ใน Batman Trilogy ของโนแลน อะไรที่เป็นเสน่ห์ของมนุษย์ค้างคาวคงต้องบอกว่าความ DARK ความหม่น ที่บางทีก็เหมือนเอาด้านมืดของคนดูมานำเสนอเพราะลึก ๆ แล้วทุกคนก็มีด้านมืดสันดานดิบ ทั้งการอยากอยู่เหนือกฎหมายและอยากมีของไฮเทครวมทั้งอยากรวยแบบ บรูซ เวนย์ เป็นที่รู้กันว่าที่มาของ Batman นั้นมาจากภาพเขียนของดาวินชี่ บวกกับการ์ตูนนักสืบแบบ Dick Tracy ผจญภัยแบบThe Mask of Zoro ลึกลับน่ากลัวแบบ Phantom of The Opera สืบสวนแบบ Sherlock Holmes และใส่ความเป็นฮีโร่แบบ Superman อีกนิดหน่อย (แต่ให้เป็นด้านตรงข้ามกันซะเลย) แต่ Batman ที่จะพูดถึงในตอนนี้คือ LEGO DC: BATMAN – FAMILY MATTERS หากมองแค่หน้าหนัง มันอาจเป็นเพียงอนิเมชั่นที่ทำมาเพื่อขายของเล่น (ซึ่งมันก็จริงนั่นแหละ) เพราะลูกเล่นในหนังของตัวเลโก้ตอนที่หลุดเป็นชิ้น ๆ แล้วประกอบเป็นอย่างอื่นได้นี่ชวนให้อยากซื้อมาต่อชะมัด แต่ทว่าหากมองให้ลึกถึง Message ที่หนังต้องการจะสื่อสารมันน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น? จะเป็นเช่นไรเมื่อแบทแมนรู้สึกว่าการเป็นฮีโร่สำคัญมากจนอยากละทิ้งการเป็น บรู๊ซ เวนย์ และจะเกิดอะไรขึ้นถ้าแบทแมนผู้หมกมุ่นอยู่กับตัวเองและการปราบเหล่าร้ายมากเกินไปจนลืมความสำคัญของสิ่งรอบข้างและครอบครัวต้องมาเจอกับ Red Hood ศัตรูตัวร้ายที่รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเขา และเขาต้องหยุดยั้ง Two Face ที่หมายยึดครองเมือง Gotham เหนืออื่นใดคือสิ่งที่ตัวละครตัวหนึ่งพูดใส่หน้าแบทแมนและคนดูว่า “อย่าละเลยสิ่งที่ควรรัก” แม้ว่ามันจะแทบไม่ต้องตีความให้มากมาย แต่ก็คงจะมีพลังมากพอจะทำให้คนที่ได้ยินนึกย้อนไปถึงสิ่งที่ตัวเองทำหรือเป็นอยู่กับครอบครัวเพราะครอบครัวไม่มีอะไรมาทดแทนได้ที่กล่าวมาทั้งหมดน่าจะเป็นเหตุผลพอให้เราอยากดูแบทแมนภาคนี้ขึ้นมาบ้าง แต่ยังไงซะผู้เขียนว่ามันก็ยังเป็นหนังที่น่าดูกว่าแบทแมนสีรุ้งเป้าตุงเป็นไหน ๆ ทุกคนว่าจริงไหมละครับติดตามชมความสนุกคลิกได้เลยครับขอบคุณภาพจาก www.trueid.net