ภาพ: ผู้เขียนหนังไทยเรื่อง นางไม้ ไม่ได้ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า ‘Nang Mai’ - เดี๋ยวคนจะอ่านผิดเป็น “หนังใหม่” - แต่เป็น ‘Nymph’ ผลงานกำกับของเป็นเอก รัตนเรือง เมื่อปี 2552 ได้รับคัดเลือกให้เข้าฉายที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส ในสาขา UnCertain Regard (หนังที่น่าจับตามอง) นำแสดงโดย วนิดา เติมธนาภรณ์ (กิ๊บซี่ Girly Berry) กับนพชัย ชัยนาม (ร่วมงานกับเป็นเอกเป็นเรื่องแรก และต่อมามี ฝนตกขึ้นฟ้า กับ แรงดึงดูด)ปกหนังสือสีขาวโพลน ตรงกลางปกหน้ามีเขียนว่า ‘นางไม้ (Nymph)’ เช่นเดียวกับใบหุ้มปก (Book Jacket) แม้จะเรียกตัวเองว่าเป็นหนังสือภาพ แต่ภายในเล่มไม่ได้มีเพียงภาพจากหนังเรื่องดังกล่าว หากยังพอมีข้อเขียนถูกจัดเรียงไว้ตามหน้ากระดาษอยู่บ้าง-ไม่มาก กล่าวคือให้พื้นที่และความสำคัญกับภาพถ่ายมากกว่าตัวหนังสือ หนังสือจึงเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบอ่าน แต่เน้นดูภาพสวยๆ ที่ให้คุณค่าทางศิลปะมากกว่า เป็นเอก (ผู้กำกับ) เล่าว่า หนึ่งเดือนก่อนเปิดกล้องถ่ายทำหนังเรื่องนี้ เขาให้นพชัย (พระเอกของเรื่อง) ยืมกล้องฟิล์มของตัวเองไปถ่ายอะไรก็ได้ เพื่อเป็นการเตรียมตัวแสดงในหนัง แล้วหลังจากปีเตอร์คืนกล้องมา เป็นเอกก็เริ่มกลับมาถ่ายรูปด้วยกล้องฟิล์มอีกครั้ง หลังจากไม่เคยใช้มันมาเป็นสิบปีภาพ: ผู้เขียนภาพถ่ายทั้งหมดที่ปรากฏในหนังสือเล่มนี้ ได้จากการออกกองถ่ายทำหนังในช่วงกลางธันวาคม 2551 ถึงปลายมกราคม 2552 ที่ป่าเขาใหญ่และในเมือง ทำให้มีภาพหลายประเภท อย่างภาพวิวทิวทัศน์ ต้นไม้ใบหญ้าในป่าใหญ่ ภาพชีวิตตามธรรมชาติ ภาพนิ่งที่มาจากฉากในหนัง ภาพเบื้องหลังที่มีอุปกรณ์ถ่ายทำติดมาด้วย และไม่ใช่การลั่นชัตเตอร์จากกล้องตัวใดตัวหนึ่ง หรือใครคนใดคนหนึ่งในกองถ่ายเท่านั้น แต่เป็นการรวบรวมจากหลายคน อาทิ นพชัย ชัยนาม, ปราเมศร์ ชาญกระแส (ผู้ถ่ายภาพเบื้องหลัง), วิทยา ชัยมงคล (ผู้กำกับศิลป์), เด็กฝึกงาน และหลายกล้อง เช่น กล้อง DSLR ใส่ฟิล์มขาวดำ กล้องดิจิตอลอย่างที่กล่าวไป นอกจากภาพถ่ายแล้วยังมีข้อความที่สอดแทรกอยู่บนบางหน้ากระดาษ โดยแบ่งได้เป็นสองแบบ คือข้อความที่เป็นความคิดความอ่านจากทีมงานและนักแสดงของหนัง เป็นภาษาไทย เช่น ข้อความจากเป็นเอกที่เขียนว่า เกือบสามอาทิตย์ที่ถ่ายทำ “นางไม้” อยู่ในป่าที่เขาใหญ่นั้น ผมทำตัวเป็นฤๅษีภาพยนตร์อย่างเต็มตัว ไม่มีคอมพิวเตอร์ ไม่มีโทรศัพท์ ไม่เคยเปิดดูทีวี และไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์เลย ทุกวันได้แต่ถ่ายหนัง กิน นั่งคุยกับเพื่อนๆ แล้วก็นอน ตื่นมาวันรุ่งขึ้นก็ทำแบบเดิมอีก มีความสุขมาก ไม่ได้รับรู้เรื่องการเมืองทั้งสิ้น ทำแบบนี้อยู่เกือบสามอาทิตย์ เล่นเอาตัวเองเกือบเชื่อว่าประเทศนี้ยังน่าอยู่… จนกระทั่งกลับเข้าเมือง แล้วหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่านนั่นแหละครับข้อความแบบแรกนั้นยาวกว่าข้อความแบบหลังอยู่มาก ข้อความแบบหลังคือข้อความที่ใช้อธิบายภาพถ่าย เป็นประโยคสั้นๆ ภาษาอังกฤษทั้งหมด เช่น ‘A gigantic tree on the river bank reveals it’s root.’ แทนที่จะเป็น ‘ต้นไม้ขนาดยักษ์ตามฝั่งแม่น้ำเผยให้เห็นรากของมัน’ ผมคิดเองเออเอง ว่าเพราะภาษาสากลจะทำให้หนังสือดูอินเตอร์ เวลาทีมงานเดินทางพาหนังไปฉายตามเทศกาลก็จะได้มอบหรือขายให้ชาวต่างชาติเป็นที่ระลึก ช่วยสื่อสารกับคนในวงกว้างได้มากขึ้น-ไม่ใช่เฉพาะคนไทยเท่านั้นภาพ: ผู้เขียนด้วยความที่มีข้อความเพียงประปราย เขียนบ้างไม่เขียนบ้าง (เหมือนแล้วแต่อารมณ์! - ฮา) ตัวหนังสือไม่มากเท่ากับหนังสือทั่วไปที่เน้นให้อ่านมากกว่าดู ทำให้ผมอ่านเก็บได้ครบทุกตัวหนังสือโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก (แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ขี้เกียจอ่านแค่ไหนก็ตาม) และเท่าที่เห็น มีการสะกดคำผิดอยู่หลายจุด คือ บุคคลิก (ต้องเป็น 'บุคลิก') กลับ (ต้องเป็น 'กับ') Chamkit (ต้องเป็น 'Chankit') ผลลัพท์ (ต้องเป็น 'ผลลัพธ์') พร้อมเพียง (ต้องเป็น 'พร้อมเพรียง')อีกทั้งนอกจากการนำกระดาษอาร์ตมาใช้เป็นส่วนใหญ่แล้ว ยังมีกระดาษไขโปร่งแสงแทรกในเล่ม เป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบที่ทำให้หนังสือดูสวยงามและมีคุณค่า แม้มีจำนวนไม่มากแต่โผล่มาแต่ละครั้งก็ดูพิเศษ ด้วยลักษณะที่เราจับกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาให้แสงส่องผ่าน แล้วเราจะเห็นภาพที่แปลกตา และบางทีดูลึกลับน่าค้นหา เช่น บนหน้าหนึ่งมีคราบคล้ายเขม่าจากการเผาอะไรบางอย่าง และมีข้อความกำกับว่า ‘ภาพรอยไหม้บนฝาบ้านของหลวงน้อย ที่เขาอ้างว่า ได้เสกผีสาวฝังไว้ในนี้’ภาพ: ผู้เขียนหนังสือภาพ นางไม้ (Nymph) จัดทำโดยบริษัท โลคอล คัลเลอร์ ฟิล์ม จำกัด ตีพิมพ์เมื่อเดือนมิถุนายน 2552 (หนังเข้าฉาย 1 กรกฎาคม 2552) ราคาปก 240 บาท ไม่ทราบจำนวนหน้า เพราะไม่มีเลขหน้ากำกับแม้แต่หน้าเดียว, ผมเห็นเล่มนี้ครั้งล่าสุดเมื่อปี 2560 ที่ร้านขายสินค้าในหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) จังหวัดนครปฐม นานมากแล้วจนไม่แน่ใจว่ายังมีวางขายที่นี่หรือที่อื่นอยู่หรือไม่