รีวิวหนัง "Presence เป็น อยู่ ตาย" จำลองมุมมองผีบ้านผีเรือน ไอเดียแหล่มที่สถานะยังกั๊กอยู่

นับว่าเป็นหนึ่งในโปรเจกต์หนังที่เรียกเสียงฮือฮาไม่น้อยได้ตั้งแต่เปิดตัว เพราะนี่คือหนังที่ประกาศว่าจะเป็นการเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองและสายตาของดวงวิญญาณ ที่มาพร้อมกับทีมนักสร้างหนังระดับเทพของวงการ ออกมาเป็น "Presence เป็น อยู่ ตาย" หนังดรามาชวนหลอกที่พาผู้ชมไปสัมผัสและจำลองสถานการณ์ในทำนองที่ว่า...ถ้าเกิดว่ากลายเป็นผีบ้านผีเรือนจะเป็นอย่างไร

เรื่องราวของครอบครัวตระกูลเพย์นที่กำลังมองหาการเริ่มต้นใหม่ เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจที่เพิ่งเผชิญหน้ากับเหตุการณ์อันสะเทือนขวัญมา ทำให้พวกเขารีบร้อนตัดสินใจซื้อบ้านย่านชานเมือง ที่มีอายุนับร้อยปี แต่มีการรีโนเวทปรับแต่งใหม่ให้ดูเข้ายุคสมัยเป็นอย่างดี แต่ทว่าเมื่ออาศัยอยู่ไปเรื่อย ๆ พวกเขาก็เริ่มสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างที่ล่องลอยไปทั่วพื้นที่บ้าน ราวกับว่าคอยจับดูความเคลื่อนไหวของผู้อยู่อาศัย กระทั่งพวกเขาตัดสินใจหาวิธีที่จะกำจัดสิ่งนี้ออกไปให้พ้น ทำให้เกิดคำถามที่ขัดแย้งกันว่าพลังงานนั้นเป็นสิ่งที่มาดีหรือมาร้ายกันแน่?

Presence เป็นหนังที่ได้นักสร้างหนังระดับตัวท็อปของวงการมารวมไว้ นำโดยผู้กำกับยอดฝีมือ "สตีเวน โซเดอร์เบิร์ก" ที่ผนึกกำลังกับนักเขียนบทชั้นครู "เดวิด โคเอปป์" (จากต้นฉบับ Jurassic Park) ที่นับว่าเป็นหนังที่ฟุ้งไปด้วยไอเดียและคอนเซ็ปต์ที่น่าดึงดูดและน่าสนใจเป็นอย่างมาก การเล่าเรื่องผ่านด้วยการใช้มุมกล้องเล่าและจำลองเป็นดวงวิญญาณในบ้าน รวมกับในคนดูได้สวมบทบาทเป็นผีบ้านผีเรือนดู อีกทั้งยังมีพร้อมกับเทคนิคการถ่ายสไตล์ Long Takes แบบเบา ๆ เพราะยังมีคัทซีนอยู่เรื่อย ๆ

แต่ทว่าไอเดียคอนเซ็ปต์เหล่านี้ของหนังก็เหมือนเป็นดาบสองคมเช่นกัน เพราะในท้ายที่สุดนั้น Presence ก็เกือบจะพังทลายเพราะทิศทางการเล่าเรื่องที่ไม่สามารถตอบสนองการสร้างเสน่ห์ของตัวหนังออกมาได้อย่างที่ควรจะเป็น มิติในบทหนังเรื่องนี้ยังไม่สามารถสาธยายออกมาให้ผู้ชมได้กระจ่างแจ้งได้อย่างเพียงพอ อีกทั้งไม่อาจจะสร้างอารมณ์ใด ๆ ที่ตอบโจทย์คนดูไดชัดเจน จะดรามาก็ไม่จัดจ้าน จะหลอนขนลุกก็ไม่ชัด กลายเป็นหนังที่ยังติดอยู่สถานะที่กั๊กเอาไว้อยู่ตลอดทั้งเรื่อง

ก็จริงอยู่ที่เทคนิคงานสร้างและองค์ประกอบโปรดักชันดีไซน์หนังเรื่องนี้ ที่เหมือนกับ สตีเวน โซเดอร์เบิร์ก ที่รับหน้าที่เป็นช่างภาพและควบคุมการถ่ายภาพหนังเรื่องนี้ด้วยตัวของเขาเอง ได้สวมวิญญาณเป็นผีบ้านผีเรือนเองไปด้วย มันเป็นการนำเสนอที่่ค่อนข้างแปลกใหม่ในแวดวงหนังไม่น้อย เราไม่เคยเห็นหนังผีที่เหมือนได้เป็นผีสักเท่าไหร่ และกิมมิกของหนังเรื่องก็คือหนังผีที่ไม่แน่ชัดด้วยว่าใครกันแน่ที่เป็นเหยื่อของการหลอกหลอนในครั้งนี้ เป็นไอเดียที่เจ๋งไม่เบา

แต่เมื่อถูกมานำเสนอในรูปแบบภาพยนตร์เต็มรูปแบบ ราวกับว่ามันจะขาดอะไรบางอย่างไปอยู่ที่ไม่แน่ชัดเช่นกันว่าคืออะไร แต่อย่างน้อย ๆ ส่วนที่ไม่อาจจะเติมเต็มไปสมบูรณ์แบบใน Presence ก็คืออรรถรสความสนุกเท่าที่ควร ถึงการเล่าเรื่องและเทคนิคการเล่าเรื่องต่าง ๆ จะชวนว้าว แต่แก่นสารของเรื่องและความคลุมเครือในภูมิหลังของตัวละครต่าง ๆ ที่แทบจะไม่มีการแนะนำให้ได้สัมผัสได้อย่างเข้าใจและเข้าถึงเลยสักนิด ก็พลอยทำให้คนดูไม่รู้จักเริ่มหลอนหรือกลัวในส่วนไหนก่อนดี

และเพราะว่า Presence เป็นหนังที่เด่นในคอนเซ็ปต์งานสร้าง ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ค่อนข้างบั่นทอนในพาร์ททางการแสดงอยู่เช่นกัน กลายเป็นว่าหนังที่พยายามจะสร้างดวงวิญญาณในโดดเด่นกว่าทีมนักแสดง แต่ยังไม่สามารถแตะต้องไปถึงจุดนั้นได้สำเร็จ และทีมนักแสดงก็ยังไม่สามารถผลักดันมันได้โดดเด่นได้เพียงพอด้วย ไม่ว่าจะเป็น "ลูซี่ หลิว" หรือ "คริส ซัลลิแวน" พลังทางการแสดงของพวกเขาก็ช่วยพยุงหนังเรื่องนี้เอาไว้ไม่ได้เลย

"คัลลินา เลียง" ดูจะเป็นคาแรกเตอร์ที่มีมิติที่สุดในหนังเรื่องนี้แล้ว แต่น่าเสียดายที่ตัวหนังก็ไม่อาจจะขับเสน่ห์ออกมาได้อย่างชวนชม การเป็นความหลงลืมเน้นย้ำตัวละครนี้ไปแบบมองข้ามไปหน่อย ขณะที่การแสดงของเรื่องแรกของ "เอ็ดดี้ มาเดย์" ยังต้องฝึกปรือฝีมืออีกเยอะ เข้าใจว่ามือใหม่ ยังชั่วโมงบินไม่เยอะ แต่น่าเสียดายที่แอคติ้งของเขามักจะสั่นคลอนการรับไม้ส่งต่อบทจากนักแสดงคนอื่น ๆ ได้อย่างสะพรึงแทบทุกครั้ง

ดังนั้นโดยสรุปแล้ว Presence เป็น อยู่ ตาย เป็นหนังที่ให้ความรู้สึกทั้งรักทั้งเกลียดไปในเวลาเดียวกัน รู้สึกเลิฟกับคอนเซ็ปต์และไอเดียที่ต้องเหลียวหันมาของหนังเรื่องนี้ ยิ่งได้ชื่อทีมผู้สร้างได้ค่อนข้างไว้วางใจได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็รู้สึกชังหนังเรื่องนี้ไม่น้อยเช่นกัน เมื่อได้ลองมาสัมผัสกับอรรถรสที่ออกมาได้แบบไม่เต็มที่เท่าที่ควร จะเป็นหนังที่ค่อนข้างกั๊กตัวเองไว้แบบยั่งเชิง ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงกลายเป็นหนังผีที่น่าสนใจแต่ยังคงราบเรียบไปสักหน่อย