เป็นอีกหนึ่งผลงานหนังฟอร์มยักษ์ส่งท้ายปีที่น่าจับตามองตั้งแต่ประกาศงานสร้างและโฉมแรกตัวอย่างแรกกับการดัดแปลงจากนวนิยายขายดีตลอดกาลอย่าง Charlie and the Chocolate Factory มาเป็นภาพยนตร์ Wonka ในปี 2023 แม้จะเคยผ่านการดัดแปลงมาเป็นภาพยนตร์ถึงสองครั้งอย่าง Willy Wonka and The Chocolate Factory ในปี 1971 และ Charlie and the Chocolate Factory ในปี 2005 การนำกลับมาทำเวอร์ชั่นที่สามจึงโคตรจะตั้งตารออย่างมากว่าด้วยเรื่องราวการทำตามความฝันของ วิลลี่ วองก้า ผู้หลงใหลการทำช็อกโกแลตเป็นชีวิตจิตใจจึงเดินทางมาตามฝันแม้ระหว่างอุปสรรคจะมากมายแค่ไหนตัว วองก้า ต้องทำทุกทางเพื่อไปถึงขั้นสุดของความฝันที่ตนวางไว้ ความรู้สึกหลังรับชมต้องบอกเลยว่า ตัวหนังน่ารักมาก ๆ หน้าปกหนังเต็มไปด้วยของหวานช็อกโกแลตน่าทานตัวเนื้อในก็หวานเพลิดเพลินตามท็อปปิ้งหน้าหนังไม่มีผิดเลยจากที่คิด “ ความฝัน” เป็นประเด็นที่หนังตั้งใจสื่อสารออกมาตั้งแต่เริ่มซึ่งตัวหนังทำให้เราเพลิดเพลินกับการตามหาความฝันนี้ได้ดีถึงจะออกมาในรูปแบบคล้ายนวนิยายเยาวชนแต่ชวนดูเพลินแล้วสร้างแรงบันดาลใจได้ดีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ด้วยเหตุการณ์และการผจญภัยค่อย ๆ เติบโตของคนไม่ละเลยความฝันอย่าง วิลลี่ วองก้า ทั้งความยากจนในตัวเมืองที่เขาต้องเผชิญ และภัยจากเศรษฐีที่คอยขัดขวางการผลิตช็อกโกแลตของเขาที่สร้างสรรค์ออกมาได้สนุกและไม่วายจะลืมหยอดมุขตลอดทั้งเรื่องยิ่งเสริมสร้างให้สนุกผสมตลกได้อย่างลงตัวสุด ๆ ผนวกกับงานสร้างที่ชวนว้าว ตัวงานสร้างของ วองก้า การเนรมิตโรงงานและรายละเอียดแบบต่าง ๆ ของตัวช็อกโกแลตที่ดีไซน์มาได้อย่างน่ารัก แปลกตา รวมถึงตัวเมืองที่ให้ความรู้สึกแฟนตาซีที่เซ็ตติ้งได้น่าเชื่อชวนหลงใหลในงานสถาปัตยกรรมน่าลองไปเชิญชม ให้ฟีลคล้ายกับ Barbie ในแง่ของงานสร้าง ไม่แปลกใจถ้ารางวัลออสการ์จะมีชื่อของ วองก้า ติดโผลในสาขาออกแบบเครื่องแต่งกายและงานออกแบบสร้าง ทิโมธี ชาลาเมต์ ในบทบาทวองก้าแบบใหม่แบบ 2023 โดดเด่นทั้งการแสดงร้องเพลงและเต้น เป็นการโชว์ศักยภาพอีกด้านที่ไม่เคยเห็นของเจ้าตัวในแง่ของสเต็ปเท้าไฟและเสียงร้องอันน่าหลงใหล รวมถึงเสน่ห์ในบทบาทยังคงสอบผ่านฉลุยทั้งพาร์ทดราม่าและแก่น ๆ เรียกว่าเป็นสิ่งที่ดีที่งามสุดของเรื่องคงจะไม่มีผิดมีเอกลักษณ์และแตกต่างอย่างชัดเจนจากสองเวอร์ชั่นก่อน เรียกว่าเจ้าตัวเกิดมาเพื่อรับบทนี้คงไม่มีแปลกมาก นักรวมถึงนักแสดงคนอื่นแต่ที่ไม่พูดไม่ได้คงจะเป็น คาลาห์ เลน ในบทบาทบัดดี้คู่ใจที่ต่างคนต่างพาให้รู้จักคำว่ามิตรภาพและความฝันที่เชื่อในพลังฝันของกันและกันที่พร้อมซัพพอร์ทได้ดี แต่คนที่แย่งซีนสุดคงหนีไม่พ้น โอลิเวีย โคลแมน ในบท คุณนายสครับบิทท์ มีความมนุษย์ป้าหัวหมอที่แสดงออกมาได้น่าหยิกน่าหมั่นไส้แต่ด้วยการแสดงทำให้ออกมาในรูปแบบที่แสนบันเทิงได้อย่างแนบเนียนสบาย ๆ จนกลายเป็นอีกจุดที่น่าจับตามองทุกครั้งที่ปรากฎตัวบน พาร์ทมิวสิคัลทำออกมาได้ดีเกินคาดจากที่หวัง ทั้งทำนองเนื้อเรื่อง และดีไซน์ฉากให้เข้ากับการขับร้องแสนจะรับส่งต่อกัน แถมทั้งงานอาร์ต มุมกล้องมีความ cinematic สูงมาก ๆ ถ้าให้เทียบหนังมิวสิคัลในปีนี้ วองก้า น่าจะเป็นหนังมิวสิคัลที่ทั้งเนื้อเรื่อง จังหวะฉากมิวสิคัล มวลรวมน่าจะดีและตราตึงสุดของปี หลาย ๆ อย่างดูชวนฝันแต่กลับเพลิดเพลินและไม่อยากให้จบฉากนี้ก็มี น่าเสียดายตรงบางจังหวะของหนังมีการดำเนินเรื่องที่ไปไวและง่ายไปหน่อยในบางจุดเพียงแต่เป็นช่วงเวลาแค่สั้น ๆ และเมื่อเทียบกับแนวหนังจากนวนิยายเยาวชน หนังแนวครอบครัวก็ดูให้อภัยได้อย่างง่ายดายในจุดสะดุดจุดนี้ ภาพรวมรัก วองก้า เวอร์ชั่นนี้อย่างมาก ๆ อบอวลไปด้วยความอบอุ่น น่ารัก ถวิลหาฝันจนอยากจะตามฝันได้จริง ๆ ด้วยงานสร้างและการแสดงของทิโมธีที่แสดงศักยภาพร้องเล่นเต้นเก่งจนอดไม่ได้ที่จะหลงใหลเพลินไปกับมวลรวมหนังที่ประจวบเหมาะเข้าเดือนสุดท้ายของปีได้เข้าบรรยากาศจริง ๆ แม้ไม่เคยดูสองเวอร์ชั่นก่อนก็สามารถเอนจอยได้อย่างไม่มีติดขัดได้เลย Wonka1 ชั่วโมง 56 นาทีมีพากย์ไทยและซับมีระบบ IMAXรับชมได้ที่โรงภาพยนตร์ วันนี้ ฝากช่องทางในการติดตามพวกเราFacebook FanPage แค่เคยดูYoutube Chanel แค่เคยดูแหล่งที่มาทั้งหมดจากที่ Facebook Page Warner Bros. Pictures และ Facebook Page Wonka Movieภาพหน้าปก ภาพที่ 1ภาพประกอบ ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 ภาพที่ 3 ภาพที่ 4คอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน