ท็อป จรณ ตื่นเต้นเป็นนักแสดงอิสระ จบสวยกับช่อง3 ปัดน้อยใจ
พระเอกดัง ท็อป จรณ ตื่นเต้นเป็นนักแสดงอิสระ ฟุ้งละครจีบแน่น ค่าตัวพุ่งสูงปรี๊ด ยืนยันจบสวยกับช่อง3 ปัดน้อยใจเลยไม่ต่อสัญญา
เข้าสู่โหมดเป็นนักแสดงอิสระมือใหม่อย่างเต็มตัวแล้ว สำหรับพระเอกชื่อดัง ท็อป จรณ โสรัตน์ หลังตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับต้นสังกัดเดิมอย่างช่อง3 ด้วยเหตุผลที่อยากจะมองหารูปแบบการทำงานและบทบาทใหม่ๆ ให้กับตัวเอง
ทั้งนี้ ท็อป จรณ ได้เปิดใจกับทาง “ข่าวสดบันเทิงออนไลน์” ถึงความรู้สึกของการเป็นนักแสดงอิสระครั้งแรก พร้อมเคลียร์ข่าวเม้าธ์ว่าน้อยใจทางช่องที่ช่วงหลังถูกลดบทบาทลงเลยทำให้ไม่ต่อสัญญา รวมถึงความฮอตที่มีละครรุมจีบอย่างแน่น แถมค่าตัวยังพุ่งสูงอีกต่างหาก
ตอนนี้เรียกว่าเป็นนักแสดงอิสระอย่างเต็มตัวแล้ว? “ใช่ครับ แต่ยังไม่นาน ยังเป็นเด็กใหม่อยู่ครับ ถือว่าเป็นนักแสดงอิสระที่ใหม่ๆ อยู่ครับ ยอมรับว่าตื่นเต้น อย่างที่รู้ว่าเราอยู่กับสังกัดมา 10 ปีมันก็จะมีความรู้สึกปลอดภัยที่ได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่มาตลอด แล้วก็จะมีการเลือกงานที่ผู้ใหญ่เห็นว่าเหมาะสมกับเรา”
“ซึ่งพอมาเป็นนักแสดงอิสระเราจะต้องเลือกงานของเราเอง ตัดสินใจเองว่าอันไหนเหมาะสมไม่เหมาะสม มันก็ตื่นเต้นเหมือนกันเพราะเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ รวมถึงบทบาทต่างๆ ที่เราจะได้ทำด้วย”
อะไรที่ทำให้ตัดสินใจจะไม่ต่อสัญญากับทางช่อง3? “ผมมองเรื่องของบทบาทแนวใหม่ๆ ในการทำงานด้วย อย่างเราจะเสพพวก Netflix HBO หรือ Disney+ เราก็จะเห็นบทบาทในการแสดงของหนังหรือซีรีส์แต่ละเรื่อง ซึ่งมันแตกต่างอาจจะไม่ได้อยู่ในรูปแบบของความเป็นพระเอกนางเอก แต่อยู่ในลักษณะของตัวนำเรื่องที่หลากหลาย”
“เพราะฉะนั้นบางครั้งเราก็รู้สึกว่าจริงๆ แล้วยังมีอีกหลายบทบาทเลยที่เรายังไม่เคยได้ลองทำ แล้วก็แนวทางของการนำเสนอไม่ว่าจะเป็นซีรีส์หรือหนังอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งในปัจจุบันก็มีช่องทางการสร้างคอนเทนต์ในรูปแบบใหม่ๆ เยอะขึ้น ผมเองก็อยากหาประสบการณ์และพัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อยๆ”
มองว่าการเป็นนักแสดงอิสระมีโอกาสเติบโตในบทบาทต่างๆ มากกว่า? “ใช่ครับ ผมมองอย่างนั้นนะ ผมมองว่าเราอยากจะพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ในแง่มุมของฝีมือ รวมถึงการพัฒนาทางร่างกายด้วย บางทีบางบทบาทผมอาจจะต้องทำให้ตัวเองผอมหรือสร้างกล้ามให้ดูฟิต ตรงนี้ผมว่ามันท้าทายดี แล้วก็เป็นสิ่งที่อยากจะลองดูว่าเราจะทำได้ไหม”
เลือกที่จะไม่ต่อสัญญา เลยมีข่าวเม้าธ์ว่าเป็นเพราะน้อยใจช่องที่ช่วงหลังบทบาทถูกลดลงมาไม่ได้เด่นมาก? “ไม่ใช่อย่างนั้นเลยนะครับ ไม่จริงๆ ผมว่าบทบาทที่ได้รับก็ถือว่าเป็นบทบาทที่ดีและท้าทายความสามารถเรา คือเราไม่ได้มองตรงนั้นว่าบทบาทมันจะดูน้อยลง ไม่ใช่เลย เพราะสุดท้ายแล้วมันคือความเหมาะสม”
“แล้วก็เป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสในการที่เราจะได้พัฒนาและท้าทายกับบทที่พลิกคาแร็กตอร์ซึ่งต้องใช้ความสามารถอีกอย่างหนึ่ง แล้วตัวเราจะทำได้ดีแค่ไหนที่ให้คุณผู้ชมได้เห็นว่าอีกมิติหนึ่งของเราก็สามารถที่จะถ่ายทอดคาแร็กเตอร์แบบนี้ได้เหมือนกัน ผมว่ามันสนุกเสียด้วยซ้ำ (ย้ำว่าไม่ได้น้อยใจ?) (หัวเราะ)ผมไม่ได้น้อยใจครับ ไม่มีน้อยใจเลยครับ”
บอกลาทางผู้ใหญ่เรียบร้อย? “ได้ไปกราบลาคุณดิว(ปิ่นกมล มาลีนนท์)เมื่อประมาณอาทิตย์ที่แล้ว เรียกได้ว่าไปขออนุญาตและไปขอบคุณในโอกาสที่ทางช่อง3 และนายทุกคนให้โอกาสผมมาตลอด”
ได้ข่าวว่าพอเป็นนักแสดงอิสระปุ๊บก็ฮอตมากเลย ละครรุมจีบ 8-9 เรื่อง? “ก็จริงครับ ละครที่ส่งมาก็มีเยอะจริงๆ แต่ว่าด้วยความที่เราก็มือใหม่ในการที่เป็นอิสระ เพราะฉะนั้นเราก็อยากจะเลือกบทบาทที่เรารู้สึกว่าตัวเองเหมาะสมและน่าสนใจ”
“ผมก็ต้องขอบคุณทุกท่านที่สนใจ จริงๆ แล้วผมก็อยากร่วมงานกับทุกคนเลย แต่เดี๋ยวค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า ผมก็ตื่นเต้นมากๆ เหมือนกันเพราะว่าโห! เราก็ไม่เคยมีละครเสนอเข้ามาอยู่ในมือเยอะขนาดนี้ แต่แน่นอนว่าคิวมันมีจำกัดเพราะฉะนั้นเราก็จะต้องเลือกในสิ่งที่รู้สึกว่าเหมาะสมกับเรา รวมถึงดีที่สุดสำหรับตัวเราเองและผู้ที่นำเสนอด้วยครับ”
“ตอนนี้ผมยังถ่ายละครเรื่อง ปมเสน่หา อยู่กับทางช่อง3 อีกหนึ่งเรื่อง แล้วก็มีที่กำลังจะเปิดใหม่คือเรื่อง ด้ายดิบ โดยวิธีการทำงานของผมจะไม่ค่อยมาเปิดทีเดียวแล้วอัดแน่นๆ ผมจะเน้นเรื่องของความเต็มที่กับงาน ความเข้าใจ จูนกันกับทั้งทีมงาน ผู้กำกับ และคาแร็กเตอร์ให้มันโอเคก่อน แล้วถึงค่อยเริ่มอีกงานหนึ่ง จะไม่ค่อยรับเยอะๆ ทีเดียวพร้อมกัน เพราะอยากให้งานออกมาดี”
“อีกอย่างหนึ่งก็คือแต่ละเรื่องมันมีความยากของบทบาทที่ไม่เหมือนกันเลย ปมเสน่หาก็ยากอีกอย่างหนึ่ง ด้ายดิบเองก็เป็นเรื่องของการที่ต้องเตรียมร่างกาย เพราะมันมีแอ๊กชั่นเยอะและย้อนยุคด้วย เลยอาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวและพัฒนากันไปครับ”
ไม่ใช่แค่ละครติดต่อมาเยอะ แต่ค่าตัวที่เสนอมาก็สูงกว่าเดิม 3-4 เท่าเลย? “(หัวเราะ) ต้องใช้คำว่ายังไงดีครับ…มันเป็นเรื่องของรายละเอียดในการทำงานด้วย แล้วก็เป็นความเมตตาของทางโปรดิวเซอร์และผู้จัด ถามว่าสูงจากที่เคยได้รับ 3-4 เท่าไหม ก็จริงครับ ผมก็เขินๆ นะ แต่ว่ามันก็เป็นเรื่องจริง”
วางตัวเองว่าอยากจะเป็นนักแสดงอิสระไปนานแค่ไหน หรือในอนาคตมีโอกาสจะกลับไปมีสังกัดอีกหรือเปล่า? “ณ วันนี้ผมก็ยังอยากจะเป็นอิสระไปก่อน ยังต้องหาประสบการณ์อีกเยอะ ส่วนในอนาคตไกลๆ เราก็ยังนึกภาพไม่ออกเลย ตอนนี้ยังรู้สึกตื่นเต้นและอยากจะทำผลงานให้ออกมาดีที่สุดก่อน ส่วนโอกาสที่จะได้กลับมาร่วมงานกับช่อง3 อันนี้ก็ต้องแล้วแต่ทางนายเลย วันก่อนที่ผมไปเจอนายก็ได้บอกไปว่าผมยังอยากจะรับใช้อยู่นะครับ”
“จริงๆ แล้วเราก็ยังรักกันดี ช่อง3 ก็เหมือนเป็นครอบครัวที่ผมเติบโตมา วันนี้ก็แค่เป็นเหมือนเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่เดินออกจากบ้านไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ วันหนึ่งถ้าคุณพ่อคุณแม่คิดถึง ผมก็ต้องกลับมาหาเป็นเรื่องธรรมดาครับ (ยืนยันว่าไม่ได้จบกันไม่ดีกับทางช่อง3?) ไม่เลยๆๆ เรารักกันดี ช่อง3 คือครอบครัวครับ”
อัพเดตหัวใจนิดหนึ่ง? “โสดครับ ถามว่ามันเกี่ยวกับที่ผ่านมาไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรักเลยอยากพักเยียวยาหัวใจหรือเปล่า เอ่อ…ก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมก็ไม่ได้คิดอะไรตรงนี้มากขนาดนั้นแล้วเพราะเรารู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองมีความสุขดี ไม่ได้อยากจะไปขวนขวายเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้แบบว่าเราจะไม่มีเลย เพียงแต่ว่าบางครั้งมันก็เป็นเรื่องจังหวะชีวิตด้วย เดี๋ยวมันจะเจอก็คงได้เจอเอง ไม่ได้ซีเรียสอะไรมาก”
จะไม่มีเปิดตัวแบบกะทันหันใช่ไหม? “(หัวเราะ) ไม่หรอก ผมว่ามันเป็นจังหวะชีวิตจริงๆ โควิดด้วยมันก็คงไม่ได้ทำให้ได้ไปเจอใคร แต่ว่าสำหรับผมในตอนนี้มันก็ไม่เป็นอะไร แฮปปี้ดีครับ”