Short CommentEverything Everywhere All at Once ซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส (2022)"ความสนุกที่บ้าคลั่งถูกเปลี่ยนผ่านไปสู่ความอบอุ่นคมคายแบบ...คิดได้ไง?"เมื่อตอนที่หนังเรื่องนี้เข้าฉายโรงครอบครัวดูไปบ่นไปกำลังจะดูหนังสักเรื่องในวันที่มีโอกาสได้ไปเยือนโรงหนังที่มีไม่บ่อยนัก ฟากคุณแม่บ้านต้องการดูหนังเรื่องนี้ที่ก็ไม่ได้ถามเหตุผลนางแต่กับคนรักหนังตัวเล็กต้องการดู Doctor Strange in the Universe of Madness ส่วนผู้เขียนนั้นอะไรก็ได้ แต่สุดท้ายก็ต้องยอมให้คนรักหนังตัวเล็กที่ปัจจุบันเรียนชั้นมัธยมต้นในโรงเรียนประจำที่หาโอกาสออกมาดูหนังยากกว่าด้วยการเสียเงินไปกับหนัง MARVEL ตามสูตร และก็ค้างหนังเรื่องนี้ไว้ว่าจะได้ดูทางไหนจนสุดท้ายก็ลงจอ เร็วกว่าที่คิดจึงต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อเปิดดูในวันแรก (8 ต.ค.) เพื่อพบว่านักแสดงที่ผู้เขียนโตมากับการดูงานของเธอในหนังฮ่องกงคลาสสิคมากมาย เวลานี้เธอได้มีที่ยืนอย่างมั่นคงในฮอลลีวู้ดอย่างที่คงไม่มีนักแสดงหนังจีนคนไหนทำได้เท่าเธอแล้ว เพราะเรื่องนี้เหมือนเธอได้ฉายศักยภาพทุกอย่างในการเป็นนักแสดงแถวหน้าของโลกออกมาให้เห็นกับเจ้าของฉายา "ซือเจ๊" Michelle Yeoh หรือที่คนรุ่นผู้เขียนรู้จักในนามหยางจื่อฉุนEvelyn Wang (Michelle Yeoh) แม่บ้านชาวอเมริกันเชื้อสายจีนวัยทองเจ้าของร้านซักผ้าหยอดเหรียญที่กำลังมีปัญหารุมเร้า ทั้งการถูกสรรพากรเรียกตรวจสอบบัญชีการต้องรับมือกับพ่อที่ชราเรื่องมากหัวโบราณรวมไปถึงเรื่องครอบครัวเมื่อ Joy (Stephanie Hsu) ลูกสาวที่ต้องการให้ Evelyn และกงกงยอมรับความรักเพศเดียวกันระหว่างเธอกับแฟนสาวแต่ที่หนักสุดคือ Waymond (Ke Huy Quan) กำลังจะขอหย่า แต่แล้วเมื่อ Evelyn เดินทางไปสรรพากรพร้อมกับ Waymond และพ่อเพื่อพบกับเจ้าหน้าที่ Deirdre Beaubeirdre (Jamie Lee Curtis) ที่เหมือนเป็นปีศาจร้ายก็เกิดเรื่องประหลาดขึ้น เมื่อ Waymond จากจักรวาลอื่นมาตามหาเธอเพื่อปกป้องพหุจักรวาลจากจอมวายร้าย Jobu Tupaki ที่กำลังเดินทางตามล่า Evelyn ในจักรวาลต่างๆเพื่อเหตุผลบางประการ ทำให้โชคชะตาของครอบครัวของ Evelyn โดยเฉพาะเธอเองต้องเปลี่ยนไปเริ่มต้นด้วยความเป็นดราม่าครอบครัวแล้วพาไปสู่ความบ้าคลั่งก่อนพัฒนามาเป็นความคมคายได้แบบเนียนๆ จากหน้าเสื่อที่เห็นหนังน่าจะออกมาเป็นงานแอ็กชั่นคอมมิดี้ดูสนุกดูเอาความบันเทิงท่าเดียวแต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น จากการที่หนังถูกแบ่งเป็นสามบทในเรื่องคือ Everything , Everywhere และ All at Once ที่มีความหมายมีโทนเรื่องเป็นของตนเองทำให้ถ้ามองเผินๆหนังดูไปคนละทิศทาง เมื่อเริ่มจากการเป็นหนังดราม่าครอบครัวมีปัญหาของแม่บ้านคนหนึ่งแล้วพาตัวเองไปเป็นงานแอ็กชั่นไซไฟปนตลกล้อเลียนเสียดสี จนสุดท้ายกลายมาเป็นงานโรแมนติกแฝงปรัชญาและลงเอยด้วยความคมคายในมุมของครอบครัวและชีวิตคู่ นั่นหมายความว่าหนังเริ่มจากปัญหาครอบครัวแล้วไปสู่การเรียนรู้และมาลงเอยที่ครอบครัวอย่างสวยงาม ทำให้เมื่อถึงบทสรุปสุดท้ายกลายเป็นความอบอุ่นตื้นตันอย่างน่าประหลาดเมื่อได้ผ่านความบ้าคลั่งในช่วงกลางมาอย่างเมามัน และมันก็คือการผสานเรื่องทั้งหมดที่ไม่น่าจะเข้ากันให้เข้ากันได้อย่างเนียนๆซึ่งก็คือเรื่องมีเป้าหมายชัดมีเค้าโครงไม่ได้ปล่อยให้ลูกบ้าพาหลงทาง เพราะแกนหลักยังมีในเรื่องของการเรียนรู้ที่บางปัญหาอาจไม่ต้องการแก้ไขแต่ต้องการการยอมรับและใส่ใจ แต่แกนหลักนี้ถูกรายล้อมด้วยความบ้าทางไอเดียที่หลุดโลกจนคลั่งถ้าว่ากันที่เรื่องของพหุจักรวาลที่เล่าได้แตกต่างจนกลายเป็นความขนขันจนขำกลิ้งเมื่อการต้องทำอะไรเพื่อเปิดประตูมิติ ทั้งยังเห็นเป็นการล้อเลียนเสียดสีอย่างสนุกที่มองเห็นหนังอย่าง The One , The Matrix หรือ Ratatouille หรือจะรวม Doctor Strange in the Universe of Madness ที่ฉายช่วงเดียวกันก็ยังได้แม้อาจไม่ตั้งใจหรือจะเป็นอารมณ์แบบหนังสยองขวัญยังมีมาให้ได้สัมผัส กับงานแอ็กชั่นในช่วงกลางที่มีกลิ่นอายของหนังจีนกำลังภายในที่ดูสนุกด้วยความบ้าพลังเดินหน้าเร็วไม่หยุดยั้ง ทำให้รสชาติออกมาหลากหลายเพราะเหมือนจะมาเล่นสนุกแต่ยังไม่ลืมความคมคายอย่างที่ว่าเพราะคนดูก็มองเห็นผ่านอารมณ์โรแมนซ์ในบางมุมผ่านเรื่องราวที่ Evelyn ได้เรียนรู้จากตัวเองในอีกหลายจักรวาลแต่...ก็อาจไม่ใช่ความบันเทิงสำหรับทุกคน แน่นอนว่าเมื่อหน้าหนังออกมาเป็นงานไซไฟปนตลกขายความบันเทิงแบบลูกบ้าเต็มพิกัด (เพราะเอาซือเจ๊ไปทะลุพหุจักรวาลแบบนี้) หนังจะถูกคาดหวังไปทางนั้นเต็มตัว ซึ่งก็ไม่แปลกเมื่อหนังก็ยังไปทางนั้นได้ครึ่งค่อนแต่เมื่อถึงเวลาหนึ่งหนังเลือกเล่าเชิงปรัชญาให้ตีความที่มาหมดทั้งโดยตรงโดยนัยทำให้คนดูที่ไม่ตั้งใจจะมาเจอ (ซึ่งก็คงเป็นกันทุกคน) อาจรับสารที่ไปไกลกว่าหน้าหนังมากมายไม่ทัน ทำให้สำหรับบางคนที่ไม่ได้ตั้งสมาธิดูมากนักเพราะคิดว่าหนังน่าจะเล่นสนุกบันเทิงมาเต็มที่ที่คงไม่ต้องคิดมาก ก่อนมานิ่งเป็นก้อนหินคุยกันและไม่ทันจับเอาชิ้นส่วนต่างๆที่เป็นสารที่หนังสื่อออกมาหรือเก็บได้ไม่หมดจะกลายเป็นโหวงเหวงและไม่บันเทิงเอา จนกระทั่งอาจกลายมาเป็นมีคำถามในใจมากมายแต่ก็ไม่ผิดอะไรเพราะทั้งตัวอย่างและหน้าเสื่อพาให้คิดไปทางนั้น แต่พอเอาเข้าจริงๆกลายเป็นหนังที่ต้องคิดต้องตีความเลยอาจไม่บันเทิงเอาซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกการแสดงที่ผ่อนคลายเหมือนมาเล่นสนุกเต็มที่ทำให้หนังสนุกขึ้นอีกเป็นกอง แต่ถ้าจะให้ดีคนดูต้องมีความหลังกับเหล่านักแสดงบ้างเพราะมีบางอย่างที่เหมือนล้อเลียนตัวเองอยู่ในที แน่นอนว่าซือเจ๊หยางจื่อฉุนหรือ Michelle Yeoh ได้ปลดปล่อยเต็มที่ในบทนำที่พาหนังทั้งเรื่องไปแบบนี้ไม่ใช่แค่บทสมทบที่ต้องเป็นคนเอเชีย และมันทำให้เจ๊ได้ปล่อยพลังเต็มศักยภาพทั้งงานด้านแอ็กชั่นหรือทางอารมณ์ทำให้แฟนรุ่นเก่ายุค "วิ่งสู้ฟัด" หรือ "สวยประหาร" อย่างผู้เขียนรู้สึกดีที่ในที่สุดฮอลลีวู้ดก็เจอคู่มือใช้ซือเจ๊ได้เสียที ส่วนที่แสบไม่แพ้กันและเหมือนมาเล่นล้อเลียนหนัง Haloween เป็นช่วงๆของ Jamie Lee Curtis ที่แสดงให้เห็นความเก๋าของรุ่นใหญ่ที่ใส่มาหมดทั้งเล่นสนุกด้วยความมันส์แบบสุดๆ และยังคงต้อเอ่ยถึง Ke Huy Quan จาก Indiana Jones and the Temple of Doom ที่มาพร้อมคุณภาพการแสดงชั้นดีที่แม้อาจเป็นบทที่เขียนไว้เพื่อคนอื่น (เฉินหลง) แต่ก็เล่นได้สนุกเต็มที่ไม่มีที่ติทำให้หนังดูดีดูสนุกขึ้นอีกเป็นกองก็ยังเป็นหนังที่ดูสนุกแต่อาจต้องใช้สมาธิกว่าหน้าหนัง เพราะหนังสามบทสามส่วนที่มีเรื่องราวมีทิศทางที่ต่างกัน Everything คือทุกสิ่งทุกอย่างประเดประดังเข้ามาจนเกินรับไหว ส่วน Everywhere คือไปทุกที่ในพหุจักรวาลเพื่อเรียนรู้มิติที่ต่างไปจากการตัดสินใจเพื่อปรับสภาพหัวใจที่อุปมาโดยการโหลดความสามารถต่างๆและแน่นอนได้เห็นว่าการมีชีวิตที่แตกต่างจากที่เป็นอยู่เป็นตัวเลือกที่ดีหรือไม่ และสุดท้าย All at Once คือการหลอมรวมทุกสิ่งเข้าด้วยกันและอยู่กับทุกสิ่งข้างต้นไม่ใช่การพยายามปฏิเสธหรือการขัดขืนเพราะไม่มีอะไรหยุดสายน้ำได้สุดท้ายได้แค่ชะลอและปล่อยให้ไหลไป อาจเหมือนไปคนละทิศทางเมื่อเริ่มจากดราม่าครอบครัวไปหาแอ็กชั่นกำลังภายในไซไฟก่อนมาลงท้ายที่โรแมนติกอิงปรัชญา แต่ถ้าเก็บชิ้นส่วนได้หมดหรืออย่างน้อยได้มากพอและรับสารที่หนังสื่อออกมาได้ก็จะสนุกไปพร้อมกับสาระที่คมคายบนหนังที่คล้ายกับไร้สาระเรื่องนี้ และคนอื่นจะคิดยังไม่ทราบแต่ส่วนตัวผู้เขียนขอบเรื่องนี้จริงๆเพราะจากที่บานปลายไปไกลแต่ลงท้ายได้เนียนตาจนต้องบอกว่า...คิดได้ไง?ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 จาก Instagram michelleyeoh_officialภาพที่ 1 จาก a24films.com ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้รีวิว The Matrix Resurrections (2021)เดอะ เมทริกซ์ เรเซอเร็คชั่นส์ ใหม่ในอารมณ์เดิมที่ยังสนุกสมใจ ใหม่ที่ TrueIDความเห็นหลังชม Doctor Strange in the Multiverse of Madness จอมเวทย์มหากาฬ ในมัลติเวิร์สมหาภัย (2022) "แปลกแต่สนุกอารมณ์ใหม่ กับหนังซุปเปอร์ฮีโร่สยองขวัญ" จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !