รีวิว ESCAPE (หนี ให้พ้นนรก) หนังทหารหนีทัพจากเกาหลีที่ดูได้เพลินๆ แต่ยังไปได้ไม่สุดทาง [มีพากย์ไทย] ดูได้ทาง Netflix บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่า รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เรื่องย่อ ESCAPE (หนี ให้พ้นนรก) ภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาผู้ชมไปติดตามเรื่องราวของ อิมกยูนัม (รับบทโดย อีเจฮุน) พลทหารหนุ่มชาวเกาหลีเหนือที่ความฝันอันยิ่งใหญ่อยากจะเป็นอิสระและเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ฝั่งใต้ (ประเทศเกาหลีใต้) ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้ตัดสินใจวางแผนที่จะหลบหนีออกจากกองทัพ และมุ่งหน้าไปยังเขตปลอดทหารเพื่อข้ามไปยังฝั่งใต้ แต่ดูเหมือนว่าแผนการในครั้งนี้ของเขาจะไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะเขาจะต้องเผชิญหน้ากับ นายพัน รีฮยอนซาง (รับบทโดย คูคโยฮวาน) เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการจากกระทรวงความมั่นคงที่จะเข้ามาคอยติดตามการคลื่นไหวของเขาทุกฝีก้าว โดยท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร อิมกยูนัมจะต้องพบเจอกับอุปสรรคอะไรบ้าง และเขาจะสามารถทำตามความฝันได้หรือไม่ ทุกคนคงต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง ESCAPE (หนี ให้พ้นนรก) รับชมได้พร้อมพากย์ไทยทาง Netflix ตัวอย่าง ESCAPE (หนี ให้พ้นนรก) รีวิว ESCAPE (หนี ให้พ้นนรก) สำหรับหนังเรื่องนี้นั้นเป็นหนังที่เคยเข้ามาฉายในโรงภาพยนตร์บ้านเราไปก่อนแล้วเมื่อช่วงกลางปี 2024 แต่ต้องยอมรับตามตรงว่าตอนนั้นผมไม่เห็นและไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของหนังเรื่องนี้เลย จึงไม่ได้มีโอกาสเข้าไปดูในโรง ทว่าโชคยังดีที่ในที่สุดหนังเรื่องนี้ก็ได้ถูกนำเข้ามาฉายใน Netflix บ้านเรา ซึ่งพอผมได้เห็นหน้าหนังว่าเป็นหนังทหารจากเกาหลีผมก็ไม่รีรอที่จะกดเข้าไปดูแบบรวดเร็วโดยที่ไม่ดูทั้งตัวอย่างหรืออ่านเรื่องย่อเหมือนเคย ซึ่งอันนี้เป็นความชอบส่วนตัวของผมจริงๆ ที่ถ้าเลือกได้ผมก็อยากที่จะไม่รู้อะไรเลยก่อนเข้าไปดู ปล่อยให้หนังพาเราไปแบบเต็มที่เราจะได้ดูมันอย่างไม่ตั้งแง่หรือมีอคติ ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็คือหนึ่งในนั้นที่ผมเข้าไปดูแบบไม่รู้อะไรเลย และพอได้ดูจนจบก็ต้องบอกตามตรงว่าส่วนตัวแล้วผมรู้สึกเฉยๆ คือไม่ใช่ว่าหนังไม่ดีนะ ตัวหนังมีดีหลายอย่างเลย ผู้กำกับเขาทำออกมาได้ค่อนข้างกลมกล่อมกำลังดี และมั่นใจเลยว่ามีหลายคนที่ดูแล้วชอบมากๆ เพียงแต่ส่วนตัวผมรู้สึกว่ามันยังขาดบางอย่างไปจนผมรู้สึกว่ามันยังพาผมไปได้ไม่สุดทางเท่าไหร่ เริ่มจากส่วนที่ดีของหนังเรื่องนี้กันก่อนซึ่งมีหลายอย่างมาก แต่ผมจะเริ่มที่การเล่าเรื่องก่อนแล้วกัน การเล่าเรื่องของเรื่องนี้ทำได้ค่อนข้างดีมากๆ เขาใช้เวลาทุกวินาทีอย่างคุ้มค่า เดินเรื่องฉับไว กระชับ ไม่ซับซ้อน บวกกับการตัดต่อที่ฉับไวและลื่นไหลจึงทำให้ไม่มีจังหวะไหนให้คนดูได้รู้สึกเบื่อเลย โดยตัวหนังเขาจะโฟกัสไปที่ความพยายามที่จะหนีทหารของพระเอก และเน้นไปที่การบิ้วอารมณ์คนดูให้รู้สึกลุ้นระทึกไปกับพระเอกให้ได้มากที่สุด คือทำให้ลุ้นแทบทั้งเรื่อง เพราะหนังใช้เวลาช่วงต้นเรื่องในการปูเรื่องแค่แปปเดียว จากนั้นก็เข้าสู่ช่วงการหลบหนีแบบรัวๆ โดยในระหว่างทางพระเอกก็จะต้องพบเจอกับอุปสรรคและสถานการณ์ที่ขาดไม่ถึงมากมาย เพียงแต่ส่วนตัวผมมองว่าตัวหนังเขาโฟกัสไปที่ความลุ้นในการหนีทหารของพระเอกมากไปจนมันทำให้บทส่วนอื่นๆ ดูเบาบางลง เขาขายแต่ฉากลุ้นๆ แทบทั้งเรื่อง แทบจะไม่มีการเล่าปูมหลังตัวละครหลักๆ เลย ทั้งที่เป็นตัวละครสำคัญ จนมันทำให้ซีนท้ายเรื่องที่ควรจะเป็นซีนที่ทรงพลังและทำให้คนดูอินกลับกลายเป็นเพียงซีนจบแบบธรรมดาๆ ที่เราไม่ได้รู้สึกมีอารมณ์ร่วมเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตัวบทและปูมหลังของตัวละครจะเบาบางไปหน่อย แต่ผมก็ต้องยอมรับว่าส่วนอื่นๆ ที่เหลือของหนังเรื่องนี้นั้นล้วนทำออกมาได้ดีเยี่ยมทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินเรื่องที่ผมพูดไปแล้ว งานสร้างและงานโปรดักชั่นเองก็ทำออกมาได้ดีงามมากๆ ไม่แพ้กัน เรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็มมากที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว รวมไปถึงซีนแอ็คชั่นเองก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดี ทำให้เรารู้สึกลุ้นระทึกตามได้ตลอด ส่วนสุดท้ายที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือการแสดง เพราะส่วนนี้คือส่วนที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้ แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจเท่าไหร่ เพราะคุณภาพเรื่องการแสดงนี่เกาหลีเขาของจริงเสมออยู่แล้ว เล่นดีกันทุกคนยันตัวประกอบจริงๆ แต่คนที่โดดเด่นที่สุดในเรื่องนี้ก็คงจะหนีไม่พ้น อีเจฮุน พระเอกของเรื่อง พี่แกแสดงดีมากจริงๆ สลัดภาพจำของผมที่จำแกจากซีรีส์ Taxi Driver (2021) ไปได้แบบเป็นปลิดทิ้ง แบกหนังทั้งเรื่องไว้คนเดียวได้อย่างสบายๆ และพอได้มาเจอกับการแสดงของ คูคโยฮวาน ผู้รับบทตัวร้ายด้วยแล้วมันก็ยิ่งดีไปใหญ่ คือแสดงได้ดีงามพอกันทั้งคู่ รัศมีทัดเทียมกันแบบกินกันไม่ลงเลยจริงๆ น่าเสียดายที่บทไม่ค่อยส่งเท่าไหร่ ส่วนตัวผมเสียดายซีนท้ายเรื่องมาก เพราะมันเป็นซีนที่ดีมากจริงๆ นักแสดงได้ปล่อยของกันแบบเต็มที่ เพียงแต่บทมันไม่ค่อยส่งเท่าที่ควร ผมเลยรู้สึกไม่ค่อยอินเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม หากให้พูดแบบโดยรวมแล้วหนังเรื่องนี้ก็ยังถือว่าเป็นหนังที่สนุกอีกเรื่องหนึ่งและอยากให้ทุกคนลองได้ดูกัน เพราะตัวหนังมีดีหลายอย่างที่ควรค่าแก่การสละเวลาดู และผมก็มั่นใจว่าต้องมีหลายคนที่ชอบ ดังนั้น อย่าเชื่อทั้งหมดที่ผมรีวิว เพราะความชอบของคนเราไม่เหมือนกัน ผมดูแล้วติดบางอย่างแต่คุณอาจจะไม่รู้สึกแบบเดียวกันก็ได้ ทางที่ดีที่สุดคือคุณต้องไปดูและตัดสินมันด้วยตาของตัวเอง สุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบครับ ผมจะพยายามพัฒนาการเขียนให้ดีขึ้นในบทความต่อๆ ไป หากครั้งนี้ผิดพลาดประการใดหรือทำให้ใครไม่พอใจ ผมก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ ขอบคุณครับ :) สุดท้ายนี้ ฝากกดแชร์ และกดติดตาม ละเลงหนัง ด้วยนะครับ ช่องทางอื่นๆ ในการติดตาม ละเลงหนัง กลุ่มสำหรับพูดคุยเรื่องหนัง : พูดคุยเรื่องหนังทุกเรื่องบนโลก บทความอื่นๆของ ละเลงหนัง : รีวิว+เปิดวาร์ปนักแสดง Squid Game 2 สควิดเกม เล่นลุ้นตาย 2 การกลับมาของซีรีส์ยอดฮิตที่ยังคงสนุกเหมือนเคย รีวิว Deadpool & Wolverine เดดพูล & วูล์ฟเวอรีน การปะทะกันของ 2 ฮีโร่ที่หลายคนรอคอย รีวิว Sweet Home 3 (สวีทโฮม ซีซั่น 3) การกลับมาของซีซั่นสุดท้ายที่กู้ชื่อเสียงและความสนุกกลับมาได้ รีวิว สืบสันดาน (Master of the House) ซีรีส์ไทยเรื่องใหม่จาก Netflix ที่ยังไปไม่ไกลเกินกว่าละครไทยฉบับอัพเกรด รีวิว Anyone But You (เกลียดนัก รักซะเลย) หนังรอมคอมสูตรสำเร็จติดเรทที่แสนจำเจ แต่ก็เป็นความจำเจที่หลายคนคิดถึง รีวิว Vikings: Valhalla Season 3 (ไวกิ้ง: วัลฮัลลา ซีซั่น 3) การปิดฉากภาคสุดท้ายที่แสนจะน่าเบื่อและจืดชืด แหล่งที่มาจาก Sahamongkolfilm ภาพปก: 1 ภาพประกอบ: 1 / 2 / 3 / 4 วิดีโอ: ปฏิบัติการเพื่อชีวิต (Ad Vitam) | ตัวอย่างภาพยนตร์อย่างเป็นทางการ จาก Youtube: Netflix Thailand เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !