เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่ฮือฮากันสุด ๆ ตั้งแต่ที่ช่อง one31 ได้มีการเปิดตัวโปรเจ็กต์ "oneD ORIGINAL" ซึ่งถือเป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ประจำปี 2024 ที่แสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานที่จะพัฒนา ยกระดับอุตสาหกรรมซีรีส์ และละครไทย "บางกอกคณิกา" เป็นหนึ่งในซีรีส์ของโปรเจ็กต์ดังกล่าวที่เรียกความสนใจจากผู้ชมได้อย่างล้นหลาม ด้วย theme ของเรื่องที่ทางทีมผู้จัดตั้งใจจะสื่อสารบอกเล่าถึงเรื่องราวชีวิตของโสเภณีในยุค ปี 2435 ซึ่งเป็นยุคที่การค้าประเมณีกำลังรุ่งเรืองอยู่ในประเทศไทย ด้วยความเป็นพีเรียดที่ภาพแสงสีสวย เสื้อผ้าหน้าผมก็มาเต็ม แถมยังได้ "อิงฟ้า วราหะ" นางงามระดับปรากฏการณ์จากเวที Miss Grand มารับบทเป็น "แม่กุหลาบ" "กะหรี่" ที่มีความฝันอยากจะโบยบิน ทำให้แฟน ๆ ตั้งตารอกันสุด ๆ เพราะเป็นงานที่ท้าทายความสามารถ จนมาถึงวันที่ 8-9 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา "บางกอกคณิกา" ก็ได้ลงจอประเดิม 2 ตอนแรก เรียกได้ว่างดงามสมกับการรอคอย องค์ประกอบด้านงานศิลป์ ภาพ แสง สี ที่สวยงามมารีวิวกันถึงองค์ประกอบแรกนั่นก็คือองค์ประกอบด้านงานศิลป์ที่ปรากฏผ่านหน้าจอ ไม่ว่าจะเป้นภาพ แสง สี ต่าง ๆ ดูจาก 2 ตอนแรกแล้วก็จะเห็นได้ถึงความคุมโทนสีตุ่น ๆ ที่เหมาะกับงานพีเรียดเป็นอย่างดี มีการจัดเซ็ตติ้งบรรยากาศภายในหอบุปผชาติที่เต็มไปด้วยแสงโคมพร่าพราย ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นสีออกแดง ๆ สื่อความหมายแสดงให้เห็นถึงความร้อน ความรัก และความปรารถนา นอกเหนือจากนี้ยังหมายถึงอำนาจ และความรุนแรงได้อีกด้วย ซึ่งในหอบุปผชาติอันเป็นฉากหลักของซีรีส์เรื่องนี้ก็เหมือนจะมีครบทุกอย่างตามที่ได้กล่าวมาส่วนฉากพื้นที่ภายนอกในเวลากลางวันก็มีความใช้สีที่สดใส แสดงให้เห็นถึงความมีชีวิตชีวาของฉากเมืองบางกอกในยุคที่มีการเปิดรับคนต่างชาติเข้ามามากมาย ถือเป็นยุคเปิดโลกที่ผู้คนคลาคล่ำ และเซ็ตติ้งของยุคสมัยดังกล่าวนี้ก็ยังมีผลต่อความฝันของแม่กุหลาบที่อยากจะโบยบินไปเที่ยวรอบโลก ซึ่งความฝันนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในเชื้อเพลิงชั้นดีที่ช่วยขับเคลื่อนให้พล็อตเรื่องได้ดำเนินไป เดินเรื่องเร็ว บทดี มีความน่าสนใจมากันที่พล็อตและการดำเนินเรื่อง ตามที่ได้มีการโปรโมทเอาไว้ว่าซีรีส์จะมีเพียงแค่ 8 ตอนเท่านั้น ทำให้การเดินเรื่องเป็นไปอย่างรวดเร็ว และมีความสั้นกระชับ เฉพาะ 2 ตอนแรกที่ออกมาแล้วมีการเล่าเรื่องได้ดี ใช้เวลาน้อยกินความมาก ภายใต้เวลาที่จำกัดเพียงไม่กี่นาทีสามารถสร้างอารมณ์ร่วมให้คนดูเกิดความเข้าใจได้ ทั้งในแง่ของสภาวะที่ตัวละครจะต้องเป็นอยู่ ความใฝ่ฝัน และความปรารถนา ทั้งยังเสนอปมขัดแย้งที่สำคัญในเรื่องออกมาได้อย่างรวดเร็ว ความดราม่าแบบเต็มเปี่ยม นักแสดงฟาดฝีมือกันพรึบพรับเรื่องการแสดงยังไงก็ต้องขอชื่นชมเพราะถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่มีความสำคัญ เนื่องจากซีรีสืมีเพียงแค่ 8 ตอน การเล่าเรื่องโดยใช้เวลาน้อยนักแสดงต้องทำให้ชัดจริง ๆ ถึงจะได้ใจ เริ่มกันที่ 3 ตัวละครหลักคือ "กุหลาบ" รับบทโดย "อิงฟ้า วราหะ" "โบตั๋น" รับบทโดย "ก้อย อรัชพร โภคินภากร" และ "เทียนหยด" รับบทโดย "ชาร์เลท วาศิตา แฮเมเนา" สามสาวจากหอบุปผชาติที่ต้องการจเป็นอิสระ โดยที่กุหลาบกับโบตั๋น ถือเป็นดอกไม้งามที่มีราคาสูงที่สุดในหอบุปผชาติ ขณะที่เทียนหยดซึ่งเป็นน้องเล็กยังไม่ได้เริ่มทำงาน แต่ก็คงจะอีกไม่นานด้วยความที่ทั้ง 3 สาวต่างก็มีความฝันกันคนละแบบ กุหลาบอยากเป็นอิสระออกไปเที่ยวรอบโลก ขณะที่โบตั๋นอยากจะเป็นเพียงแค่ผู้หญิงธรรมดา เพราะเธอมีชายคนรักที่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกับเขาอย่างสงบสุข ส่วนเทียนหยดก็อยากเรียนหนังสือ และอยากเป็นหมอเพื่อจะได้ช่วยเหลือผู้คนมากมาย 3 นักแสดงหลักถ่ายทอดให้เห็นถึงคาแร็กเตอร์ และแสดงสิ่งที่ตัวละครทั้ง 3 ต้องการออกมาได้เป็นอย่าง ส่วนนักแสดงคนอื่น ๆ ที่มาสมบทก็เรียกได้ว่าตัวพ่อตัวแม่กันทั้งนั้น อีกคนหนึ่งที่อยากจะอวยยศเช่นกันก็คือบท "แม่ราตรี" ที่แสดงโดย "อ้อม พิยดา" นางเอกสาวในตำนานอีกหนึ่งคนของวงการบันเทิงไทยบทแม่ราตรีพูดง่าย ๆ ก็คือ "แม่เล้า" หรือ "มาม่าซัง" นั่นเอง ดูเผิน ๆ อาจเหมือนเป็นคนที่แข็งแกร่ง ทรงอำนาจ และสามารถปกครองผู้หญิงในหอบุปผชาติได้อย่างเด็ดขาดนัก ถึงภายนอกเธออาจจะดูเหมือนโหดร้าย แต่ภายในของเธอก็แตกสลายเช่นกัน จากปมในอดีตที่ซีรีส์กำลังค่อย ๆ เฉลยออกมา ซึ่งอ้อมก็เล่นไว้ได้อย่างมีมิติมากทำให้เรื่องราวภูมิหลังของแม่ราตรียังคงเป็นที่น่าติดตามต่อไป ส่วนตัวละครสมทบชายอื่น ๆ เช่น "พระยาจรัญ" ที่รับบทโดย "ฉัตรชัย เปล่งพาณิชย์" ก็ดูน่าเกรงขาม และถือเป็นผู้กุมอำนาจตัวจริง อาจจะเป็นลาสบอสรึเปล่างานนี้คงจะต้องลุ้นกัน ยังมีตัวละครจากหอมณีจรัสที่เป็นคู่แข่งอีก นำโดย "แม่ทับทิม" รับบทโดย "ตอง ภัครมัย โปตระนันท์" ร่วมด้วย "ไข่มุก" รับบทโดย "มีนา ริณา ฉัตรอมรชัย" ที่เปิดตัวออกมาเพียงแค่นิดเดียวก็ได้เกิดเจิดจรัส งานนี้จะตบตี หรือเชือดเฉือนฟาดฟันกันแค่ไหนคงต้องรอติดตาม ความคาดหวังกับพล็อตและบทสรุปที่ควรจะต้องทำให้ตรึงตรานอกเหนือจะที่ได้กล่าวมาทั้งหมด ก็ยังมีสิ่งละอันพันละน้อยอีกหลายอย่างที่ประกอบเข้ามารวมกันทำให้ซีรีส์เรื่องนี้มีคามน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นโครงเรื่องย่อย พล็อตความรักของแต่ละคู่ที่แทรกเข้ามาแบบกำลังพอดี ให้คนดูได้จั๊กจี้หัวใจ หรือจะเป็นการเปิดโชว์ร้องเต้นกันในหอคณิกาที่สามสาวจัดขึ้นเพื่อหาเงินมาไถ่ตัว ซึ่งก็ถือเป็นโชว์ที่ผสมผสานการเต้นแบบสมัยใหม่ที่ทั้งเซ็กซี่ แถมยังมีการประโคมเสื้อผ้าหน้าผมกันมาแบบจัดเต็ม อย่างไรก็ตามในเมื่อเปิดตัวดีแล้วคนดูก็คงอดที่จะคาดหวังไม่ได้ ว่าผู้จัดจะนำเสนอเรื่องราวต่อไปจนถึงจุดพีคได้ในรูปแบบไหน และจะสามารถจบเรื่องได้แบบตรึงตราตรึงใจหรือไม่ สำหรับตัวผู้เขียนแล้วก็ยังอดไม่ได้ที่จะมีความคาดหวังเล็ก ๆ เมื่อซีรีส์ตั้งใจชูประเด็นเกี่ยวกับโสเภณีที่มีความใฝ่ฝัน โดยตอกย้ำผ่านคีย์เวิร์ด "people with passion can change the world" อยู่ตลอดเวลา และยังเสนอชีวิตโสเภณีในมุมที่ถูกกดขี่อย่างหนัก จึงอยากจะเห็นตัวละครผู้หญิงโสเภณีที่ดู enjoy life และมองว่าการขายตัวก็คืออาชีพหนึ่งบ้าง ไม่รู้ว่าในซีรีส์จะมีตัวละครแบบนั้นไหม ถึงแม้ว่าจะฟังดูล้ำยุคล้ำสมัยแต่เป็นไปได้ ซึ่งถ้ามีก็คงจะเข้ามาช่วยดึง balance ได้ดีเหมือนกันสำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามซีรีส์ได้ในทุกวันพุธและพฤหัสบดีทางช่องวัน 31 หรือดูฉบับ uncut ได้ผ่านแอป oneD ขอบคุณภาพจาก X: one31thailandภาพปก: ภาพที่ 1-2, ภาพที่ 3, ภาพที่ 4, ภาพที่ 5เนื้อหา: ภาพที่ 1, ภาพที่ 2-3, ภาพที่ 4, ภาพที่ 5, ภาพที่ 6, ภาพที่ 7-8, ภาพที่ 9-10, ภาพที่ 11, ภาพที่ 12-13, ภาพที่ 14-15, ภาพที่ 16-17, ภาพที่ 18, ภาพที่ 19