Cafe Funiculi Funicula (2018) เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น ในช่วงชีวิตหนึ่งของคนเรา เชื่อว่าแทบทุกคนคงเคยทำสิ่งผิดพลาดไม่มากก็น้อย บางคนก็เอาความผิดพลาดมาพัฒนาก้าวข้ามอดีตไปได้ แต่บางคนอาจยังฝังใจกับความผิดพลาดในอดีต หากเป็นไปได้ก็คงอยากย้อนเวลากลับไปแก้ไข หรืออย่างน้อยที่สุดคงอยากได้เอ่ยคำขอโทษ หากในตอนนี้ไม่มีโอกาสนั้นแล้ว Cafe Funiculi Funicula (2018) หนังย้อนเวลาที่สร้างจากนิยาย "Coffee ga Samenai Uchi ni" ของ โทชิคาซุ คาวากุชิ (Toshikazu Kawaguchi) ถูกนำมาสร้างเป็นหนังที่จะพาคนดูตามติดตัวละคร ย้อนเวลากลับไปเยียวยาหัวใจของตัวเอง เรื่องราวของร้านกาแฟ Funiculi Funicula ร้านกาแฟที่มีตำนานเรื่องเล่าว่า หากใครได้นั่งจิบกาแฟบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง ที่ชงและรินให้โดย คาสุ (Kasumi Arimura) สาวสวยเจ้าของร้าน ก็จะสามารถย้อนเวลากลับไปอดีตในช่วงเวลาที่ต้องการได้ ในแต่ละวันมีผู้คนแวะเวียนเข้ามามากมาย เพราะอยากจะลองย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีต แต่หลายคนต่างถอดใจยอมแพ้กลับไป เมื่อเก้าอี้ที่ว่านั้นไม่เคยว่าง แถมเจ้าของประจำเก้าอี้ในร้านตัวนั้นก็คือ วิญญาณของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเธอไม่ยอมลุกไปไหนเสียที แล้วในที่สุดเก้าอี้ตัวนั้นก็ว่างจนได้ เมื่อวิญญาณของผู้หญิงคนนั้นลุกไปเข้าห้องน้ำ ฮ่าฮ่า โชคดีเลยตกเป็นของ ฟูมิโกะ (Haru) สาวที่อยากจะย้อนเวลากลับไปยังวันที่ โกโระ (Kento Hayashi) เพื่อนซี้ของเธอนัดเจอเพื่อบอกลาไปอเมริกา ฟูมิโกะ มีเรื่องราวที่อยากบอกแต่เธอไม่ได้บอกออกไปในวันนั้น เพียงแต่เรื่องสำคัญที่ ฟูมิโกะ ยังไม่รู้เกี่ยวกับข้อแม้ของการย้อนเวลาก็คือ กฎ 4 ข้อ ที่สุดท้ายแล้วแม้จะย้อนเวลาได้สำเร็จ แต่มันอาจจะไม่มีความหมายอะไรเลยก็ได้ เมื่อไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้แล้ว พล็อตหนังเดินทางข้ามเวลา ยังเป็นอะไรที่หยิบมาเล่าซ้ำได้เสมอไม่มีวันเบื่อ (รึเปล่า ฮ่าฮ่า) เพราะคนเราล้วนมีเรื่อง เสียใจ เสียดาย เคยทำผิดพลาดมาในอดีต แล้วอยากจะย้อนเวลากลับไปแก้ไขมันอยู่ตลอด พล็อตหนังเดินทางข้ามเวลาจึงเหมือนเป็นแฟนตาซี สำหรับผู้คนที่อยากแก้ไขความผิดพลาดของตัวเอง เพียงแต่ Cafe Funiculi Funicula (2018) เรื่องนี้ ไม่ได้ทำออกมาแบบเซอร์วิสแฟนตาซี ที่สามารถแก้ไขความผิดพลาดได้ หรือดราม่าเหมือนกับบางเรื่องที่ใช้ยาแรง บอกกับคนดูว่ายิ่งแก้ไขเหตุการณ์ต่างๆก็ยิ่งแย่ลงไป ฉะนั้นคนเราไม่ควรไปสนใจกับสิ่งผิดพลาดที่ล่วงเลยมาแล้ว ส่วนหนังเรื่องนี้นำเสนอในมุมมอง ที่เข้าใจผู้คนที่อยากเยียวยาบาดแผล ความรู้สึกค้างคาใจ อาจไม่ได้ตัดสินใจทำหรือทำอะไรไม่ดีลงไป แม้จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นมาแล้วได้ แต่อย่างน้อยการได้กลับไปยังช่วงเวลานั้น มันอาจทำให้เราได้รับรู้บางอย่าง ได้พูดความรู้สึกออกไป แม้สุดท้ายแล้วไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ แต่อย่างน้อยเราก็สามารถก้าวเดินต่อไปในอนาคตข้างหน้าได้ เมื่อไม่มีอะไรให้ค้างคาใจอย่างที่ผ่านมา หนังเล่าเป็นเรื่องราวสั้นๆของ 4 ตัวละคร ที่ต่างมีปมอยากย้อนเวลากลับไปในอดีต ซึ่งแต่ละคนมีมีปมเรื่องราวแตกต่างกันไป อย่าง ฟูมิโกะ ก็เป็นเรื่องราวของเพื่อนรักเพื่อน ที่ไม่กล้าพูดความรู้สึกของตัวเองออกไป จนโอกาสที่มีอาจหลุดลอยไป ยาสุโนริ (Yutaka Matsushige) หนุ่มใหญ่พยาบาลชายที่ต้องรับภาระการดูแล คาโยะ (Hiroko Yakushimaru) ภรรยาที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ เขาไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี เมื่อในตอนนี้ภรรยาไม่สามารถจดจำเขา ในฐานะสามีได้อีกต่อไปแล้ว ยาเอโกะ (Yo Yoshida) ลูกค้าประจำของร้าน ในทีแรกเธอไม่มีความคิดที่จะไปนั่งเก้าอี้ตัวนั้นเลย แต่แล้วกลับเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น เธอรู้สึกเสียดายที่เมื่อมีโอกาสกลับไม่เห็นคุณค่าของสิ่งนั้น จึงอยากย้อนกลับไปเผชิญหน้าคนที่เคยหลีกหนีมาตลอด ส่วนคนสุดท้ายก็คือ ตัวเจ้าของร้านอย่าง คาสุ เอง เธอเคยปิดกั้นตัวเองและคิดว่าคนอย่างเธอไม่ควรมีความสุข เพราะคิดแต่ว่าตัวเองทำความผิดพลาดบางอย่างลงไป จนทำร้ายเธอทำร้ายคนที่รัก ใจความสำคัญของหนังเรื่องนี้ ไม่ใช่การแก้ไขความผิดพลาดในอดีต แต่เป็นการรักษาบาดแผล เยียวยาความรู้สึกในใจ ซึ่งไม่จำเป็นต้องย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตเสมอไป เพราะปัจจุบันเราก็สามารถแก้ไขให้มันถูกต้องได้ หากมีความกล้ามากพอเผชิญหน้าความรู้สึกนั้นของตัวเอง เหมือนกับตัวละครที่กลับไปเผชิญหน้าอดีตที่ไม่สามารถแก้ไขได้ สุดท้ายแล้วพวกเขาต่างตัดสินใจเดินไปข้างหน้า เพื่อลงมือทำปัจจุบันให้มันถูกต้อง สรุปแล้ว Cafe Funiculi Funicula (2018) เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น เป็นหนังที่ออกแนวละมุน ต่อนยอน แต่เล่าเรื่องไม่น่าเบื่อนะ ด้วยความที่เป็นเรื่องราวย่อยสั้นๆของ 4 ตัวละคร เลยทำให้มีปมใหม่ๆมาดึงความสนใจคนดูไว้ได้ตลอด อาจจะไม่บันเทิงมากแต่ได้แง่คิดพอสมควรเลยล่ะขอบคุณเครดิตรูปภาพจาก : Cafe Funiculi Funiculaเขียนโดย : แอดมิน เพจ ปีนรั้วดูหนัง