รีเซต

8 หนังแด่ “ความลำพัง” ในวันที่ต้องอยู่คนเดียว by Kanin The Movie

8 หนังแด่ “ความลำพัง” ในวันที่ต้องอยู่คนเดียว by Kanin The Movie
Jeaneration
10 เมษายน 2563 ( 14:00 )
4.4K
5

ดูหนังออนไลน์

ถ้าจะมีช่วงเวลาไหนที่ทำให้เราได้ “อยู่คนเดียว” นานที่สุด ก็คงจะเป็นสถานการณ์ โควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้นี่แหละ จากชีวิตที่เคยเดินทางออกไปข้างนอก ไปทำงาน ไปเที่ยว ไปสถานที่ต่าง ๆ ก็จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนชีวิตประจำวันของตัวเองเสียใหม่ หรือกระทั่งในฐานะคนดูหนังคนหนึ่ง การปิดโรงภาพยนตร์ก็มีผลกับวิถีชีวิตในแต่ละเดือนแต่ละวันอย่างปฏิเสธไม่ได้เช่นกัน วันนี้เลยหยิบเอาหัวข้อดังกล่าวมาเล่าในมุมของ “ความลำพัง” สักหน่อย กับหนัง 8 เรื่องที่พูดถึงความโดดเดี่ยว การอยู่คนเดียว ในความหมายและผลลัพธ์ที่ต่างกันออกไป มีทั้งในมุมบวก มุมลบ แต่ที่แน่ๆ เข้ากับสถานการณ์การอยู่คนเดียวไม่มากก็น้อยแหละ

ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ

(คลิกที่ภาพ เพื่อเข้าชมหนังเต็มเรื่อง)

เรื่องราวของฟรีแลนซ์กราฟฟิคกับมหกรรมปั่นงานจนร่างแตก จริง ๆ มันมีมุมที่น่าสนใจในการพูดถึงความโดดเดี่ยวของชีวิตอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะในช่วงท้ายที่หนังพาเราไปเห็น “สิ่งที่เขายังไม่ได้ทำ” คนจำนวนหนึ่งที่เขาหลงลืม หรือไม่ได้กลับไปสานสัมพันธ์ ทั้งเพื่อน คนในครอบครัว หรือคนรู้จักเดือนละครั้ง แวดล้อมในหนังมันพูดถึงการอยู่คนเดียวเสียเป็นหลัก มิตรภาพเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นในหนังจึงอบอุ่นไม่น้อยเลย โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่าง ยุ่น กับ เจ๋ ที่ผ่านไปผ่านมากันตลอดในฐานะเพื่อนร่วมงาน และเพื่อนร่วมชีวิตอันน้อยนิดต่อกันและกัน (ด้วยสภาพการงาน การใช้ชีวิต ที่ทำให้พวกเขาต้องละทิ้งสิ่งที่เหนี่ยวรั้งออกไปให้หมด)

ใครที่กำลังเคลียร์สะสางงานอยู่คนเดียวที่บ้าน บรรยากาศอาจจะชวนให้นึกถึง ยุ่น ก็ได้นะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรรักษาสุขภาพ หลับพักผ่อนให้เพียงพอต่อหนึ่งวัน ร่างจะได้ไม่แตก จะได้ไม่ต้องไปขอโทษร่างกายแบบในหนัง ร่างกายที่เราไม่มีวันเอาชนะมันได้น่ะ

A Monster Calls

(คลิกที่ภาพ เพื่อเข้าชมหนังเต็มเรื่อง)

ภาพยนตร์ดราม่าแฟนตาซีที่พูดถึงการก้าวข้ามความสูญเสีย เป็น coming of age ที่ดูมืดมนตั้งแต่ตอนเห็นตัวอย่าง และในหนังจริงๆ ก็หนักพอสมควร ตัวละครเด็กต้องฝ่าฟันบทเรียน 3 ข้อเพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันที่เขากำลังจะสูญเสียแม่ตัวเองจากโรคร้าย นี่คือหนังที่พูดถึงความโดดเดี่ยว การต่อสู้กับสภาพจิตใจเพียงลำพัง ชอบที่ไม่มีใครจะเอาชนะได้นอกจากหัวใจของเราเอง หนังน่าจะทำให้ใครหลายคนที่เผชิญหน้าเหตุการณ์ทำนองเดียวกันเสียน้ำตาได้ไม่ยาก แต่ใครที่ไม่เคยพบเจอ มันก็ยังเป็นหนังดราม่าที่ดีเรื่องหนึ่งที่ควรชม การสูญเสียเป็นเรื่องน่ากลัว การต้องอยู่คนเดียวอาจเป็นฝันร้าย (โดยเฉพาะเด็ก) แต่ถ้าสุดท้ายนั่นเป็นหนทางเดียวในการเดินหน้าไปต่อ เราก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเรียนรู้ที่จะผ่านมันไป ซึ่งในหนังหมายถึง “การเผชิญหน้า” ด้วยตัวเอง

Ad Astra

(คลิกที่ภาพ เพื่อเข้าชมหนังเต็มเรื่อง)

หนึ่งในหนังไซไฟที่ชอบที่สุดเรื่องหนึ่งของชีวิต หนังเล่าถึงภารกิจเดินทางข้ามอวกาศของชายคนหนึ่งที่ต้องออกตามหาพ่อเพื่อหยุดยั้งภัยร้ายที่เกิดขึ้นกับโลก นี่คือหนังที่โดดเดี่ยวในทุกแง่มุม ทำให้รู้สึกลำพังด้วยทุกองค์ประกอบ ตั้งแต่ตัวละครที่เลือกจะไม่ปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ ภารกิจที่ต้องฉายเดี่ยว อวกาศที่ดูเคว้งคว้างไร้สิ่งใด ซึ่งความตัวคนเดียวในหนังไปสอดคล้องกับเรื่องของความเป็นมนุษย์ การตั้งคำถามกับคุณค่าของการเป็นมนุษย์จนถึงการเป็นมนุษย์ทรงภูมิปัญญา ซึ่งย้อนกลับมายังเรื่องของความสัมพันธ์ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตที่ทำให้สูญเสียความเป็นคนไป เป็นหนังที่ดูแล้วเหงามาก เพราะตัวละครมันโดดเดี่ยวเสียเหลือเกิน เคว้งคว้างไร้หนทาง และต้องสร้างการตัดสินใจให้กับชีวิตของตัวเองถึงเรื่องของพ่อ คนรัก อวกาศ โลก

คิดถึงวิทยา

(คลิกที่ภาพ เพื่อเข้าชมหนังเต็มเรื่อง)

การอยู่คนเดียวใน คิดถึงวิทยา น่าจะเป็นบรรยากาศอบอุ่นหน่อยๆ สำหรับคนบางคน เพราะการอยู่คนเดียวของพวกเขากลับเป็นจุดเริ่มของความสัมพันธ์ผ่านหนังสือไดอารี่ที่เติมเต็มชีวิตให้ทั้งสองฝ่าย พล็อตเรื่องมันพูดถึงการต้องไปใช้ชีวิตเพียงลำพังในสถานที่อันห่างไกล ต้องเริ่มต้นวิถีชีวิตใหม่ทั้งหมดแบบนับจากศูนย์ แต่การอยู่คนเดียวก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกโดดเดี่ยว หากมีอะไรบางสิ่งที่เข้ามาทุเลาความลำพังเหล่านั้นให้หายไป ซึ่งเอาจริงๆ อาจจะสิ่งที่ใครหลายคนพยายามทำในสถานการณ์ช่วงนี้อยู่, คิดถึงวิทยา ที่เป็นหนังที่จะบอกว่าเหงาก็ได้ แต่มันก็โรแมนติกมากๆ ด้วย สิ่งเล็กสิ่งน้อยที่เราทำอาจมีคุณค่าและความหมายมากๆ กับใครคนหนึ่งที่เราไม่คาดคิด เฉกเช่นไดอารี่ในเรื่อง

The Last Black Man in San Francisco

(คลิกที่ภาพ เพื่อเข้าชมหนังเต็มเรื่อง)

แม้นี่จะเป็นหนังดราม่าที่พูดถึงมิตรภาพของเพื่อนสองคนในเมืองใหญ่ แต่ The Last Black Man in San Francisco ก็สามารถจับเอาห้วงของความโดดเดี่ยวลำพังมานำเสนอผ่านประเด็นสีผิวได้ ผ่านเรื่องของชายที่พยายามจะเอาบ้านที่ปู่ของตนสร้างกลับคืนมา บ้านที่เขาไม่เคยมีวันได้เป็นเจ้าของ แต่กลับรู้สึกผูกพันกับมันยิ่งกว่าสิ่งใด ปัจจุบันบ้านหลังนี้เป็นของคนอื่น เป็นบ้านของคู่รักวัยกลางคนผิวขาวที่มักจะไล่เขาออกจากบริเวณบ้านอยู่เสมอ มากไปกว่านั้น ไม่มีใครจดจำได้ว่านี่คือบ้านของปู่เขา บ้านที่ปู่สร้างขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ทุกคนจดจำว่ามันคือบ้านทรงวิคตอเรียเมื่อ 100 ปีที่แล้ว ประวัติศาสตร์บ้านของพวกเขาจึงหายไป ซาน ฟรานซิสโก ค่อยๆ กัดกินและผลักไสพวกเขา จนกว่าวันหนึ่งจะไม่เหลือคนผิวสี ณ ที่แห่งนี้อีกต่อไป

Joker

(คลิกที่ภาพ เพื่อเข้าชมหนังเต็มเรื่อง)

หนึ่งในภาพยนตร์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดจากปีที่แล้ว เอาจริง ๆ เส้นเรื่องของ Joker มันไม่ได้มีอะไรมาก ตัวหนังเหมือนทำหน้าที่สำรวจตัวละครที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ จากกลไกบางอย่างของสังคม หนังแสดงให้เห็นถึงอาการผิดปกติที่มากขึ้นของ อาเธอร์ เฟล็ค อันเนื่องมาจากการขาดการรักษา การถูกทิ้งให้อยู่เพียงลำพังนำมาซึ่งความคลั่งที่ค่อยๆ ทวีคูณมาจนถึงตอนท้าย เราชอบที่ตัวละคร อาเธอร์​ เป็นเพียงมนุษย์ตัวเล็กๆ ที่ต้องการมีพื้นที่บางอย่างในชีวิต เขามีความฝัน มีความต้องการจะเป็นที่จดจำ หรือได้รับเสียงหัวเราะจากคนอื่น แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือความโดดเดี่ยว ไร้คุณค่าและความสำคัญ ก่อนที่สุดท้ายเขาจะได้พบหนทางแห่งชีวิตนั่นคือการกลายเป็นสังคม กลายเป็นสัญลักษณ์ เป็นตัวแทนของการบางสิ่ง อันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขามีตัวตนขึ้นมาได้ หนังมันพูดถึงความไร้ตัวตนได้น่าสนใจดี และตั้งคำถามกับเราว่า การที่ อาเธอร์ ไร้ตัวตนเป็นเพราะใคร เขาไร้ตัวตนจริงๆ หรือถูปฏิบัติด้วยการมองไม่เห็นด้วยปัญหานี้กันแน่

Rocketman

(คลิกที่ภาพ เพื่อเข้าชมหนังเต็มเรื่อง)

หนังดนตรีชีวประวัติของ เอลตัน จอห์น ที่เราประทับใจมาก ๆ แบบเกินคาด อาจจะเพราะวิธีการเล่า การใช้ฟอร์มแฟนตาซีมิวสิคัลมาเล่าเพื่อสร้างความย้อนแย้งกับชีวิตจริง กลายเป็นพื้นที่เหนือจริงเหล่านั้นที่อาจจะฟังสนุก ดูเพลิน คือมวลความเศร้าบางอย่างที่กระทบกลับมาอย่างชีวิตจริงของตัวละคร หนังมันพูดถึงปมที่มีต่อครอบครัว คนรัก หรือกระทั่งการมีชื่อเสียง การประสบความสำเร็จ แต่จิตใจพังทลาย กลายเป็นคนโดดเดี่ยว และรู้สึกไร้ตัวตนเพราะไม่มีใครมองเห็นปัญหา คือหนึ่งในความปวดร้าวที่สัมผัสได้ในหนัง หนึ่งในฉากที่เราชอบมากๆ คือซีน Rocket man ที่เล่าจากการฆ่าตัวตายไปสู่การขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ เป็นหนึ่งในโมเมนต์ที่เรารู้สึกว่าเขาตัวคนเดียวมากๆ คนนับหมื่นที่อยู่ตรงหน้าไม่มีใครเห็นเนื้อแท้จริงๆ ของเขาเลย

แฟนฉัน

(คลิกที่ภาพ เพื่อเข้าชมหนังเต็มเรื่อง)

อันนี้อาจจะด้วยความรู้สึกส่วนตัวแต่รู้สึกว่า แฟนฉัน เป็นหนังที่ทำงานกับความรู้สึกเรามาก ๆ เวลาอยู่คนเดียว เพราะหลาย ๆ ครั้งการอยู่คนเดียวก็ชอบทำให้เรานึกถึงเรื่องที่ผ่านมาในอดีต โดยเฉพาะความทรงจำสมัยเรียน หนังมันพูดถึงการเดินทางกลับบ้านเกิด กลับมาตามร่องรอยชีวิตของตัวเองในวัยเด็ก ผ่านสถานที่ ผ่านภาพถ่าย ผ่านเพลง ฯลฯ ซึ่งเราชอบเป็นบ่อยๆ ทั้งเวลาที่ว่างๆ หรือกระทั่งช่วงที่เราอยากหลีกหนีจากปัจจุบัน มันเป็นหนัง Nostalgia ที่พูดถึงการหลบหนีของผู้คนต่อสังคมที่ตัวเอง กลับสู่พื้นที่และเรื่องราวในวันวานที่อบอวลไปด้วยความสุข และความไร้เดียงสาในแบบที่เราไม่มีวันเจอได้อีก เราเป็นคนชอบย้อนกลับไปดูภาพถ่าย อาจจะเพราะเราจำอะไรไม่ค่อยได้มาก แม้จะไม่ได้มีเรื่องราวแบบเดียวกับ เจี๊ยบ และ น้อยหน่า แต่นี่ก็เป็นหนังที่ทำให้บรรยายการอยู่คนเดียวของเราได้ดี (โดยเฉพาะเมื่อผ่านมาแล้วหลายๆ สัปดาห์)

----------------------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<