สวัสดีค่ะวันนี้จะมารีวิว "อนาคต" ซีรีส์ไทยแนวดรามา-ไซไฟ เป็นคอนเทนต์ออริจินัลของ Netflix Thailand เรื่องสุดท้ายของปี 2567 โดยซีรีส์เรื่องเรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวโลกในอนาคตของประเทศไทย ในอีก 30-40ปีข้างหน้า ว่าจะโลกาภิวัฒน์ถึงขั้นไหน โดยซีรีส์เรื่องนี้ผลิตโดย Jungka.studio ผู้กำกับคือ ปวีณ ภูริจิตปัญญา เป็นซีรีส์จบในตอน มีทั้งหมด 4 ตอน ลงสตรีมทาง Netflix เมื่อ 4 ธันวาคม 2567 ภาพรวมในแต่ละตอนจะเป็นอย่างไรไปติดตามรีวิวกันค่ะ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ตอนที่ 1: นิราศแกะดำ นำแสดงโดย: อิ้งค์-วรันธร เปานิล, บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ และ ปอย-ตรีชฎา หงษ์หยก เรื่องย่อ: เรื่องราวของชีวิตคู่สามีภรรยา ที่ต้องห่างไกลกันนานกว่า 3 ปีเพราะภรรยาอย่าง "นุ่น" (อิ้งค์-วรันธร) เป็นแพทย์หญิงและนักบินอวกาศ ที่ขึ้นไปทดลองปลูกถ่ายหัวใจ บนดวงจันทร์ แต่ก็ยังมีการติดต่อลงมายังพื้นโลกกับสามีอย่าง "นนท์" (บอย-ปกรณ์) อยู่ตลอด โดยนนท์มีอาชีพเป็นสถาปนิก ทั้งสองเคยตั้งความหวังว่าจะมีบ้านอยู่บนดวงจันทร์ แต่แล้วความฝันต้องพังทลายลง เมื่อนุ่นเสียชีวิตอย่างกะทันหัน จากอุบัติเหตุยานอวกาศตก สร้างความเสียใจให้นนท์ เป็นอย่างมาก เขาทำใจไม่ได้และยอมรับความจริงข้อนี้ไม่ได้ ไปไหนก็เห็นแต่ภาพจำที่มีแต่นุ่น พอดีกับที่ว่าเพื่อนสนิทของพวกเขาอย่าง "วี" (ปอย-ตรีชฎา) ที่เป็นแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ทำการโคลนนิ่งสัตว์เลี้ยงที่ตายไปแล้วให้ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง นนท์จึงเข้าไปอ้อนวอนเธอ วีเห็นแก่ความรักและมิตรภาพจึงยื่นมือเข้าช่วยเหลือ แต่ติดตรงที่พ่อและครอบครัวของนุ่นซึ่งเป็นผู้เก็บร่างของนุ่นเอาไว้ ไม่ยอมให้ความร่วมมือ แผนการขโมยศพจึงเกิดขึ้น สุดท้ายแล้วนนท์และวีจะทำสำเร็จหรือไม่ไปติดตามกันค่ะ ภาพรวมตอนที่ 1: นักแสดงนำ อิ้งค์และบอยถ่ายทอดบทดรามาได้ดี ที่เซอร์ไพรส์คงเป็นคูมอิ้งค์ ที่แสดงซีรีส์เป็นครั้งแรกแต่ถ่ายทอดบทได้ดี มีความเป็นธรรมชาติ บทคุณพ่อที่แสดงโดยคุณปราย ปรเมศร์ ก็ทำได้ดีค่ะ ธีมของตอนนี้ จะเน้นดรามาครอบครัว ความรัก มีความโรแมนติกและนำเสนอประเด็นความแตกต่างและการเปิดใจยอมรับความแตกต่างในสังคม การดำเนินเรื่อง ช่วงแรกผู้เขียนรู้สึกเนือย แต่พอครึ่งเรื่องหลังรู้สึกเข้มข้นขึ้น มีหักมุมและมีเซอร์ไพรส์ โทนภาพตอนนี้ออกแนวอึมครึมและค่อยๆมีเฉดสีขึ้นตามอารมณ์ของเรื่องและตัวละคร ตอนที่ 2: เทคโนโยนี นำแสดงโดย: วี-วิโอเลต วอเทียร์ และ ธามไท แพลงศิลป์ เรื่องย่อ: เมื่อซีอีโอสาว หัวก้าวหน้า อย่าง "เจสสิก้า" (วี-วิโอเลต) ตัดสินใจเปิดตัวโมเดลธุรกิจ อย่าง เซ็กซ์โรบอต ที่เธอคิดมาอย่างดีแล้วว่านอกจากสร้างรายได้ยังช่วยเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นได้ โดยที่เธอต้องต่อสู้กับบรรดานักร้องเรียน นายทุน กลุ่มอนุรักษ์นิยม และบรรดาคนมีสี ที่ไม่เห็นด้วย แต่เจสสิก้าก็ไม่ย้อท่อ เธอเดินหน้าปรับปรุงพัฒนาหุ่นยนต์ให้เหมือนมนุษย์มากที่สุดและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน โดยมี "วิธ" (ธามไท) แฟนหนุ่มของเธอเป็นผู้ทดลองหุ่นยนต์ในแต่ละรุ่น สุดท้ายแล้วเธอจะปฏิวัติเรื่องเพศในสังคมไทยได้หรือไม่ไปติดตามกันค่ะ ภาพรวมตอนที่ 2: นักแสดงนำของเรื่องอย่างวี วิโอเลต พลิกบทบาทครั้งแรก รับบทสาวแซ่บ เซ็กซี่ มีความหัวก้าวหน้า หัวขบถต่อจารีตโบราณและพวกอนุรักษ์นิยม อินเนอร์เฟียส ฟาดมาก เสื้อผ้าหน้าผมเรื่องนี้ส่งเธอมาก ชุดวินเทจ ทรงผมหลากหลายมากค่ะ ฉากที่ผู้เขียนชอบก็จะเป็น ฉากที่ตัวละครเจสสิก้าดีเบตกับกลุ่มอนุรักษ์นิยม คำพูดคำจาคือเชือดเฉือน และเข้ากับบริบทของคนสองกลุ่มที่มีแนวคิดต่างกัน ฉากที่เจสสิก้าถูกม็อบบุกมาประท้วงต่อเนื่องถึงฉากนางเห็นภาพหลอน ดนตรีคือน่ากลัวมากและฉากเข้าหาคนมีสี ในส่วนของฉาก 18 + ก็มีให้เห็น เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วเนาะว่า เทคโนโยนีแต่ก็ไม่ได้เด่นจนกลบแก่นหลักของเรื่อง งานโปรดักชัน เรื่องนี้ดำเนินเรื่องที่เมืองสมมุติ มีความวินเทจ ประมาณยุค 70-80 เสื้อผ้าหน้าผมตัวละครคือสีสันดีค่ะ วินเทจวินใจมาก ๆ รวมทั้งอุปกรณ์ประกอบฉากที่คุมโทนได้ดี ตอนที่ 3: ศาสดาต้า นำแสดงโดย: เร แม็คโดแนลด์ และ เอม ถาวรศิริ เรื่องย่อ ในโลกอนาคต ที่ทุกคนเข้าถึงสื่อทุกสื่อได้อย่างอิสระ หลายเรื่องจึงไม่เป็นความลับแม้กระทั่งวงการพระสงฆ์ที่มีเรื่องราวมากมายที่สั่นคลอนจนเกิดวิกฤตศรัทธา จึงเป็นจุดกำเนิดของบริการเอไอ อัลตร้า ที่เข้ามาเป็นเครื่องมือเปลี่ยนผลบุญให้เป็นสินทรัพย์ ทำให้คนทำบุญแล้วได้ใช้ในชาตินี้ เจ้าตัวเครื่องมือ อัลตร้า นี้ถูกคิดค้นโดยซีอีโออย่าง "นีโอ"(เอม ถาวรศิริ) เขารวบรวมพระพุทธและพระธรรมเข้ามาอยู่ในเอไอตัวนี้ได้แล้ว จะขาดก็แต่พระสงฆ์ จึงตัดสินใจยื่นดีลสุดพิเศษไปยัง"พระเอนก" (เร แม็คโดแนลด์) พระสงฆ์ที่ก่อนบวชเคยทำอาชีพเกี่ยวกับโปรแกมเมอร์และวิศวะคอม มีความรู้ด้านเทคโนโลยี ที่จะทำให้นีโอควบรวมพระสงฆ์เข้ามาอยู่ใต้บังคับบัญชาได้ สุดท้ายแล้วนีโอจะควบรวมกิจการสำเร็จไหมและพระเอนกจะกอบกู้วิกฤตศรัทธาของชาวพุทธกลับมาได้หรือไม่ไปติดตามกันค่ะ ภาพรวมตอนที่ 3: บทของเทคโนโลยีเอไอและศาสนา เขียนเชื่อมโยงกันได้ดี มีลำดับขั้นตอน ดูน่าสนใจ สอดคล้องกับประเด็นทางสังคม นักแสดงนำ พี่เรเล่นบทพระเอนกได้ดีค่ะ เนียนไปกับบท ฉากปะทะคารมกับเอมคือเล่นได้ดี ฝ่ายหนึ่งก็กวนสุด ส่วนอีกฝ่ายโกรธแค่ไหนก็ต้องข่มอารมณ์ไว้เพราะมีผ้าเหลืองอยู่ อีกหนึ่งสิ่งที่น่ารัก น่าเอ็นดูสำหรับตอนนี้คือ เจ้าหุ่นกระป๋องที่เป็นเหมือนเด็กวัด คอยเป็นผู้ช่วยของพระเอนก ดีไซน์มาได้น่ารักดีค่ะ ตอนที่ 4: เด็กหญิงปลาหมึก นำแสดงโดย: มินนา-ด.ญ.วณิชน์ญา พรพนาฤทธิชัย และ แตงกวา-ด.ญ.ชนันทิชา นำภา เรื่องย่อ: เรื่องราวในอนาคตของกรุงเทพ ที่ต้องเผชิญวิกฤตความแปรปรวนของสภาพอากาศ มีฝนตกต่อเนื่องกันมานานกว่า 2 ปี จนเมืองชั้นล่างแทบจะจมบาดาล จึงต้องมีการสร้างเมืองให้สูงขึ้นเพื่อหนีน้ำท่วม แต่ใครเลยจะรู้ว่าในเมืองชั้นล่าง ซึ่งเป็นด่านรับน้ำ จะยังมีกลุ่มคนที่ยังอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด ที่คนในชุมชนต่างเฝ้ารอวัคซีนที่สกัดจากเซลล์ของปลาหมึกที่จะช่วยป้องกันอาการเจ็บป่วยจากฝนตกเรื้อรัง โดยเจ้าวัคซีนตัวนี้จะมีผลข้างเคียงคือฉีดแล้วจะมีหนวดปลาหมึกงอกออกมาบริเวณคาง เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ "กัลปังหา" หรือ "ปัง" (มินนา-วณิชน์ญา) ซึ่งเป็นเด็กป.2 ที่เกิดและเติบโตมาในชุมชนแออัดแห่งนี้ตัดสินใจลุกขึ้นมาใช้พรสวรรค์ของตัวเองไปประกวดร้องเพลง รายการดัง เพื่อเป็นกระบอกเสียงและหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัวและซื้อวัคซีนเผื่อแผ่ไปยังคนในชุมชน โดยที่เธอมีเพื่อนสนิทวัยเดียวกัน คอยเป็นผู้ช่วยและออกเดินทางสู้ชีวิตไปด้วยกัน เธอคือ "มุกมาดา" หรือ "มุก" (แตงกวา-ชนันทิชา) ในที่สุดเด็กหญิงตัวน้อยทั้งสองคนก็ทำสำเร็จ เพราะคลิปที่เธอไปประกวดและคอลเอ้าท์ได้กลายเป็นไวรัล และทำให้สังคมตั้งคำถามกับการปฏิบัติงานของหน่วยงานภาครัฐ สุดท้ายแล้วพวกเธอและคนในชุมชนจะหลุดพ้นไปจากความเหลื่อมล้ำและวิกฤตโลกที่แปรปรวนได้หรือไม่ ไปติดตามกันค่ะ ภาพรวมตอนที่ 4: นักแสดงนำซึ่งเป็นเด็กหญิงทั้ง 2 คน เอาบทอยู่มาก ๆ แสดงได้ไหลลื่น เป็นธรรมชาติ ทำให้เราทั้งอินและเอาใจช่วยในชะตากรรมของทั้งสอง รวมทั้งนักแสดงสมทบที่เล่นเป็นชาวชุมชนก็ถ่ายทอดได้ดีค่ะ บทของตอนนี้มีหลายอารมณ์มาก ทั้งฮา ซึ้ง ตลกร้าย เสียดสีสังคม สะท้อนความเหลื่อมล้ำ สังคมคนรวย คนจน คนมีอำนาจ และประเด็นโลกร้อน คำพูดหนึ่งซึ่งผู้เขียนรู้สึกทัชมาก คือตอนเด็กหญิงทั้งสองถามกันว่า "ทำไมเขาใช้โลกไม่เผื่อเราบ้างเลยวะ" คือฟังแล้วสะเทือนใจและทำให้ตระหนักรู้ถึงหลายสิ่งมากเลยค่ะ โปรดักชัน ตอนนี้ผู้เขียนชอบฉากมากๆค่ะ ชุมชนแแออัด น้ำท่วมขัง ทำได้สมจริงมาก ดูแล้วรู้สึกอับชื้นตามไปด้วย ทำบรรยากาศของโลกที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยฝนตกได้ดีนะคะ ตอนนี้เป็นตอนที่คอมเมดี้มากที่สุดแต่ตอนจบสะเทือนใจมากค่ะ ฮือ ๆ ภาพรวมของซีรีส์อนาคต ผู้เขียนชอบตอนที่ 4 มากที่สุดรองลงมาเป็น ตอนที่ 3 ส่วน 2 และ 1 ให้เท่ากันค่ะ รู้สึกว่าเรื่องค่อย ๆ ไต่อันดับพีคขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละตอน ปมปัญหาต่างๆ ดูเป็นชีวิตคนจริงที่สามารถจับต้องได้ ในส่วนขององค์ประกอบศิลป์ งานภาพทำได้ดี คลุมโทน ตามอารมณ์ของแต่ละตอน งานซีจีก็ทำได้ดีนะคะ ดนตรีประกอบ เพลงประกอบก็เลือกมาได้ดี ชอบ เพลงคนทางนั้น จากตอนเด็กหญิงปลาหมึก เป็น Cover ที่ทำถึง และในส่วนของทีมนักแสดงก็คือเลือกมาได้สนใจ มีเซอร์ไพรส์ตลอดในส่วนนี้ ให้คะแนนภาพรวม 4 ตอนจบ ของ "อนาคต": 9/10 คะแนน เครดิต ภาพหน้าปกออกแบบใน canva ภาพประกอบหน้าปก Netflixth: ภาพที่ 1 jungka.studio: ภาพที่ 2 ภาพประกอบเนื้อหา Netflixth: ภาพที่ 1 - 4 ลิงก์คลิปวิดีโอประกอบเนื้อหา Netflix Thailand: คลิปที่ 1 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !