ใครที่คิดว่าในน้ำอันตรายกว่าบนบก อยู่บนบกปลอดภัยกว่า คงต้องคิดกันใหม่ซะแล้ว เพราะ บนบกไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่คิด กับ 8 หนังสัตว์ประหลาดบนบก เมื่อพวกมันอยู่กับคุณบนบก จะเกิดอะไรขึ้น และ อันตรายแค่ไหน 8 หนังสัตว์ประหลาดบนบกที่ว่ามีตัวอะไรกันบ้าง มาดูกันค่ะ1. ANACONDAS 2: THE HUNT FOR THE BLOOD ORCHID (2004) อนาคอนด้า เลื้อยสยองโลก 2 เรื่องนี้มีทั้งหมด 4 ภาค ซึ่งนักเขียนคิดว่าภาคนี้ เป็นภาคที่สนุก และ สมจริงที่สุด และ ล่าสุดมีข่าวออกมาว่า ทางค่ายหนัง โซนี่ พิคเจอร์ส จะทำการสร้างภาคใหม่ ซึ่งไม่ใช่การรีเมค แต่เป็นการรีบูต หรือ ยกเครื่องใหม่ เพื่อให้กลายเป็นหนังแฟรนไชส์ชุดใหม่ในอนาคต รูปที่ 1 ANACONDAS 2: THE HUNT FOR THE BLOOD ORCHID (2004) อนาคอนด้า เลื้อยสยองโลก 2 หนังเกี่ยวกับงูอนาคอนด้า ซึ่งไม่ใช่อนาคอนด้าทั่วไป แต่เป็นอนาคอนด้ายักษ์ ที่เคลื่อนไหวรวดเร็ว และ สามารถกินคนเข้าไปได้ทั้งตัว ว่าด้วยเรื่องราวของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่ออกเดินทางสู่ป่าดงดิบลึก เพื่อค้นหากล้วยไม่ป่าหายากสีเลือด ซึ่งร่ำลือกันว่าเป็นแหล่งผลิตเซรั่มที่ช่วยคงความเยาว์วัย หรือ ที่เรียกว่าเป็นอมตะนั่นเอง จึงทำให้ผู้คนสนใจ และ ต้องการสิ่งนี้มาก แต่ว่าการไปเอากล้วยไม้นี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เมื่อมีงูอนาคอนด้าเฝ้าอยู่ และ ช่วงนี้ก็เป็นช่วงของฤดูผสมพันธุ์ เป็นภาคต่อจากเรื่อง Anaconda 1 (1997) อนาคอนดา เลื้อยสยองโลก แต่ไม่ต่อเนื่องกัน เปลี่ยนตัวละคร และ เนื้อเรื่องใหม่หมด เอฟเฟคดูสมจริงมากขึ้น เนื้อเรื่องไม่ค่อยมีอะไรมาก ออกแนวผจญภัยตามหากล้วยไม้แล้วไปเจออนาคอนด้า แต่ไม่ได้มีแค่อนาคอนด้าเพียงอย่างเดียว ยังมีสัตว์ชนิดอื่นผสมอยู่ด้วยเล็กน้อย เปิดเรื่องได้น่าสนใจดี ดำเนินเรื่องเร็วดี ใช้เวลาปูเรื่องไม่นานก็เข้าเรื่องเลย มีตุ้งแช่บ้าง พอเดาเรื่องได้บ้าง มีช่วงตลกสอดแทรกบ้าง มีช่วงให้ลุ้นบ้างเป็นช่วง ๆ ช่วงหลัง ๆ ลุ้นดีเอาใจช่วยตัวละคร2. RISE OF THE PLANET OF THE APES (2011) กำเนิดพิภพวานร และ DAWN OF THE PLANET OF THE APES (2014) รุ่งอรุณแห่งพิภพวานร เรื่องนี้มีทั้งหมดสามภาค ซึ่งแต่ละภาคใช้ชื่อเรื่องไม่เหมือนกัน ซึ่งเป็นภาคเริ่มของภาพยนตร์ชุดใหม่ที่มีเนื้อหาหลักคล้ายคลึงกับภาคสี่ของภาพยนตร์ชุดต้นฉบับ คือ Conquest of the Planet of the Apes (1972) มนุษย์วานรตลุยพิภพ แต่ไม่ใช่การสร้างใหม่ของภาพยนตร์เรื่องนี้โดยตรง ซึ่งนักเขียนขอเลือกสองภาคแรก เนื่องจากรู้สึกว่าสนุกกว่าภาคสาม โดยเฉพาะภาคแรกถือว่าทำออกมาได้ดีมาก2.1 RISE OF THE PLANET OF THE APES (2011) กำเนิดพิภพวานร รูปที่ 2 RISE OF THE PLANET OF THE APES (2011) กำเนิดพิภพวานร หนังเกี่ยวกับลิง ที่ดันไม่ใช่ลิงทั่วไป แต่ลิงเหล่านี้กลับฉลาดไม่แพ้มนุษย์ แถมบางตัววิวัฒนาการถึงขนาดสามารถพูดได้ด้วย เนื่องจากลิงเหล่านี้ได้รับการทดลองเกี่ยวกับการรักษาเซลล์สมอง เพื่อช่วยในการซ่อมแซมความทรงจำของมนุษย์ เรื่องราวของนักวิทยาศาสตร์ที่คิดค้นยารักษาเซลล์สมอง ซึ่งช่วยในการซ่อมแซมความทรงจำต่าง ๆ ของมนุษย์ ทำให้คนแก่สามารถดึงส่วนต่าง ๆ จากสมองมาใช้ได้อย่างสูงสุด แต่เนื่องจากการที่ยานั้นยังไม่มั่นคง และ เกรงว่าจะมีผลเสียต่อมนุษย์ จึงได้ทำการทดลองกับลูกลิงกำพร้าที่เขาได้พบระหว่างทาง ซึ่งภายหลังเขาได้เอามันไปเลี้ยง และ ตั้งชื่อมันว่า ซีซ่าร์ แต่มันกลับฉลาดเกินมาตรฐานของลิงทั่ว ๆ ไป หนังจะเล่าเรื่องตั้งแต่ลิงที่ชื่อ ซีซ่าร์ ตั้งแต่เด็กจนโต และ ปูเรื่องไปยังภาคต่อได้ดี เริ่มเรื่องได้น่าสนใจ ช่วงแรกจะเป็นการทดลองลิง จนได้มารู้จักกับซีซ่าร์ และ ฉายให้เห็นถึงการทดลองเป็นช่วง ๆ จนก่อให้เกิดไวรัสที่แพร่ระบาดไปทั้งเมือง เอฟเฟคทำได้ดีสมจริง ฉากปะทะกันระหว่างมนุษย์กับลิงทำได้ยิ่งใหญ่ลงทุน อีกทั้งยังผสมผสานระหว่างลิงกับมนุษย์ได้อย่างลงตัว ฉายให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับลิงได้เป็นอย่างดี ดูแล้วลึกซึ้งกินใจเข้าถึงอารมณ์ มีครบทุกอารมณ์ บางช่วงก็ทำให้เรายิ้ม และ หัวเราะไปพร้อม ๆ กับความน่ารักของลิง2.2 DAWN OF THE PLANET OF THE APES (2014) รุ่งอรุณแห่งพิภพวานร รูปที่ 3 DAWN OF THE PLANET OF THE APES (2014) รุ่งอรุณแห่งพิภพวานร เรื่องราวของฝูงวานรที่ใช้ชีวิตอยู่ในป่าทั่วไปอย่างมีความสุข หลังจากการตัดสินใจของซีซ่าร์ ซึ่งไม่ยุ่งเกี่ยวกับมนุษย์ แต่แล้วก็มีมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่รอดชีวิตจากไวรัสที่แพร่กระจายตัวเมื่อ 10 ปีก่อน เข้ามารุกรานพื้นที่ของพวกเขา เพื่อต้องการพลังงาน ติดต่อกับคนที่ยังหลงเหลืออยู่ และ หนึ่งในพวกเขาก็ได้ไปทำร้ายลิงตัวหนึ่งบาดเจ็บ อีกทั้งลิงตัวหนึ่งในฝูงก็เกิดอยากเป็นจ่าฝูงขึ้นมา พร้อมใส่ร้ายมนุษย์ให้ทำสงครามกับลิง ดำเนินเรื่องต่อเนื่องจากภาคแรก Rise of the Planet of the Apes (2011) กำเนิดพิภพวานร หลังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่คร่าชีวิตคนไปจำนวนมาก และ หลงเหลือเพียงแค่คนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งต้องการพลังงาน เพื่อติดต่อกับคนที่ยังหลงเหลืออยู่ จึงได้เข้ามาพัวพันกับกลุ่มลิง ซึ่งภาคนี้ซีซ่าร์มีครอบครัวแล้ว และ เน้นฉายให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างลิงมากขึ้น ทั้งการหักหลังระหว่างลิงด้วยกันเอง และ ยังคงมีช่วงที่สร้างรอยยิ้ม และ เสียงหัวเราะเช่นกัน เอฟเฟคยังคงสมจริงเหมือนเดิม แต่อารมณ์ดราม่ายังทำได้ดีสู้ภาคแรกไม่ได้ มีช่วงที่น่าเบื่อบ้าง และ ฉากปะทะกันน้อยไปหน่อย มีแค่ช่วงท้าย ๆ เรื่อง3. Jurassic Parkมีทั้งหมด 3 ภาค ซึ่งเป็นภาคก่อน Jurassic World3.1 Jurassic Park 1 (1993) กำเนิดใหม่ไดโนเสาร์ รูปที่ 4 Jurassic Park 1 (1993) กำเนิดใหม่ไดโนเสาร์ หนังเกี่ยวกับไดโนเสาร์ที่หลุดออกมาจากสวนจูราสสิค พาร์ค และ ออกไล่ล่ามนุษย์ ว่าด้วยเรื่องราวของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่ได้รับคำเชิญจากมหาเศรษฐีคนหนึ่ง เพื่อมาเยี่ยมชมจูราสสิค พาร์ค เป็นคณะแรก ในการเปิดตัวจูราสสิค พาร์ค ครั้งแรกของเขา เพื่ออยากฟังความคิดเห็นของนักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้ แต่ขณะที่พวกเขากำลังเยี่ยมชม ไทรันโนซอรัส เร็กซ์ หรือ ทีเร็กซ์ เกิดอาละวาด ซึ่งพอดีกับฝนกำลังตก ทำให้ไฟฟ้าดับ กรงไฟฟ้าที่กั้นมันจึงใช้การไม่ได้ ทำให้มันหนีออกมาได้ และ ออกไล่ล่าทีละคน หนังดำเนินเรื่องช้าค่อนข้างน่าเบื่อไปหน่อย บางช่วงอาจจะฉายนานเกิน ช่วงแรกไม่ค่อยมีอะไรมาก จะเป็นการปูเรื่องราวก่อนเดินทางมาที่จูราสสิค พาร์ค มีดนตรีประกอบสอดแทรกเป็นช่วง ๆ ซึ่งการใช้ดนตรีทำได้ดีเข้าทำนอง ฉากสถานที่สวยดี ไดโนเสาร์ เอฟเฟคต่าง ๆ ทำได้ดีสมจริง มีช่วงให้ลุ้นเอาใจช่วยตัวละครบ้าง มีช่วงตลกบ้าง ดูแล้วทำให้ยิ้ม และ หัวเราะไปพร้อม ๆ กัน3.2 Jurassic Park 2 The Lost World (1997) ใครว่ามันสูญพันธุ์ รูปที่ 5 Jurassic Park 2 The Lost World (1997) ใครว่ามันสูญพันธุ์ เรื่องราวหลังจากค้นพบว่ายังมีเกาะอีกเกาะหนึ่งที่เอาไว้ใช้เพาะพันธ์ุตัวอ่อนของไดโนเสาร์ อดีตเจ้าของจึงรวบรวมทีมสำรวจ เพื่อเข้าไปสำรวจเกาะ เมื่อมาถึงเกาะ พวกเขาพบว่ามีกลุ่มคนมาอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งพวกเขาไม่ได้มา เพื่อศึกษาเชิงวิทยาศาสตร์ แต่เข้ามาจับไดโนเสาร์ที่เกาะนี้ไป เพื่อจะตั้ง Jurassic Park แห่งใหม่ขึ้น เปิดเรื่องได้น่าสนใจดี ดำเนินเรื่องเรื่อย ๆ ต่อเนื่องจากภาคแรก มีตัวละครจากภาคแรกบางคนมาเข้าร่วมด้วย และ ยังคงใช้ดนตรีเดิม พร้อมดนตรีประกอบอื่น ๆ ช่วย ซึ่งเข้าทำนองดี มีฉายถึงสถานที่จากภาคแรกบ้าง ฉากสถานที่สวยเช่นเดิม ไดโนเสาร์ยังคงสมจริง และ ดูลงทุนมากขึ้น มีช่วงให้ลุ้นเอาใจช่วยตัวละครบ้าง โดยเฉพาะช่วงท้าย ๆ จัดเต็มกว่าภาคแรกมาก แต่บางช่วงอาจพอเดาเรื่องได้บ้าง3.3 JURASSIC PARK 3 (2001) ไดโนเสาร์พันธุ์ดุ รูปที่ 6 JURASSIC PARK 3 (2001) ไดโนเสาร์พันธุ์ดุ เรื่องราวของนักโบราณคดีผู้เชี่ยวชาญเรื่องไดโนเสาร์ที่ยอมรับข้อเสนอของมหาเศรษฐีนักผจญภัย และ ภรรยา ให้เป็นไกด์พาพวกเขาบินชมทั่วเกาะอิสลา ชอร์น่า ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ไดโนเสาร์ของบริษัทอินเจนในอดีต แต่แล้วก็เกิดเหตุจนต้องติดอยู่บนเกาะ ทำให้พวกเขาต้องหาทางไปยังริมเม่น้ำของเกาะ เพื่อรอความช่วยเหลือจากภรรยาของเขา เปิดเรื่องมาก็เริ่มด้วยเสียงดนตรีของ JURASSIC PARK และ มีการใช้ดนตรีประกอบเป็นช่วง ๆ ยังคงมีตัวละครจากภาคแรกบางคนเข้ามาร่วมด้วย ไดโนเสาร์ยังคงสมจริงเหมือนเดิม แต่ไดโนเสาร์มีมากขึ้น หลากหลายขึ้น ช่วงแรกยังไม่ค่อยมีอะไร ดำเนินเรื่องช้าไปหน่อย แต่พอมาถึงเกาะแล้วน่าสนใจดี ฉากสถานที่สวยดี ลุ้นดีเอาใจช่วยตัวละครตลอดทั้งเรื่อง มีช่วงตลกทำให้ยิ้ม และ หัวเราะบ้าง มีฉายถึงสถานที่จากภาคก่อนบ้าง4. Jurassic World เป็นภาพยนตร์ลำดับที่สี่ในชุด จูราสสิค พาร์ค ซึ่งเป็นเรื่องราวหลังจาก จูราสสิค พาร์ค มีทั้งหมด 3 ภาค โดยภาคที่ 3 กำลังถ่ายทำ และ มีข่าวว่าจะดึงนักแสดงจาก จูราสสิค พาร์ค กลับมาร่วมด้วย โดยจะเป็นการกลับมากำกับโดย Colin Treverrow ผู้กำกับจากภาค Jurassic World ภาคแรก4.1 Jurassic World 1 (2015) จูราสสิค เวิลด์ รูปที่ 7 Jurassic World 1 (2015) จูราสสิค เวิลด์ เรื่องราวของจูราสสิค เวิลด์ สวนสนุกไดโนเสาร์แห่งใหม่ที่ดำเนินการเต็มรูปแบบ โดยนายทุนผู้เป็นเจ้าของสวนได้เดินทางมาถึง และ ให้ผู้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการของสวนพาไปชมไดโนเสาร์ดัดแปลงพันธุกรรมตัวใหม่ คือ อินดอมินัส เร็กซ์ ซึ่งผสมมาจากดีเอ็นเอของ อเบลิซอรัส , คาร์โนทอรัส , หมึกกระดอง , ปาด , จิกแกนโนโตซอรัส , มาจุงกาซอรัส , รูกอปส์ , ไทแรนโนซอรัส เร็กซ์ , และ เวโลซีแรปเตอร์ โดยระหว่างการตรวจเยี่ยมครั้งนี้ เธอจึงเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแล และ ฝึกเวโลซีแรปเตอร์มาร่วมประเมิน เพื่อดูว่าสถานที่ดูแลอินดอมินัสนี้มีช่องโหว่ที่ต้องแก้ไขหรือไม่ แต่แล้วพวกเขาก็โดน อินดอมินัส เร็กซ์ หลอกว่าได้หนีออกไปข้างนอกแล้ว ทำให้พวกเขาต้องเข้าไปดูให้แน่ใจ จนได้รู้ว่ามันยังอยู่ข้างใน พวกเขาจึงต้องหนีออกมา แต่มันได้ตามออกมาด้วย เป็นเรื่องราวในช่วง 22 ปี หลังเหตุการณ์บนเกาะ อิสลา นูบลาร์ ซึ่งมีการสร้างสวนสนุกแห่งใหม่ที่ชื่อว่า จูราสสิค เวิลด์ โดยดำเนินเรื่องหลังจากเรื่อง Jurassic Park ยังคงใช้ดนตรีประกอบจากเรื่อง Jurassic Park และ มีฉายถึงสถานที่จาก Jurassic Park ในหนังบ้าง ดำเนินเรื่องเรื่อย ๆ มีช่วงที่ตลกสร้างรอยยิ้มบ้าง มีช่วงให้ลุ้นเป็นช่วง ๆ บางฉากดูลงทุนดี ฉากสถานที่สวยดี ดูยิ่งใหญ่ตระการตา ไดโนเสาร์ดูสมจริง ฉากไดโนเสาร์จู่โจม และ ปะทะกันก็ดูยิ่งใหญ่ดี4.2 JURASSIC WORLD 2 FALLEN KINGDOM (2018) จูราสสิค เวิลด์ 2: อาณาจักรล่มสลาย รูปที่ 8 JURASSIC WORLD 2 FALLEN KINGDOM (2018) จูราสสิค เวิลด์ 2: อาณาจักรล่มสลาย เรื่องราวขององค์กรใหม่ที่ชื่อ “Dinosaur Protection Group” หรือแปลว่า “กลุ่มผู้คุ้มครองพิทักษ์ไดโนเสาร์” ที่ได้รับความไหว้วานจากเจ้าของคฤหาสต์แห่งหนึ่งให้หาทางอพยพเหล่าไดโนเสาร์ออกจากเกาะ หลังจากการเกิดภูเขาไฟยักษ์ระเบิด ซึ่งได้คร่าชีวิตของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนเกาะจนใกล้สูญพันธุ์ และ ทำให้เกาะแห่งนี้ลุกเป็นไฟ อีกทั้งยังพบว่า บลู เวโลซีแรปเตอร์ ของเขายังมีชีวิตอยู่ และ กำลังตกเป็นเป้าหมายในการนำไปผสมสายพันธุ์ใหม่ จึงต้องกลับไปขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแล และ ฝึกเวโลซีแรปเตอร์ให้มาช่วยอีกครั้ง ดำเนินเรื่องต่อเนื่องจากภาคแรก โดยมีตัวละครหลักจากภาคแรกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เนื้อเรื่องมาแนวคล้าย ๆ กัน แต่ก็สนุกคนละแบบ ภาคนี้ทำให้รู้สึกรักสัตว์มากขึ้น สงสารไดโนเสาร์ รู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในเหตุการณ์ด้วย สนุกครบรส ดราม่าทำเอาน้ำตาซึม คอมมาดี้ก็ทำให้เรายิ้ม และ หัวเราะไปพร้อม ๆ กัน จบได้ดีปูทางไปต่อภาคสาม5. RAMPAGE (2018) เเรมเพจ ใหญ่ชนยักษ์เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากวีดีโอเกม ซึ่งมีเรื่องราวที่แตกต่างจากเกมบ้างเล็กน้อย รูปที่ 9 RAMPAGE (2018) เเรมเพจ ใหญ่ชนยักษ์ หนังเกี่ยวกับสัตว์ที่มีขนาดเล็ก ซึ่งได้กลายพันธุ์เป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และ ดุร้ายขึ้นกว่าเดิม ว่าด้วยเรื่องราวของการทดลอง ที่อยู่ ๆ เกิดผิดพลาด และ ระเบิดขึ้น ทำให้แคปซูลจากการทดลองได้ตกลงมาสู่พื้นโลก และ แตก ทำให้ยาในแคปซูลได้ไปถูกสัตว์ทั้งสามชนิดเข้า ทำให้สัตว์เหล่านั้นกลายพันธุ์ มีขนาดใหญ่ขึ้น และ ดุร้ายขึ้น และ ตอนนี้พวกมันกำลังมุ่งหน้าสู่อเมริกาเหนือตามเสียงเรียกร้อง และ ทำลายทุกสิ่งที่ขวางทางพวกมัน เปิดเรื่องได้น่าสนใจดี เนื้อเรื่องไม่ค่อยมีอะไรมาก มีช่วงที่ตลกสร้างรอยยิ้มบ้าง สัตว์ประหลาดน่าสนใจดี เอฟเฟคดี ดูสมจริง มีความเป็นไปได้ ฉากสัตว์ประหลาดจู่โจมดูลงทุนดี ฉากสัตว์ประหลาดปะทะกันก็ดูยิ่งใหญ่ แต่กว่าจะฉายสัตว์ประหลาดจนครบทั้งหมดก็เลยครึ่งเรื่องไปแล้ว ฉากจู่โจมน้อยไปหน่อยมาเน้นช่วงท้าย ๆ เรื่อง6. THE DESCENT เป็นภาพยนตร์ที่ถูกยกย่องให้เป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่ดีที่สุดของอังกฤษ และ ยังได้รับเกียรติเป็นภาพยนตร์ฉายเปิดตัวงานเทศกาลภาพยนตร์อังกฤษ ครั้งที่ 9 British Film Festival 2005 ซึ่งมีทั้งหมด 2 ภาค6.1 THE DESCENT 1 (2005) หวีดมฤตยูขย้ำโลก รูปที่ 10 THE DESCENT 1 (2005) หวีดมฤตยูขย้ำโลก หนังเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดที่ตาบอด และ มีรูปร่างคล้ายคน ซึ่งอาศัยอยู่ในถ้ำ ว่าด้วยเรื่องราวของกลุ่มหญิงสาว 6 คน ที่ได้มาพบกัน เพื่อผจญภัย โดยการเดินทางสำรวจถ้ำ ซึ่งเป็นถ้ำที่ยังไม่เคยมีใครสำรวจมาก่อน แต่แล้วอยู่ ๆ ก้อนหินก็ได้ตกลงมาปิดเส้นทาง ทำให้พวกเธอไม่สามารถกลับไปยังผิวโลกได้ พวกเธอจึงต้องพยายามหาทางออกอีกทาง แต่เมื่อเดินลึกเข้าไปเรื่อย ๆ ก็ได้พบกับสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่มีรูปร่างคล้ายคนอาศัยอยู่ในถ้ำรอโจมตีพวกเธอ ช่วงเปิดเรื่องจะฉายถึงที่มาที่ไปของตัวละครหลักก่อนตัดมาช่วงหนึ่งปีต่อไป ช่วงแรกดำเนินเรื่องช้า ค่อนข้างน่าเบื่อไปหน่อย แต่พอเข้าไปในถ้ำแล้วจะเน้นบรรยากาศมืด ๆ ตลอดทั้งเรื่อง ดูแล้วอึดอัด ลุ้นดี เอาใจช่วยตัวละครเหมือนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย สัตว์ประหลาดโหดดี เยอะดี แต่กว่าจะโผล่ก็เกือบครึ่งเรื่องไปแล้ว มีช่วงที่น่าเบื่อบ้าง มีตุ้งแช่บ้าง มีดราม่าบ้าง ซึ่งดราม่าก็ทำได้ซึ้งดี มีขัดใจตัวละครบ้าง6.2 THE DESCENT 2 (2009) หวีดมฤตยูขย้ำโลก รูปที่ 11 THE DESCENT 2 (2009) หวีดมฤตยูขย้ำโลก เรื่องราวเมื่อสองวันหลังจากได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ซาร่า ตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาล นายอำเภอ และ ผู้ช่วยจึงรีบสอบปากคำเธอถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในถ้ำ แต่เธอกลับจำอะไรไม่ได้เลย นายอำเภอจึงเรียกทีมสำรวจลงไปยังถ้ำแห่งนั้น เพื่อสืบหาผู้รอดชีวิตที่เหลือ โดยให้เธอเป็นผู้นำทาง และ เมื่อเธอได้เข้าไปในถ้ำความทรงจำของเธอก็เริ่มกลับมา ดำเนินเรื่องต่อเนื่องจากภาคแรก THE DESCENT 1 (2005) หวีดมฤตยูขย้ำโลก ให้บรรยากาศชวนลุ้นอึดอัดเอาใจช่วยตัวละครเหมือนกับภาคแรก ดำเนินเรื่องเร็วดี พอเดาเรื่องได้บ้าง แต่ก็มีเดาผิดบ้าง สัตว์ประหลาดกว่าจะโผล่ออกมาให้เห็นก็นานเหมือนเดิม ยังคงมีตุ้งแช่บ้างเช่นเดิม แต่ไม่ค่อยมีช่วงน่าเบื่อเท่าไหร่ มีขัดใจตัวละครบ้างแต่ไม่ค่อยมาก หักมุมช่วงท้าย ๆ เรื่องแต่ก็พอเดาได้7. Phantoms (1998) แฟนท่อมส์ อสุรกาย..ดูดล้างเมือง รูปที่ 12 Phantoms (1998) แฟนท่อมส์ อสุรกาย..ดูดล้างเมือง หนังเกี่ยวกับอสุรกายที่แฝงตัวอยู่ใต้โลก ซึ่งตามทำลายล้างมนุษย์มาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ ว่าด้วยเรื่องราวของสองพี่น้องที่ได้พบกับเหตุการณ์สยองขวัญที่เกิดขึ้นในเมืองแห่งหนึ่ง เมื่อผู้คนหายตัวไปอย่างลึกลับ และ มีศพถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ โดยทิ้งเพียงเครื่องประดับของเหยื่อไว้ จึงได้แจ้งกับนายอำเภอ และ ทั้งหมดก็ได้พบกับข้อความปริศนาบนกระจก จึงต้องพาตัวเจ้าของชื่อบนกระจกนั้นมา เพื่อไขปมปริศนานี้ และ สิ่งที่ทุกคนได้พบคือความสยดสยองจากอสุรกายที่แฝงตัวอยู่ใต้โลก ซึ่งตามทำลายล้างมนุษย์มาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ เริ่มเรื่องได้น่าสนใจดี ชวนให้ลุ้นว่าจะเจออะไร และ สาเหตุของเรื่องทั้งหมดคืออะไร ออกแนวสืบสวนเล็กน้อย มีฉายสลับกับอีกกลุ่มบ้าง และ ก็ได้มาเจอกับกลุ่มตัวละครหลัก ค่อย ๆ เปิดเผยเรื่องราวทีละน้อยว่าสิ่งเหล่านั้นคืออะไร สัตว์ประหลาดโหดดี สามารถดูดกินมนุษย์ และ อาศัยอยู่ในร่างมนุษย์โดยสามารถควบคุมมนุษย์ได้ ลุ้นดี บางช่วงอาจมีอืด ๆ บ้าง แต่ไม่มาก สัตว์ประหลาดจะคล้าย ๆ เรื่อง The Thing (2011) ไอ้ตัวเขมือบโลก8.The Silence (2019) เงียบให้รอด กำกับโดย John R. Leonetti บทภาพยนตร์โดย Carey Van Dyke และ Shane Van Dyke โดยปรับเปลี่ยนมาจากนิยายสยองขวัญใน ปี 2015 ในชื่อเดียวกัน โดย Tim Lebbon ได้เผยแพร่ให้ชมทาง Netflix เมื่อ 11 เมษายน ค.ศ.2019 รูปที่ 13 The Silence (2019) เงียบให้รอด หนังเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดที่ใช้ประสาทสัมผัสทางการได้ยิน ต้องเงียบเท่านั้นถึงจะรอด ว่าด้วยเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่ต้องหนีออกจากเมืองเพื่อเอาชีวิตรอด หลังจากที่ทีมวิจัยถ้ำได้ค้นพบสิ่งมีชีวิตประหลาด และ ได้ปล่อยพวกมันออกจากถ้ำโดยไม่ตั้งใจ ทำให้พวกมันออกไล่ล่าทุกอย่างที่มีเสียง การดำเนินเรื่องน่าสนใจดี โดยดำเนินเรื่องเน้นไปที่การเอาชีวิตรอดของครอบครัวหนึ่ง ซึ่งเป็นตัวละครหลักของเรื่อง แต่เนื้อหาไม่ค่อยมีอะไรมาก ให้อารมณ์เหมือนนั่งดูหนังใบ้ที่เงียบแทบทั้งเรื่อง ใช้นักแสดงไม่มาก แต่ก็ไม่ค่อยน่าเบื่อ มีดราม่าบ้างเล็กน้อย สัตว์ประหลาดโหดดี ลุ้นดี แต่มีจุดที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผลบ้าง หนังสัตว์ประหลาดบนบกทั้ง 8 เรื่อง ต่างล้วนอยู่บนบกทั้งนั้น ถึงแม้บางเรื่องอาจจะเป็นไปไม่ได้ แต่ก็เห็นได้ว่าบนบกไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่คิด อาจจะมีอันตรายได้ทุกเมื่อ ขอบคุณภาพจาก IMDb เครดิต Columbia Pictures รูปที่ 1 / เครดิต Amblin Entertainment รูปที่ 4 / เครดิต Amblin Entertainment รูปที่ 5 / เครดิต Amblin Entertainment รูปที่ 6 / เครดิต Amblin Entertainment รูปที่ 7 / เครดิต Amblin Entertainment รูปที่ 8 / เครดิต Celador Films รูปที่ 10 / เครดิต Celador Films รูปที่ 11 / เครดิต Dimension Films รูปที่ 12 / เครดิต Constantin Film รูปที่ 13 ขอบคุณภาพจาก 20thcenturystudios รูปที่ 2 / รูปที่ 3ขอบคุณภาพจาก Facebook รูปที่ 9