“บอย-เจี๊ยบ” ได้ฤกษ์งามยามดี 9 ปี ในการขยายสาขา 2 ทุ่มเททำทุกอย่างด้วยตัวเอง
“บอย-เจี๊ยบ” ได้ฤกษ์งามยามดี 9 ปี ในการขยายสาขา 2 ทุ่มเททำทุกอย่างด้วยตัวเอง
นับเป็นเรื่องราวดีๆ ของคู่รักนักสู้ “บอย อนุวัฒน์” และ “เจี๊ยบ พิจิตตรา” ที่จับมือกันฝ่าปัญหามาทุกวิกฤติแบบไม่ค่อยคิดจะท้อหรือถอย และหลังจากพอชีวิตกลับมาสดใสดั่งฟ้าหลังฝนทั้งคู่ก็ไม่ลืมที่จะช่วยเหลือสังคมและแบ่งปันให้ผู้อื่นเสมอ
ล่าสุด (27 ก.พ.) “บอย-เจี๊ยบ” ได้ฤกษ์งามยามดีประกาศแจ้งข่าวดีเพื่อทราบว่าตอนนี้นอกจาก ร้าน Shabu king สาขาศาลายาที่ร่วมกันก่อสร้างขึ้นมาเป็นระยะเวลา 9 ปี ตอนนี้คลอดสาขา 2 ที่ พระราม 9 ซอย 37 ซึ่ง “บอย-เจี๊ยบ” เขายังได้ทุ่มเททั้งแรงกายและใจ ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง …
โดยทั้งคู่เผยว่าร้าน Shabu king สาขาพระราม9 ซอย 37 เป็นสาขา 2 สำหรับสาขานี้ถ้าตั้งแต่เตรียมการสำหรับสาขานี้กว่าจะสำเร็จสมบูรณ์ตั้งแต่ที่ดินเปล่าเลยก็น่าจะ 2 ปีครับ
เจี๊ยบ : พอเราได้เห็นรูปร่างของร้านวันนี้ก็ดีใจค่ะ เพราะว่าอย่างที่เคยบอกไปคือเราก็ไม่คิดว่าเราจะมีสาขาสองเพราะสาขาแรกที่ศาลายาเราเริ่มมีลูกค้าเยอะมากขึ้น แล้วลูกค้าก็เริ่มถามถึงสาขาในเมืองเราก็เลยแบบตัดสินใจมาเปิดที่นี่ค่ะ แล้วแฟนคลับที่เรียกร้องไม่ใช่แฟนคลับของเราด้วยนะคะ เป็นแฟนคลับของร้านเรามากกว่าที่แบบตรงนั้นมันไกลนิดนึง บ้านไม่ได้อยู่บริเวณนั้นเพราะบ้านอยู่ในเมือง
บอย : ทุกคนก็บอกว่าอยากไปทานนะแต่ไปได้ปีละครั้ง (ยิ้ม) เราก็เลยมองหาที่ในเมือง สำหรับที่ตรงนี้กว่าจะได้มายากมาก หาที่นี่หลายเดือนมากครับ จุดไต้ตำตอคือขับรถผ่านแล้วเห็นที่ดินตรงนี้แล้วก็จำได้ว่าเป็นพื้นที่ของเพื่อนเราเอง ก็เลยโทรหาเพื่อนแล้วเพื่อนก็บอกว่าคนเช่าเก่าเขากำลังจะหมดสัญญาพอดีเลยเหมือนทุกอย่างเป็นใจหมดเลยครับ ส่วนการลงทุนสำหรับสองสาขาก็พอๆกันครับ ด้วยช่วงเวลาตรงโน้นประมาณ 9 ปีใช่ไหมครับ พอผ่านมา 9 ปีทุกอย่างก็แพงขึ้นเป็นธรรมชาติของเขา
เจี๊ยบ : สำหรับจุดเด่นของร้านทั้งสองสาขาไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของน้ำซุปของเราจะมีน้ำซุปดำ น้ำซุปใส ของเราจะเป็นน้ำซุปดำออริจินอลแบบโลโซเดียม ส่วนน้ำซุปใสของเราจะเป็นปลาโอเพิ่มคอลลาเจนส่วนเนื้อทุกอย่างจะนำเข้าแล้วก็ทางคุณบอยจะเป็นคนที่คัดเลือกเนื้อทั้งหมด แล้วเรามั่นใจว่าเนื้อของเราเป็นเนื้อที่มีคุณภาพทั้งเนื้อหมูและเนื้อวัวค่ะร้านเราก็ยังมีแบบครบวงจรมีอาหารญี่ปุ่น อาหารจานเดียวคือมาร้านเดียวคือครบอิ่มคุ้ม