Movie Review The Electric State (2025) ท่องแดนจักรกล ชัดเจนในสิ่งที่ต้องการมาขายแล้วเดินไปตามนั้นอย่างสัตย์ซื่อทำให้เป็นความบันเทิงง่ายๆดูสบายแต่ได้ผลโดนใจดูสนุกได้ทั้งครอบครัว รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ถ้าเอ่ยถึงหนึ่งในลูกรัก NETFLIX ที่ถูกดันจนโด่งดังมาตั้งแต่เด็กคนคนนั้นคงเป็น Millie Bobby Brown จากซีรีส์ Stranger Things ที่ยอมรับว่าผู้เขียนได้เริ่มเข้าสู่วงวนของค่ายสตรีมมิ่งนี้เพราะเรื่องนี้ สิ่งที่ตามมาคือความผูกพันกับน้อง Millie Bobby Brown ที่เมื่อตอนเริ่มดู Stranger Things ซีซันแรกบทของเธออายุใกล้เคียงกับลูกชายคนเล็กของผู้เขียน แน่นอนเมื่อได้ติดตามดูมาเรื่อยๆก็เกิดความผูกพันประหนึ่งว่าน้องคือลูกสาวอีกคนที่เฝ้ามองการเติบโตเรื่อยๆจากบทบาท Eleven แล้วพัฒนามาเรื่อยๆ จนกระทั่งวันนี้ที่น้องโตเป็นสาวเต็มตัวก็ยังรู้สึกเหมือนเห็นลูกสาวก้าวพ้นวัยมาเพราะไม่มีเรื่องไหนที่น้องแสดงแล้วไม่ดูจนมาถึงเรื่องนี้ที่คงต้องยอมรับอีกครั้งว่าตั้งตารอเพราะเป็นผลงานใหม่ของลูกสาว กับโปรแกรมเพชรหนังพันล้านประจำเดือนมีนาคมที่จะมีหนังฟอร์มดีจากนักแสดงชื่อดังมาลงสตรีมทุกเดือนแล้วเดือนนี้ก็อย่างที่ทราบว่าเป็นคิวน้อง Millie Bobby Brown ขึ้นจอร่วมกับระดับ Chris Pratt เมื่อมนุษย์คิดค้นและสร้างหุ่นยนต์ขึ้นมาเพื่อสนองความสะดวกให้เผ่าพันธุ์แต่วันหนึ่งหุ่นยนต์กลับมีความคิดและต้องการปลดแอกจากการกดขี่ของมนุษย์สงครามระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์ก็เริ่ม แน่นอนมนุษย์สามารถพัฒนาเทคโนโลยีมาเพื่อเอาชนะได้จนสุดท้ายหุ่นยนต์ถูกเนรเทศไปอยู่ในที่เฉพาะแล้วก็วกมาถึง Michelle Greene (Millie Bobby Brown) ผู้สูญเสียน้องชาย Chris Greene (Woody Norman) จากอุบัติเหตุพร้อมครอบครัวจนคืนหนึ่งมีหุ่นยนต์ตัวหนึ่งมาหาเธอพร้อมกับมีความทรงจำของ Chris แล้วสิ่งที่เธอต้องทำคือการตามหาหมอที่เคยรักษา Chris ตามคำแนะนำของหุ่นยนต์คือด็อกเตอร์ Clark Amherst (Ke Huy Quan) ที่เป็นกุญแจที่จะพาเธอไปหาน้องชายที่คล้ายกับว่าจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ระหว่างนั้นเธอได้พบกับ John Keats (Chris Pratt) แล้วเธอก็ทำให้เขาจำยอมต้องพาเธอและหุ่นยนต์น้องชายเข้าไปสู่ดินแดนจักรกลที่เป็นพื้นที่กักกันพวกหุ่นยนต์ แต่ที่นั่นคือดินแดนที่ถูกครอบครองด้วยหุ่นยนต์ที่แพ้สงครามต่อมนุษย์ที่อาจไม่ได้มองมนุษย์เป็นมิตรสักเท่าไหร่นี่สิ ง่ายๆแต่ไม่รั่วไม่ซับซ้อนเป็นพล็อตที่ซ้ำแต่ทิศทางชัดจนเป็นความชัดเจนที่จะมาเพื่อบันเทิง เอาจริงคือเมื่อเห็นพล็อตเรื่องหรือได้ดูหนังตัวอย่างผู้เขียนไม่คิดว่าหนังจะมาแบบเหนือเมฆอะไรอยู่แล้วกับพล็อตเรื่องเกี่ยวกับสงครามระหว่างมนุษย์กับจักรกล แน่นอนว่าพล็อตมันซ้ำแล้วสิ่งที่บทหนังทำได้ดีคือเอาความซ้ำนั่นและมาขายด้วยความง่ายเดินหน้าไปตามครรลองที่ควรเป็นเพราะเห็นชัดว่าชัดเจนจะมาเป็นความบันเทิงสถานเดียว กระนั้นบทหนังยังมีทิศทางที่ชัดมีจุดหมายที่จะไปมีเป้าประสงค์ที่จะมีความหมายที่มันก็คือเรื่องที่เคยๆนั่นแหละกับเรื่องของมนุษย์ที่อยากเป็นพระเจ้าหรือความเป็นมนุษยที่อาจไม่ได้อยู่ในมนุษย์ แต่เมื่อจะมาเพื่อความบันเทิงหนังจึงไม่มัวมาพิรี้พิไรเดินหน้าไปอย่างคนเดินเร็วแต่ไม่เร่งรีบเพราะยังมีบางอย่างเป็นกับดักหัวใจไว้อยู่ การเดินหน้าเข้าหาความบันเทิงในแบบแอ็กชันขายเทคนิคด้านภาพตระการตาจึงมาด้วยความพอดีไม่ใช่มัวแต่เล่าจนยืดย้วยหรืออัดฉากแอ็กชันมาจนเหนื่อยล้า นั่นคืออะไรที่ควรจะเล่าก็เล่าได้เพื่อให้มีพื้นฐานทางใจเพื่อส่งอารมณ์จึงกลายเป็นความบันเทิงดั่งใจที่ลื่นไหลไปม่วนๆ บันเทิงสมใจเด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดีมีความขบขันมีความหมายแฝงไว้ให้คิดมีความจับใจจนเรียกได้ว่าง่ายแต่โดนใจ เพระหนังไม่ได้เป็นความซับซ้อนหรือมาเพื่อมีชั้นมีเชิงสับขาหลอกหลายตลบอยู่แล้วเปิดหน้าออกมาก็รู้ว่าหนังจะเดินไปแบบไหนสถานการณ์สุดท้ายจะเป็นอย่างไร ด้วยเหตุนี้หนังจึงน่าจะถูกใจละอ่อนต่อนแต่นที่ตัวหุ่นยนต์ถูกออกแบบมาไม่ให้ดูน่ากลัว หรือจะเรียกว่าหนังแบบเด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดีเพราะความบันเทิงหน้าฉากแบบนี้บางทีผู้ใหญ่ก็โหยหาหนังที่ไม่ต้องพากบาลให้พาลระทม ด้วยบทสนทนาที่แม้จะเหมือนกับเคยเห็นที่ไหนมายังมีความกวนความเกรียนเรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มได้เพราะอารมณ์ขันยิงเข้าเป้าทำให้ความขบขันก็ตามมา ยังไม่รวมถึงฉากแอ็กชันที่คงต้องบอกว่างานด้านเทคนิคเนียนตามากจนอาจเรียกได้ว่าเป็นงานระดับหนังฉายโรงใหญ่ถ้าไม่นับว่าพล็อตหนังยังเป็นเรื่องเก่าเหลาเหย่ไปบ้าง ทำให้ตลอดสองชั่วโมงเป็นความสนุกสนานขบขันตื่นเต้นเร้าใจเพราะกับดักหัวใจทำงานอาการลุ้นก็ตามมาแม้ว่าจะง่ายๆจนสุดท้ายก็จับใจได้เพราะอารมณ์ถูกเก็บเกี่ยวไว้โดยไม่รู้ตัวเป็นความง่ายที่โดนใจใช่เลย สัตย์ซื่อชัดเจนที่จะมาขาย Millie Bobby Brown และ Chris Pratt จึงเต็มไปด้วย Identity ของทั้งสองมาพร้อมกับนักแสดงอีกคับคั่ง จะว่าไปนี่ก็คือหนังที่ตั้งใจมาขายชื่อนักแสดงอยู่แล้วเพราะชื่อของ Millie Bobby Brown และ Chris Pratt ขายได้ชัวร์ป้าด แต่ที่ต้องทำใจคือการแสดงจะคล้ายกับว่าเอา Millie Bobby Brown มาไว้ในหนัง Chris Pratt เพราะเห็นอัตลักษณ์ของหนัง Chris Pratt ออกมาเต็มที่มากกว่าที่ไม่มีทางที่จะไม่คิดถึงบุคลิกของเขาทั้งใน Guardians of the Galaxy หรือ Jurassic World ทำให้ด้านการแสดงอาจไม่ใช่ที่เชิดหน้าชูตานักเพราะตั้งใจมาขายนักแสดงอย่างว่าเลยใส่อัตลักษณ์ของทั้งสองคนมาแบบจุกๆ แต่ที่น่าตื่นใจคือเหล่านักแสดงสมทบและผู้ที่มาให้เสียงประกอบคือมีชื่อกันทั้งนั้นทั้ง Stanley Tucci,Ke Huy Quan หรือ Giancarlo Esposito ในส่วนของมนุษย์ ส่วนในส่วนของผู้ให้เสียงประกอบก็ระดับ Woody Harrelson,Anthony Mackie,Brian Cox และ Hank Azaria เป็นอาธิ ทำให้ในส่วนของการให้เสียงประกอบเป็นสีสันที่โดนใจเข้าไปอีกแถมยังไม่พอมีชื่อที่คอกีฬา NFL ต้องตาลุกคือ Rob Gronkowski อดีตผู้เล่นชื่อดังของทีมนักรบกู้ชาติ New England Patriots ด้วยนะ อาจไม่ใช่งานที่จะเป็นที่จดจำในความล้ำลึกหรือชั้นเชิงเหนือๆแต่ต้องเป็นที่จดจำแน่ในแง่ความสนุกและสเปเชียลเอฟเฟคต์ นี่คือหนังฟอร์มยักษ์ไม่ใช่แค่ฟอร์มดีด้วยทุนสร้างที่หนังฉายโรงบางเรื่องต้องอิจฉาถึง 320 ล้านดอลลาร์ แต่ไม่ว่ายังไงผลที่ออกมาก็เรียกได้ว่าถึงฟอร์มเพราะรู้ๆกันอยู่ว่าหนังแบบนี้ตั้งใจมาขายอะไร ซึ่งก็คือความบันเทิงเป็นแม่นมั่นนั่นเองและที่มาของความบันเทิงนั้นก็คือเทคนิคพิเศษทางด้านภาพที่สมัยผู้เขียนยังหนุ่มเรียกว่าสเปเชียลเอฟเฟคต์ที่งานออกมาอย่างเนี้ยบไม่รู้เลยว่าอันไหนของจริงอันไหนคืองานซีจี แต่ถามว่าถ้าหนังเข้าฉายโรงจะทำเงินขนาดไหนก็บอกยากเพราะแม้หนังจะสนุกแต่ก็ไม่ได้มีอะไรที่ให้เอ่ยถึงมากนักเพราะความง่ายของหนัง และแน่นอนว่าหนังคงมียอดสตรีมอย่างคับคั่งแน่นอนเพราะด้วยชื่อนักแสดงและผู้กำกับสองพี่น้อง Anthony กับ Joe Russo ค้ำไว้แถมหนังยังดูสนุกจริงอันนี้ว่ากันตามความรู้สึกจริงๆ ทำให้หนังอาจไม่ได้เป็นที่จดจำนักในแง่ของชั้นเชิงที่เป็นของมันต้องมีในหนังยุคใหม่แต่ถ้าว่ากันถึงความสนุกความบันเทิงที่ดูได้ทั้งครอบครัวหนังเรื่องนี้จะถูกจดจำและชวนกันดูแน่นอน ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก,ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2,3,4 จาก Instagram prattprattpratt เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !