เครดิตภาพ 007 Officialสำหรับแฟนหนังของ 007 ก็คงทราบดีว่านี่เป็นภาคอำลา เพียร์ซ บรอสแนน พระเอกหนุ่มเจ้าเสน่ห์ที่สร้างสีสันให้ 007 ดูเป็นภาพยนตร์ที่มีเสน่ห์ขึ้นมามากโขเลยครับหนังเล่าถึงภารกิจในเกาหลีเหนือของ เจมส์ บอนด์ (Pierce Brosnan) ปลอมตัวเข้าไปเป็นพ่อค้าขายเพชร เพื่อเจรจากับ แทน ซุน มุน (Will Yun Lee) ลูกชายนายพลแห่งประเทศเกาหลีเหนือ ถึงภารกิจจะสำเร็จ แต่ว่ามุนเสียชีวิต ถึงกระนั้น บอนด์เองถูกจับตัวไปเป็นเชลย ถูกทรมานและพยายามรีดข้อมูลอยู่เป็นปี หลังจากนั้นก็มีการแลกเปลี่ยนตัวกับ ซาว (Rick Yune) เพราะมีข่าววงในว่าบอนด์กำลังจะเผยข้อมูลลับ หลังจากแลกตัว บอนด์ถูกลอยแพทันที แต่ด้วยความที่ไม่ยอมแพ้ บอนด์ตามสืบไปเรื่อย ๆ จนไปถึงคิวบา ทำให้บอนด์เจอกับ จิงซ์ (Halle Berry) สาวลึกลับที่ไม่อาจทราบได้ว่าเป็นมิตรหรือว่าศัตรู บอนด์เจอซาวในคลินิคลึกลับและได้สร้อยคอเพชรของเขามา จึงสืบไปเจอยัง กุสตาฟ เกรฟ (Toby Stephens) เศรษฐีหนุ่มผู้มั่งคั่งและชื่อดังในเรื่องของการทำผลงานเพื่อชาติ และสาวข้างกายของเขาคือ มิแรนด้า (Rosamund Pike) สปายที่ M (Judi Dench) ส่งมาให้ตามประกบบอนด์ และบอนด์ก็ได้ถูกเชิญไปที่งาน อิคารัส งานแสดงผลงานวิทยาศาสตร์ของเกรฟ ซึ่งจะนำบอนด์ไปเจอศัตรูที่แท้จริงเครดิตภาพ 007 Officialสี่ตีนยังรู้พลาด ใครจะไปรู้ใครว่าสายลับที่เก่งกาจอย่างเจมส์ บอนด์ ก็สามารถพลาดท่าถูกจับได้เช่นกัน และพอถูกแลกตัวก็โดนลอยแพทันที ใครมันจะไปยอมละครับ ต้องตามสืบให้รู้ว่าใครมันทำแบบนี้ สิ่งที่สนุกในภาคนี้คือ การเดินทางไปยังคิวบา เขตต่างถิ่น ที่ไม่ทำให้บอนด์กลัวเลยแม้แต่น้อย รวมถึงการข้ามไปยังเกาะ ไปเจอกลไกที่ถูกซ่อนไว้ของคลินิคเปลี่ยนพันธุกรรมลับ สืบไปสืบมาก็ไปเจอศัตรู ถ้าว่ากันที่ตามบท มันง่ายไปนิดหน่อยที่จะสืบเจอไวขนาดนั้น พูดถึงหนังแสดง พี่เพียร์ซแสดงได้สมบทบาท แรงดีไม่มีตกความอินในบทบาทของเค้า ทำให้ผมรู้สึกว่า ผมคือบอนด์อีกคนเลย คงเป็นเพราะผมเป็นคนที่อินเวลาชมภาพยนตร์ด้วยละมั้งครับ ส่วนฮัลลี่ แบร์รี่ ถือว่าไม่โดดเด่นเท่าไหร่สำหรับบทนางเอก โรซามัน ไพค์ ที่เป็นนางร้าย กลับตราตรึงใจ มีบทบาทมากกว่านางเอกอย่างแบร์รี่อีก ส่วนตัวร้ายอย่าง กุสตาฟ ผมว่าผมอินกับบทผู้ร้ายของเฮียแกมากเลยนะ ดูโรคจิต วิตถารยังไงชอบกลเครดิตภาพ 007 Officialคะแนนเนื้อเรื่อง 7/10 ด้วยความที่บางอย่างหนังมันดูง่ายเกินไป และพระเอกก็หลงสาวจนหน้ามืดตามัว จนไม่ทันระวังตัว เสียท่าไปตั้งหลายหน ทำให้หนังมันดูน่าขัดใจ แต่ฉากที่ไม่พูดถึงไม่ได้คงจะเป็นฉากต่อสู้ฟันดาบกับกุสตาฟ ฉากนี้มีให้ลุ้นกันทุกวินาทีจริงๆ ส่วนการดำเนินเรื่องในพาร์ทของการรู้ความหลังกุสตาฟ มันดูเฉลยง่ายเกินไป จนทำให้เดาทางง่าย หนังก็เลยลดความสนุกลงคะแนน เอฟเฟคต์ 9/10 ฉากไล่ล่ากันในธาน้ำแข็ง และมีอิคารัสที่เป็นเลเซอร์ไฟไล่ล่า นี่แหละความเอฟเฟคต์ความมันส์ของหนังเรื่องนี้อย่างแท้จริง ด้วยองค์ประกอบภาพที่สวยงาม การไล่ล่าที่ต้องหนีทั้งคน หนีทั้งพลังวิทยาศาสตร์ เครดิตภาพ 007 Officialข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้1. ความแค้น นานแค่ไหนก็ไม่สาย เหมือนที่กุสตาฟ ไปแปลงโฉมมาทั้งหน้าและDNA เพื่อหลอกให้บอนด์ และคนทั้งโลกตายใจว่าเค้าคือมหาเศรษฐีที่เก่งและเพอเฟคต์ โดยซ่อนแผนชั่วไว้เบื้องหลัง2. ความจงรักภักดีของซาวที่มีต่อหัวหน้า เราจะได้เห็นความจงรักภักดีต่อนายใหม่ (ที่จริงก็นายเก่าของเกาหลีเหนือนั่นแหละ) อย่างกุสตาฟ เกรฟ อย่างซื่อสัตย์ ไม่เคยทิ้งหรือหนีหายไปไหน ยังคงทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด3. ความหลงใหลในสตรีที่ทำให้บอนด์พลาดพลั้ง อย่างเช่นที่บอนด์เองหลงใหลในมิแรนด้า จนเผลอมีความสัมพันธ์กัน และสุดท้ายก็โดนหักหลัง และไม่เฉลียวใจเพราะมัวแต่หลงความสวยสำหรับใครที่ชื่อนชอบ 007 ในแบบฉบับความมันส์ ภาพสวย ก็อย่าพลาดภาคนี้กันนะครับ ถึงเนื้อเรื่องจะไม่ได้มีอะไรใหม่ แต่ว่าเอฟฟเฟคต์และความสวยของนางร้าย จะทำให้คุณหลงรักภาคนี้แน่นอนเครดิตภาพปก 007.com