เผยครั้งแรก..ขโมยแหวนหมั้นนางเอกยุค90
เผยครั้งแรก..ขโมยแหวนหมั้นนางเอกยุค90
เรียกว่าเป็นนางเอกเจ้าประจำของทีวีช่องหนึ่งในยุค 90 สำหรับ “เอิน กัลยกร” ล่าสุดออกมาโพสต์รับว่าแหวนหมั้นถูกขโมยไปหลายปีก่อน และยังดำเนินคดีออยู่ และเผยว่าวันเกิดปีนี้ตั้งใจจะไม่ขอแหวนอีกแล้ว
อ่านข่าวต่อ: เปิดเส้นทางรัก 14 ปี “เอิน กัลยกร-โจ้”
เธอเล่าว่า “ใกล้วันเกิดเข้ามาแล้ว เพราะแหวนหมั้นหรือแหวนขอแต่งงานที่โจ้เคยให้เมื่อ 12 ปีที่แล้วถูกขโมยไป ตอนแรกเลยว่าจะขอของขวัญวันเกิดปีนี้เป็นแหวนแบบเดิม”
“แหวนเพชรเรียบๆ ล้อมด้วยเพชรเม็ดเล็กๆ รวมน้ำหนักไม่เท่าไหร่ สมัยนี้โจ้คงหามาให้ได้ไม่ยาก แต่สมัยนั้นที่โจ้ให้มา เงินเดือนโจ้ยังไม่มาก แถมต้องผ่อนคอนโดอีก แต่แหวนวงนี้เขาตั้งใจคุยกับเพื่อน ให้เพื่อนคัดเพชรให้ ทำมันให้ขึ้นมา หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของคนทำงานกินเงินเดือนที่ตำแหน่งยังไม่สูง เป็นแหวนเพชรวงแรกในชีวิตเรา”
“มูลค่าทรัพย์สินอาจไม่มาก แต่มันมีค่าทางใจมากจริงๆ เราจึงใส่ติดมือเกือบทุกวัน เหมือนเป็นของแทนความรักความพยายามและความทุ่มเทที่โจ้มีให้ตลอดมา”
แต่หลังจากพิจารณาอยู่ไม่นานก็ตัดสินใจ ไม่ดีกว่า
“การที่มีแหวนเพชรเข้ามาเพิ่มอีกหนึ่งวง แม้จะมูลค่าไม่มากแต่สำหรับบางคนก็มองเป็นทรัพย์สินมีค่าอยู่ดี ซึ่งเมื่อมีทรัพย์สินมีค่าเข้ามาเพิ่มอีกหนึ่งชิ้น ก็เท่ากับมีภาระมาเพิ่มอีกอย่าง แถมเมื่อเป็นของขวัญจากสามีที่รัก มันก็จะกลายเป็นของที่เรามีความผูกพันด้วย ก็คือมีของที่เราต้องดูแลต้องเป็นห่วงเพิ่มอีกหนึ่งอย่าง”
“เมื่อมองเห็นเส้นยวงใยที่จะเกิดขึ้นจากการได้รับของมีค่าทางใจเพิ่มขึ้น จึงตัดใจ แม้ลึกๆ ยังอยากได้ก็ไม่เอาดีกว่า
วงแรกนั้นอยู่ในความทรงจำอันงดงามที่เมืองดาร์จีลิงก็พอเนอะ”
ชาติหน้าก็ลืมอยู่ดี ไม่ก็ภายในชาตินี้ถ้าอีกหน่อยเป็นอัลไซเมอร์ก็ลืม แถมเวลาถือศีล 8 ก็ไม่ได้ใส่อยู่แล้วเนอะ
ก็ฝึกปล่อยตั้งแต่ตอนนี้เลยดีกว่า เป็นการปล่อยด้วยความตั้งใจฝึกฝนจิตใจนี้ มีประโยชน์กว่า
“ไม่ใช่ไม่อยากได้คืนนะคะ เดี๋ยวคนจะงง อยากได้คืนอยู่ แต่ถ้าต้องซื้อใหม่ สั่งทำใหม่เพื่อทดแทนของเดิม ไม่เอาดีกว่า เมื่อคุยกับโจ้ก็คิดแบบเดียวกันเช่นกัน”
“เสียดายอย่างเดียว ตอนแรกโจ้เขาตั้งใจว่า ถ้าเจดีย์วัดมาบจันทร์เสร็จ เขาจะเอาแหวนแต่งงานทั้ง 2 วงที่เราตั้งใจทำให้เขาไปถวายเพื่อบรรจุไว้ในเจดีย์ เพื่อเป็นการสละของที่มีคุณค่าทางใจถวายไว้ในพระพุทธศาสนา บรรจุถวายพระรัตนตรัย ไม่มีโอกาสนั้นเนอะ”
ทางใจก็อโหสิกรรมให้ทั้งหมด ทางธรรมก็ได้ตัดสิ่งที่เหนี่ยวรั้งผูกพันไปอีกอย่าง แต่ทางกฏหมายก็ยังคุยกันไม่จบ พิจารณากันอยู่ว่าเอายังไงดี