รีเซต

โตเป็นหนุ่มแล้ว! ษา วรรณษา พา น้องเซย์เดย์ ลูกชายออกสื่อครั้งแรก (มีคลิป)

โตเป็นหนุ่มแล้ว! ษา วรรณษา พา น้องเซย์เดย์ ลูกชายออกสื่อครั้งแรก (มีคลิป)
Entertainment Report_2
30 กันยายน 2564 ( 19:48 )
1.4K

ข่าวบันเทิงวันนี้

วันนี้ "ษา วรรณษา ทองวิเศษ" จับมือลูกชาย "น้องเซย์เดย์" เปิดใจจากเด็กเรียนดีแต่กลับบอกแม่ว่าไม่อยากเรียน แล้วปีนี้ลูกชายอายุ 15 ปีแล้ว จัดการฮอร์โมนวัยรุ่นยังไง แล้วที่บอกว่าไม่ไหวก็ต้องไหว จนหลายครั้งที่กรี๊ดลั่นบ้าน และหนีไปร้องไห้คนเดียว พร้อมเปิดความในใจ ถ้าไม่มีเราก็อยากให้เขาอยู่ให้ได้ โดยเจ้าตัวควงลูกชายมาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง one31 ที่มีหนิง ปณิตา  และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

เรียกว่าครั้งแรกในรอบ 8 ปีที่ควงลูกชายออกสื่อ?
ษา : ก็เพิ่งมาออกเต็ม ๆ แบบนี้ครั้งแรก
เซย์เดย์ : ปีนี้ผมอายุ 15 ปีแล้ว

 

ขอบคุณคลิปจากรายการ คุยแซ่บShow

ทำไมก่อนหน้านี้ไม่พาลูกออกสื่อเลย?
ษา : อย่างที่บอกก่อนหน้านี้มีการบำบัด การพูดคุยกับลูกตลอดเวลา ได้ออกทีวีแหละ แต่เราต้องรู้ว่าเวลาไหนเหมาะสมแล้วเขาพร้อมที่จะตอบคำถาม

ทำไมถึงเรียกน้องว่าพิเศษ?
ษา : เซย์เดย์เป็นเด็กพิเศษในกลุ่มออทิสติก แล้วก็เป็นเรื่องของ LD แล้วก็สมาธิสั้น เป็นทั้งหมด 3 อาการ ตั้งแต่ขวบแรกเลย แล้วตอนนี้พอ 15 ปี แล้วมีการบำบัติมาตลอด 4 ปีแรกตั้งแต่ 1 ขวบ จนถึง 4 ขวบ ค่อนข้างรุ นแรงกับแม่ ของเขาไม่รุนแรง เพราะว่าคนรอบตัวต้องปรับตัวทั้งหมด เพื่อจะมาดูแลเขาว่าเขาจะได้รับการดูแลแบบไหน บำบัดแบบไหน

แล้วการดูแลเป็นยังไง แล้วษาต้องปรับตัวยังไง?
ษา : อย่างแรกคุณแม่ต้องสังเกตก่อนว่าลูกมีความผิดปกติไหม ในเคสของษาคือลูกไม่มีอายคอนแท็ก คือเวลาเราเรียกแล้วไม่หัน อันที่สองเดินผิดปกติ ทรงตัวไม่ค่อยได้ อันที่สามก็จะมีความพิเศษทางจีเนียสนิดนึง เขาค่อนข้างจำอะไรแบบเก่ง เร็ว ครั้งเดียวแล้วจำได้เลย แล้วษาก็กลายเป็นคนช่างสังเกตด้วย ก็เลยรู้ไปตามลำดับขั้นก่อน แล้วที่ดูแลจริงๆ เวลาเขาไม่ได้ดั่งใจ ประมาณสัก 2-3 ขวบ เขาก็ข่วนหน้าตัวเอง เราก็ไม่อยากให้ลูกทำร้ายตัวเอง

เซย์เดย์ออกทีวีตื่นเต้นไหม?
เซย์เดย์ : ตื่นเต้นอยู่ครับ ตอนที่ Swap ตื่นเต้นกว่า

คุณแม่มีวิธีรับมือกับพฤติกรรมของลูกยังไง?
ษา : เรื่องของทำร้ายตัวเอง เวลาที่รู้แล้วว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เขาเกิดอารมณ์โมโห เราก็จะเลี่ยง เราก็ใช้คำอื่นๆ ใช้การแสดงอื่นๆ ประกอบกับเขาอีกทีนึง ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเราทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ความชิน พอมองตาแล้วเราก็จะรู้ว่าถ้ามีอาการแบบนี้ปุ๊บ เราก็จะเลี่ยงไปทำอย่างอื่น ซึ่งบางคนหรือคนนอกเองเขาก็จะบอกว่าสปอยล์ลูกเกินไป แต่จริงๆ เขาคือเด็กพิเศษ ความพิเศษก็ต้องพูดพิเศษ ทำพิเศษเช่นเดียวกัน

ตัวหลานรู้ไหมว่าตัวเองเป็นแบบนี้?
ษา : ทราบคะ ษาบอกเขาตลอด เพราะว่าเขาจะต้องทานยา เราก็ต้องบอกว่ายานี้ช่วยอะไร ทำอะไร จะต้องกินไปตลอดเพราะอะไร

เซย์เดย์รู้ไหมว่ารู้สึกตัวเองพิเศษกว่าคนอื่น?
เซย์เดย์ : รู้ครับ ตอนแม่บอกว่าเป็นเด็กพิเศษ แต่ผมก็รู้สึกเหมือนคนทั่ว ๆ ไป เวลาทำอะไรก็เหมือนคนทั่ว ๆ ไป
ษา : เขาทำอะไรก็เหมือนคนทั่วไป เราเลี้ยงเขาแบบให้อยู่โรงเรียนปกติ ไม่ได้ไปโรงเรียนพิเศษ เพราะเราบอกเขาว่าลูกไม่ใช่คนที่ผิดปกติ แต่ลูกที่เป็นคนที่ผิดปกติมากกว่าคนอื่น เพราะฉะนั้นลูกก็ควรอยู่กับคนปกติ ก็พยายามทำให้เหมือนคนอื่นให้ได้

ต้องทานยาตลอด?
เซย์เดย์ : ใช่ครับ เรียกว่ายาเด็กดี
ษา : พอทานแล้วเขาจะมีสมาธิในการเรียน ต้องบอกก่อนว่ายาชนิดนี้ที่ทาน เด็กพิเศษก็จะทานแตกต่าง แต่ของเซย์เดย์จะเป็นยาที่ คือษาถามคุณหมอแล้วว่ามันผิดปกติขนาดนี้ ต้องทานยาและต้องทานนานเท่าไหร่ ยานี้จะเข้าไปทำลายสมองเด็กไหม ไปกดประสาทไหม ษาถามหมดเลย คุณหมอบอกว่าจริง ๆ แล้วสมองของเราจะมีการหลั่งสารเคมีอยู่ 3 ตัว พอมันหลั่งมาไม่เท่ากันมันจะไม่มีสมาธิ หรือถ้าไม่หลั่งออกมาก็ไม่ได้ การทานยานี้เข้าไปมันจะเป็นการหลั่งสารเคมีออกมาเท่ากัน แล้วจะมีสมาธิอยู่ประมาณ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน ต่อโดส

แล้วความถี่ที่น้องต้องรับประทาน?
ษา : เขาโตขึ้นมาแล้ว ประมาณ 2 ครั้งต่อวัน คือตอนเช้าเราให้กินไป อีกทีตอนเย็น

ซึ่งเซย์เดย์ให้ความร่วมมือกับคุณแม่อย่างเดียวใช่ไหม?
เซย์เดย์ : ครับผม ก็ไม่เคยไม่อยากกินยา

เมื่อเรารู้ตัวแล้วว่าลูกเราผิดปกติ เราจะเริ่มยังไงในการไปหาคุณหมอ?
ษา : เราต้องรู้เลยว่าลูกเราพิเศษจริง ๆ ลูกเราผิดปกติจริง ๆ  อันแรกเลยที่สังเกตได้คือจับไม่อยู่ คือลูกไม่อยู่กับที่ แล้วทำอะไรจะไม่มีสมาธิเลย แบบนี้ควรไปพบคุณหมอแต่ก็ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าจะเป็น แต่ว่าการที่เราไปพบคุณหมอก็เหมือนเมืองนอก ก็จะมีจิตแพทย์มาดูแลว่าเป็นหรือเปล่า ถ้าเป็นเราก็จะได้รักษากันเลย ออทิสติกอาการนี้ต้องดูขวบแรก ไม่สามารถที่จะตรวจน้ำคร่ำ เรื่องนี้เราต้องเจอด้วยตัวเองถึงจะรู้ว่าเขาเป็น พอรู้แบบนี้แล้วไปหาคุณหมอเลย ไม่ต้องอาย

อะไรที่รับมือยากที่สุด?
ษา : น่าจะเป็นเรื่องของอารมณ์มากกว่า เพราะตอนนี้เซย์เดย์เข้าสู่วัยรุ่นแล้ว อารมณ์จะพลุ่งพล่านนิดนึง แล้วเขาเป็นเด็กพิเศษด้วย เป็นวัยรุ่นด้วย แล้วก็เป็นเด็กผู้ชายด้วยแล้วเราเป็นผู้หญิงมันก็จะวุ่นวายนิดนึง แต่เวลาเราคุยกับเขา เขาก็รับฟังในบางครั้ง

เห็นว่าชอบคอม ชอบเขียนโปรแกรม?
ษา : คือเขาจะชอบเรื่องคอม ภาษา  เวลาที่เขาจะทำอะไรเขาก็เข้าไปดูในยูทูบ แล้วก็นั่งดูว่าลูกดูอะไร บางทีก็เป็นภาษาอังกฤษหมดเลย แม่ฟังไม่รู้เรื่อง

แต่ก็มีเหตุการณ์ทำให้คุณแม่ฟิวส์ขาด เกิดอะไรขึ้น?
ษา : จริง ๆ มันก็ฟิวส์ขาดอยู่หลายครั้ง แต่บางทีมันเป็นอารมณ์ที่เราไม่ได้อยู่บ้านเฉย ๆ เราก็ออกไปข้างนอก เจออะไรต่ออะไร หรือแม้แต่ขายของออนไลน์ก็เหมือนกัน บางทีเราก็เจอลูกค้าเหวี่ยงวีนบ้าง ไม่โอนบ้าง อะไรบ้าง เราก็มีอารมณ์ของเรา พอมาเจอเขา เขาก็มีอารมณ์ของเขา แล้วก็มาเจอกันพอดี แล้วพอแว๊ดเขาตอนเด็ก ๆ เราจะรู้แล้วว่าอันไหนอาการเขาจะคูณสอง พอเราแว๊ดเขา เราก็จะขึ้นไปร้องไห้ตลอดเวลาว่าทำไมอะ ทำมา 15 ปีแล้ว ทำไมเรื่องแค่นี้มันทำไม่ได้ แต่เดย์เขาจะเป็นเด็กที่ โกรธง่ายหายเร็ว แล้วเขาไม่ได้จำว่าเขาโกรธอะไร

เซย์เดย์รู้ไหมว่าคุณแม่ร้องไห้คนเดียว?
เซย์เดย์ : เดย์ขึ้นไป บางครั้งก็รู้ บางครั้งก็ไม่รู้เวลาเห็นคุณแม่ร้องไห้บางครั้งก็เข้าไปปลอบบ้าง ก็พูดกับคุณแม่ว่าขอโทษอะไรแบบนี้ครับ
ษา : ด้วยความที่เราเป็นแม่ แล้วอยู่กับเขา 24 ชั่วโมง รู้อาการของเขาหมด การที่เรารู้หมดทุกอย่าง มันก็เป็นข้อเสีย มันทำให้เราเป็นห่วงมากกว่าเดิม แล้วทุกวันนี้สิ่งที่ห่วงเขาคือ ถ้าไม่มีเราเขาจะอยู่ได้ไหม ซึ่งเรารู้แหละว่าลูกเก่งมาก แต่ ณ วันนึงถ้าเรารู้ว่าเขาจะต้องอยู่คนเดียว เราทำใจไม่ได้นะ

ล่าสุดเห็นว่าเป็นปัญหาใหม่ ที่แม่ ๆ ต้องรับมือไว้ บอกว่าไม่อยากเรียนแล้ว?
ษา : จากเด็กชอบเรียนอะ คือจริง ๆ ถ้าไปโรงเรียนเขาจะเรียกว่าออนไซต์ ออนไลน์คืออยู่บ้าน เขารู้สึกว่าไปโรงเรียนเขาจะโอเคกว่า เราเข้าใจและเราไม่สามารถลุกขึ้นมาโต้แย้งได้ เพราะมันทั้งโลกอะไม่ใช่แค่ประเทศไทยเราก็ต้องยอมรับ

เซเดย์ไม่โอเคกับการเรียนออนไลน์เหรอ?
เซย์เดย์ : บางครั้งก็มีเครียดครับ ถึงจุดแล้วไม่อยากเรียน

ทำไมเราถึงเครียด?
เซย์เดย์ : การบ้านเยอะครับ
ษา : นิสัยเซย์เดย์เขาจะแบ่งเลยนะว่าอันนี้โรงเรียน อันนี้บ้าน อะไรที่เป็นงานของโรงเรียน เขาจะทำเสร็จที่โรงเรียนหมดเลย

มันต่างกันยังไงระหว่างเรียนที่โรงเรียนกับที่บ้าน?
เซย์เดย์ : ถ้าเรียนที่โรงเรียนจะฟังครูตลอด ไม่มีอะไรมาเบี่ยงเบนความสนใจ พออยู่บ้านมันเบี่ยงเบนไปดูอย่างอื่นได้ง่าย

ถ้าเขาให้เรียนออนไลน์ 1 ปีไหวไหม?
เซย์เดย์ : ก็แล้วแต่การบ้านจะเยอะไหม

คบกันมากี่ปีแล้ว?
อาท : เข้าปีที่ 5 ครับ

เห็นว่าสนิทกับน้องมาก?
อาท : ผมว่าเขาเป็นเด็กที่จะพิเศษ แต่สำหรับผมเขาเหมือนปกติ ผมก็ลองคุย ลองเล่น เราก็ได้รับสิ่งใหม่ ๆ จากเขามามากพอสมควรเหมือนกัน

เห็นว่าเซย์เดย์สนิทกับคนยากมาก แล้วมาสนิทกับพี่อาทได้ไง?
ษา : เดย์เขาเป็นคนไม่สนิทกับใครก็จริง  แต่เขาเป็นคนดูคน ถ้าคุยดีด้วยเขาก็คุย เขาไม่ได้แอนตี้

อะไรที่ทำให้เปิดใจให้คนคนนี้เข้ามา?
ษา : เมื่อก่อนษาอาจจะแสบ แต่พอมีลูกษาก็เปลี่ยนไป พอเขาเข้ามา สิ่งที่ษาชอบเลยคือเขาทำงานอาสา เราไปเจอกันที่งานบุญ
อาท : เมื่อก่อนสวนกันไปมา แต่ก็ไปเจอกับงานบุญ
ษา : ษาก็บอกลูกว่าน้าอาทเป็นคนที่ดูแลแม่ ดูแลเป็นคุณยาย และดูแลเซย์เดย์ด้วยนะครับ

ทำไมเราถึงจะจีบผู้หญิงคนนี้?
อาท : ชอบผู้หญิงลุย ๆ พอไปงานบุญ เราก็ได้เห็นว่าเขาช่วยคนอื่น ซึ่งเขาชอบอาสา เราก็เป็นอาสาอยู่แล้ว เราก็รู้สึกว่าเขามีจริตตรงกับเรา

เซย์เดย์อยากบอกอะไรกับคุณแม่บ้าง?
เซย์เดย์ : แม่หาเงินมาทั้งชีวิตเพื่อมาเลี้ยงผม ทำทุกอย่างเพื่อผมกับครอบครัว ผมรักแม่ครับ

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา13.40-14.40 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

กดเลย >> community แห่งความบันเทิง 📸เมาท์ข่าวดารา กับเจ๊รุงรังขังรวม
ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ 🍿ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล 😍ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี