โตเป็นหนุ่มแล้ว! ษา วรรณษา พา น้องเซย์เดย์ ลูกชายออกสื่อครั้งแรก (มีคลิป)
ข่าวบันเทิงวันนี้
วันนี้ "ษา วรรณษา ทองวิเศษ" จับมือลูกชาย "น้องเซย์เดย์" เปิดใจจากเด็กเรียนดีแต่กลับบอกแม่ว่าไม่อยากเรียน แล้วปีนี้ลูกชายอายุ 15 ปีแล้ว จัดการฮอร์โมนวัยรุ่นยังไง แล้วที่บอกว่าไม่ไหวก็ต้องไหว จนหลายครั้งที่กรี๊ดลั่นบ้าน และหนีไปร้องไห้คนเดียว พร้อมเปิดความในใจ ถ้าไม่มีเราก็อยากให้เขาอยู่ให้ได้ โดยเจ้าตัวควงลูกชายมาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง one31 ที่มีหนิง ปณิตา และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
เรียกว่าครั้งแรกในรอบ 8 ปีที่ควงลูกชายออกสื่อ?
ษา : ก็เพิ่งมาออกเต็ม ๆ แบบนี้ครั้งแรก
เซย์เดย์ : ปีนี้ผมอายุ 15 ปีแล้ว
ขอบคุณคลิปจากรายการ คุยแซ่บShow
ทำไมก่อนหน้านี้ไม่พาลูกออกสื่อเลย?
ษา : อย่างที่บอกก่อนหน้านี้มีการบำบัด การพูดคุยกับลูกตลอดเวลา ได้ออกทีวีแหละ แต่เราต้องรู้ว่าเวลาไหนเหมาะสมแล้วเขาพร้อมที่จะตอบคำถาม
ทำไมถึงเรียกน้องว่าพิเศษ?
ษา : เซย์เดย์เป็นเด็กพิเศษในกลุ่มออทิสติก แล้วก็เป็นเรื่องของ LD แล้วก็สมาธิสั้น เป็นทั้งหมด 3 อาการ ตั้งแต่ขวบแรกเลย แล้วตอนนี้พอ 15 ปี แล้วมีการบำบัติมาตลอด 4 ปีแรกตั้งแต่ 1 ขวบ จนถึง 4 ขวบ ค่อนข้างรุ นแรงกับแม่ ของเขาไม่รุนแรง เพราะว่าคนรอบตัวต้องปรับตัวทั้งหมด เพื่อจะมาดูแลเขาว่าเขาจะได้รับการดูแลแบบไหน บำบัดแบบไหน
แล้วการดูแลเป็นยังไง แล้วษาต้องปรับตัวยังไง?
ษา : อย่างแรกคุณแม่ต้องสังเกตก่อนว่าลูกมีความผิดปกติไหม ในเคสของษาคือลูกไม่มีอายคอนแท็ก คือเวลาเราเรียกแล้วไม่หัน อันที่สองเดินผิดปกติ ทรงตัวไม่ค่อยได้ อันที่สามก็จะมีความพิเศษทางจีเนียสนิดนึง เขาค่อนข้างจำอะไรแบบเก่ง เร็ว ครั้งเดียวแล้วจำได้เลย แล้วษาก็กลายเป็นคนช่างสังเกตด้วย ก็เลยรู้ไปตามลำดับขั้นก่อน แล้วที่ดูแลจริงๆ เวลาเขาไม่ได้ดั่งใจ ประมาณสัก 2-3 ขวบ เขาก็ข่วนหน้าตัวเอง เราก็ไม่อยากให้ลูกทำร้ายตัวเอง
เซย์เดย์ออกทีวีตื่นเต้นไหม?
เซย์เดย์ : ตื่นเต้นอยู่ครับ ตอนที่ Swap ตื่นเต้นกว่า
คุณแม่มีวิธีรับมือกับพฤติกรรมของลูกยังไง?
ษา : เรื่องของทำร้ายตัวเอง เวลาที่รู้แล้วว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เขาเกิดอารมณ์โมโห เราก็จะเลี่ยง เราก็ใช้คำอื่นๆ ใช้การแสดงอื่นๆ ประกอบกับเขาอีกทีนึง ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเราทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ความชิน พอมองตาแล้วเราก็จะรู้ว่าถ้ามีอาการแบบนี้ปุ๊บ เราก็จะเลี่ยงไปทำอย่างอื่น ซึ่งบางคนหรือคนนอกเองเขาก็จะบอกว่าสปอยล์ลูกเกินไป แต่จริงๆ เขาคือเด็กพิเศษ ความพิเศษก็ต้องพูดพิเศษ ทำพิเศษเช่นเดียวกัน
ตัวหลานรู้ไหมว่าตัวเองเป็นแบบนี้?
ษา : ทราบคะ ษาบอกเขาตลอด เพราะว่าเขาจะต้องทานยา เราก็ต้องบอกว่ายานี้ช่วยอะไร ทำอะไร จะต้องกินไปตลอดเพราะอะไร
เซย์เดย์รู้ไหมว่ารู้สึกตัวเองพิเศษกว่าคนอื่น?
เซย์เดย์ : รู้ครับ ตอนแม่บอกว่าเป็นเด็กพิเศษ แต่ผมก็รู้สึกเหมือนคนทั่ว ๆ ไป เวลาทำอะไรก็เหมือนคนทั่ว ๆ ไป
ษา : เขาทำอะไรก็เหมือนคนทั่วไป เราเลี้ยงเขาแบบให้อยู่โรงเรียนปกติ ไม่ได้ไปโรงเรียนพิเศษ เพราะเราบอกเขาว่าลูกไม่ใช่คนที่ผิดปกติ แต่ลูกที่เป็นคนที่ผิดปกติมากกว่าคนอื่น เพราะฉะนั้นลูกก็ควรอยู่กับคนปกติ ก็พยายามทำให้เหมือนคนอื่นให้ได้
ต้องทานยาตลอด?
เซย์เดย์ : ใช่ครับ เรียกว่ายาเด็กดี
ษา : พอทานแล้วเขาจะมีสมาธิในการเรียน ต้องบอกก่อนว่ายาชนิดนี้ที่ทาน เด็กพิเศษก็จะทานแตกต่าง แต่ของเซย์เดย์จะเป็นยาที่ คือษาถามคุณหมอแล้วว่ามันผิดปกติขนาดนี้ ต้องทานยาและต้องทานนานเท่าไหร่ ยานี้จะเข้าไปทำลายสมองเด็กไหม ไปกดประสาทไหม ษาถามหมดเลย คุณหมอบอกว่าจริง ๆ แล้วสมองของเราจะมีการหลั่งสารเคมีอยู่ 3 ตัว พอมันหลั่งมาไม่เท่ากันมันจะไม่มีสมาธิ หรือถ้าไม่หลั่งออกมาก็ไม่ได้ การทานยานี้เข้าไปมันจะเป็นการหลั่งสารเคมีออกมาเท่ากัน แล้วจะมีสมาธิอยู่ประมาณ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน ต่อโดส
แล้วความถี่ที่น้องต้องรับประทาน?
ษา : เขาโตขึ้นมาแล้ว ประมาณ 2 ครั้งต่อวัน คือตอนเช้าเราให้กินไป อีกทีตอนเย็น
ซึ่งเซย์เดย์ให้ความร่วมมือกับคุณแม่อย่างเดียวใช่ไหม?
เซย์เดย์ : ครับผม ก็ไม่เคยไม่อยากกินยา
เมื่อเรารู้ตัวแล้วว่าลูกเราผิดปกติ เราจะเริ่มยังไงในการไปหาคุณหมอ?
ษา : เราต้องรู้เลยว่าลูกเราพิเศษจริง ๆ ลูกเราผิดปกติจริง ๆ อันแรกเลยที่สังเกตได้คือจับไม่อยู่ คือลูกไม่อยู่กับที่ แล้วทำอะไรจะไม่มีสมาธิเลย แบบนี้ควรไปพบคุณหมอแต่ก็ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าจะเป็น แต่ว่าการที่เราไปพบคุณหมอก็เหมือนเมืองนอก ก็จะมีจิตแพทย์มาดูแลว่าเป็นหรือเปล่า ถ้าเป็นเราก็จะได้รักษากันเลย ออทิสติกอาการนี้ต้องดูขวบแรก ไม่สามารถที่จะตรวจน้ำคร่ำ เรื่องนี้เราต้องเจอด้วยตัวเองถึงจะรู้ว่าเขาเป็น พอรู้แบบนี้แล้วไปหาคุณหมอเลย ไม่ต้องอาย
อะไรที่รับมือยากที่สุด?
ษา : น่าจะเป็นเรื่องของอารมณ์มากกว่า เพราะตอนนี้เซย์เดย์เข้าสู่วัยรุ่นแล้ว อารมณ์จะพลุ่งพล่านนิดนึง แล้วเขาเป็นเด็กพิเศษด้วย เป็นวัยรุ่นด้วย แล้วก็เป็นเด็กผู้ชายด้วยแล้วเราเป็นผู้หญิงมันก็จะวุ่นวายนิดนึง แต่เวลาเราคุยกับเขา เขาก็รับฟังในบางครั้ง
เห็นว่าชอบคอม ชอบเขียนโปรแกรม?
ษา : คือเขาจะชอบเรื่องคอม ภาษา เวลาที่เขาจะทำอะไรเขาก็เข้าไปดูในยูทูบ แล้วก็นั่งดูว่าลูกดูอะไร บางทีก็เป็นภาษาอังกฤษหมดเลย แม่ฟังไม่รู้เรื่อง
แต่ก็มีเหตุการณ์ทำให้คุณแม่ฟิวส์ขาด เกิดอะไรขึ้น?
ษา : จริง ๆ มันก็ฟิวส์ขาดอยู่หลายครั้ง แต่บางทีมันเป็นอารมณ์ที่เราไม่ได้อยู่บ้านเฉย ๆ เราก็ออกไปข้างนอก เจออะไรต่ออะไร หรือแม้แต่ขายของออนไลน์ก็เหมือนกัน บางทีเราก็เจอลูกค้าเหวี่ยงวีนบ้าง ไม่โอนบ้าง อะไรบ้าง เราก็มีอารมณ์ของเรา พอมาเจอเขา เขาก็มีอารมณ์ของเขา แล้วก็มาเจอกันพอดี แล้วพอแว๊ดเขาตอนเด็ก ๆ เราจะรู้แล้วว่าอันไหนอาการเขาจะคูณสอง พอเราแว๊ดเขา เราก็จะขึ้นไปร้องไห้ตลอดเวลาว่าทำไมอะ ทำมา 15 ปีแล้ว ทำไมเรื่องแค่นี้มันทำไม่ได้ แต่เดย์เขาจะเป็นเด็กที่ โกรธง่ายหายเร็ว แล้วเขาไม่ได้จำว่าเขาโกรธอะไร
เซย์เดย์รู้ไหมว่าคุณแม่ร้องไห้คนเดียว?
เซย์เดย์ : เดย์ขึ้นไป บางครั้งก็รู้ บางครั้งก็ไม่รู้เวลาเห็นคุณแม่ร้องไห้บางครั้งก็เข้าไปปลอบบ้าง ก็พูดกับคุณแม่ว่าขอโทษอะไรแบบนี้ครับ
ษา : ด้วยความที่เราเป็นแม่ แล้วอยู่กับเขา 24 ชั่วโมง รู้อาการของเขาหมด การที่เรารู้หมดทุกอย่าง มันก็เป็นข้อเสีย มันทำให้เราเป็นห่วงมากกว่าเดิม แล้วทุกวันนี้สิ่งที่ห่วงเขาคือ ถ้าไม่มีเราเขาจะอยู่ได้ไหม ซึ่งเรารู้แหละว่าลูกเก่งมาก แต่ ณ วันนึงถ้าเรารู้ว่าเขาจะต้องอยู่คนเดียว เราทำใจไม่ได้นะ
ล่าสุดเห็นว่าเป็นปัญหาใหม่ ที่แม่ ๆ ต้องรับมือไว้ บอกว่าไม่อยากเรียนแล้ว?
ษา : จากเด็กชอบเรียนอะ คือจริง ๆ ถ้าไปโรงเรียนเขาจะเรียกว่าออนไซต์ ออนไลน์คืออยู่บ้าน เขารู้สึกว่าไปโรงเรียนเขาจะโอเคกว่า เราเข้าใจและเราไม่สามารถลุกขึ้นมาโต้แย้งได้ เพราะมันทั้งโลกอะไม่ใช่แค่ประเทศไทยเราก็ต้องยอมรับ
เซเดย์ไม่โอเคกับการเรียนออนไลน์เหรอ?
เซย์เดย์ : บางครั้งก็มีเครียดครับ ถึงจุดแล้วไม่อยากเรียน
ทำไมเราถึงเครียด?
เซย์เดย์ : การบ้านเยอะครับ
ษา : นิสัยเซย์เดย์เขาจะแบ่งเลยนะว่าอันนี้โรงเรียน อันนี้บ้าน อะไรที่เป็นงานของโรงเรียน เขาจะทำเสร็จที่โรงเรียนหมดเลย
มันต่างกันยังไงระหว่างเรียนที่โรงเรียนกับที่บ้าน?
เซย์เดย์ : ถ้าเรียนที่โรงเรียนจะฟังครูตลอด ไม่มีอะไรมาเบี่ยงเบนความสนใจ พออยู่บ้านมันเบี่ยงเบนไปดูอย่างอื่นได้ง่าย
ถ้าเขาให้เรียนออนไลน์ 1 ปีไหวไหม?
เซย์เดย์ : ก็แล้วแต่การบ้านจะเยอะไหม
คบกันมากี่ปีแล้ว?
อาท : เข้าปีที่ 5 ครับ
เห็นว่าสนิทกับน้องมาก?
อาท : ผมว่าเขาเป็นเด็กที่จะพิเศษ แต่สำหรับผมเขาเหมือนปกติ ผมก็ลองคุย ลองเล่น เราก็ได้รับสิ่งใหม่ ๆ จากเขามามากพอสมควรเหมือนกัน
เห็นว่าเซย์เดย์สนิทกับคนยากมาก แล้วมาสนิทกับพี่อาทได้ไง?
ษา : เดย์เขาเป็นคนไม่สนิทกับใครก็จริง แต่เขาเป็นคนดูคน ถ้าคุยดีด้วยเขาก็คุย เขาไม่ได้แอนตี้
อะไรที่ทำให้เปิดใจให้คนคนนี้เข้ามา?
ษา : เมื่อก่อนษาอาจจะแสบ แต่พอมีลูกษาก็เปลี่ยนไป พอเขาเข้ามา สิ่งที่ษาชอบเลยคือเขาทำงานอาสา เราไปเจอกันที่งานบุญ
อาท : เมื่อก่อนสวนกันไปมา แต่ก็ไปเจอกับงานบุญ
ษา : ษาก็บอกลูกว่าน้าอาทเป็นคนที่ดูแลแม่ ดูแลเป็นคุณยาย และดูแลเซย์เดย์ด้วยนะครับ
ทำไมเราถึงจะจีบผู้หญิงคนนี้?
อาท : ชอบผู้หญิงลุย ๆ พอไปงานบุญ เราก็ได้เห็นว่าเขาช่วยคนอื่น ซึ่งเขาชอบอาสา เราก็เป็นอาสาอยู่แล้ว เราก็รู้สึกว่าเขามีจริตตรงกับเรา
เซย์เดย์อยากบอกอะไรกับคุณแม่บ้าง?
เซย์เดย์ : แม่หาเงินมาทั้งชีวิตเพื่อมาเลี้ยงผม ทำทุกอย่างเพื่อผมกับครอบครัว ผมรักแม่ครับ
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.40-14.40 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
กดเลย >> community แห่งความบันเทิง 📸เมาท์ข่าวดารา กับเจ๊รุงรังขังรวม
ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ 🍿ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล 😍ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี