ชวนมาดูซีรีส์ดับร้อนในเดือนเมษายน เดือนแห่งเทศกาลสงกรานต์ หรือวันปีใหม่แบบไทย ๆ ที่เต็มไปด้วยวันหยุด ซึ่งสำหรับหลาย ๆ ครอบครัวก็คงจะมีโอกาสได้กลับมารวมญาติ ได้พบปะสังสรรค์กันเป็นครอบครัวใหญ่ ซึ่งการให้ความสำคัญกับครอบครัวขยายแบบโดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดก็ถือเป็นวัฒนธรรมร่วมในแถบเอเชีย ดังที่เราจะเห็นในซีรีส์จีนอยู่บ่อยครั้ง สำหรับซีรีส์เรื่องที่จะมาแนะนำและชวนดูในวันนี้ก็เต็มไปด้วยบรรยากาศของการอยู่ร่วมกันแบบครอบครัวใหญ่ที่จะต้องเผชิญกับปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ไปด้วยกัน แบบที่มีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมต้าน ซึ่งจะเป็นเรื่องไหนไปไม่ได้เลยนอกจาก “ฮวาจื่อ บุปผากลางภัย” ที่เล่าถึงเรื่องราวต่าง ๆ ของครอบครัวใหญ่สกุลฮวาที่ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์คับขัน และปัญหาทุก ๆ อย่างก็ถูกทิ้งลงมาบนบ่าของ “ฮวาจื่อ” ตัวละครนางเอกหญิงแกร่งที่อยู่ ๆ ก็ต้องกลายมาเป็นเสาหลักของบ้าน ในวันที่ครอบครัวเหลือเพียงแค่เด็กและสตรีซีรีส์ "ฮวาจื่อ บุปผากลางภัย" หรือ "ฮวาจื่อ บุปผาเทียมเทียมเพชร" ดัดแปลงมาจากนวนิยายจีนเรื่อง "แกร่งดั่งเพชร" จากปลายปากกาของผู้เขียนนาม "กงหลิ่ว" โดยในซีรีส์จะเล่าถึงการต้องราชภัยทั้งตระกูลของครอบครัวบ้านสกุลฮวาเพราะขัดพระประสงค์ฮ่องเต้ ทำให้ผู้ชายทั้งหมดต้องถูกเนรเทศออกไป จนทั้งบ้านเหลือแต่เหล่าฮูหยินกับบรรดาสะใภ้ และหลานสาว รวมไปถึงหลานชายที่ยังเล็กอยู่ แถมยังถูกยึดทรัพย์สินจะต้องระเหเร่ร่อนไปอยู่บ้านสวนที่แออัดคับแคบ กับเหล่าอนุภรรยาและสาวใช้ที่ไม่มีที่ไป เป็นเหตุให้ “ฮวาจื่อ” หลานสาวคนโตที่มีความสนิทสนมหรืออาจเรียกได้ว่าเป็นหลานรักของท่านปู่ต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อกอบกู้สถานการณ์ของบ้านให้ได้ นางตัดสินใจเพื่อคนทั้งบ้าน เริ่มทำการค้าขาย จนสร้างกิจการของบ้านสกุลฮวาขึ้นมาได้ และสร้างย้ายกลับเข้าไปในเมืองหลวงได้อย่างมีหน้ามีตา และในช่วงเวลาดังกล่าว นางก็ได้พบกับ “เยี่ยนซี” ชายหนุ่มลึกลับที่มีภูมิหลังไม่ธรรมดา กลายเป็นพล็อตคลาสสิกแบบพระนางเจอกันท่ามกลางอุปสรรคปัญหา คอยช่วยเหลือสนับสนุนกันและกัน จนกระทั่งเกิดเป็นความเข้าอกเข้าใจฟังดูเนื้อเรื่องก็เหมือนจะเรียบ ๆ แต่ไม่เรื่อยไม่เอื่อยอย่างแน่นอน แม้ว่าในช่วงต้นเรื่องจะไม่ได้มีการนำเสนอปมปัญหาที่ซับซ้อนอะไร เป็นเพียงเรื่องราวการเอาชนะอุปสรรคปัญหาในชีวิตประจำวันของนางเอก แต่เมื่อดูไปเรื่อย ๆ จะค่อย ๆ รู้สึกอินและเอาใจช่วยสาว ๆ บ้านสกุลฮวาเหมือนกับได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของบ้านที่ดูมีชีวิตชีวามาก ๆ เพราะตัวละครแต่ละตัวล้วนแล้วแต่มีความเป็นมนุษย์ แถมมากคนยังมากความ นำมาซึ่งเรื่องราวและปัญหาใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นได้โดยไม่เว้นแต่ละวัน หลังจากดูมาเกินครึ่งเรื่องแล้วติดงอมแงม ผู้เขียนก็เลยอยากจะมาแบ่งปันถึงความน่าติดตามของซีรีส์ที่สามารถออกมาเป็น 4 ประเด็นใหญ่ ๆ ตัวละครที่มีความเป็นมนุษย์“ฮวาจื่อ บุปผากลางภัย” ขึ้นชื่อว่าเป็นซีรีส์ที่มีตัวละครเยอะมาก เปิดมาตั้งแต่ตอนแรกก็เล่นเอาผู้ชมเกิดความสับสนมึนงงกับตัวละครมากมายที่ปรากฏตัวออกมาพร้อม ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นพระเอก นางเอก บุคคลในราชวงศ์ และคนในครอบครัวสกุลฮวา ยังมีว่าที่คู่หมั้นนางเอก แต่เมื่อดูไปเรื่อย ๆ จะพบว่าตัวละครหลายตัวจะค่อย ๆ มีซีนเป็นของตัวเองทำให้พวกเราจำเขาได้ และมองเขาอย่างเป็นมนุษย์ที่มีความกลม ๆ มากขึ้น ซึ่งถ้าหากจะนำมาไล่เรียงทั้งหมด บทความนี้ก็คงจะต้องเขียนต่อไปอีกยืดยาว เลยจะพูดถึงเฉพาะตัวละครเด่น ๆ และพูดในภาพรวม ฮวาจื่อ: บุปผางามในดงไม้หนาม ฮวาจื่อ เป็นตัวละครนางเอกที่รับบทโดยนักแสดงสาว “จางจิ้งอี๋” นางเป็นเพียงแค่เด็กสาวอายุน้อยที่รักอิสระ มีความใฝ่รู้ และเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ อาจเป็นเพราะชีวิตวัยเยาว์ของนางนั้นต่างจากคุณหนูสกุลผู้ดีทั่วไป แต่ได้ติดตามท่านปู่ขึ้นเหนือล่องใต้ เป็นคนกล้าหาญที่พร้อมเผชิญหน้ากับโชคชะตาไม่ว่าร้ายหรือดี ตัวละครนี้เรียกได้ว่าเป็น “ตัวแบก” ของบ้านสกุลฮวาอย่างแท้จริง ภายหลังจากที่ผู้ชายในบ้านต้องราชภัย ฮวาจื่อต้องดูแลท่านย่าที่อายุมากแล้ว ดูแลท่านแม่กำลังอกสั่นขวัญหนี และเหล่าอาสะใภ้ รวมไปถึงน้อง ๆ ที่ไม่เคยตกระกำลำบาก ค่อย ๆ ทำการค้าเล็ก ๆ น้อย และสร้างกิจการใหม่ขึ้นมา เสน่ห์ของฮวาจื่อก็คือการลงมือ ไม่มัวแต่มานั่งตัดพ้อต่อโชคชะตา ยิ่งดูก็ยิ่งอิน ได้แรงบันดาลใจในการลุกขึ้นตั้งหลักทำมาหากิน กู้เยี่ยนซี: ชายหนุ่มลึกลับ เจ้าของตำแหน่งเสนาบดีแห่งสำนักสัตดารากู้เยี่ยนซีเป็นตัวละครพระเอกอีกตัวที่เข้ามาได้ถูกจังหวะ การมีอยู่ของเขาในเรื่องฮวาจื่อบุปผากลางภัยนั้น เรียกได้ว่าเป็นเหมือนกับผู้สนับสนุนที่ดี ในขณะที่บ้านนางเอกกำลังเผชิญหน้ากับปัญหา ถ้าใครชอบพระเอกสายซับพอร์ต ไม่รุงรังก็อาจจะตกหลุมรักเขาได้ง่าย ๆ อย่างไรก็ตาม กู้เยี่ยนซี ยังมีเป็นตัวละครที่มีเรื่องราวของตัวเองซึ่งสลับซับซ้อน เกี่ยวพันไปถึงเรื่องภายในราชวงศ์ ทั้งนี้เขายังมีตำแหน่งเป็นถึงเสนาบดีแห่งสำนักสัตดาราผู้ที่รับบัญชาจากฮ่องเต้ให้มายึดทรัพย์ในบ้านสกุลฮวาภายใต้หน้ากากที่ดุร้าย เขาเป็นหลานชายที่ฮ่องเต้โปรดปราน แต่ในชีวิตครอบครัวกลับขาดความรักความอบอุ่น เรียกได้ว่าเป็นคนละขั้วกับครอบครัวของฮวาจื่ออย่างแท้จริง ส่วนนักแสดงที่ได้มารับบทนี้ก็คือ “หูอี้เทียน” ซึ่งแสดงได้มีเสน่ห์มาก ๆ บทไหนจะอบอุ่นก็แสนดีเหลือเกิน แต่พอถึงบทจะโหด ก็ต้องเรียกว่าโหดได้ใจ นอกจากนี้ผู้เขียนยังได้ยินมาว่าหูอี้เทียนไม่ค่อยรับละครพีเรียดอีกด้วย ในซีรีส์เรื่องนี้จึงถือเป็นโอกาสดีเลยที่เราจะได้รับชมฝีมือการแสดงของเขา เสาเย่า: หมอหญิงน้อยผู้ไร้เดียงสาเสาเย่าเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของกู้เยี่ยนซี นางเป็นเด็กกำพร้าและดูเหมือนจะกลายเป็นคนสติไม่ดีตั้งแต่ตอนเด็กที่สูญเสียแม่ไป เสาเย่าเหมือนไม่เติบโตขึ้นอีกเลยนับตั้งแต่วันนี้ นางเริ่มเก็บตัวอ่านตำราและคิดค้นเกี่ยวกับการปรุงยารักษาบาดแผลและโรคภัยต่าง ๆ จนมีความชำนิชำนาญ ชีวิตของเสาเย่าได้มาประสบพบพานกับความฮวาจื่อโดยบังเอิญและถูกเก็บกลับไปที่บ้านทำให้นางได้สัมผัสกับบรรยากาศของครอบครัวที่อบอุ่นอีกครั้ง เสาเย่าเป็นตัวละครที่มีความน่ารักไร้เดียงสา เป็นสีสันที่สดใสในเรื่อง และสามารถเข้ากันได้ดีกับคนในบ้านสกุลฮวา จนภายหลังเมื่อมีคนถามนางว่ามาจากบ้านไหน นางจะตอบอย่างภาคภูมิใจทุกครั้งว่าเป็นคนสกุลฮวา ทั้งยังเป็นตัวละครที่เชื่อมประสานใจระหว่างกู้เยี่ยนซี กับความฮวาจื่อได้เป็นนอย่างดี ฮูหยินผู้เฒ่า ท่านแม่ และเหล่าอาสะใภ้ฮูหยินผู้เฒ่า หรือท่านย่าในเรื่องฮวาจื่อก็ถือเป็นตัวละครที่แซ่บ โดยถ้าเราดูซีรีส์ในตอนแรก ๆ เราอาจจะรู้สึกว่าย่าก็เป็นแค่คนแก่ธรรมดา ไม่น่าจะมีบทบาทอะไร เพราะอายุมากแล้วไม่สามารถแบกตระกูลไหวแถมเปิดมาตอนแรกยังมีฉากที่เรียกฮวาจื่อมาต่อว่าจนบางคนหลงคิดไปแล้วว่าท่านย่าผู้นี้อาจจะร้ายก็ไ้ด้ แต่เมื่อดูไปเรื่อย ๆ เราจะเห็นความเด็ดขาดบางอย่างจนบางทีก็เหมือนเห็นฮวาจื่อในตัวย่า และที่น่าประทับใจมาก ๆ ก็คือการเล่าเรื่องแบบแฟล็ชแบ็คทำให้เราได้เห็นเรื่องราวของท่านย่าในสมัยที่ยังสาว ๆ เรียกได้ว่าเปรี้ยวกว่าฮวาจื่อ และเป็นสตรีที่กล้าหาญคนหนึ่ง การเล่าเรื่องตรงนี้ทำให้เรารู้สึกจับต้องท่านย่าได้มากขึ้น และเหมือนเห็นสายสัมพันธ์ในครอบครัว และท่ีสุดยังเป็นการตอกย้ำว่าฮวาจื่อไม่ใช่แค่หลานรักปู่แต่นางก็มีความเป็นหลานย่า ส่วนท่านแม่ของฮวาจื่อคาแร็กเตอร์ค่อนข้างอ่อนแอ อาสะใภ้แต่ละคนก็มีความหลากหลายเพราะที่มาไม่เหมือนกัน อย่างอาสะใภ้สามที่ค่อนข้างโดดเด่น นางก็เคยเป็นคนหนูใหญ่ที่มาจากครอบครัวร่ำรวย นิสัยบางส่วนก็เอาแต่ใจ ถือมั่นถือดีในความคิดของตัวเอง และชอบพูดจาโผงผางเหมือนร้าย ซึ่งในบางช่วงซีรีส์อาจทำให้เรารู้สึกเกลียดตัวละครนี้ แต่บางช่วงซีรีส์ก็แสดงให้เห็นถึงความเปิดเผยจริงใจของนางที่มีต่อครอบครัว แม้ว่านางจะร้ายกับคนอื่น รวมไปถึงสาวในเรือนก็ตามพูดถึงภาพรวมยังมีตัวละครที่น่าสนใจอีกมากท่ีแสดงให้เห็นถึงแง่มุมต่าง ๆ ของความเป็นมนุษย์ เช่น ตัวละครฮ่องเต้รวมถึงท่านอ๋องต่าง ๆ ก็ล้วนเป็นตัวละครที่มีทั้งความน่าชิงชังแล้วก็น่าเห็นใจ ตัวละครสาวใช้หลาย ๆ ตัวในบ้านสกุลฮวาก็ไม่ได้มาแค่เป็นตัวประกอบเท่านั้น ยังมีอีกหลายโมเม้นท์มากจริง ๆ ที่แนะนำว่าต้องไปดูด้วยตัวเอง นอกจากนี้ในเรื่องยังมีตัวละครเด็กน่ารัก ๆ อีกเยอะมาก ซึ่งตัวผู้เขียนก็ได้ถูกเจ้าก้อนนุ่มนิ่มเหล่านี้ตกไปเป็นที่เรียบร้อย ทุกปัญหาย่อมมีทางออก ขอเพียงแค่ยังไม่สิ้นหวังนอกจากการนำเสนอตัวละครที่มีความเป็นมนุษย์ค่อนข้างสูง key message หลักอีกอย่างหนึ่งที่เราถอดออกมาได้จากซีรีส์ก็คือการเผชิญหน้ากับอุปสรรคปัญหาด้วยความคิดเชิงบวก เช่น “ทุกปัญหาย่อมมีทางออก ขอเพียงแค่ยังไม่สิ้นหวัง” ซึ่งพูดไปแล้วก็อาจจะฟังดูเกร่อ แต่ก็ยังคงเป็นเรื่องจริงเสมอแม้ว่าหลาย ๆ คนอ่านแล้วอาจจะเถียงขึ้นมาในใจว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะลงทุนลงแรงอะไรก็ประสบความสำเร็จได้แบบฮวาจื่อ ซึ่งคำพูดแบบนี้ก็ถือเป็นความจริงอีกด้านหนึ่งที่ต้องตระหนักรู้ไ้ว้เช่นกัน สำหรับตัวผู้เขียนคิดว่าสำเร็จหรือไม่ขอเพียงแค่ยังไม่สิ้นหวัง และต้องมีความกล้าหาญที่จะลงมือทำอะไรซักอย่างให้ได้ก่อน ไม่ความฝันคือเราจะยากเย็นซักแค่ไหน หากไม่ลงมือทำทุกอย่างก็คงจะเป็นเพียงแค่ฝันอยู่นั่นเอง และอีกอย่างหนึ่งที่สัมผัสได้อย่างเด่นชัดคือซีรีส์อาจกำลังพยายามที่จะบอกเราว่า “เกิดเป็นมนุษย์ ไม่มีวันหมดสิ้นหนทางในชีวิตได้ง่าย ๆ ” ทุกสิ่งทุกอย่างถุกเล่าผ่านชีวิตประจำวันอันราบเรียบ กับความ “หาทำ” ของฮวาจื่อ ที่ก็ไม่ได้เป็นการทำเรื่องที่หวือหวาอะไร เป็นเพียงการทำมาหากิน เอาชีวิตรอด ประคับประคองครอบครัวให้ก้าวข้ามผ่านพายุใหญ่ และได้กลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้ง ขอเพียงแค่ได้อยู่พร้อมหน้า ที่ไหน ๆ ก็เรียกว่าบ้านได้ทั้งนั้นจากเรื่องราวการผจญภัยของคนในครอบครัวสกุลฮวาที่ต้องระหกระเหินออกจากบ้านเดิมที่อยู่ร่วมกันทั้งหญิงและชาย มีหลายช่วงที่ซีรีส์แสดงให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนในครอบครัว โดยเฉพาะผู้หญิงและเด็กที่เหลืออยู่ในเมืองหลวงภายหลังจากที่ผู้ชายทุกคนได้ถูกเนรเทศออกไป พวกนางต้องย้ายมาอยู่ในเรือนหลังเล็กที่คับแคบ อยู่ร่วมกันใกล้ชิดกันมากขึ้นจนเกิดเหตุกระทบกระทั่งกันมากมาย แต่เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างผ่านไป ทุกคนก็ร่วมแรงร่วมใจกันจนสร้างฐานะให้กลับคืนมาได้ ซีรีส์แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของสถาบันครอบครัว และมักจะบอกย้ำอยู่เสมอว่าอยู่ที่ไหนก็ได้ขอเพียงแค่ได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าทั้งครอบครัว ขาดไปไม่ได้แม้แต่คนเดียวทั้งหญิงและชาย ดังนั้นคำว่า “บ้าน” ของสกุลฮวาจึงอาจไม่ได้หมายถึงจวนใหญ่โตที่ปรากฏสู่สายผู้ชมในตอนแรกเท่านั้น หากยังหมายถึงสายสัมพันธ์ การอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่ บนเส้นทางกลับบ้านของพวกเขาทั้งหมด เต็มไปด้วยอุปสรรคปัญหามากมาย เราจึงต้องติดตามเอาใจช่วยพวกเขาต่อไป และหวังว่าท้ายที่สุดทุกคนในครอบครัวสกุลฮวาจะได้กลับบ้านของพวกเขาอย่างแท้จริง บ้านที่ไม่อาจเรียกได้ว่าบ้าน ปมปริศนาเกี่ยวกับราชวงศ์และฮ่องเต้อีกหนึ่งความน่าดูก็คือปมปริศนาเกี่ยวกับราชวงศ์และตัวฮ่องเต้ที่ยังไม่ได้เฉลย ซึ่งเรื่องราวอาจเกี่ยวพันกับครอบครัวใหญ่ของพระเอก ในบ้านที่ไม่อาจเรียกว่าบ้านได้ ฮวาจื่อจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องราวเหล่านี้แน่นอน เมื่อความรักที่เกิดขึ้นระหว่างนางกับกู้เยี่ยนซีกำลังเบ่งบาน เชื่อว่าซีรีส์จะต้องซ่อนความสนุกตื่นเต้นอีกหลายอย่างให้ติดตามต่อได้จนจบเรื่องแน่นอน และหลังจากนั้นเราก็อาจจะได้กลับมานิยามคำว่า “บ้าน” กันใหม่อีกครั้งจากที่พูดทั้งหมดนั่นคือความคิดเห็นส่วนตัวที่เกิดจกความอินในตัวซีรีส์ล้วน ๆ อาจจะเพราะรู้สึกรีเลทกับการใช้ชีวิตอยู่ภายในครอบครัวใหญ่ ที่ให้ทั้งความรู้สึกอบอุ่น แต่ก็เต็มไปด้วยการเปรียบเทียบแข่งขัน มากคนมากความ การคิดแตกต่างกันหลากหลายมุมมอง หลาย generation แต่ละคนล้วนมีเหตุผล มีความเป็นมนุษย์ที่ถูกหล่อหลอมมาไม่เหมือนกัน จากมากบ้างน้อยบ้าง ก็แล้วแต่คนไป นอกจากนี้ในพาร์ทของความสัมพันธ์ระหว่างพระเอกกับนางเอกยังดีมาก ๆ ดูต่างคนต่างสนับสนุน เติมเต็มซึ่งกันและกันแบบไม่รุงรัง ในแง่พล็อตเหมือนราบเรียบแต่ก็ไม่ได้เรื่อย ๆ ช่วงแรกเราได้ดูนางเอกสร้างกิจการ เห็นความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นภายในบ้านสกุลฮวา ซึ่งก็เป็นภาพที่คอนทราสต์กับครอบครัวของพระเอกพอสมควร คิดว่าพาร์ทหลังน่าจะมีชัดกว่านี้อีก ยังไงก็สามารถติดตามกันได้บนแพลตฟอร์ม YOUKU หรือ TrueID สามารถ คลิ๊กที่นี่ ได้เลย ขอบคุณภาพจาก Weibo: 电视剧惜花芷ภาพปก: ภาพที่ 1-2, ภาพที่ 3-4เนื้อหา: ภาพที่ 1, ภาพที่ 2, ภาพที่ 3, ภาพที่ 4, ภาพที่ 5, ภาพที่ 6, ภาพที่ 7, ภาพที่ 8, ภาพที่ 9, ภาพที่ 10, ภาพที่ 11, ภาพที่ 12, ภาพที่ 13, ภาพที่ 14, ภาพที่ 15, ภาพที่ 16-17, ภาพที่ 18, ภาพที่ 19-20, ภาพที่ 21, ภาพที่ 22, ภาพที่ 23, ภาพที่ 24, ภาพที่ 25-26เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !