แจกลิสต์หนังไทยในตำนาน ฉบับแรร์ไอแท็ม หาดูยาก..แต่หาดูได้ที่ทรูไอดี (พาร์ท 1)
บอกตรง ๆ แม้ว่าจะเป็นคนไทย เกิดและเติบโตอยู่เมืองไทย ก็ใช่ว่าจะหาหนังไทยคลาสสิกดูได้ง่าย ๆ หรอกนะ เพราะหลังจากที่สิ้นยุคพวกหนังเช่าหนังแผ่นที่ล้มหายตายจากตามสมัยแล้ว หนังไทยเก่า ๆ บางเรื่องก็แทบจะหาดูไม่ได้อีกแล้ว ด้วยเงื่อนไขทางลิขสิทธิ์และสัญญาจากผู้ถือครองสิทธิ์ ทำให้มีหนังไทยบางเรื่องค่อย ๆ กลืนหายไปตามกาลเวลา
แต่กระนั้น ทรูไอดี ก็ยังมีคลังหนังที่จัดได้ว่าเป็นแรร์ไอเท็ม ของหาดูได้ยาก ให้ทุก ๆ คนได้กลับมาหยิบเปิดดูได้อีกครั้ง บางเรื่องอาจจะมีฉายแค่ที่เราที่เดียวด้วยซ้ำ ดังนั้นนี่จึงเป็นการแจกเพลย์ลิสต์เก่า ๆ พ่วงกับการเชิญชวนร่วมอนุรักษ์หนังไทยแบบควบคู่กันไปด้วย เพราะถ้าไม่ใช่คนไทยด้วยกันแล้ว จะให้ใครที่ไหนมาดูแลหนังไทยไม่ให้เลือนหายไปตามกาลเวลากัน
รักละไมล์
แดน (ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ) นักเชิดหุ่นละครเล็ก ผิดหวังกับสังคมที่ไม่ใส่ใจรักษาวัฒนธรรม เลยตัดสินใจทิ้งบ้านเกิดเมืองนอนเดินทางไปหาสถานที่และผู้คนที่ชื่นชอบในศิลปะหุ่นละครเล็กที่เขาอยากภูมิใจนำเสนอ ซึ่ง แดน เชื่อว่าสังคมที่นั่นต้องรักและหวังดีกับศิลปวัฒนธรรมแขนงนี้ จนกระทั่งพรหมลิขิตให้เขาได้พบกับ แพรวา (สิรี ลูเธอร์) สาวลูกครึ่งไทยที่ไปใช้ชีวิตที่ประเทศแคนาดาตั้งแต่ยังเล็ก และมีเหตุจำเป็นต้องกลับมายายในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตามคำขอของแม่ที่อยากให้ลูกสาวได้กลับไปเห็นชีวิตแบบไทย ๆ บ้าง จนถึงขนาดถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ลูกสาวมีโอกาสตั้งรกรากที่บ้านเกิดเมืองนอนของแม่
แต่แล้วเมื่อ แพรวา กลับมาเมืองไทย เหมือนเป็นโชคร้ายอย่างไงก็ไม่รู้ทำให้เธอต้องเจอกับเรื่องยุ่ง ๆ วุ่นวายมากมาย จนในที่สุดก็มีพระเอกขี่ม้าขาวมาอย่างแดน ที่ยื่นเสนอตัวช่วยเหลือและพาไปแจ้งความกับตำรวจ และต่อจากนี้ไป ทั้งคู่ก็จะต้องเริ่มเดินทางและเรียนรู้ความต่างของ 2 วัฒนธรรม ภาษา และแหล่งท่องเที่ยวทั่วไทย ที่หล่อหลอมให้เขาและเธอได้เรียนรู้กันและกัน (รับชมได้ถึงเดือนธันวาคม 2030)
ขวัญ-เรียม (2544)
ขวัญ (นินนาท สินไชย) และ เรียม (ภัครมัย โปตระนันทน์) เป็นหนุ่มสาวแห่งทุ่งบางกะปิ ที่มีความผูกพันกันมาตั้งแต่เด็ก แม้ว่า กำนันเรือง (นิเวศน์ กันไทยราษฎร์) พ่อของเรียม จะถือเอา เขียน (กิตติคุณ เชียรสงค์) พ่อของขวัญเป็นศัตรู อันเนื่องมาจากปัญหาการช่วงชิงความรักในอดีต และการที่กำนันเรืองแพ้ความ กรณีรุกที่นาของเขียนในเวลาต่อมา
กำนันเรือง และเขียนมีบุคลิกและปูมหลังแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง กำนันเรืองรับสืบทอดจากพ่อ ทั้งมรดกที่นา และตำแหน่งกำนัน ไม่เคยทำนาเอง ได้แต่จ้างคนทำและให้เช่าที่รักที่นาเพียงเพราะ มันให้ผลประโยชน์และเป็นสมบัติเอาไว้ขายกินได้ ขณะที่เขียนแม้จะเคยประพฤติ ทางนักเลงในวัยหนุ่ม แต่เมื่อมีเมียมีลูกก็กลับเนื้อกลับตัวได้ เขียนรักและหวงแหนที่นาด้วยจิตวิญญาณของชาวนาโดยแท้
กำนันเรืองเคยหลงรักแม่ของขวัญอยู่ข้างเดียว ดังนั้นจึงผูกใจเจ็บเขียนตลอดมา ขณะเดียวกัน พิศ (วิยะดา โกมารกุล ณ นคร) เมียของกำนันเรืองก็เคยรักเขียน ซึ่งกำนันเรืองก็ตระหนักดี และกลายเป็นปมที่ทำให้ไม่อาจญาติดีกับเขียน แม้จนเมื่อต่างล่วงสู่วัยกลางคน แม่ของขวัญตายตั้งแต่ขวัญยังเด็ก แต่ขวัญไม่เคยลืมว่าพ่อรักแม่ และทำทุกอย่างเพื่อแม่อย่างไร ด้วยความที่ยึดถือพ่อเป็นแบบอย่าง ขวัญเติบโตขึ้นเป็นคนหนุ่มที่ห้าวหาญ มีชั้นเชิงในทางนักเลง ควบคู่กับการเป็นชาวนาที่ขยันขันแข็ง ที่สำคัญคือ เมื่อรักใครแล้วก็จะทุ่มเทให้ทั้งชีวิต อย่างไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
ขวัญเป็นวีรบุรุษของเรียมมาตั้งแต่เด็ก แม้จะมีโอกาสพบกันไม่มาก เรียมมีความฝังใจในทางลบกับครอบครัวของตัวเอง จากการที่เห็นแม่ยอมพ่อทุกอย่าง และพ่อก็ปฏิบัติต่อแม่ราวกับเป็นสมบัติในครัวเรือน ไม่ใช่อย่างคนที่รักและอาทรต่อกัน เธอตั้งใจที่จะไม่เป็นอย่างแม่ ความรักต่อขวัญ ได้ก่อร่างขึ้นบนความรู้สึกพื้นฐานนี้
อุปสรรคความรักของขวัญ-เรียม นอกจากปัญหาระหว่างครอบครัว คือการที่กำนันเรืองติดการพนันงอมแงม มีหนี้สินพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ กับบ่อนไก่ชนที่เมืองมีน อาศัยที่รู้ว่า จ้อย (ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง) ลูกชายเจ้าของบ่อนชอบเรียม ก็ขอผ่อนผันมาเป็นลำดับ เพื่อจะไม่ต้องเอาที่ไปจำนองอย่างไม่มีราคา ในที่สุดเมื่อไม่อาจผ่อนผันได้อีก ก็ตัดสินใจยกเรียมให้จ้อยเป็นการล้างหนี้
ความกดดันจากการถูกบังคับให้แต่งงาน ทำให้เรียมยอมตกเป็นของขวัญ ทั้งคู่ไปสาบานจะรักกันยืนนานที่ศาลเจ้าพ่อไทร อันเป็นที่เคารพของคนทั้งหมู่บ้าน แต่แล้วกำนันเรืองก็ตามไปพบ เริญ (ณภัทร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา) พี่ชายของเรียมลอบฟันขวัญจนบาดเจ็บ เรียมถูกลงโทษอย่างหนัก และจ้อยก็เป็นคนจัดการพาตัวเรียมไปฝากไว้กับ คุณนายทองคำ (กรรณิกา ธรรมเกษร) ซึ่งเป็นญาติของตนในกรุงเทพฯ เป็นการชั่วคราว ก่อนที่จะแต่งงานกัน
เมื่อรู้ว่าถูกพรากคนรัก ขวัญบุกไปถึงเมืองมีน เพื่อคาดคั้นเอาความจริงกับจ้อย แต่กลับฆ่าจ้อยตายด้วยอารมณ์รุนแรง อาศัยที่ตัวเองบาดเจ็บ จนไม่น่าเชื่อว่าจะลุกไปไหนได้ และจ้อยก็มีศัตรูในเรื่องการพนันอยู่มากมาย ขวัญจึงรอดพ้นการตกเป็นผู้ต้องหา ในคดีฆ่าคนตายอย่างหวุดหวิด ขวัญเข้ากรุงเทพฯ ตามหาเรียม ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าบ้านคุณนายทองคำอยู่ที่ไหน หลังจากตามอยู่ 3 เดือน ก็ต้องกลับบางกะปิ ไปช่วยพ่อทำนาด้วยความหม่นหมอง
ข้างเรียมสิ่งที่ได้รับรู้จากกำนันเรือง คือ ขวัญกลายเป็นผู้ร้ายฆ่าคนตาย หนีหัวซุกหัวซุนไปจากบางกะปิ และคงไม่มีทางกลับมาอีกแล้ว ต่อจากนี้ชีวิตเรียมควรจะอยู่แต่ในกรุงเทพฯ เพราะกำนันเรืองยกเรียมให้คุณนายทองคำ แลกกับเงินก้อนใหญ่ เท่ากับขายลูกขาดไปแล้ว คุณนายทองคำเอง ก็รักเมตตาเรียม และตั้งใจจะเลี้ยงอย่างลูกแท้ๆ ดุจเดียวกับ โฉมยง ลูกสาวของตนที่เสียชีวิตไป
เรียมได้พบว่ากรุงเทพฯมีสิ่งดีๆ มากมาย คุณนายทองคำเป็นเหมือนแม่คนใหม่ ที่ให้ชีวิตใหม่กับเธอ ไม่เพียงให้การศึกษาเพิ่มเติม เปลี่ยนแปลงรูปโฉม แต่ยังชักนำให้รู้จักผู้ชายคนใหม่ และคุณสมชาย (นลธวัช พรมจินดา) ลูกคหบดีผู้มั่งคั่ง ก็ดูจะเพียบพร้อมเกินไปด้วยซ้ำ สำหรับผู้หญิงบ้านนอกอย่างเธอ
ชีวิตของขวัญและเรียม เหมือนจะถูกแยกไปคนละทาง แต่ก็กลับมาบรรจบกันอีกจนได้ เมื่อพิศ แม่ของเรียมล้มเจ็บและตายลง เรียมขออนุญาตคุณนายทองคำไปอยู่บางกะปิชั่วคราว เพื่อจัดการงานศพ เธอได้รู้ความจริงว่า ขวัญไม่ได้หนีไปไหน ยังรัก และรอเธออย่างซื่อสัตย์มั่นคง ทั้งยังตั้งใจจะเข้ากรุงเทพฯ ไปตามหาเธออีกจนกว่าจะเจอ
เรียมถูกสถานการณ์บังคับให้ต้องตัดสินใจ ขวัญไม่ยอมสูญเสียเธอไปอีกแล้ว และคุณสมชายที่กำลังเดินทางตามมาจากกรุงเทพฯ ก็คงจะเป็นเช่นเดียวกัน... (รับชมได้ถึงเดือนกันยายน 2025)
หนูหิ่น เดอะ มูฟวี่
ว่ากันว่าถ้าเอ่ยชื่อ หนูหิ่น เด็กสาวอารมณ์ดี๊ดี เจ้าของผมทรงม้าเหี้ยน สวมเสื้อคอกระเช้า นุ่งผ้าซิ่น รับรองว่าไม่มีใครในหมู่บ้านโนนหินแห่ อ.ตระการพืชพล จังหวัดอุบลราชธานี ที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งวีรกรรมเด็ดอันเกิดจากความคิดใสซื่อผสมปนเปเข้ากับความซนที่ไม่มีขีดจำกัด ทำให้พี่น้องชาวบ้านต่างอิดหนาระอาใจไปกับหนูหิ่นไปตาม ๆ กัน แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่ง เมื่อย่างเข้าหน้าแล้ง บ้านนาขัดสน พ่อก็มาเจ็บ ๆ ออด ๆ หนูเหี้ยนน้องสาวกำลังจะเปิดเทอม ในฐานะพี่สาวคนโต หนูหิ่นตัดสินใจประกาศตัวอย่างชัดเจนว่า "หนูหิ่นนี่แหละจะเข้ามาเฮ็ดการเฮ็ดงานที่ กรุงเทพเอง อีพ่ออีแม่บ่ต้องเป็นห่วง" โดยหวังว่าตนเองจะเป็นเสาหลักของบ้าน เพียงแต่ว่าหลายคนในหมู่บ้านต่างเห็นพ้องต้องกันว่าหนูหิ่นจะเข้ามาก่อวีรกรรมความวุ่นวายในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพเสียมากกว่า
ณ สำนักจัดหางาน ความฝันอันสวยหรูของหนูหิ่นกับชีวิตการเป็นสาวโรงงานต้องพังพินาศลง เมื่อสาวกรุงเทพหุ่นดีที่ใครเห็นก็ต้องเหลียวหลังคอเคล็ด เดินผ่านเข้ามาในชีวิตของหนูหิ่น พร้อมยื่นตำแหน่งงานที่ท้าทายความสามารถของหนูหิ่นยิ่งกว่าการเป็นสาวโรงงานกับดักหนูเสียอีก แต่หิ่นรู้ดีเด้อคะว่า "ตำแหน่งผู้จัดการบ้าน" ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้ จึงยื่นข้อเสนอกลับไปว่า เงินเดือนสวัสดิการพร้อม 1,500 บาทขาดตัว และบ่รับงานหลัง 2 ทุ่มครึ่งเพราะหนูหิ่นติดภารกิจสำคัญ คุณมิลค์ที่แปลว่านม (คนอะไรชื่อสมตัวดีแท้) แกก็ดีใจหายรับเงื่อนไขทุกประการ
หนูหิ่นลืมบอกไปเด้อคะ เจ้านายคนสวยที่รับหนูหิ่นเข้าเฮ็ดงาน แกชื่อว่า "คุณมิลค์" คนกรุงเทพชื่อแปลกแท้เนาะแปลว่า "นม" สมตัวหลาย ในบ้านใหญ่หลังโตสมฐานะคนอันจะกินหลังนี้ยังมีสมาชิกในบ้านอย่างอีพ่อ อีแม่ และ "คุณส้มโอ" พี่สาวที่หุ่นสบึม หน้าตาสวยไม่แพ้คุณมิลค์ แต่แกชอบออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ ไปไหนมาไหนห่วงสวย ต้องดูกระจกตลอด นอกจากนี้หนูหิ่นยังได้พบหนุ่มคนสวนที่บ้านข้างๆและตกหลุมรักในความหล่อเข้าเต็มเปา แต่ในเวลาต่อมาก็ต้อง อกหัก เมื่อพบความจริงว่า ที่แท้หนุ่มคนนั้นคือ คุณทอง ลูกชายคนเล็กของบ้านข้าง ๆ ตะหาก ยังดีที่ว่าทั้งคุณทอง และคุณมิลค์ แกดูสนใจกันอยู่ ถ้าเป็นคนอื่นหนูหิ่น บ่ยอมเดะคะ
เผลอแพล่บเดียวหนูหิ่นก็มาทำงานที่บ้านคุณมิลค์ได้ร่วมปีแล้ว หนูหิ่นยุทั้งมิลค์และส้มโอให้สมัครประกวดซุปเปอร์โมเดลค้นหานางแบบหน้าใหม่ที่จัดโดย โซเนีย ยอดนางแบบของไทย แต่ทั้งคู่กลับไม่สนใจ หนูหิ่นเลยวางแผนสมัครให้ทั้งคู่แทน ที่นี่ถ้าคุณมิลค์ชนะประกวด จนโด่งดังเป็นดารา ตัวเองจะได้พลอยฟ้าพลอยฝนไปกับเค้าด้วย
ไม่มีใครรู้ว่า การเข้าประกวดนางแบบครั้งนี้จะนำมาซึ่งเหตุการณ์ตื่นเต้น หวาดเสียว เสี่ยงชีวิต จนเป็นเรื่องราวใหญ่โตอย่างที่ที่คุณมิลค์ คุณส้มโอ รวมทั้งคุณทองเองก็บ่เคยนึกมาก่อน นี่หนูหิ่นนึกถึงยังใจหายอยู่เลยเด้อคะ แต่ถึงยังไงผู้จัดการบ้านอย่างหนูหิ่นก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดปกป้องดูแลเจ้านายน้อยบ่ให้มีแมลงวันสักตัวเข้ามาโฉบไปโฉบมาถูกตัวคุณมิลค์กับคุณส้มโอได้เลยถึงแม้ว่าจะต้องเอาชีวิตของหนูหิ่นไปแลกก็ยอม นอกจากนี้เผลอ ๆ หนูหิ่นอาจจะได้มีโอกาสติดสอยห้อยตามคุณมิลค์ คุณส้มโอไปเดินแบบหรืออาจจะถูกฝรั่งแมวมองทาบทามไปขึ้นแคทวงแคทวอล์คกะเขาด้วยเดะคะ งานนี้มีคนออกแบบเสื้อผ้าที่เรียกว่าดีไซเนอร์จากเมืองนอกชื่อจิวานนี่มาร่วมงานด้วย ยังไงก็ฝากบอกพี่ป้าน้าอาทั้งหลายมาช่วยให้กำลังใจหนูหิ่นด้วยเด้อคะเด้อ (รับชมได้ถึงเดือนกันยายน 2025)
เสือร้องไห้
"เรื่องจริงของชีวิตคนอีสาน ทำได้ทุกอย่าง" "หนึ่งปี ไม่มีบท ของจริง เรียลลิตี้ฟิล์มเรื่องแรกของไทย"
ภาพยนตร์ที่ นำเสนอในรูปแบบสารคดี-ชีวิต เรียลลิตี้ ฟิล์ม เล่าถึงชีวิตคนอีสาน 5 คน ที่มีความแตกต่างทั้งด้านวิถีชีวิตและจุดมุ่งหมายโดยสิ้นเชิง ทุกคนต้องเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯด้วยความจำเป็น ได้แก่ "พรศักดิ์ ส่องแสง" นักร้องหมอลำชื่อดังคนแรกของเมืองไทยที่เล่นคอนเสิร์ตมาแล้วทั่วโลก จุดมุ่งหมายคือเรื่องที่เรียบง่ายสำหรับเขา คนต่อมาคือ "เหลือเฟือ มกจ๊ก" นักแสดงตลกแรงงานอีสานที่อยู่ในกรุงเทพฯ คือกระจกสะท้อนตัวเองก่อนใช้นามสกุล มกจ๊ก คนที่สามคือ "แมน หัวปลา" อดีตพนักงานโบกรถที่ใส่ชุดเป็นสัตว์น้ำเชิญชวนลูกค้าหน้าร้านอาหาร ป.กุ้งเผา กับอาชีพใหม่ที่อยากมุ่งไปนั่นคือ ตลกคาเฟ่ คนที่สี่คือ "เนตร อินทรีเหล็ก" สตั๊นท์แมนที่ใช้ชีวิตอยู่บนความเสี่ยงทุกวินาทีเพื่อเป็นหนทางนำไปสู่ จา พนม 2 คนสุดท้ายคือ "พี่อ้อย สิงห์นักขับ" แท็กซี่อารมณ์ดีที่เพื่อนร่วมทางมักแปลกหน้าอยู่เสมอเส้นทางกลับบ้านคือถนนที่ไกลที่สุด (รับชมได้ถึงเดือนกันยายน 2025)
โอเค เบตง
ทุกชีวิตในโลกล้วนต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง คนหลายคนกลัว และไม่กล้าที่เผชิญ หรือยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น แต่ในขณะที่ใครบางคนเคยบอกไว้ว่า ความน่ากลัวไม่ได้อยู่ที่การที่คนเราต้องเปลี่ยนแปลง แต่วิธีการเตรียมพร้อม และการควบคุมสติ ที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นต่างหาก ที่เราควรจะกลัว...
สำหรับพระที่ผ่านการบวชเรียน และใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตอยู่ในโลกแห่งธรรมะอย่าง พระธรรม (ว่าน - ภูวฤทธิ์ พุ่มพวง) ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ได้เรียนรู้การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่เกิดขึ้นในชีวิตเพียงครั้งเดียวคือ การสูญเสียพ่อแม่ เมื่อมีอายุได้เพียง 5 ขวบ เมื่อพ่อแม่เสียชีวิต ทำให้จันทร์พี่สาวเพียงคนเดียวของพระธรรม ตัดสินใจนำมาฝากไว้กับหลวงพ่อในวัดป่าแห่งหนึ่ง ใช้ชีวิตเติบโตมาเพียงลำพังในโลกที่ไม่เพียงแตกต่าง แต่ยังหากไกลจากการดำเนินชีวิตของผู้คนส่วนใหญ่ ส่วนพี่สาวตัดสินใจออกเดินทางสู่โลกกว้าง สู้ชีวิตเพื่อหาเลี้ยงสามเณรธรรม แทบกล่าวได้ว่า ความเปลี่ยนแปลง เป็นสิ่งที่สร้างความคุ้นเคย ให้กับพระธรรมน้อยที่สุด
แต่โดยไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต กำลังจะเกิดขึ้นกับพระธรรมในวัยเฉียด 30 พรรษา เมื่อได้รับแจ้งข่าวว่า พี่จันทร์ซึ่งเป็นพี่สาวเพียงคนเดียว เสียชีวิตในระหว่างการเดินทางมาทอดผ้าป่า ยังวัดที่พระธรรมปฏิบัติธรรมอยู่พร้อมกับ มารีอา (แซร่าห์ - สรัญญ่า เครื่องสาย) ลูกสาววัย 7 ขวบ และน้องๆ นักร้องคาแฟ่ที่นับถือกัน แต่เคราะห์ร้ายที่รถไฟขบวนดังกล่าว ถูกผู้ก่อการร้ายลอบวางระเบิดที่ปัตตานีเสียก่อน พระธรรมรีบเดินทางมาให้ทันร่วมงานศพของพี่จันทร์ ที่อำเภอเบตง จ.ยะลาโดยด่วน
โดยพระทางธรรมที่ผ่านการบวชเรียนมาตลอดชีวิต ต้องออกเดินทางนับพันกิโลเมตร จากวัดป่าในภาคอีสาน โดยรถบัส ต่อรถไฟ ขึ้นรถยนต์ สู่ดินแดนที่อยู่ใต้สุดของประเทศอย่างเบตงเป็นครั้งแรก สิ่งที่พระธรรมรู้สึกได้ จากการย่างก้าวออกมาจากโลกแห่งธรรมะ สู่โลกแห่งโลกียะ เผชิญหน้ากับโลกแห่งความเป็นจริงเป็นครั้งแรกนั้น คือความแตกต่างที่เห็นได้ชัด จากโลกตรงหน้ากับโลกที่ตนจากมา ทั้งๆ ที่เป็นโลกใบเดียวกัน ดูเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว ช่างหมุนและเดินหน้าเร็วกว่าโลกเก่าที่คุ้นเคยนัก ดูทีท่าว่านอกจากจะไม่เคยหยุดนิ่งแล้ว ยังมีสีสันแปลกตา และเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายอย่างเหลือเกิน
การเดินทางมาราธอนแบบนันสต็อป โดยไม่หยุดพักนับสิบๆ ชั่วโมง ทำให้พระธรรมเรียนรู้ความพ่ายแพ้เป็นครั้งแรก เมื่อร่างกายไม่สามารถปรับตัว และเอาชนะกับอุปสรรคในการเดินทางครั้งนี้ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม พระธรรมก็สามารถเดินทางมาถึงพิธีศพพี่จันทร์ ที่วัดได้อย่างทันท่วงที ถึงแม้จะเต็มไปด้วยความทุลักทุเล
ที่เบตง พระธรรมได้พบกับผู้คน ที่เกี่ยวพันในชีวิตของพี่จันทร์มากมาย ล้วนแตกต่างทั้งในวัยวุฒิ และคุณวุฒิอันหลากหลายของกันและกัน ซึ่งสะท้อนถึงอุปนิสัยใจคอที่ดี มีมนุษยสัมพันธ์ที่ใครๆ ต่างก็รักและนับถือในตัวพี่จันทร์ ในชีวิตช่วงสุดท้ายของพี่สาวเพียงคนเดียวของพระธรรม คือการทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับการเลี้ยงดูมารีอา และกิจการร้านเสริมสวยทำผมแต่งหน้า ซึ่งมีลูกค้าประจำ คือกลุ่มบรรดานักร้องคาเฟ่รุ่นน้องของพี่จันทร์ ที่มาใช้บริการ ก่อนที่จะออกไปประกอบอาชีพ มอบความสุขให้กับผู้คนในแต่ละค่ำคืน จนดูเหมือนว่าร้านเสริมสวยมารีอา ที่พี่จันทร์ตั้งตามชื่อลูกสาว แทบจะกลายเป็นบ้านหลังที่ 2 ของเหล่านักร้องเหล่านี้เต็มที่ ทำให้พระธรรมตัดสินใจลาสึกจากสมณเพศที่คุ้นเคยมาทั้งชีวิต เพื่อออกมาดูแลมารีอา หลานสาวที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวที่ยังเหลืออยู่ เพราะคงไม่ดีนัก ถ้ามารีอาต้องเติบโตขึ้นมา ท่ามกลางสภาพสังคมของกลุ่มผู้หญิงกลางคืน และที่สำคัญที่สุด ธรรมคงไม่สามารถดูแลมารีอาได้เต็มที่ ตราบใดที่ยังคงอยู่ในสถานะของพระ ที่ต้องนุ่งเหลืองห่มเหลืองเป็นแน่แท้
ธรรมยังจำได้ถึงวินาทีแรก ที่พระธรรมเห็นแววตาของหลานสาวตัวน้อย ที่นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล ดูช่างน่าสงสารเป็นยิ่งนัก ที่ต้องสูญเสียคนที่รักไปตั้งแต่อายุยังน้อย หนำซ้ำขาข้างหนึ่ง ยังต้องใส่เฝือกนอนซมอย่างน่าสงสาร ทำให้อดที่จะห่วงไม่ได้ ถึงแม้ว่ามารีอาจะได้รับการดูแล และเป็นที่รักใคร่ของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักร้องคาเฟ่หรือแม้แต่ หลิน (ยุ้ย - จีรนันท์ มะโนแจ่ม) หญิงสาวอีกคนที่คอยช่วยเหลือเลี้ยงดูมารีอามาตลอด หลังจากพี่จันทร์เสียชีวิต หลินเป็นหญิงสาวลูกครึ่งจีน ที่งามทั้งหน้าตาและจิตใจดี หลินเปิดกิจการบริษัททัวร์ตั้งอยู่เยื้องๆ กับร้านเสริมสวยมารีอา ไม่ว่าจะมีงานเยอะแค่ไหน หลินก็จะแบ่งเวลา และปลีกตัวทำหน้าที่คอยขี่มอเตอร์ไซด์ รับส่งมารีอาไปเรียนหนังสืออยู่ทุกวัน หรือแม้แต่ พี่วงศ์ (พิภูษณ วิจิตรวงศ์เจริญ) ชายหนุ่มวัยกลางคนเจ้าของคาเฟ่ จิตใจดีมีนิสัยคอยให้ความช่วยเหลือ ในทุกๆ เรื่องแก่พี่จันทร์ มารีอา รวมทั้งยังคอยช่วยเป็นธุระให้กับธรรม ตั้งแต่ติดต่อเรื่องการสึก การย้ายสถานะทางโลกจากพระ มาเป็นนาย (บุคลลธรรมดา) ทำบัตรประชาชน รวมทั้งติดต่อทนาย ทำเรื่องการขอเลี้ยงดูมารีอาอย่างเป็นทางการจาก กาเซ็ม พ่อของมารีอา ชาวมุสลิมที่เดินเรืออยู่ที่มาเลเซีย และไม่เคยดูแลมารีอาเลย หลังจากเลิกกันกับจันทร์ นอกจากนี้ยังมี เฟิร์น (สรวงสุดา ศรีธัญรัตน์) นักร้องสาวดาวเด่นประจำคาเฟ่ ที่รู้สึกผูกผันกับธรรมเป็นพิเศษ และเป็นคนที่ทำให้ธรรมรู้ว่า ต้องแต่งตัวอย่างไรถึงจะจ๊าบ
ความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ที่ประดังเข้ามา ทำให้ทิดธรรมต้องเรียนรู้ และปรับตัวในโลกใหม่ใบเดิมที่บูดๆ เบี้ยวๆ การเผชิญหน้าภาวะแวดล้อมที่ล้วนเต็มไปด้วยเพศหญิง ความผูกพัน ความรัก ความสูญเสีย โดยเฉพาะอารมณ์และความรู้สึก ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมด้วยเหตุและผล ล้วนเป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้ทั้สิ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจ จากความใกล้ชิดและผูกพันที่เกิดขึ้น ทำให้ธรรมอดไม่ได้ ที่จะเกิดความรู้สึกบางอย่างกับหลินขึ้นโดยไม่รู้ตัว ในขณะเดียวกันกับที่พระธรรมกำลังจะสูญเสียมารีอา หลานสาวเพียงคนเดียว เมื่อกาเซ็มพ่อแท้ๆ ของมารีอา เรียกร้องที่จะขอเป็นผู้ดูแลเลี้ยงดูมารีอาด้วยตัวเอง โดยจะนำไปอยู่ที่มาเลเซียกับตน แต่ดูเหมือนว่า บททดสอบในการใช้ชีวิตทางโลกของธรรม จะยังยุ่งเหยิงไม่พอ เมื่อเขาต้องเผชิญกับความเป็นจริงที่ว่า หลินเองพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิต ให้กับคนที่หลินรักยอมแลก และเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต เพื่อสิ่งที่รักว่า ความรัก
ขณะเดียวกันได้เกิดการปรากฎตัวของ ฟารุก (หนุ่ม - อรรถพร ธีมากร) หัวหน้าขบวนการใต้ดิน ที่ทางการเชื่อว่าเป็นตัวการ ได้เกี่ยวพันกับการลอบวางระเบิดบนรถไฟที่ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้พี่จันทร์เสียชีวิต ขณะเดียวกันกับที่เฟิร์น สาวคาเฟ่ที่หลงใหลในตัวธรรม กำลังจะทำให้ธรรมได้เรียนรู้สิ่งที่เรียกว่า "ความต้องการทางเพศ" เป็นอย่างไร โดยมีสิ่งเดียวที่จะอยู่ติดตัวกับธรรมมาทั้งชีวิต จะช่วยให้ผ่านวิกฤตการณ์สำคัญในชีวิตได้ คือการยึดครองสติให้มั่น
เพียงทว่าในความเป็นจริง ไม่มีใครตอบได้ว่า ณ บัดนี้โลกใหม่ใบเดิม ที่เต็มไปด้วยความสับสนพุ่งพล่าน ได้แทรกซึมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่ง ในชีวิตของทิดธรรมมากน้อยเพียงไร แล้วโลกเก่าที่จากมา จะยังคงหลงเหลืออยู่ในจิตใจของธรรมมากน้อยเพียงไร และสติที่เหลืออยู่นั้น เพียงพอที่จะสามารถรับมือ กับความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในชีวิตของเขาหรือไม่... (รับชมได้ถึงเดือนกันยายน 2025)
คู่กรรม (2531)
"อังศุมาลิน" ใช้ชีวิตชาวสวนอย่างอบอุ่นอยู่กับแม่และยาย เพราะชาติตระกูลของ หลวงชลาสินธุราช ผู้บิดารังเกียจความเป็นสาวชาวสวนของแม่ และขอร้องให้ทั้งสองแยกทางกัน "วนัส" เป็นเพื่อนชายที่สนิทของอังศุมาลิน สอบชิงทุนไปเรียนต่ออังกฤษได้ ก่อนวันเดินทางวนัสมารำลาอังศุมาลิน และขอเธอแต่งงาน บอกว่าอีกห้าปีเขาจะกลับมายืนตรงนี้เพื่อฟังคำตอบจากอังศุมาลิน
เมื่อเกิดสงครามเอเชียมหาบูรพาขึ้น อังศุมาลินจำเป็นต้องแต่งงานกับ "โกโบริ" หลานชายนายทหารญี่ปุ่น เนื่องจากหลวงชลาสินธุราช พ่อของเธออยู่ในข่ายสงสัยของญี่ปุ่นว่าจะเป็นพวกเสรีไทย คอยช่วยเหลือฝ่ายตรงข้าม จึงใช้วิธีทางการเมือง บังคับให้คนทั้งสองแต่งงานกัน เพื่อกระชับสัมพันธไมตรีของทั้งสองชาติ (รับชมได้ถึงเดือนสิงหาคม 2025)
ขุนแผน
เรื่องราวโศกนาฎกรรมความรัก ก่อกำเนิดจากนักรบผู้อหังการนาม ขุนแผน ผู้เป็นทั้งนักรบ นักรัก และจอมขมังเวทย์ เดิมขุนแผนนั้นมีนามว่า พลายแก้ว (รับบทโดย ด.ช.ณภัทร เสี้ยนสลาย) เป็นบุตรชายคนเดียวของ ขุนไกรพลพ่าย (รับบทโดย ณัฐ เกษานนท์) ทหารเอกหน่วยหน้า ประจำกองทะลวงฟัน ผู้มากด้วยคาถาและฝีมือรบ ชีวิตนี้มอบให้เป็นข้าแผ่นดิน ต่อองค์กษัตริย์นาม พระพันวสา (รับบทโดย ธีรยุทธ ปรัชญาบำรุง)
จนอาเพศก่อเกิดชะตากรรมของชายผู้นี้ในวัยเยาว์ เมื่อพระพันวสากริ้ว ประกาศลงอาญาให้ตัดหัวขุนไกร เนื่องจากฝูงควายป่าที่ขุนไกรต้อน เกิดเตลิดเข้าหาพระพันวสา... พลายแก้วกับขุนช้าง (รับบทโดย ด.ช.วัฒนา รอดเลี้ยง) และนางพิมพิลาไลย (รับบทโดย ด.ญ.ชนกานต์ พิพัฒน์วุฒิธร) กลับเล่นพิเรน ผิดวิสัยเด็กเมื่อไอ้ช้าง เล่นเป็นผัวพิมพิลาไลย แต่พิมกลับนัดแนะ ให้เจ้าพลายแก้วมาชิงตัว เหตุนี้ไอ้ช้างและพลายแก้ววิวาทกันโกลาหล แต่นางพิมกลับถูกลงหวายเฆี่ยนตี ด้วยว่าเป็นหญิง กลับมาเล่นเรื่องน่าอับอาย
เด็กน้อยพลายแก้ว แอบตามพ่อไปดูเขาต้อนควาย กลับต้องเห็นภาพผู้เป็นบิดา ถูกลงทัณฑ์ให้บั่นหัว ข้างนางทองประศรี (รับบทโดย ศศิพิณ ศาสตร์สมบูรณ์) เมียขุนไกรรู้ความ ก็พาลูกระเห็จหนีตาย ไปหาญาติที่เมืองกาญจนบุรี ให้เจ้าพลายแก้วบวชเรียนเป็นเณรเสียกับท่านสมภารบุญ วัดสัมใหญ่
เติบใหญ่ท่านสมภารบุญหมดภูมิจะสอนพลายแก้ว (รับบทโดย เอกพงษ์ ตันติพงษ์) ก็ส่งตัวมาเรียนกับขรัวมี (รับบทโดย พนม ศิริสุวรรณ) ที่วัดป่าเลไลย เมืองสุพรรณ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของขุนแผน และรักแรกก็ถือกำเนิดขึ้น เมื่อเณรแก้ว (รับบทโดย วัชระ ตังคะประเสริฐ) ได้พบหน้า นางพิมพิลาไลย (รับบทโดย บงกช คงมาลัย) อีกครั้ง ไม่นานเจ้าพลายแก้วก็ละผ้าเหลือง ได้เสียเป็นเมียผัวกับแม่พิม พลายแก้วชิงให้แม่สื่อมาขอ โดยอ้างว่าสองคนนั้นได้เสียกันแล้ว คืนวันส่งตัว พลายแก้วก็ได้เมียใหม่ชื่อ สายทอง (รับบทโดย พิมพรรณ ชลายนคุปต์) ผู้เป็นพี่เลี้ยงนางพิม โดยไม่รู้ว่านางพิมนั้นแอบเห็น
ขุนช้าง (รับบทโดย อภิชัย นิปัทธหัตถพงศ์) โกรธแค้นนัก ประจวบกับคราวนั้น มีเหตุเมืองเชียงใหม่กลับคิดก่อกบฎ ขุนช้างได้ทีหวังแย่งนางพิมกลับคืน จึงทูลพระพันวสา ให้พลายแก้วทำศึกในครั้งนี้ พลายแก้วจากไป ทิ้งไว้กับบาดแผลในใจนางพิม กับภาพที่เห็นผัวตัวนั้นสังวาสกับสายทอง ระหว่างพลายแก้วไปออกรบ นางพิมอันเป็นที่รัก จึงถูกขุนช้างพรากจาก เพราะใช้เล่ห์เหลี่ยม หลังจากถูกขุนช้างข่มเหง เมื่อพลายแก้วกลับมาจากรบที่เชียงทอง ได้ประทานนามเป็น ขุนแผน พร้อมพา ลาวทอง (รับบทโดย จิรภัทร์ วงศ์ไพศาลลักษณ์) ลูกสาวเจ้าเมืองจอมทองกลับมาด้วย ขุนแผนทราบเรื่องว่า นางพิมตกเป็นเมียขุนช้างก็โกรธแค้น ตราหน้าว่าเป็นวันทองสองผัว ก็คิดเกลียดชังเป็นการใหญ่ ทิ้งให้นางวันทองยิ่งตรอมใจจะผูกคอตาย แต่ขุนช้างช่วยมาได้ ในคืนนั้นขุนช้างเมา จึงใช้กำลังขืนใจนาง ขุนแผนคิดจะชิงวันทองคืนแต่ไม่สำเร็จ พระพันวสาทราบเรื่อง จึงสั่งให้เรียกทั้งคู่เข้าเฝ้า ให้รับราชการในวัง ให้ทั้งคู่ปรองดองกัน ขุนแผนคิดถึงนางลาวทองจนทนไม่ไหว หนีเวรกลับไปหา ขุนช้างจึงเข้าเท็จทูลว่า ขุนแผนคิดกบฎ จึงโดนเนรเทศ พร้อมยึดทรัพย์สินและนางลาวทองเข้าวัง
ขุนแผนเข้าป่า ตัดสินใจเปิดตำราของขุนไกร เข้าปลุกผีพรายในป่าช้า ตามหาดาบฟ้าฟื้น ม้าสีหมอก และกุมารทองเพื่อใช้เสริมบารมี ในระหว่างตามหาของวิเศษทั้งสามสิ่ง ขุนแผนได้พบรักกับนางบัวคลี่ (รับบทโดย พิลาสลักษณ์ เขียวโต) ในป่า กลับถูกหมื่นหาญ (รับบทโดย ภรัณ ปักษานนท์) หัวหน้าโจรซึ่งเป็นพ่อบัวคลี่หักหลัง เพื่อจะเอาตำราวิเศษและม้า ขุนแผนรู้ทันจึงหลอกให้บัวคลี่ยกลูกให้ และลงมือทำกุมารทองทันที
ขุนแผนนำของสามสิ่ง บุกคุ้มขุนช้างเพื่อชิงตัวนางวันทอง แค่เข้าห้องผิดไปพบ แก้วกิริยา (รับบทโดย ศุภักษร ไชยมงคล) ขุนแผนจึงให้เงินนางไว้ไถ่ตัว และไปชิงนางวันทองจนสำเร็จ พาหนีเข้าไปอยู่ในป่าจนนางตั้งท้อง ขุนช้างทราบว่าขุนแผนมีของดี จึงใช้เล่ห์ขอพระพันวสาไปจับนางทองประศรี แม่ของขุนแผนเป็นตัวประกัน ขุนแผนจึงจำต้องออกจากป่า เพราะกลัวแม่ลำบาก จนต้องติดคุกอยู่ 17 ปี จนพลายงามโตเป็นหนุ่ม ทั้งรูปงามทั้งเก่งไม่แพ้พ่อ เกิดศึกที่เชียงทองอีกครั้ง พลายงาม (รับบทโดย วุฒินันท์ ไหมกัน) จึงทูลขอออกรบ เนื่องด้วยพลายงามยังอ่อนประสบการณ์ จึงให้จมื่นศรี (รับบทโดย นิมิตร พิพิธกุล) ปล่อยขุนแผนออกมารบช่วยลูก พลายงามกือบพ่ายแพ้ให้แก่เจ้าเมืองเชียงใหม่ (รับบทโดย ทักษิณ บุญพงษา) แต่ขุนแผนมาช่วยไว้ทันจนชนะ เมื่อกลับมาจึงได้ความดีความชอบ พลายงามให้ขุนแผนไปรอที่ไร่ฝ้าย พลายงามไปลักตัวนางพิมจากขุนช้าง และเปิดเผยเรื่องที่ขุนช้าง เคยหลอกตนไปฆ่าที่กลางป่า ขุนช้างเลือดขึ้นหน้า รีบนำความขึ้นทูลพระพันวสา พระองค์จึงรับสั่งให้นำตัวนางพิมมาตัดสิน เพื่อถามว่านางต้องการอยู่กับใคร นางพิมเลือกไม่ได้ พระพันวสาจึงรับสั่งให้ประหาร
ขุนช้างเสียใจมาก ให้คนไปตามขุนแผนและพลายงามมาขอชีวิตแม่พิม ขุนแผนควบม้าสีหมอก มาจนถึงเข้าขวางดาบแรกไว้ทัน ขุนแผนขอให้นางหนีไปด้วยกัน แต่นางพิมไม่ยอม ขุนแผนจึงถามว่าไม่รักตนหรืออย่างไร แม่พิมจึงว่า คำพูดเพียงลมปาก จะว่าอย่างไรก็ได้ พูดไปแล้วขุนแผนจะเชื่อนางหรือ ที่ขุนแผนว่ารักนางจริง ยังไปมีผู้หญิงอื่นอีกมากมาย นางขอเลือกเองเป็นครั้งสุดท้าย และขออโหสิกรรมต่อกัน
พลายงามกลับมาทูลขอชีวิตแม่ กับพระพันวสาได้สำเร็จ แต่ก็ไม่ทันการณ์ ขุนช้างถึงกับเป็นบ้า สุดท้ายขุนแผนได้นางลาวทอง และแก้วกิริยาคืน ได้ครองเมืองกาญจนบุรี แม้ว่าขุนแผนจะมีลาภยศ และอำนาจบารมีมากมาย แต่หาได้มีความสุขไม่ ด้วยขาดคนที่ตนรักอย่างแท้จริง... (รับชมได้ถึงเดือนสิงหาคม 2025)
สามชุก
ท่ามกลางปัญหายาเสพติดที่แพร่ระบาดอย่างหนักไปทั่วทุกท้องที่ของประเทศ รวมถึงชุมชนเล็ก ๆ อย่างอำเภอสามชุก เด็กนักเรียน 7 คน ที่ชีวิตกำลังอยู่ในวัยสดใส สนุกสนาน มีความฝันและความรัก แต่วันนี้พวกเขาต่างต้องเผชิญกับปัญหา โดยแต่ละคนไม่สามารถหาทางออกได้ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ พวกเขากำลังตกนรกทั้งเป็นด้วยการถลำลึกไปกับวังวนของยาเสพติด สังคมรุมประณามเด็กที่กำลังหลงทาง ครูธรรมดาคนหนึ่งกล้าที่จะลุกขึ้นประกาศกับสังคมว่าเด็กทั้ง 7 เป็นเพียงเหยื่อของความเสื่อมในสังคมเท่านั้น ครูผู้นี้ได้ ต่อสู้เคียงข้าง และพยายามเข้าถึงปัญหาของเด็กแต่ละคน ด้วยความเชื่อมั่นว่าจะนำพาเด็กทั้ง 7 คนลุกขึ้นยืนได้ใหม่อีกครั้ง
นี่คือการตีแผ่เรื่องจริงในซอกมุมเล็ก ๆ มุมหนึ่งในสังคมไทย ของครูกับลูกศิษย์อีก 7 คน ที่ปลุกกระแสชุมชนให้ลุกฮือขึ้นมาต่อสู้กับปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง เนื่องจากพิษภัยของมันนั้นมหาศาลนัก นอกจากทำให้ผู้เสพได้รับความทุกข์ทรมานแล้ว ยังเป็นที่มาของการก่ออาชญากรรมขั้นรุนแรงด้วย (รับชมได้ถึงเดือนธันวาคม 2023)
เรื่องรัก น้อยนิด มหาศาล
ความรักยังคงมีมนต์ขลัง และมันเกิดขึ้นกับเราทุกคนความรักในเรื่องนี้ดูเหมือนจะเป็นสะพานเชื่อมต่อของโลกสองโลกของวัฒนธรรมสองวัฒนธรรมให้ก้าวข้ามถึงกันได้
แม้บางครั้ง มันจะเป็นสะพานที่เราก็อยากกระโดดลงมาตายให้เสียรู้แล้วรู้รอดไป เรื่องราวของ เคนจิ (ทาดาโนบุ อาซาโน) พนักงานห้องสมุดชาวญี่ปุ่น ที่ลึกลับ โดดเดี่ยว เปลี่ยวเหงา เจ้าระเบียบ ที่หมกมุ่นอยู่กับการฆ่าตัวตายในยามว่าง ณ ที่ใดสักแห่งในกรุงเทพมหานครแห่งนี้และเขาอาจปลิดชีพตัวเองได้สำเร็จ ถ้าหากว่า นิด (ไลลา บุญยศักดิ์) สาวไทยในชุดนักเรียนญี่ปุ่น ที่ เคนจิ แอบมองผ่านทางช่องว่างระหว่างชั้นหนังสือในที่ทำงานของเขา ไม่มาด่วนตายตัดหน้าเขาไปเสียก่อน
การตายของ นิด นำพาให้ เคนจิ มาพบกับ น้อย (สินิทรา บุญยศักดิ์) พี่สาวปากจัดของเธอ และโดยไม่รู้ตัว เสน่ห์แปลกๆ ของ น้อย นี่เอง ที่ดึงดูดให้ เคนจิ ชายหนุ่มที่โดดเดี่ยวเดียวดาย ร่ำๆจะฆ่าตัวตายอยู่ทุกวินาทีนั้น กลับมาเห็นความหมายของการมีชีวิตอยู่ในโลกเบี้ยวๆ นี้อีกครั้ง
เรื่องรัก น้อยนิด มหาศาล เป็นเรื่องราวความรักที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นของสองคน ที่หลงทางชีวิตกันอยู่ในโลกใบนี้ คนสองคนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งเชื้อชาติ วัฒนธรรม และนิสัยส่วนตัว เป็นเรื่องราวประหลาด น่าขำ น่ารัก และบางครั้งก็น่ากลัว ของความรักและความตาย ของพี่สาวกับน้องสาว ของพี่ชายและน้องชาย และของซูชิกับส้มตำ
เป็นเรื่องราวที่แสดงให้เห็นอานุภาพของความรัก ว่ามันสามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในโลกนี้ได้ มันเป็นเรื่องแปลกประหลาดอยู่เอาการ ที่ชะตากรรมได้นำให้คนสองคนมาพบกันในตอนที่โลกเกือบแตกสลายแล้วนี้ เหมือนชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ที่กอบไว้บนมือ แต่ดันร่วงหล่นลงมาได้ง่ายดายเหมือนปรอทสีเทาเงาวับ (รับชมได้ถึงเดือนสิงหาคม 2025)
อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป
ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจาก ประสบการณ์หลายยุคในหลายโรงเรียน ซึ่งรำลึกถึงวันเก่าๆ สมัยเมื่อครั้งยังอยู่ในโรงเรียนและไม่มีวันย้อนกลับไปในวันเก่านั้นได้อีก ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องราวของครูและนักเรียน ที่ได้สร้างสัมพันธ์กันไว้ ทั้งความรัก ความเป็นเพื่อน ความสนุกสนานของเด็กวัยเรียน (รับชมได้ถึงเดือนสิงหาคม 2025)
-------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa