“กุ้ง สุธิราช” ยังรอปาฏิหาริย์ หลังน้องสาวป่วยนานเกือบปี
“กุ้ง สุธิราช” ยังรอปาฏิหาริย์ หลังน้องสาวป่วยนานเกือบปี
ออกมาอัปเดตอาการน้องสาวสุดที่รัก สำหรับพระเอกลิเกชื่อดัง “กุ้ง สุธิราช” หลังน้องสาว วิ วิรดา ป่วยหนักนานเกือบ 1 ปี ล่าสุดเจ้าตัวได้มาร่วมงานแถลงข่าวกิจกรรมโหมโรงลิเกการกุศล ตามโครงการ “หนึ่งใจ…ช่วยเหลือผู้ประสบภัย” ณ CENTRALWORLD LIVE HALL ชั้น 8 ก็ได้เผยถึงอาการล่าสุดว่า
ก็ยังเหมือนเดิมครับ ยังคงไม่รู้สึกตัว ยังนอนอยู่โรงพยาบาลครับ ปลายปีนี้ก็จะครบ 1 ปีเต็ม ก็เฝ้ารอปาฏิหาริย์ ยังรออยู่ ก็ยังมีความหวังเล็กๆ ถึงแม้ว่ามันจะยังไม่มีการสื่อสารอะไรออกมา ให้เราได้เห็นชัดเจนว่าดีขึ้น ก็ยังทรงๆ
ถามว่าทุกคนก็ยังสู้นะ ยังรอคอยความหวังอยู่แหละ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็อยู่กับความเป็นจริง ในส่วนตัวของผมเอง ก็อยู่กับความเป็นจริง ก็ต้องยอมรับให้ได้ในทุกแบบ แต่ก็พยายามให้กำลังใจคนในครอบครัว ให้กำลังใจญาติพี่น้อง คุณแม่นี่ก็คือคนสำคัญที่ต้องให้กำลังใจมากๆ
ในระยะเวลาเกือบ 1 ปี น้องยังเหมือนเดิมทุกอย่างร่างกาย หน้าตา ยังเหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร เพียงแต่ว่าสมองยังไม่ทำงาน ไม่ซูบผอมลง ค่อนข้างปกติมากๆ เหมือนนอนหลับ คือตอนนี้คุณหมอก็ไม่ได้ให้ความหวังอะไรมากครับ ก็คือรักษาไปตามอาการ พยายามไม่ให้ติดเชื้อ ไม่ให้มีอะไรที่มันหนักกว่านี้ ซึ่งก็อยู่แบบทรงๆ แต่ในเรื่องของสมองก็ยังคงนิ่งอยู่ ทางการแพทย์ก็คงไม่ได้ให้ความหวังอะไรขนาดนั้นครับ ก็ยังสู้ครับ ยังไหว้พระขอพรกันอยู่ หวังว่าปาฏิหาริย์มันจะเกิดขึ้นเล็กๆ น้อยๆ
ครอบครัวตั้งใจจะรักษาไปตลอดยังคงดูแลรักษาน้องแบบเต็มที่ เดี๋ยวดูว่าหลังจากนี้ ใกล้ครบประกันแล้ว อาจจะต้องย้ายอีก แต่ยังหาข้อสรุปกันอยู่ ประกันจะหมดสิ้นปีนี้ประกันยังถึงอยู่ แต่ปีหน้าน่าจะต้องเริ่มใหม่ เพราะน่าจะครบแล้ว เรื่องค่ารักษาพยาบาล ก็ต้องสู้กันแหละ ยังไงเราก็อยากให้ดูแลน้องให้ดีที่สุด ถามว่าหมดประกันแล้วจะทำยังไงต่อไป ที่คุยกับทางประกัน เขาก็ต่อให้แหละครับ แต่ว่าต้องเว้นระยะประมาณ 90 วัน ในช่วง 90 นี้ เราก็ต้องดูแลกันเอง น่าจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายเยอะมาก ก็เตรียมไว้เท่ามีครับ สู้กันเต็มที่ ส่วนใหญ่น่าจะเป็นเรื่องจิตใจมากกว่าที่สำคัญ เพราะมันเกิดขึ้นรวดเร็วมาก จากเมื่อปีที่แล้ว จนมานี่จะชนปีแล้ว ก็ยังไม่เห็นถึงพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก็ยังทรงๆ อยู่ ได้แต่ภาวนา ได้แต่ให้กำลังใจกันกับคนที่ไปเฝ้า ถามว่าถอดใจไหมเหรอ มันไม่ได้ถอดใจครับ อย่างน้อยเราได้เห็นน้องเราอยู่ทุกวัน ผมก็เอาตามความเป็นจริง ถ้าอะไรมันไม่ดีขึ้น มันก็ต้องเป็นไปตามนั้น ถ้ามันดีขึ้น เราก็จะได้เห็นกัน เพียงแต่ว่าเราดูแลเขาให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง ถามว่าจะดูแลจนกว่าเขาจะไปด้วยตนเองใช่ไหม ก็คิดอยู่ว่าเราจะต้องดูแลกันไป ที่ผ่านมาค่ารักษาพยาบาลหมดไปตอนนี้ก็น่าจะ 10 กว่าล้านขึ้นแล้ว แต่ประกันเขาจะอยู่ที่ 15 แล้วหลังจากนั้นก็ต้องมาดูแลกันเองก่อน ก็ต้องเตรียมกันแหละ
ส่วนคุณแม่เขาก็เต็มที่ที่สุดแล้วครับคุณแม่ เราพยายามบอกเขาว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ถามว่าเรารักไหมห่วงไหม เราก็รักน้องที่สุด แม่ก็แน่นอนอยู่แล้ว ก็ทำให้เต็มที่ที่สุด แม่มีเวลาก็ต้องไปเฝ้า แต่ก็ไม่ได้ให้อยู่ตลอดเวลาทุกวันนะ บางทีผมไปงาน ก็พาคุณแม่ไปด้วย เพื่อที่จะให้เขาได้ออกมาข้างนอก ได้มีรีแลกซ์บ้าง