First Impressions: ความรู้สึกแรกที่มีต่อซีรีส์เกาหลีเรื่องใหม่ "Flower of Evil"
รีวิวซีรีส์ Flower of Evil
มันจะเป็นไปได้หรือ...? ฆาตกรต่อเนื่องจะกลายเป็นสามีของตำรวจสายสืบหญิง นี่คือพื้นฐานของเรื่องราวในซีรีส์เรื่องนี้ ที่จะเต็มไปด้วยความลับและความจริง รวมทั้งปมประเด็นซับซ้อนต่างๆ ที่กลายเป็นบ่อกำเนิดความแค้นและการห้ำหั่นครั้งสำคัญ โดยเฉพาะการหักหลังคนที่ไว้ใจและคนที่หลงรักจนหมดหัวใจมาตลอดหลายสิบปี "Flower of Evil" ทางช่อง tvN เป็นซีรีส์ลึกลับระทึกขวัญที่มาพร้อมกับโครงเรื่องหลักที่น่าสนใจเลยทีเดียว
➡ อ่านเรื่องย่อซีรีส์เกาหลี Flower of Evil
เริ่มต้นมาใน 2 ตอน ก็ถือว่าค่อยๆ ไต่ระดับความตึงเครียดในแนวทางการสืบสวนสอบสวนคดี พร้อมกับการคลำหาปมในอดีตของตัวละครที่จะเชื่อมโยงกับเหตุฆาตกรรมต่อเนื่องที่ยังจับคนร้ายไม่ได้ การปูเรื่องในช่วงแรกๆ ยังไม่ค่อยหนักแน่นมากนัก แต่ก็แนะนำตัวละครหลักออกมาได้ค่อนข้างชัดเจนดี โดยรวมยังมีอีกหลายๆ คำถามที่ต้องติดตามดูต่อไปเรื่อยๆ แม้ว่าจะยังบอกไม่ได้เต็มปากว่าเป็นซีรีส์ที่มีเนื้อหาสนุก เพราะคนดูก็คิดวิเคราะห์ไปกับเนื้อเรื่องที่เผยออกมาแบบไม่กะพริบตา
ภาพรวมของซีรีส์
ถือว่ามีโครงเรื่องที่ค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว ฆาตกรต่อเนื่องต้องหลบหลีกการจับกุมมาหลายสิบปี โดยมาพบรักกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบหญิง ใครจะไปนึกว่าคนร้ายกับตำรวจจะกลายเป็นคู่รักที่ไม่มีใครเกิดความเอะใจขึ้นเลยสักนิด เพียงแค่นี้ก็ทำให้ซีรีส์ดูน่าสนใจพอตัว ความลับและความจริงที่รอวันการเปิดเผย ภายในสถานะครอบครัวที่สร้างกันมาหลายปี เป็นสิ่งที่คนดูอยากจะเห็น ขณะที่ปมในอดีตของตัวละครก็ค่อยๆ แย้มออกมาทีละนิด แม้ว่าใน 2 ตอนแรกก็ยังอธิบายถึงคาแรกเตอร์ต่างๆ ได้ยังไม่มาก แต่ตัวละครหลักก็มีความชัดเจนในอุปนิสัยของแต่ละคนดี
แคสติ้งนักแสดง
อีจุนกี กับ มุนแชวอน ทั้งคู่เคยเล่นซีรีส์ด้วยกันมาแล้วใน Criminal Minds ฉบับเกาหลี เมื่อปี 2017 กลับมาเจอกันอีกในครั้งนี้ก็ยังตึงเครียดอยู่เช่นเดิม แม้จะต้องมาเล่นเป็นบทคู่รักกัน แต่แน่นอนว่าปลายทางจะต้องห้ำหั่นและบาดหมางกันอย่างยิ่งใหญ่แน่นอน แต่ใน 2 ตอนแรกของซีรีส์ยังคงไม่ได้เห็นอะไรมากมายนัก นักแสดงนำทั้งคู่ก็ถือว่าทำหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี แต่ขณะที่นักแสดงสมทบอื่นๆ กลับยังไม่ได้ให้ความน่าสนใจอะไรมากเท่าไหร่นัก แต่บทสมทบของ จางฮีจิน และ ซอฮยอนอู ก็มองดูแล้วน่าจะมีอะไรที่น่าสนใจขึ้นในลำดับเรื่องต่อไปแน่นอน
เนื้อหาและบทละคร
แอบเสียดายนิดหน่อยที่ซีรีส์เลือกใช้การเล่าเรื่องในลักษณะสถานการณ์ (Scenario) ที่มักจะสร้างเหตุการณ์ในแต่ละตอนออกมาแตกต่างกัน แต่จะเป็นการสืบค้นและไขปริศนาที่ลงในแต่ละตอน โดยจะใช้แนวทางการสอบสวนนั้นเชื่อมโยงกับโครงเรื่องหลักของซีรีส์ เมื่อเรื่องออกมาในแนวนี้ทำให้รู้สึกบั่นทอนโครงเรื่องหลักออกไปพอสมควร จบอีกเคสมาต่ออีกเคส ตัวละครใหม่ๆ ก็จะโผล่มาทุกตอนด้วย ในเมื่อใช้หลักการนี้กับการขับเคลื่อนเนื้อเรื่อง ย่อมเกิดความเสี่ยงด้านเนื้อหาตามมา
องค์ประกอบการแสดง
ด้วยความที่เป็นมืออาชีพของนักแสดงนำทั้ง 2 คน คงจะต้องปรบมือให้กับ อีจุนกี รับบทบาทเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ปกปิดตัวตนมานานเป็นสิบปี แม้จะผ่านไปนานก็ใช้ว่าเขาจะเป็นคนดี การแสดงของเขาถือว่าทำให้คนดูรู้สึกหวาดกลัว ทั้งอินเนอร์ที่ส่งออกมาทางอารมณ์ และสีหน้าท่าทางที่เผยให้เห็นบุคลิกที่หลากหลายของเขา เบื้องหน้ามีรอยยิ้มเป็นคุณพ่อที่แสนดี แต่เบื้องหลังคือฆาตกรสุดเหี้ยม ฉากที่ต้องเปิดคลิปดูวิธีแสดงออกสีหน้าในลักษณะต่างๆ ออกมาคือน่ากลัวดี ในขณะที่ มุนแชวอน ยังไม่ค่อยได้โชว์ของมากใน 2 ตอนแรก แต่เธอก็ขับคาแรกเตอร์ได้ชัดเจน เป็นตำรวจที่เชื่อมั่นต่อพยานหลักฐานจากที่เห็นเป็นหลัก และทักษะนี้จะกลายเป็นโทษในชีวิตของเธอต่อไป
โดยสรุปแล้ว Flower of Evil เป็นซีรีส์ที่ยังคงมีปมต่างๆ แอบซ่อนเอาไว้ รอคอยวันเปิดเผยออกมาทีละเล็กน้อย พร้อมกับยังมีการสอดแทรกการแสดงออกเชิงจิตวิทยาของตัวละครต่างๆ เข้าไปอย่างแนบเนียนด้วย โดยเฉพาะตัวละครอย่าง เบคฮีซอง ที่เป็นฆาตกรในคราบคุณพ่อแสนดี ทำให้เราได้เห็นการแสดงออกต่างๆ ออกมาทางการแสดงที่ออกมาทั้งท่าทางและอารมณ์ในหลายๆ ฉาก แต่ซีรีส์เหลือใช้การเล่าเรื่องที่อาจจะทำให้เสียอรรสรถโครงเรื่องหลักไปอย่างน่าเสียดาย โดยใน 2 ตอนแรกของซีรีส์ถือว่ายังแค่พอดูได้ โครงเรื่องหลักน่าสนใจ แต่ถูกแทรกอารมณ์ด้วยสถานการณ์แทรกต่างๆ ที่ทำให้รู้สึกไม่เชื่อมต่อถึงกัน
Photo by tvNDrama
----------------------------------------------------