สวัสดีค่ะ วันนี้เราได้มีโอกาสรู้จักกับภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่ไม่ว่าใครต่อใครที่ได้สัมผัสถึงกับต้องหลั่งน้ำตากันเป็นแถวๆ คงจะเป็นเรื่องอะไรไปไม่ได้นอกจาก “หลานม่า” ต้องยกให้เป็นภาพยนตร์ไทยน่าดูของปี 2567 เลยก็ว่าได้ค่ะ ดราม่าสุดเข้มข้นหวนให้คิดถึงบุคคลในครอบครัวเรื่องย่อ “หลานม่า”“หลานม่า” บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของ เอ็ม (บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล) ที่ตัดสินใจดร๊อปเรียนชีวิตมหาวิทยาลัยตอนปี 4 เพื่อออกมาหาเงินด้วยการเป็นนักแคสต์เกมส์ แต่แล้วเอ็มก็ต้องผิดหวังเพราะทำยังไงก็ไม่ประสบความสำเร็จในด้านนี้ จึงมีความคิดที่อยากจะรวย ด้วยการทำงานสบายๆ จึงไปปรึกษาลูกพี่ลูกน้อง มุ่ย (ตู ต้นตะวัน ตันติเวชกุล) ตอนนี้ดูแลอากงที่กำลังป่วยในระยะสุดท้าย และได้รับมรดกเป็นบ้านราคาหลายล้าน หนทางแห่งความรวยรออยู่ตรงหน้าเอ็มจึงอาสาไปดูแลอาม่าที่ป่วยเป็นมะเร็ง เพื่อหวังจะได้รับมรดกเหมือนกับลูกพี่ลูกน้องของตนเมื่อหลานกับอาม่าที่อายุห่างกันกว่า 50 ปี ต้องมาอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน จึงทำให้บ้านที่ดูเงียบเหงากลับมามีเสียงหัวเราะ ทำให้คนที่เคยหม่นหมองอย่างอาม่าที่เฝ้ารอลูกชายคนโต กู๋เคี้ยง (ดู๋ สัญญา คุณากร) ลูกสาวคนกลาง แม่ของเอ็ม (เจีย สฤญรัตน์ โทมัส) และลูกชายคนเล็กอย่าง กู๋โส่ย (เผือก พงศธร จงวิลาส) ที่จะมาพร้อมหน้ากันเมื่อมีเทศกาล กลับมาสดใสได้อีกครั้ง แนะนำตัวละครเอ็ม รับบทโดย บิวกิ้น “พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล”อาม่า รับบทโดย แต๋ว อุษา เสมคำ มุ่ย รับบทโดย ตู ต้นตะวัน ตันติเวชกุลกู๋เคี้ยง รับบทโดย ดู๋ สัญญา คุณากรแม่ของเอ็ม ซิว รับบทโดย เจีย สฤญรัตน์ โทมัสกู๋โส่ย รับบทโดย เผือก พงศธร จงวิลาสให้คะแนน 100/10พูดตามความจริงเลยนะทุกคนน ปกติเราเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบดูภาพยนต์ไทย นานๆทีจะดูสักเรื่อง อยากบอกว่า “หลานม่า” คือต้องไปดูจริงๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เรานึกถึงประโยคหนึ่งที่ว่า “ธรรมดาแต่พิเศษ” ไม่พอเพียงเท่านั้น “หลานม่า” ยังทำให้เราเรียนรู้ว่า “เวลา” เป็นสิ่งที่มีค่ามาก เพราะเราไม่รู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับคนที่รักของเราบ้าง ดังนั้นเราจึงต้องทำให้เวลาที่มีอยู่ตอนนี้ทำให้คนที่เรารักมีความสุข ก่อนที่วันนั้นจะมาถึง แล้วจะต้องมานั่งเสียใจทีหลังกับการไม่เคยทำอะไรให้เขาเลย https://youtu.be/0fksoEJvdLE?si=xFcRuHJ7TkYc0UrNเครดิตภาพหน้าปก Instagram : ภาพที่ 1เครดิตภาพประกอบ Instagram : ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 ภาพที่ 3 ภาพที่ 4 ภาพที่ 5 ภาพที่ 6เครดิตวิดีโอ YouTube: วิดีโอที่ 1