ชวนอ่านหนังสือ HOW I LIVE MY LIFE . . ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะมีความสุขตามเงื่อนไขของตัวเองเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยหนึ่ง จากความสนุกสนานแบบวัยรุ่น ความรักแบบ Poppy Love ใส ๆ ทั้งหมดนั้นก็ดูเหมือนจะค่อย ๆ จางหายไป เมื่อเราเข้าสู่วัยที่เรียกว่า “ผู้ใหญ่” ช่วงชีวิตที่เหน็ดเหนื่อยกับการทำงาน ค่าใช้จ่าย และการคิดถึงอนาคต ความมั่นคง รวมไปถึงสิ่งหนึ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยก็คือ ความแก่ชราและความเจ็บป่วยของพ่อแม่ ใครจะรู้ว่าชีวิตมนุษย์นั้น แท้จริงแล้วมีสิ่งหนึ่งที่รอเราอยู่และหนีไม่มีทางพ้น นั่นก็คือการเสื่อมถอยของร่างกาย บ้างมาไม่ให้ทันตั้งตัว บ้างมาตั้งแต่กำเนิด หนังสือเล่มนี้ ‘HOW I LIVE MY LIFE’ เขียนโดย ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ต้องตื่นขึ้นมาจากฝันหวาน เมื่อพบว่าแม่เธอป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองแตก และเป็นอัมพาต ไม่สามารถเป็นเสาหลักให้กับครอบครัวได้อีกต่อไป เด็กหญิงวัย 16 ปี ที่กำลังเริงร่ากับวัยเยาว์ ต้องถูกปลุกเข้าสู่ชีวิตจริง ที่เธอรู้ดีว่าชีวิตของเธอนั้นจะต้องเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาลคุณพาย-ภาริอร เจ้าของหนังสือเล่มนี้ได้เล่าถึงช่วงเวลาที่เธอต้องลุกขึ้นมาดูแลแม่ที่ป่วยจากอาการเส้นเลือดในสมองแตก แม่ต้องนอนติดเตียง และมีเพียงเธอเท่านั้นที่คอยดูแลแม่ ครอบครัวของคุณพายมีกันแค่ 2 คน คือคุณพายและแม่ ทั้งคู่สนิทสนมกันมาก คุณแม่เลี้ยงดูคุณพายอย่างดี จัดหาอาหาร ไปรับไปส่งที่โรงเรียน ไม่เคยมีอะไรบกพร่อง แต่เมื่อวันหนึ่งทุกสิ่งที่เคยมีกลับปิดมืดลงด้วยอาการป่วยของแม่ เด็กสาววัย 16 ต้องรับผิดชอบสิ่งต่าง ๆ มากมาย ทั้งการตัดสินใจอะไรในบ้าน หรือแม้แต่การเรียน การทำงาน เธอเองก็ต้องต่อสู้ด้วยตนเอง แต่นั่นก็ทำให้คุณพาย เติบโตและแข็งแกร่งขึ้นมาอย่างรวดเร็วHOW I LIVE MY LIFE เป็นหนังสือที่เล่าเรื่องราวชีวิตจริง ที่มนุษย์ทั้งหลายต้องเผชิญ แต่ในโมงยามนั้น ไม่มีใครู้หรอกว่า มันเหนื่อย และท้อมากเพียงใด คุณพายไม่ได้ไปเที่ยวกับเพื่อน ไม่ได้ออกเดตกับแฟน เพราะเธอมีสิ่งสำคัญที่สุดที่ตั้งอยู่ในใจนั่นก็คือ ความสุขของแม่ เธอไม่อยากทิ้งแม่ไว้ลำพัง แม้ว่าจะมีคุณวิน แฟนของคุณพายที่คอยให้กำลังใจ ดูแล และมาเฝ้าแม่ให้บ้างในบางครั้ง แต่เธอก็ไม่คิดจะให้ใครต้องมาดูแลแม่นอกจากเธอ ลูกสาวคนเดียวคนดีของแม่เท่านั้นเรื่องราวของคุณแม่กับคุณพาย แน่นอนว่าก็มีช่วงเวลาที่ไม่น่ารัก ช่วงที่หัวร้อนใส่กัน ช่วงนี้หน้าบูดใส่กัน แต่ในท้ายที่สุดทั้งคู่ต่างรู้ดีว่า ต่างคนต่างสู้เพื่อกันและกันมาตลอด คุณพายสอบติดที่จุฬา นาทีนั้นทั้งคุณแม่ และคุณพายต่างหัวใจพองโตด้วยความดีใจ คุณพายเข้าเรียนคณะนิเทศศาสตร์ ที่รู้ดีว่าต้องพบกับกิจกรรมมากมาย แต่คุณพายก็พยายามอย่างหนักที่จะทำให้ดีทั้งการดูแลแม่ และการเรียน ชีวิตคุณพายเรียบง่าย คนอื่นมองแล้วอาจจะรู้สึกว่าธรรมดา เหนื่อย แต่สำหรับคุณพาย การที่เธอได้รับผิดชอบ 1 ชีวิตที่แสนสำคัญ มันทำให้ความหมายในชีวิตของเธอนั้นถูกเติมเต็ม เธอมีรอยยิ้ม และมีความสุขได้ แม้เธอจะไม่ได้เป็นมหาเศรษฐี มีรถหรูขับ หรือได้ไปเที่ยวต่างประเทศทุกเดือนก็ตาม เพราะจริง ๆ แล้วทุกคนมีสิทธิ์ที่จะมีความสุขตามเงื่อนไขของตัวเอง สิ่งที่ชื่นชอบ: เราชอบเรื่องราวชีวิตธรรมดา ๆ ของผู้คน ยิ่งสำหรับชีวิตที่ต้องพบเจอกับอุปสรรคปัญหาตั้งแต่อายุน้อย ๆ ทำให้เรารู้สึกมีพลังและมีแรงมหาศาลที่จะลุกมาต่อสู้กับเรื่องเล็ก ๆ ของตัวเอง บ่อยครั้งเรามองว่าปัญหาตัวเองคือเรื่องใหญ่ที่สุด เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย เพราะเราไม่เคยหันมองปัญหาของคนอื่นว่าเขาเองก็หนักหนาสาหัสไม่แพ้กัน ดังนั้นเราว่าหนังสือเล่มนี้เป็นยาใจชั้นดีให้กับทุกคนที่รู้สึกเบื่อชีวิต และรู้สึกว่าชีวิตนี้ช่างไร้ค่า เราประทับใขทุกตอนที่คุณพายเล่าถึงแม่ แม่ของคุณพายเป็นคนมองโลกในแง่บวก เราชอบความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับคุณพาย มันคือความเรียลที่เราแตะต้องถึงและประทับใจ เราอ่านแล้วก็คิดถึงแม่ของเราเช่นกันค่ะ หนังสือเล่มนี้เหมาะกับลูกทุกคน พวกเราต่างมีหน้าที่รออยู่คือการดูแลพ่อแม่ ทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เพียงว่าในเวลานั้นเราจะประคับประคองสติ จิตใจ และความเข้มแข็งที่จะผ่านพ้นความยากลำบากทั้งกายและใจอย่างไร เราจึงอยากแนะนำหนังสือเล่มนี้ให้เป็นหนังสือประจำบ้าน เพราะวันไหนที่คุณเหนื่อยมาก ๆ ก็เพียงหยิบเรื่องของคุณพายมาอ่าน เพื่อที่จะรู้ว่าไม่ใช่เพียงคุณเท่านั้นที่ประสบพบเจอกับความเหนื่อยในหน้าที่การงาน หรือการดูแลพ่อแม่ในช่วงเวลาที่สำคัญเมื่อพวกท่านแก่ลง เราเชื่อว่าคุณจะยิ้ม หัวเราะ และอุ่นใจทุกครั้งที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้หนังสือ HOW I LIVE MY LIFEเขียนโดย ภาริอร วัชรศิริราคา 175 บาทภาพประกอบที่ 1 ขอบคุณ Unsplashภาพประกอบที่ 2-3 ถ่ายโดยเจ้าของบทความ