บทละครโทรทัศน์ บ่วงอธิฏฐาน ตอนที่ 17 หน้า 4
คุกหลวง คีรินเอ่ยถึงบุษกร “อีกไม่นานนางก็ให้กำเนิดรัชทายาทองค์ต่อไปของจันทรปุระ แลนางก็จะได้เป็นพระอัครชายาอยู่แล้ว ไยนางต้องคิดกำจัดพระอัครชายาด้วย”
“ก็นั่นนะสิ เว้นไว้แต่นางรู้ว่าพระอัครชายากำลังตั้งครรภ์เหมือนกัน” คีรินอ้าปากค้าง “เอ๊ะ..หรือว่านางรู้..ข้าว่านางรู้เรื่องนี้เป็นแน่”
“เจ้าว่าอะไรนะ พระอัครชายาตั้งครรภ์”
“ใช่ มีไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ พระอัครชายาต้องการเก็บไว้เป็นความลับ เพราะต้องการปกป้องเจ้านั่นแหละ องค์อริยะกำลังโกรธจนไม่ยอมฟังอะไร ถ้ารู้ขึ้นมาอีกว่าพระอัครชายาตั้งครรภ์ ไม่พ้นพาลมาถึงเจ้าแน่”
“อุษา เรื่องนี้สำคัญมาก เจ้ารีบกลับไปดูแลพระอัครชายาให้ดี อย่าให้คลาดสายตา ข้าว่านางรู้เรื่องนี้ นางต้องคิดกำจัดองค์รัชทายาทในครรภ์เป็นแน่”
อริยะไม่เข้าใจที่ทำไมเกศอาภาต้องปิดบัง “นางมีเหตุผลไรจึงมิยอมบอกความจริงแก่ข้า”
“ความจริงสำหรับคนที่กำลังเป็นไฟเผาไหม้ตัวเอง มันก็ไม่ต่างจากความเท็จ” อริยะแทบเข่าอ่อน “เกศอาภาต้องการปกป้องลูกของนาง ปกป้องคีริน รวมไปถึงปกป้องท่านด้วย ไม่เช่นนั้นความโกรธในใจท่านจะทำลายทุกสิ่ง แม้แต่ลูกของท่านเอง”
“นี่ข้าทำอะไรลงไป” อริยะเริ่มรู้สึกผิด
“ความรักที่ทำให้คนกลายเป็นคนโง่ ท่านจะเรียกมันว่าความรักได้รึไม่ ในหัวใจท่านยังเหลือความทรงจำที่ดีกับความรักที่เคยมีต่อลูกสาวข้ารึไม่ ถามใจท่านดูเอาเองเถิด”
อริยะทรุดลงกองกับพื้น ทิฐิมานะถูกทำลายไปสิ้น เหมือนตัวตนที่แท้กลับคืนมาอีกครั้ง
เรือนเกศอาภา อุษารีบกลับเข้าบนเรือน มองหาเกศอาภา นางบริวารลำเลียงสำรับอาหารเข้ามา อุษาเอ่ยถามบริวาร “พระอัครชายาเล่ากลับมานานรึยัง”
“สักพักแล้ว”
“สำรับมีอะไรบ้าง” อุษาเปิดสำรับในโตก มองอย่างพอใจ “แทบจะไม่แตะต้องข้าวสักคำมาหลายวันแล้ว ถ้าวันนี้พระอัครชายากินดีเจริญอาหารก็นับเป็นความดีความชอบของพวกเจ้า” อุษาโบกมือให้พวกบริวารประคองสำรับตามออกไป
ทหารดูแลคุกหลวงเดินมาตรวจดูแลความเรียบร้อย ส่องคบเข้ามาดูในคุกที่ขังคีรินแล้วตกใจ ภายในห้องขังไม่มีใครเลย ทหารรีบเปิดประตูคุกเข้ามา คีรินกระโจนลงมาจากที่ซ่อนเหนือประตู แล้วโจมตีทหาร คีรินเสยเข้าปลายคางหมัดเดียวทหารก็สลบเหมือด คีรินรีบออกจากคุก ขังทหารเอาไว้แทน
ในปราสาทเทวะที่มีแสงสว่างวอมแวมแค่จากน้ำมันที่จุดบูชาเท่านั้น อริยะนั่งจมอยู่กับความคิดตัวเอง ย้อนเหตุการณ์ความรักระหว่างอริยะ-เกศอาภาในสถานการณ์ต่างๆ อริยะเหมือนได้รับคำตอบ หลังจากอยู่กับตัวเองแลใคร่ครวญทุกสิ่งอย่าง อริยะรีบออกไปทันที
สำรับอาหารเรียงราย แต่เกศอาภาเอาแต่นั่งมองไม่ยอมแตะต้อง
“กินเสียบ้างเถิด ไม่กินแล้วจะเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนกัน” อุษาเอ่ยอย่างเป็นห่วง
“ข้ากินไม่ลงจริงๆ อุษา” เกศอาภาเสียงเศร้า
“ไม่คิดถึงน้ำใจนังพวกนี้ที่มันอุตส่าห์ทำมาให้กิน ก็นึกถึงอีกคนนึงที่เขาอาจจะกำลังหิวบ้างเถิด”
เกศอาภารู้ดีว่าอุษาหมายถึงลูกในท้อง จิตใจห่อเหี่ยวลง อุษาขยับสำรับอาหารเข้ามาใกล้เกศอาภา