บทละครโทรทัศน์ รากนครา ตอน 7 หน้า 5
“ไม่ตายเสียก่อนเราคงได้พบกันอีกนะฟองจันทร์” ฟองจันทร์ฝืนยิ้มกลั้นน้ำตาไม่ให้ร่วงแต่ก็ทำไม่ได้
เขียนจันทร์เปรย “วันมงคลเจ้าอย่าพูดเรื่องความเป็นตายอย่างนี้เลยเจ้า”
แม้นเมืองขยับมากอดฟองจันทร์เอาไว้
“ตั้งแต่เกิดมา เจ้าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดที่ข้าเคยมี ขอบใจนะฟองจันทร์ ข้าจะคิดถึงเจ้าเสมอ”
“อย่ามัวโอ้เออยู่เลย รีบกลับไปเถอะฟองจันทร์เจ้ามิ่งหล้าเปิ้นจะคอย”
แม้นเมืองคลายกอดฟองจันทร์
“ข้าไปนะแม่” ฟองจันทร์ก้มกราบแทบเท้าเขียนจันทร์
เขียนจันทร์ลูบหัว “พระคุ้มครองเจ้า...เจ้ามีวาสนาได้ทำงานรับใช้ใกล้ชิดเจ้านาย ขอให้ธุระของเจ้านายสำคัญกว่าธุระของตัวจงอย่าทำตัวใหญ่คับฟ้าด้วยเห็นว่าเจ้านายเมตตา แต่จงทำตัวให้เล็กที่สุดหากเจ้าจะถวายพระเกียรติยศแก่ท่าน”
“ลูกจะจำคำแม่ไว้จนวันตายเจ้า” ฟองจันทร์กราบเท้าเขียนจันทร์อีกครั้ง
ประตูเมือง มิ่งหล้าคลานเข้ามาหมอบก้มกราบแสนอินทะ ฟองจันทร์ บริวารที่ต้องติดตามไปอยู่เมืองมัณฑ์หมอบกราบอยู่ด้านหลังมิ่งหล้า
“ทุกคนมีหน้าที่ที่จะต้องทำเพื่อบ้านเกิดเมืองนอนด้วยกันทั้งนั้น ยิ่งเจ้าเกิดมามีสายเลือดผู้ก่อตั้งเชียงเงิน เจ้ายิ่งต้องตระหนักให้มากทำงานให้หนักกว่าไพร่ฟ้าฝุ่นเมือง พ่อจำเป็นต้องขัดใจเจ้าเพราะเรื่องของบ้านเมืองสำคัญกว่าความรู้สึกส่วนตัวเจ้า เมื่อเจ้าโตขึ้นกว่านี้เจ้าจะเข้าใจหัวอกของพ่อ...ขอพระเสื้อแลดวงวิญญาณบรรพบุรุษปกปักรักษาเจ้าให้เดินทางปลอดภัย ชัยชนะของเชียงเงินอยู่ในมือของเจ้าแล้วส่วนนึง จงภูมิใจในศักดิ์ศรีและใช้สติปัญญาของเจ้าให้มากเพื่อบ้านเกิดเมืองนอนของเจ้าเอง”
มิ่งหล้าที่หมอบกราบรับพรอยู่นั้นใบหน้าว่างเปล่าไม่มีสิ่งใดกระทบจิตวิญญาณเลย เพราะยังจมอยู่กับความคับแค้นใจและชิงชัง
เรืองแม้นเมือง ปิ่นทองคำถูกปักลงมวยผมเป็นสิ่งสุดท้าย
“เสร็จแล้วเจ้า...เจ้าลุกขึ้นอีกทีจะได้ตรวจดูชายซิ่นว่าเรียบร้อยไหม”
แม้นเมืองลุกขึ้นอย่างว่าง่ายแต่ความกังวลเต็มสีหน้า คำแก้วจัดชายซิ่นให้แม้นเมืองแล้วคลานถอยออกไปมอง
“งามแต๊ ๆเจ้าแม้นเมืองของคำแก้วงามนักขนาด”
“นี่กี่โมงแล้วเขียนจันทร์”
“แปดโมงแล้วเจ้า”