บทละครโทรทัศน์ ศรีอโยธยา ตอนที่ 18 หน้า 6
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเอกทัศ : ลูกมีเรื่องอะไรอยากจะปรึกษาพ่อ...สุทัศ
สมเด็จกรมพระราชวังบวรฯ : เมื่อคืน ลูกฝันพะย่ะค่ะ
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเอกทัศ : ทรงสุบินว่ากระไร
สมเด็จกรมพระราชวังบวรฯ : ลูกฝัน ลูกได้เข้าเฝ้า ทูลกระหม่อมทวด พะย่ะค่ะ
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเอกทัศ : เป็นพระสุบินที่มีมงคลยิ่งนัก จริงไหมเจ้าพระยาพิชัย
เจ้าพระยาพิชัย : การได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระเทพบิดร แม้แต่ในความฝัน นับเป็นมหาสิริมงคลยิ่ง พะย่ะค่ะ
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเอกทัศ : ทูลกระหม่อมทวดรับสั่งอะไรกับลูกบ้าง
สมเด็จกรมพระราชวังบวรฯ : รับสั่งหลายประการพะย่ะค่ะ แต่เท่าที่ลูกจะสรุปได้ ก็คือ...ทรงมีพระราชประสงค์ให้ลูก ได้ไปพบเห็นชีวิตการเป็นอยู่ของอาณาประชาราษฎร์ อย่างที่เขาเป็นอยู่กันอย่างแท้จริง โดยมิให้พวกเขาล่วงรู้ว่าลูกเป็นใคร
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเอกทัศ : ทรงหมายถึงทรงปลอมพระองค์เป็นชาวบ้านใช่ไหม
สมเด็จกรมพระราชวังบวรฯ : พะย่ะค่ะ ลูกเลยอยากจะขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตออกไปเห็นชีวิตของราษฎร โดยปลอมตัวเป็นสามัญชน...ไปกับพิมานสักวันหนึ่งพะย่ะค่ะ
เจ้าพระยาพิชัยฯ : มันอันตรายมากพะย่ะค่ะ ข้าพุทธเจ้าคิดว่ามิบังควรที่จะต้องทรงเสี่ยงพระองค์นั้นเลย พะย่ะค่ะ
พระกำนัลนารีสังข์แอบฟังอยู่ที่หน้าพระทวาร
สมเด็จกรมพระราชวังบวรฯ : แต่มันเป็นพระราชประสงค์ขององค์ทูลกระหม่อมทวดนะท่านอาจารย์ องค์ทูลกระหม่อมทวดทรงรับสั่งว่า เมื่อเราจะมอบความสุขให้แก่ใคร เราจะต้องรู้ว่า...ความสุขหรือความทุกข์ของเขาคืออะไร มิใช่คิดไปเองโดยไม่เคยเห็น ไม่เคยรับรู้ในความทุกข์ และความสุขที่แท้จริงของไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินเลย
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเอกทัศ : ถ้ามันเป็นพระราชประสงค์ในองค์สมเด็จพระเทพบิดร ใครเล่าจะกล้าขัดพระบัญชานั้น
สมเด็จกรมพระราชวังบวรฯ : นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าพะย่ะค่ะ
พระพิมานฯ ยืนอยู่ที่บริเวณหน้าพระที่นั่ง เจ้าฟ้ารุจจาเทวีเสด็จเดินข้ามสะพานมา โดยมีข้าหลวงตามเสด็จ พระพิมานฯ รีบทรุดตัวลงถวายบังคม
เจ้าฟ้ารุจจาเทวี : ช่างบังเอิญเสียจริง ฉันไม่คิดเลยว่าจะได้พบพิมานที่นี่
พระพิมานสถานมงคล : สมเด็จกรมพระราชวังบวรฯ เสด็จมาเข้าเฝ้าองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพะย่ะค่ะ องค์ทูลกระหม่อมคงจะเสด็จมาเข้าเฝ้าเช่นกัน ทูลเชิญพะย่ะค่ะ