บทละครโทรทัศน์ คุ้มนางครวญตอน 10 หน้า 2
ด้วยความวุ่นวายทั้งวัน อาหารมื้อเย็นจึงเป็นอาหารแบบรีบกินรีบกลับห้อง ไม่มีใครพูดคุยสังสรรค์สรวลเสเฮฮา ตรีภพ
เห็นพิมพ์ดาวนั่งกินอาหารอยู่เงียบๆ คนเดียว ตรีภพถือจานอาหารมานั่งลงด้วย พิมพ์ดาวเย็นชา
“คุณคิดว่ายังไง เรื่องอาถรรพ์อะไรนี่”
“โน คอมเมนท์ค่ะ”
“แต่ที่คุณจำคุ้มนี้ได้ ว่าเหมือนคุณอยู่ที่นี่มาก่อนล่ะ แล้วคุณรู้ว่ายังมีคุ้มน้อยอยู่ริมปิงด้วย”
“ฉันอาจจะเคยเห็นในสารคดีท่องเที่ยวมาก่อนก็ได้.. ไม่เห็นต้องเป็นเรื่องอาถรรพ์อะไรเลย”
ตรีภพมองกลับไปยังคุ้ม แล้วถอนใจ
“แต่ผมคิดว่าที่นี่ต้องมีอะไรบางอย่าง”
“อะไรของคุณ หมายถึงผีใช่ไหม”
ขณะนั้น บีบีกับเฟื่องฟ้าถือถาดใส่อาหารเดินผ่านมา
“ถือของคุณลินซี่ดีดีนะคะ ลูกขา”
“อ้าว คุณลินซี่ล่ะครับ” ตรีภพถาม
“ลินซี่ไข้ขึ้นค่ะ ลูกขา เลยให้พักอยู่ในห้อง”
“แล้วพรุ่งนี้จะถ่ายละครได้หรือครับ”
“ลินซี่มืออาชีพค่ะ เดี๋ยวให้กินยาหวัดกับยานอนหลับ ตื่นมาก็เฟรชแล้วล่ะค่ะ”
“ยานอนหลับ จะดีหรือคะ” พิมพ์ดาวเป็นห่วง
บีบีมองพิมพ์ดาวอย่างรำคาญชะนี
“อู๊ย ไม่เป็นไรหรอก ฉันให้กินทุกคืน ถ้าไม่กินแล้วชอบคัน เอ๊ย ชอบออกไปเพ่นพ่าน”
ตรีภพกับพิมพ์ดาวคิดว่าหูฝาด พิมพ์ดาวยิ้มมีเลศนัยกับตรีภพ
“งั้นเมื่อคืนก็ไม่ได้กินยาซีคะ เพราะฉันเห็นคุณลินซี่ออกมาคัน เอ๊ย เพ่นพ่านอยู่”
“หา! ไม่จริงแล้วย่ะ หล่อนตาฝาดแล้ว ฉันวางยากับมือ หลับรวดเดียวไปตื่นเจ็ดโมงเลย”
เฟื่องฟ้าคิดแล้วตาเหลือก “หรือว่าคุณพิมพ์ดาวเห็นผีคะ”
“ยังไงคุณ คุณเห็นแน่หรือ”
พิมพ์ดาวตาเขียว “ถ้าเป็นผี ก็คงเป็นผีผ้าห่มแหละจ้ะ”
“แล้วทำไมคุณต้องมาทำหน้ามีเลศนัยกับผม”
พิมพ์ดาวเชิดใส่ ตรีภพสงสัย
ระเบียงดูเวิ้งว้างว่างเปล่า พิมพ์ดาวเดินมากับตรีภพ
“แค่ทุ่มกว่าเอง ทุกคนก็เข้าห้องกันหมดแล้ว”
“เพิ่งเกิดเรื่องสดๆร้อนๆ คงยังหวาดๆกันอยู่”
พิมพ์ดาวเอามือแตะสร้อยเขี้ยวเสือไฟ ตรีภพมองดูแล้วยิ้ม
“ถ้าคุณกลัว เดี๋ยวผมเดินไปส่งที่ห้องก็ได้”
“ใครบอกว่าฉันกลัว”
“ก็ผมบอกอยู่นี่ไง”
พิมพ์ดาวค้อน ตรีภพรื่นรมย์ใจนิดหน่อย ทั้งคู่มาถึงห้องมาลาริน
“ไม่ต้องไปส่งฉันหรอก คุณเข้าไปเยี่ยมไข้ลินซี่เหอะ”
“ไม่เอาล่ะครับ เข้าไปในห้องส่วนตัวเขา น่าเกลียด”
พิมพ์ดาวโกรธวูบขึ้น
“นี่! ไม่ต้องมาสร้างภาพกับฉัน ฉันรู้ว่าเมื่อคืนคุณปล้ำกับยายลินซี่”
ตรีภพอ้าปากค้าง “หา ใครบอก”
“ก็ฉันบอกอยู่นี่ไง”
“งั้นเราต้องพูดกันให้รู้เรื่องแล้ว”
ตรีภพคว้าข้อมือพิมพ์ดาว ลากหัวซุนกลับไปยังห้องพักตรีภพ ผลักประตูเข้าไป เหมือนฟ้าแกล้ง แพท มีมี่ มูมู่
เดินมาเห็นเข้าพอดี แพททำท่าเคลิ้ม
“ว้าย คว้าข้อมือ ลากเข้าห้อง”
“นางเอกตบ” มีมี่ มูมู่จิ้นต่อ “พระเอกกระชากมาจูบ ฮิ ฮิ ฮิ”
ตรีภพลากพิมพ์ดาวมากลางห้อง แล้วปล่อยมือ หันมา “นี่คุณ”
พิมพ์ดาวต่อยเข้าปลายคาง ตรีภพเซถอยหลัง ล้มหงายลงบนเตียง พิมพ์ดาวสะใจ
“นี่แน่ะ สม!”
ตรีภพแน่นิ่ง พิมพ์ดาวชะโงกดู “นี่คุณ คุณ”
ตรีภพยังคงแน่นิ่ง พิมพ์ดาวเริ่มใจไม่ดี ก้าวมาใกล้ ทันใดตรีภพก็ตวัดขาขวาง พิมพ์ดาวสะดุด ล้มลง
บนเตียงทับตรีภพ ตรีภพพลิกขึ้นบน เอาตัวทาบทับไว้
“ปล่อยฉันนะ”
“หยุดร้องแล้วฟังผม นี่คุณ ผมขอสาบานว่าผมไม่ได้มีอะไรกับคุณลินซี่ คุณลินซี่ไม่เคยย่างเท้าเข้ามาในห้องนี้ พอใจไหม”
พิมพ์ดาวทำตาปริบๆ ยอมเชื่อ
ตรีภพและพิมพ์ดาวอยู่ที่ระเบียงห้องตรีภพ มองเข้ามาที่ประตูกระจกที่มีม่านบัง
“ฉันก็สาบานได้เหมือนกันว่าฉันเห็นจริงๆ”
“มีม่านปิดอยู่ คุณจะมาเห็นได้ยังไง”
”ฉันก็เห็นพวกคุณเล่นหนังตะลุงกันอยู่น่ะซี”
ตรีภพคิดถึงยอดหล้าเมื่อคืนก็ยิ่งพิศวง พิมพ์ดาวมองแปลกใจกับท่าทีตรีภพที่มีแต่ความงุนงง สับสน และพูดไม่ออก
“แล้วทำไมคุณถึงคิดว่าเป็นคุณลินซี่”
พอถึงตอนนี้ พิมพ์ดาวก็เริ่มไม่แน่ใจ
“ก็เงานั่นตัวเท่าคุณลินซี่ แล้วก็แต่งตัวแบบคุณลินซี่”
“ชุดมาลารินน่ะหรือ”
พิมพ์ดาวยิ่งรู้สึกว่าไม่เมคเซนส์ แต่ก็ยังต้องเถียงไป
“ไม่ใช่ชุดเจ้านางแบบที่ฟิตติ้งกันนะ เกล้าผม ปักดอกไม้ไหว.. ฉันก็เลยคิดว่าเขาแต่งมาให้คุณติชมถึงบนเตียง”
ตรีภพหน้าเผือดลง สั่นหน้า
“ทำไมหรือ”
ตรีภพนั่งลงบนเตียง มีอาการชั่งใจว่าจะเล่าดีไหม พิมพ์ดาวยืนอยู่กลางห้อง
“ที่คุณเห็น.. ไม่ใช่คุณลินซี่ แต่เป็นคนอื่น”
พิมพ์ดาวอึ้ง ความหวงแหนมาจากไหนก็ไม่รู้ “อ้อ ยอมรับออกมาแล้ว”
พิมพ์ดาวเม้มปาก คิดปราดไป ‘หรือว่าพวกยายเฟื่องฟ้า ระริน เอ๊ะ หรือน้าสายใจ’
“อ้อ ไม่ต้องบอกฉันหรอกนะว่าใคร”
“แต่คุณน่าจะช่วยผมคิดว่าคืออะไรมากกว่า”
ตรีภพเริ่มเล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์เมื่อคืน พิมพ์ดาวฟังแล้วเข่าอ่อน นั่งลงบนเตียงแทน
“เจ้ายอดหล้าอย่างงั้นหรือ”
“ผมคิดว่าเป็นความฝันเพ้อเจ้อ แต่ถ้าเมื่อคืนคุณเห็นเงาคนแต่งชุดเจ้านาง.. ก็แปลว่ามันมีอะไร
มากกว่านั้น”
”คุณแก้วบอกว่า ตำนานคุ้มนางครวญเป็นเรื่องจริง”
“ก็แปลว่าเจ้ายอดหล้าเคยมีตัวตนจริง แต่เธอก็ต้องตายไปแล้วเกือบ 200 ปี”
ตรีภพมองหน้าพิมพ์ดาว พิมพ์ดาวหน้าซีด แต่ต้องทำตัวเป็นคนรุ่นใหม่ ไม่เชื่อผี ยักไหล่
“แต่วิญญาณของเธอยังอยู่ รอคอยหลวงเทพของเธอไง”
“แต่ผมไม่ใช่อีตาหลวงเทพนั่นนี่ ถ้ามีผีเจ้ายอดหล้าจริง ก็ไม่น่าจะต้องมายุ่งกับผม”
“เธออาจอยากมาติวบทให้คุณก็ได้มั้ง”
พิมพ์ดาวทำท่าไม่แยแส ลุกขึ้น “หรือไม่ก็ คุณหิ้วใครมานอน กลัวฉันจะเอาไปกระจายข่าว ก็เลยมาแต่งเรื่อง
ผีหลอกฉัน ฉันไปล่ะ”
“เชิญ”
ตรีภพเดินไปเปิดประตูให้ พิมพ์ดาวค้อนออกไป
“นี่ ผมไม่ไปส่งนะ เดินดีๆล่ะ เอ.. ทำไมคืนนี้ทางเดินมืดจัง”
พิมพ์ดาวตาเขียว ตรีภพยักคิ้ว ปิดประตูลง พิมพ์ดาวมองดูทางเดินที่ดูมืดมัวสลัวราง
“เมื่อคืนนี้.. คือผีเหรอ อีย์”
พิมพ์ดาวเอามือกุมเขี้ยวเสือไฟ รีบเดินจ้ำอ้าวไป