บทละครโทรทัศน์ ข้ามสีทันดร ตอนที่ 9 หน้า 4
“แล้วคนพวกนั้นพี่เดือนคิดว่าเค้าดีกับดวลเพราะหวังดีเหรอ พี่ธารเค้าก็แค่หลงก้างแค่นั้น”
“พอได้แล้วดวล .....พอเถอะลูก”
“พี่เดือนเองก็เถอะ .... ที่พี่เดือนพยายามให้ดวลเลิกยา เพราะห่วงตัวเองมากกว่า”
“ดวล! ....พูดอะไรอย่างนั้นล่ะลูก”
เดือนสิบนิ่งอึ้งในสิ่งที่ดวลพูด
“เพราะบ้านพี่ธารเค้ารังเกียจดวลใช่มั้ย .... ที่พี่เดือนทำทุกอย่างก็เพื่อจะได้แต่งงานกับพี่ธาร ไม่ได้ทำเพื่อดวล”
สกาวทนไม่ไหวตวาดดวลขึ้นมา “พูดพอหรือยัง!”
ดวลตกใจเพราะปรกติแม่มักจะใจเย็น และเมื่อได้สติก็พบว่าตัวเองพูดกับพี่เดือนแรงไปจริงๆ เดือนสิบมึนงงและเจ็บเหมือนโดนชก มันจุก ... จุกที่ใจ หมดแรงที่จะพูดกับดวลอีกต่อไป เดือนสิบรีบเปิดประตูห้องออกไป ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา
“เดือน!...เดือน!” สกาวหันกลับมามองดวล ก่อนจะรีบตามเดือนสิบออกไป ดวลเสียใจที่พูดไม่ดีออกไป ดวลล้มตัวลงนอนด้วยความเสียใจ
บ้านสวาทวิมล ริมสระน้ำ ทูลเดินถือถ้วยชาเข้าไปหาเที่ยงวัน เที่ยงวันคิดว่าตนเองต้องโดนตำหนิแน่ๆที่ไปตวาดใส่แม่ แต่ทูลกลับนั่งลงข้างเที่ยงวันโดยที่ไม่พูดอะไรเลย เที่ยงวันเหลือบตามองพ่อที่ยังคงนั่งทอดสายตาไกลออกไป สีหน้าปราศจากความเครียดขึงแต่อย่างใด หากคงยังมีรอยยิ้มจางๆบนใบหน้าในแบบที่ทูลเป็น เป็นอย่างนั้นอยู่ครู่ใหญ่ๆ เที่ยงวันรู้สึกอึดอัดเหลือเกินจนต้องพูดออกมา
“พ่ออยากตำหนิผมใช่มั้ยครับ” ทูลไม่ได้หันมามอง แต่ส่ายหน้าช้าๆ
“พ่ออยากให้ผมไปขอโทษแม่ .....ใช่มั้ยครับ” ทูลหันมามองเที่ยงวันแล้วยิ้ม
“นั่นเป็นเรื่องที่เที่ยงควรจะคิดและตัดสินใจเอง ไม่ใช่ให้พ่อมาบอก แต่ถึงลูกจะทำหรือไม่ทำ แม่เค้าก็ไม่เคยไม่ให้อภัยลูกนะ” ทูลยักไหล่ราวกับเรื่องขอโทษเป็นเรื่องเล็กไร้สาระเหลือเกิน
เที่ยงวันนิ่งเงียบไปได้อีกพักใหญ่ก็อดรนทนไม่ได้ “พ่ออยากรู้ ... ว่าผมเป็นอะไร?...”
ทูลส่ายหน้า แล้วก็หันไปจิบชาที่ถือติดมือมา เที่ยงวันทั้งอึดอัดและเริ่มหงุดหงิด
“งั้นพ่อต้องการอะไร .... บอกผมสิพ่อ”
ทูลนิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยออกมาช้าๆ
“พ่อก็แค่ .... อยากให้เที่ยงรู้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เที่ยงยังมีพ่ออยู่ข้างๆเสมอนะลูก”
แล้วทูลก็นั่งจิบชาต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เที่ยงวันไม่ใช่ คำพูดของทูล มันกระแทกใจเขาจนหงายกระเด็น