บทละครโทรทัศน์ กลกิโมโน ตอนที่ 5 หน้า 3
ในห้องจัดเลี้ยง ‘ยูกิ’ เกอิชาสาวสวยในชุดกิโมโนสีหวาน สีที่บ่งบอกถึงคนที่กำลังมีความรัก แต่งหน้าขาวโพลน ทาปากแดง ครึ่งปาก กำลังร่ายรำอยู่ด้านหนึ่งของห้อง ยูกิสวยงดงามราวกับเป็นเกอิชาขึ้นชื่อ
มาโกโตะและเพื่อนนักธุรกิจอีกสองคนนั่งอยู่บนเสื่อทาทามิ อาหารวางอยู่บนตั่งเตี้ย ทุกคนชมการแสดงไปด้วยอย่างเพลิดเพลิน ขณะร่ายรำยูกิก็หันมาสบตากับมาโกโตะอย่างมีความสุข มาโกโตะยิ้มรับนิดๆ และมองยูกิกลับด้วยสายตาเป็น ประกายตามประสาคนคุ้นเคยกัน...อย่างมาก
ยูกิโชว์การชงชาเขียว ด้วยการตักน้ำร้อนในหม้อใส่ถ้วยที่มีผงชาเขียวอยู่ข้างใน แล้วใช้ที่คนตีแรงให้เกิดฟอง เมื่อได้ที่ก็ยกถ้วยชาขึ้น วางกับผ้าบนมือกันร้อนแล้วหมุนสามครั้ง วางไว้ด้านหน้าของมาโกโตะ ทุกกิริยายูกิต้องทำอย่างนิ่งสงบ เพราะสำหรับคนญี่ปุ่นการชงชาถือเป็นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์
มาโกโตะโค้งหัวให้ยูกิ แล้วจับถ้วยชาด้วยมือขวานำมาวางบนมือซ้ายแล้วจิบ
เพื่อนของมาโกโตะกล่าวชมยูกิ “คุณเป็นเกอิชาที่ชงชาได้รสชาติดีที่สุดเท่าที่พบเคยเจอมา”
“ชาหนึ่งจิบที่เปี่ยมด้วยความยินดีที่จะต้อนรับแขก จะซึมซับเข้าสู่จิตใจของผู้ดื่ม ทำให้เกิดจิตแห่งความขอบคุณ
และยังช่วยเสริมให้เกิดการสนทนาค่ะ”
“มิน่าตอนนี้เราถึงอยากจะสนทนากับคุณยูกิ มากกว่าสนทนาเรื่องธุรกิจ”
“เอาไว้วันหลังเราว่างๆ เราค่อยนัดกันมาสนทนากับคุณยูกิโดยเฉพาะเลยดีกว่า คุณยูกิให้เกียรติบริการพวกเรา
ได้มั้ยครับ” เพื่อนอีกคนรีบเสริม
“ดิชั้นต้องขอโทษด้วย ดิชั้นตั้งใจจะทำงานวันนี้วันสุดท้ายค่ะ”
มาโกโตะที่ยกถ้วยชาดื่มอยู่ชะงักกึก ทุกคนแปลกใจ “ทำไมล่ะครับ”
“ดิชั้นจะออกไปดูแลคนรักค่ะ เขาทำงานหนักแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อน ดิชั้นอยากดูแลปรนนิบัติเขาให้มากที่สุดค่ะ”
“บอกได้มั้ยครับว่าคนรักของคุณยูกิเป็นใคร” เพื่อนของมาโกโตะอยากรู้
ยูกิปรายตามองมาโกโตะ “เป็นนักธุรกิจเหมือนพวกคุณนี่ล่ะค่ะ” มาโกโตะอึดอัด
“แต่เขาน่าอิจฉากว่าพวกผมหลายเท่า เอาเป็นว่าพวกเราต้องขอแสดงความยินดีกับคุณ ยูกิและคนรักด้วยนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ” ดวงตาของยูกิเปี่ยมไปด้วยความสุข ยูกิปรายตามองมาโกโตะ แต่มาโกโตะกลับไม่มองยูกิเลย ซ้ำยังมีสีหน้าตึงเครียด
ในห้องแต่งตัวเกอิชา ยูกินั่งเช็ดหน้าอยู่หน้ากระจก จู่ๆ ก็ถูกคว้าข้อมือกระชากลุกจากเก้าอี้อย่างแรง ยูกิร้องตกใจ
“คุณมาโกโตะ?”
“เธอไปบอกเพื่อนของชั้นทำไม ว่าเราเป็นอะไรกัน”
“ชั้นไม่ได้บอกนี่คะ”
“แต่เธอพยายามที่จะบอก เราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าเราจะอยู่กันยังไง”