บทละครโทรทัศน์ บาปบรรพกาล ตอนที่ 9 หน้า 4
น้อยหันมาเห็นก็ตกใจรีบตะโกนเรียก “อ้าวคุณรส..เร็วสิคะ” รสสุคนธ์ได้สติพอหันไปที่บ้านสวนร้างอีกทีตาดำก็หายไปแล้ว “ไปเร็วค่ะ” น้อยรีบวิ่งมาดึงมือรสสุคนธ์ให้เดินผ่านบ้านสวนร้างไปอย่างเร็ว
ที่มุมหน้าต่างตาดำโผล่หน้าออกมามองตามหลังรสสุคนธ์กับน้อยแล้วฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์
วัดใกล้ๆ บ้านพรหมบดินทร์ มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ในโบสถ์ พระพักตร์ดูอ่อนโยน งดงาม รสสุคนธ์กับน้อยก้มลง
กราบพระพุทธรูปอย่างสวยงาม รสสุคนธ์ถวายสังฆทานพระ แล้วค่อยๆ กรวดน้ำลงไปในภาชนะช้าๆ ใบหน้ารสสุคนธ์ดูสงบนิ่ง ตาดำเข้ามาแอบมองรสสุคนธ์อยู่ห่างๆ
“ขอผลบุญนี้จงสำเร็จแก่คุณย่าแม้นมาศ ขอให้ย่าเล็กจงมีแต่ความสุข อย่าได้มีความทุกข์ใดๆ อีกเลย” รสสุคนธ์เอาน้ำที่กรวดไปเทที่โคนต้นไม้
รสสุคนธ์เทน้ำเสร็จ น้อยก็เข้ามาอาสาเอาแก้วน้ำไปเก็บ “น้อยเอาไปเก็บให้ค่ะ”
รสสุคนธ์ถอนหายใจหน้าเครียด “ย่าเล็กจะดีขึ้นมั้ยนะ”
“อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทุกอย่างไม่เที่ยง ปล่อยวางซะเถอะนังหนู” รสสุคนธ์ชะงักกับเสียง หันไปเห็นตาดำก็มองตาดำอย่างสงสัย ตาดำรีบหันหลังกลับ ก้มหน้าดึงหมวกมาบังหน้าแล้วทำทีกวาดลานวัดต่อ
“พูดง่ายนะคะ แต่ทำยากจังค่ะ” รสสุคนธ์ว่า
“งั้นกลุ้มใจเรื่องอะไรล่ะ ปรึกษาข้าได้นะ”
“คุณตาเชื่อเรื่องวิญญาณมั้ยคะ”
“บางสิ่งที่เราไม่เห็น ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีจริง ถามแบบนี้เคยเจอผีแล้วเหรอ”
“ค่ะ...คุณตารู้มั้ยคะ ทำไมวิญญาณคนตายถึงยังวนเวียนอยู่ที่ที่ตายไม่ยอมไปผุดไปเกิดซะที”
“ก็เพราะตอนตายวิญญาณมีจิตนิวรณ์ผูกติดกับบางอย่างอยู่ หากยังตัดบ่วงที่ผูกติดนั้นไม่ขาด...วิญญาณก็จะไป
ผุดไปเกิดไม่ได้”
“แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าบ่วงที่ว่าคืออะไร”
ตาดำไม่ตอบตักเอาใบไม้ที่กวาดเดินออกไปทิ้ง รสสุคนธ์เดินตามไป
ตาดำเดินตรงเข้ามาที่ป่าช้า เห็นรสสุคนธ์ตามมาด้านหลัง รสสุคนธ์เร่งเท้าเดินตามอย่างเร็ว แต่ตาดำก็กลับเคลื่อน
ตัวออกห่างไปไกลขึ้นเรื่อยๆ
รสสุคนธ์แปลกใจ “เดี๋ยวสิคะคุณตา” ตาดำแอบยิ้มแล้วเอาใบไม้ที่กวาดเทกองไว้ จากนั้นก็เดินหลุดออกไปทางโกศเก็บกระดูก รสสุคนธ์ตามมาก็ชะงักเมื่อตาดำหายไปแล้ว รสสุคนธ์มองหาตาดำแต่ก็ไม่เจอ รอบๆ มีแต่โกศเก็บกระดูก “อ้าว..ไปไหนแล้ว”
ใครบางคนมองมาทางหลังรสสุคนธ์ ลมพัดวูบใหญ่เข้ามา รสสุคนธ์หันกลับไปก็ไม่มีใครอยู่ เสียงหมาหอนขึ้น
เกรียว รสสุคนธ์รู้สึกใจคอไม่ดี แต่แล้วตาดำก็โผล่พรวดออกมาประจันหน้ารสสุคนธ์ “ออกไปซะ ที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับคนเป็น”