บทละครโทรทัศน์ นายฮ้อยทมิฬ ตอน 9
บทประพันธ์ โดย คำพูน บุญทวี บทโทรทัศน์ โดย แพรพริมา
บ้านคำแสน คำแสนมอง 2 ลูกน้องที่กลับมารายงานด้วยสีหน้าสนใจ
“พวกมึงแน่ใจ!! บักเคนกับพวกอยู่บ้านเสือโฮก”
“ยิ่งกว่าแน่ใจอีกลูกพี่ บักกะปอมถึงกับเยี่ยวแตกมานำ”
กะปอมคว้าคอเสื้อกาเหว่า “เฮ้ย..ถึงกูสิเยี่ยวแตก ก็ยังดีกว่ามึงที่หนีเอาโตรอดบ่กล้าสู้มัน”
“เซา!!! บ่ต้องมากัดกันคือหมาต่อหน้ากู ฟ้าวไปเตรียมม้า เตรียมคนให้พร้อม กูสิบุกไปจัดการมันให้ตายคามีดอาคมพ่อกู” กะปอมกับคำแสนจะออกไปแต่จันดีขัดจังหวะ
“ข้อยว่า..เจ้าสิไปหาหม่องตายซะหลายกว่าบักคำแสน”
คำแสนชะงัก “คั่นมึงบ่คึดซอยกูก็หุบปากไป บ่ซั่นกะเก็บข้าวของมึงไปตายเอาดาบหน้าโลด บุญคุณมึงกับกูใช้หนี้กันไปเบิ่ดแล้ว”
บุญตาเสริม “แต่อ้ายจันดีเว้าถูกแล้ว สู้กับนายฮ้อยทมิฬจักเถือกอ้ายก็แพ้กลับมาทุกเถือก ถ้าเสียอ้ายไปคือกับที่เสียพ่ออีก ข้อยก็คงบ่เหลือไผ"
กาเหว่าเห็นด้วย “บุญตาเว้ามีเหตุผลเด้อลูกพี่ สิฆ่านายฮ้อยทมิฬได้ ลูกพี่ก็ต้องมีอาคมที่แก่กล้ากว่ามัน”
คำแสนฟังแล้วหยุด นิ่วหน้าคิดอยู่ครู่ ก่อนจะเข้าไปดึงแขนน้องสาวเข้ามาหาตัวอย่างจริงจัง
“เจ้าเว้าถูกแล้วบุญตา..อ้ายต้องมีครูสอนอาคมเอาไว้ฆ่านายฮ้อยทมิฬ และเจ้าก็ต้องซอยอ้าย!!”
คำแสนยิ้มร้ายแล้วดึงแขนน้องสาวออกไป จันดีชะงักอึ้งจะตามไป แต่กะปอมกับกาเหว่าขยับขวางมองกวนๆ
“บ่แม่นเรื่องของเจ้า..อย่าเสือก!!”
บริเวณลานหมู่บ้าน เสียงพิณ เสียงแคนและเครื่องดนตรีพื้นบ้านดังขึ้นด้วยจังหวะเพลงหมอลำสนุกๆ โดยชาวบ้านเสือโฮกและพวกลูกน้องเฒ่าโสมเป็นผู้บรรเลง กลางลานมีวัวถูกล้มแล้วเอามาย่างทั้งตัวเลี้ยงกลุ่มพวกทัพควายของนายฮ้อยเคนอย่างอิ่มหมีพีมัน กุลาเชิญชวน “มาๆๆ..มาโลดพี่น้อง เหล้ายาอาหารทุกอย่าง พ่อใหญ่สั่งมาว่าให้พวกเจ้ากิน ไปให้เต็มที่ บ่ต้องย่านเบิด มีเติมให้ตลอด”
พวกทัพควายพากันมองเหล้ายาอาหารตรงหน้าแล้วถึงกับกลืนน้ำลายเอื๊อก ยกเว้นถึกกับสีโหที่ระแวง
เฒ่าแสงว่า “โอ้ยยยย...แค่เบิ่งอย่างเดียว พยาธิในท้องข้อยก็ดิ้นพราดๆแล้ว”
“นอกจากลาภปากสิมากองตรงหน้าแล้ว อาหารตาก็งามมมมมม...หลาย”