รีเซต

เรื่องย่อ ดั่งดวงหฤทัย ช่อง 3HD (ตอนจบ)

เรื่องย่อ ดั่งดวงหฤทัย ช่อง 3HD (ตอนจบ)
Entertainment Report_1
16 เมษายน 2563 ( 15:25 )
13K

ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น.

เริ่มตอนแรกวันพุธที่ 4 มีนาคม 2563  

ดูทีวีออนไลน์ช่อง 3HD คลิก!

 

ตัวอย่างละคร

เรื่องย่อ ดั่งดวงหฤทัย ช่อง 3HD

 

 

 

ละครฟอร์มยักษ์ที่หลายคนตั้งตารอคอย สำหรับละครแนวรักโรแมนติก นวนิยายชวนฝัน “ดั่งดวงหฤทัย” ที่งานนี้ได้นางเอกแถวหน้า “คิม-คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส” มารับบทเป็น “เจ้าหญิงทรรศิกากัญญาวดี” แห่งแคว้นพันธุรัฐ พระขนิษฐาของเจ้าฟ้าชายทยุติยธร ประกบพระเอกหน้าหล่อตลอดกาล “ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี” สวมคาแรกเตอร์เป็นเจ้าชายสุดหล่อในบท “เจ้าหลวงรังสิมันตรัตน์” แห่งแคว้นกาสิก ที่มีคำร่ำลือว่าเหี้ยมโหด

 

 

โดยมีผู้กำกับมากฝีมือ “บุ๋ม-รัญญา ศิยานนท์” บทโทรทัศน์โดย “แอ๊นท์-ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์” และผู้จัดมากความสามารถที่พร้อมมาการันตีความอลังการดาวล้านดวงอย่าง “ไก่-วรายุฑ มิลินทจินดา” จากบริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด ต้องบอกเลยว่าเรื่องนี้โลเคชั่นสุดปัง คอสตูมสุดเป๊ะ ยิ่งใหญ่สมชื่อ “ไก่-วรายุฑ” แน่นอน นอกจากนี้ยังมีนักแสดงคุณภาพอีกมากมายที่มาร่วมสร้างความเข้มข้นให้กับละคร อาทิ ฐากูร การทิพย์, รินลณี ศรีเพ็ญ, จินตหรา สุขพัฒน์, ณัฏฐพัชร วิภัทรเดชตระกูล, วิรากานต์ เสณีตันติกุล, โกสินทร์ ราชกรม, เมธัส ตรีรัตนวารีสิน, พิเชษฐ์ไชย ผลดี, ฉันธนะ กฤชกาญจนพันธ์, รัญญา ศิยานนท์, ปาริฉัตร ไพรหิรัญ, สุเชาว์ พงษ์วิไล, มาตรา ไพรหิรัญ, เวนช์ ฟอลโคเนอร์, กลศ อัธเสรี, พงศนารถ วินศิริ,
วัชรชัย สุนทรศิริ ฯลฯ

 

 

สำหรับละครเรื่อง “ดั่งดวงหฤทัย” บทประพันธ์ของ “ลักษณวดี” เป็นเรื่องราวของสามดินแดน ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานอย่างดินแดนกาสิก ดินแดนพันธุรัฐ และดินแดนทานตะ เคยผ่านการสู้รบ จนถึงบัดนี้ บ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุข  “เจ้าหลวงรังสิมันตรัตน์” (ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี) แห่งแคว้นกาสิก ที่หลายคนร่ำลือกันว่ามีนิสัยโหดเหี้ยม ดุร้าย ต้องผูกสัมพันธ์กับแคว้นทานตะ ด้วยการแต่งงานกับ “เจ้าหญิงมณิสราเทวี” (แยม-มทิรา ตันติประสุต) แห่งแคว้นทานตะ แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเจ้าหญิงหายตัวไปอย่างลึกลับในแคว้นพันธุรัฐ ซึ่งเป็นเขตของ “เจ้าหญิงทรรศิกากัญญาวดี” รับบทโดย (คิม-คิมเบอร์ลี่
แอน โวลเทมัส)
อะไรจะเกิดขึ้น ความเข้าใจผิด ความหวาดระแวง ของทั้งสามแคว้น จะนำมาซึ่งสงครามหรือไม่

 

 

โดยทางฝั่งพระเอกสุดหล่ออย่าง “ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี” ได้ออกมาเผยความรู้สึกในการมารับบทเจ้าชายในครั้งนี้ว่า “ในเรื่องรับบทเป็นเจ้าหลวงรังสิมันตรัตน์ เจ้าชายแห่งแคว้นกาสิกครับ ในเรื่อง คาแรคเตอร์ของผมมันต้องมีองค์ประกอบอื่น ๆ ด้วยอย่างเช่น มีม้า มีสัตว์ เราต้องขี่เพื่อบังคับเขาให้ไปจุดที่มาร์คมีการพูดคุยกันระหว่างขี่ม้า หรือว่าต้องควบและไปในที่ที่อยู่ในเฟรมกล้องที่เขาต้องการ ในการบังคับม้าต่างๆเหล่านี้ผมว่าค่อนข้างยาก และในส่วนที่ยากอีกอย่างคือ ภาษา แทบจะทุกคำเราต้องพูดราชาศัพท์ถึงแม้ว่าเราเป็นเจ้าหลวงรังสิมานนท์แต่พอเวลาเราพูดกับเจ้าฟ้าหญิงทรรศิกา เราให้เกียรติเขา เราต้องพูดราชาศัพท์ครับ ซึ่งค่อนข้างจะยาก ในการที่เราจะต้องจำบทด้วย หรือว่าในการที่เราจะต้องพูดคำราชาศัพท์ให้มีอารมณ์ และความรู้สึกเหมือนกับพูดปกติครับ ต้องบอกว่าเรื่องนี้เราใช้ระยะเวลาในการถ่ายค่อนข้างที่จะนาน เราไปทั้งหมด 3 ครั้ง  2 ประเทศ ออสเตรีย 1 ครั้ง ญี่ปุ่น 2 ครั้งครับ ทำให้เรารู้สึกว่าเวลาที่ทำงานในต่างประเทศโดยเฉพาะเป็นช่วงฤดูกาลที่หนาวเหน็บ เราต้องมีการเตรียมตัวทำให้ร่างกายอบอุ่น วอมร่างกายให้มากขึ้นกว่าเดิม”

 

 

และด้านนางเอกสาว “คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส” ได้เผยถึงความรู้สึกในการมารับบทเจ้าหญิงในครั้งนี้ว่า “ในบทแอบยากเพราะต้องมีไปถ่ายต่างประเทศและเราเป็นคนที่ขี้หนาวกว่าชาวบ้านเยอะมากเลยค่ะ เบอร์10เลย เพราะฉะนั้นก็ต้องแบบมีเตรียมถุงอุ่น ถุงร้อน เรามีขี่ม้าด้วยค่ะ ซึ่งบอกเลยว่าไม่ว่าจะเรื่องไหน คิมไม่กล้าที่จะขี่เลย เพราะเคยเจอเหตุการณ์โดนม้าเตะตอนเด็กแล้วกระเด็นเลยค่ะหลังจากนั้นคือกลัวม้ามาก แต่พอมาเรื่องนี้พี่ไก่บอกว่า ต้องมีขี่ม้าด้วยเราก็เลยอยากลองเอาชนะใจตัวเองดูก็ลองดู และได้เล่นกับพี่ติ๊กก็ดีใจมากๆค่ะ รู้สึกอยากเล่นละครกับพี่เขามานานแล้วเพราะว่าดูผลงานของพี่ติ๊กมาตั้งแต่เด็ก พี่เขาก็ยังหล่อเหมือนเค้าสตาฟไว้ คือความหล่อไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ บารมีของเขามันมีความเจ้าชายอยู่แล้ว ก็อยากจะขอฝากละคร ดั่งดวงหฤทัย นะคะ คือทั้งพี่ไก่-วรายุฑ ทั้งทีมงาน ทั้งนักแสดงทุกคนตั้งใจและรักละครนี้มากเลยค่ะ ก็อยากให้แฟนๆ ติดตามกันด้วยนะคะ”

 

 

ดั่งดวงหฤทัย ละครที่จะทำให้คุณเข้าใจความรัก ที่ผ่านหัวใจของ “เจ้าหญิงทรรศิกากัญญาวดี” และ “เจ้าหลวงรังสิมันตรัตน์”  ว่ามีไว้เพื่อประชาชนทั่วแผ่นดินเท่านั้น หรือดำรงความอบอุ่นไว้ให้ ดวงหฤทัยเพื่อมอบให้แก่ ผู้หญิงที่พิเศษที่สุด ผู้เป็นดั่งดวงหฤทัย รอติดตามชมความรักโรแมนติก ใน “ดั่งดวงหฤทัย” เริ่มตอนแรกวันพุธที่ 4 มีนาคม 2563 เวลา 20.20-22.35 น. ทางช่อง 3 HD

 

เรื่องย่อ ดั่งดวงหฤทัย ตอนที่ 1 วันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม 2563

เรื่องราวสำหรับการเปิดตัวละครดั่งดวงหฤทัย ซึ่งเสนอเป็นตอนแรกในวันนี้ บอกเล่าความรักของคนทั้งสองคู่ เริ่มต้นที่แยม มทิรา(มณิสรา) หนีจากขบวนเรือเสด็จ เพราะถูกส่งไปแต่งงานกับติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี(รังสิมันต์) โดยที่เธอไม่เต็มใจ หลังจากแยม หนีลงจากเรือแล้ว เธอก็ได้พบกับ ป๊อบ ฐากูร(ทยุติธร) และได้รักกันในที่สุด เพราะป๊อบ สงสาร และเห็นใจ ที่แยมถูกบังคับให้แต่งงาน จึงนำตัวของเธอมาซ่อนไว้ ทำให้คนทั้งสองเกิดความรัก ความผูกพัน

ด้านพระเอก ติ๊ก เจษฎาภรณ์ อยู่แคว้นกาสิก ส่วน คิมเบอร์ลี่ อยู่แคว้นพันธุรัฐ แต่ติ๊กนั้น ปลอมตัวเป็นชาวบ้านเข้ามาที่พันธุรัฐอยู่บ่อยครั้ง และก็ยังได้พบกับคิมเบอร์ลี่ โดยที่ฝ่ายหญิงไม่รู้ตัว ที่สำคัญ เขาตกหลุมรักคิมเบอร์ลี่ตั้งแต่แรกพบเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้น ฝั่งทางด้านเมืองกาสิก ก็จัดเตรียมงานแต่งอย่างใหญ่โต โดยมีหัวเรือใหญ่คือ คือคุณไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา รับบทเป็น ประธานมนตรี จัดเตรียมเรื่องเสื้อผ้า เครื่องประดับให้กับเจ้าสาวของติ๊ก ซึ่งก็คือแยม และได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

ภาพเบื้องหลังฉากวันนี้ ประกอบไปด้วยการถ่ายทำทั้งสามประเทศคือ ออสเตรีย ญี่ปุ่น และเมืองไทย ฉากเปิดตัวของเรื่องคือพี่ติ๊ก จะต้องเล่นสกีลงมาจากภูเขาพร้อมด้วยตั้น พิเชษไชย (เบนลี) ชีวิตจริงเป็นน้องชายแท้ ๆ ส่วนในบท ตั้นรับบทเป็นองครักษ์ของพี่ติก และนักแสดงหน้าใหม่ ธนะ ฉันทนะ(ราชิด) องครักษ์คู่ใจ อีกคนหนึ่งของพี่ติ๊ก เรียกว่า บรรยากาศหนาวเย็น แต่ก็งดงามหาที่เปรียบไม่ได้ และฉากที่ติ๊ก กับคิมเบอร์ลี่ ได้เห็นหน้ากัน โดยคิมเบอร์ลี่ ไม่รู้ตัวตนที่แท้จริง ว่าติ๊ก เจษฎาภรณ์ เป็นเจ้าหลวงแห่งกาสิก ปลอมตัวเข้ามาในเมืองของตน ซึ่งฉากนี้เซ็ทเป็นตลาดพื้นเมืองถ่ายทำที่เมืองไทย

 

 

เรื่องย่อ ดั่งดวงหฤทัย ตอนที่ 2 วันพุธที่ 11 มีนาคม 2563

รอยต่อ ชายแดน พันธุรัฐ และกาสิก ขบวนม้าของรังสิมันต์ กำลังจะพาทรรศิกาไปยังกาสิก
รุ่งเช้า เมื่อทรรศิกา(คิมเบอร์ลี่) ตื่นขึ้นมา ก็รู้ตัวแล้วว่า ตนเองถูกจับตัวมา ทรรศิกานำเสื้อผ้าของกระวาน(มะปราง วิรากานต์) สาวชาวป่า ที่ดูแลเธออย่างใกล้ชิด มาใส่แทน เพื่อหาทางหลบหนี อำพรางตน แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะรังสิมันต์(เจษฎาภรณ์) มาพบเข้าเสียก่อน แล้วในที่สุด ทรรศิกาก็รู้ความจริง ว่าคนที่ลักพาตัวเธอมา ก็คือเจ้าหลวงรังสิมันต์แห่งกาสิกนั่นเอง ทรรศิกาพยายามหนี อีกครั้ง แต่กลับเจอกับฝูงหมาป่า จนรังสิมันต์ ต้องเข้าช่วยเธอ และพาขี่ม้าหนีไปในป่า จนทำให้คืนนั้น ทรรศิกา ต้องค้างคืนกับรังสิมันต์ เพียงลำพัง จนรุ่งเช้า ขบวนม้าของรังสิมันต์ ที่มี ราชิด (ฉันธนะ) เบนลี(พิเชษฐไชย) องครักษ์คนสนิทของรังสิมันต์ ตามมาสมทบ และมีกระวานติดตามมาด้วย ตลอดเวลาในการเดินทางไปกาสิก รังสิมันต์ ดูแลทรรศิกาเป็นอย่างดี แต่ก็แกล้งพูดขู่ให้ทรรศิกากลัว ทำทีว่าตนเป็นคนโหดร้าย จนทรรศิกาหลงเชื่อ พลอยหวาดกลัวในตัวของรังสิมันต์ไปด้วย

พันธุรัฐ
ฝ่ายผู้นำทางการทหารของพันธุรัฐ ก็ระส่ำระสาย คิดหาทางออก ด้วยการหาตัวทยุติธร(ฐากูร) ให้พบ และส่งตัวมณิสรา(แยม มทิรา) ไปที่กาสิก เพื่อขอแลกตัวทรรศิกาคืนมา ทยุติธร และธารเทพ(โกสินทร์) ก็ลำบากใจไม่น้อย ที่ต้องซ่อนตัวมณิสราไว้ ทยุติธร ตั้งใจจะคืนตัวมณิสราให้กับรังสิมันต์ อย่างเงียบเชียบที่สุด เพื่อไม่ให้ฝายหญิงเสื่อมเสียที่หลบหนีมาอยู่กับตน
มณิสราป่วย เสบียงที่มีก็ใกล้หมด ทยุติธร จึงให้ธารเทพ ออกไปหาเสบียงเพิ่ม เมื่อมณิสราฟื้นขึ้นมา ก็บอกกับทยุติธร ยืนยัน จะไม่มีวันแต่งงานกับรังสิมันต์  พระราชเทวี(แหม่ม จินตหรา)ป่วย เป็นโรคปอดบวม ได้แต่ถามหา ทยุติธร และทรรศกา ลูกของเธอ ที่ไม่ได้มาเยี่ยมตนเองเลย พระนมสิริน(ก้อย ปาริฉัตร) จึงออกอุบาย ให้พระเทวี เสด็จไปรักษาตัว ที่เมืองสักขะปุระ ที่มีบ่อน้ำร้อน เพราะจะทำให้หายจากอาการป่วยได้เร็วขึ้น ที่สำคัญ ยังไม่อยากให้พระเทวี รู้ความจริง ว่าบัดนี้ ทรรศิกาได้หายตัวไป พร้อม ๆ กับทยุติธร

วังหลวง แคว้น ทานตะ
วายุ(เมธัส) กลับมาที่ทานตะ รายงานกับเจ้าหลวง(เป็ด เชิญยิ้ม) ว่า มณิสราถูกคนของพันธุรัฐ ลักพาตัวไป วายุจึงออกอุบายให้ส่งตัวคนอื่นไปอภิเษกกับเจ้าหลวงรังสิมันต์แทน เจ้าหลวงจึงบอกให้ชยารพี(ปุยฝ้าย ณัฎฐพัชร) ทำหน้าที่นี้ และจะส่งสาส์น ถึงรังสิมันต์ด้วยตัวเอง เรือเสด็จของชยารพี จึงเร่งออกเดินทางไปกาสิก โดยมีวายุติดตามไปด้วย

 

 

เรื่องย่อ ดั่งดวงหฤทัย ตอนที่ 3 วันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม 2563

พันธุรัฐ

ทยุติธร ดูแลมณิสรา จนหายป่วย  มณิสรา จึงปลอมตัวเป็นผู้ชาย  โดยนำเสื้อผ้าของทยุติธรมาใส่   เธอบอกว่า นับจากนี้เจ้าหญิงมณิสราจะหายไป  เหลือแต่น้องชายของทยุติธร กับธารเทพเท่านั้น   โดยที่ทยุติธรไม่กล้าบอกความจริง ว่าเขาคือเจ้าชายแห่งเมือง พันธุรัฐ  บอกเพียงแต่ว่า เขาเป็น ลูกชายเจ้าของธุรกิจคนหนึ่ง ที่ชอบงานศิลปะ ไม่ต้องการทำธุรกิจของครอบครัว ก็เท่านั้น 

ทั้งสามเดินทางไปถึงด่านลอย ทหารเขตชายแดนแคว้นพันธุรัฐ แต่ก็รอดพ้นการตรวจตราของทหารไปได้ ด้วยการปลอมตัวของมณิสรา ทั้งสามไปอาศัยบ้านของชาวบ้านเพื่อค้างคืน  และเดินทางต่อไปยัง  ที่บ้านของย่าทยุติธร ที่ไม่มีใครอยู่มานานแล้ว 

ชายแดนเมืองกาสิก  ก่อนถึงวังเหมันตาลัย 

รังสิมันต์ให้คนไปสืบเรื่องราวที่มณิสราหายตัวไป   แต่ก็ไม่พบร่องรอย อีกทั้งคนพันธุรัฐ ก็ไม่รู้เรื่อง ที่ทยุติธรพามณิสราหนีหายไปอีกด้วย  ยิ่งทำให้รังสิมันต์สงสัย ว่าเกิดอะไรขึ้นกับมณิสรา   เบนลีพาทรรศิกาเดินทางมาถึงที่พัก   โดยผ่านด่านทางตะวันออกของกาสิกในที่สุด  รังสิมันต์ รอเธออยู่ที่นั่น  รังสิมันต์พาทรรศิกา พร้อมด้วยราชิด เบนลี กะวาน  ขึ้นไปเล่นสกีบนภูเขา  แล้วรังสิมันต์ก็พาทรรศิกา  มาที่ถ้ำน้ำแข็ง ที่มีพระราชาอนุเสาวรีย์ของเสด็จพ่อและแม่ของเขา รังสิมันต์บอกว่า พ่อและแม่รักที่นี่มาก  เขาจึงพาทรรศิกามา   เพื่อทำความรู้จักกับพ่อและแม่ของเขา  ขากลับ กระวานเล่นลากเลื่อน จนเกือบตกภูเขา ราชิดช่วยจับไว้ 

วังเหมันตาลัย แคว้นกาสิก

องค์หญิงพัชรธารได้ข่าวว่ารังสิมันต์กำลังจะพาองค์หญิงเดินทามาที่วัง   ก็ไม่พอใจ เพราะไม่อยากพบเจ้าหญิงจากทานตะ  จึงออกจากวัง และไปพักที่พระราชวังอิสินทร แคว้นกาสิกแทน วายุพาชยารพี มาถึงป้อมปราการด่านอิสินทร ชายแดนกาสิก  วายุบอกทหารว่าจะมาเข้าเฝ้าเจ้าหลวงรังสิมันต์ให้ได้   วายุพาชยารพี มาถึงพระราชวังอิสินทร และได้พบกับพัชรธาร   วายุบอกกับพัชรธาร  ว่ามณิสรา ถูกลักพาตัวไปที่พันธุรัฐ  ทานตะจึงส่งตัวชยารพีมาอภิเษกแทน  แต่พัชรธารไม่เชื่อเพราะรังสิมันต์อยู่กับคู่หมั้นที่วังเหมันตาลัย

 

 

เรื่องย่อ ดั่งดวงหฤทัย ตอนที่ 4 วันพุธที่ 18 มีนาคม 2563

กาสิก

            กระวาน(มะปราง วิรากานต์) เกือบพลาดตกภูเขา รังสิมันต์(เจษฎาภรณ์) กับราชิด(ฉันธนะ) ช่วยกระวานจนปลอดภัยขึ้นมาได้ กระวานสวมกอดทรรศิกา(คิมเบอร์ลี่)ด้วยความดีใจ ที่รอดชีวิตมาได้   ระหว่างที่รังสิมันต์ กับทรรศิกาเดินทางด้วยกัน ทั้งคู่เริ่มใกล้ชิด กันมากขึ้น ทั้งสองปาหิมะใส่กันอย่างสนุกสนาน ราชิดนำผลไม้มาให้ทรรศิกากิน ทั้งสองพูดคุยกัน ทำให้ทรรศิการู้ว่า ราชิดมีเชื้อสายเป็นคนพันธุรัฐ    

ขบวนม้าของรังสิมันต์ ที่นำทรรศิกา กระวาน ราชิด เบนลี(พิเชษฐไชย)  เดินทางจากภูเขา  กลับมาถึงวังเหมันตาลัย แคว้นกาสิก  รังสิมันต์ให้มาลัย(รัญญา) เป็นคนดูแลทรรศิกา และยังนำตัวกระวานไปอบรมมารยาทให้อีกด้วย   รังสิมันต์ จัดงานเลี้ยงต้อนรับ และแนะนำทรรศิกาให้เหล่าทหารชั้นผู้ใหญ่ได้รู้จัก    ที่สำคัญ  เขานำพ่อครัว  แม่ครัว จากพันธุรัฐมาทำอาหารให้ทรรศิกาเป็นพิเศษ 

รังสิมันต์พาทรรศิกา ไปดูโรงละครจำลองในวัง  พร้อมทั้งเล่นเปียดนให้ทรรศิกาฟังด้วย  ทรรศิกาจำตุ๊กตาที่เขาเคยขอซื้อจากรรังสิมันต์ ตอนที่เป็นเด็ก ครั้งที่รังสิมันต์ ปลอมตัวเข้าพันธุรัฐ  ทำให้เธอรู้ว่า รังสิมันต์เสด็จเข้าพันธุรัฐ มาก่อนหน้านี้บ่อยครั้งแล้ว 

ที่วังอิสินธร เมืองกาสิก 

 ทหารมาบอกกับพัชรธาร(รินลณี)ว่า  เจ้าหลวงรังสิมันต์ ได้พาเจ้าหญิงทรรศิกาไปถึงวังเหมันตาลัยแล้ว    แต่มณิสรา(มทิรา)    พระคู่หมั้นของรังสิมันต์ ได้หายตัวไปที่พันธุรัฐ    พัชรธารจึงรู้ว่า แท้ที่จริงแล้ว ชยารพีเป็นลูกของสนมเมืองทานตะ  

พัชรธารได้ข่าวว่ารังสิมันต์กลับมาแล้ว ก็เร่งเดินทางออกจากเหมันตาลัย พร้อมกับชยารพี และวายุ(เมธัส)  แต่โชคร้ายเกิดพายุหิมะถล่ม  จนทั้งสามคน ไม่สามารถเดินทางกลับไปได้

พันธุรัฐ

            มณิสรา ทยุติธร(ฐากูร) ธารเทพ(โกสินทร์)  เข้าพักที่บ้านพักในป่า  มณิสราสนุกสนานกับการวาดรูปกับธารเทพ และยังตกปลาให้ทยุติธรกินอีกด้วย มณิสรา มอบรูปทยุติธร  ที่ตนเองวาด  ให้เป็นของขวัญ   เขาดีใจมาก 

ที่กระท่อมกลางป่า ทั้งอาหาร ข้าวของเครื่องใช้ ต่างเริ่มร่อยหรอ ทยุติธร จึงให้ธารเทพ เอาสร้อยตนเองไปขาย เพื่อแลกกับอาหาร ทั้งสามคน ร้องเพลงเต้นรำกันอย่างมีความสุข โดยที่ไม่รู้ว่า ทหารกำลังตามสืบถึงที่อยู่ทั้งสามคน  โดยตามรอยจากของส่วนตัวของทยุติธร ที่ธารเทพ นำไปขาย

            ทหารของพันธุรัฐติดตาม ทยุติธร และธารเทพถึงกระท่อม    และเชิญเสด็จกลับวังหลวง  ทำให้มณิสรารู้ว่า ทยุติธร เป็นเจ้าฟ้าชายแห่งพันธุรัฐ ส่วนมณิสราก็กลับวังพันธุรัฐไปพร้อมกัน

 

เรื่องย่อ ดั่งดวงหฤทัย ตอนที่ 5 วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม 2563

พันธุรัฐ

            ทยุติธร(ฐากูร) และธารเทพ(โกสินทร์)  กลับสู่วังพันธุรัฐ โดยนำมณิสรา(มทิรา)กลับมาด้วยกัน  ทยุติธรได้รู้ความจริง ว่าทรรศิกาถูกลักพาตัวไปยังกาสิก  ส่วนพระเทวี (จินตหรา)ก็ป่วยหนัก  ต้องไปรักษาตัวที่  สุขะปุระ    มณิสราเองก็ไม่สบายใจ เพราะเรื่องราวทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะมีเธอเป็นสาเหตุ

            ทยุติธร กับธารเทพ หนีออกจากวัง เดินทางไปกาสิก เพื่อไปตามหาทรรศิกา  มณิสราปลอมตัวเป็นชายติดตามมาร่วมขบวนด้วย   การเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก หิมะตกหนัก บนภูเขาสูง   มณิสราเดินพลาดเกือบตกภูเขา ทยุติธรช่วยไว้ แต่ตนเองกลับตกลงไปที่หน้าผาแทน

            ธารเทพ พามณิสรา มาที่ค่ายทหารชายแดนพันธุรัฐ ขอให้ทหารช่วยกันออกตามหาทยุติธร 

เมื่อกลับถึงพันธุรัฐ   เสนาบดีขอให้ส่งตัวมณิสรากลับไป แต่ทยุติธร ยืนยัน จะปกป้องมณิสรา  แต่จะไม่มีการรบใด ๆ ทั้งสิ้น   ทยุติธร แต่งตั้งให้ กองกำลังโควินท์ หน่วยล่าสังหารลับ   รับคำสั่งโดยตรงกับตนเองเท่านั้น

 

กาสิก

            มาลัย(รัญญา)บอกกับทรรศิกา(คิมเบอร์ลี่)  ว่าเจ้าหลวงรังสิมันต์(เจษฎาภรณ์) กำลังควบคุมงานก่อสร้าง พระราชวังวสุธารา เพื่อทรงจัดให้เป็นที่ประทับถาวรของทรรศิกา  เพื่อรองรับงานใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ทรรศิกา กลับเข้าใจผิด คิดว่ารังสิมันต์ทรงสร้างขึ้นเพื่อรอพระคู่หมั้นจากทานตะ   และจะนำตนเองไปกักขังไว้ เพื่อไม่ให้ใครมาช่วยเหลือตนเองได้ 

            หิมะตกอย่างหนัก   ทรรศิกาเริ่มเป็นห่วงรังสิมันต์ ที่ยังไม่กลับมา  รังสิมันต์ ราชิด  เดินทางโดยใช้สุนัขลากเลื่อน เพื่อไปเยี่ยมทหารและราษฎร บนภูเขา  ที่สำคัญ เขาเก็บดอกกล้วยไม้  ที่ขึ้นบนภูเขากลับไปฝากเจ้าหญิงทรรศิกาด้วย

ที่ภูเขาอินไท ชายแดนกาสิก     ระหว่างที่รังสิมันต์ กำลังเดินทางอยู่กับราชิด(ฉันธนะ)  ก็พบทยุติธร สลบอยู่ริมธาร จึงนำตัวกลับไปที่แค้มป์ทหารหน่วยอินไท   หลังจากฟื้นขึ้นมา รังสิมันต์ก็ถามว่าเขาคือใคร แต่ทยุติธรหลอกว่าเขาคือราษฎรบนภูเขา แต่รังสิมันต์ไม่เชื่อ สุดท้าย ทยุติธร จึงบอกว่าเขาเป็นทหารพันธุรัฐ  มาตามหาเจ้าหญิงที่ถูกจับตัวมา โดยที่ไม่รู้ว่า รังสิมันต์คือคนที่ช่วยชีวิตเขา  และซ่อนตัวทรรศิกาไว้

รังสิมันต์กับราชิด จึงเดินมาส่งทยุติธรที่ชายแดนกาสิก  ทยุติธร ได้พบกับธารเทพ และมณิสราในที่สุด 

รังสิมันต์จัดงานเลี้ยงอำลาวังเหมันตาลัย   ทรรศิกาไม่อยากลงไปร่วมงาน แต่สุดท้ายรังสิมันต์ ก็มาพาตัวไปจนได้  เหล่าทหารร้องเพลงให้ทรรศิกาฟัง  ทำให้เธอปลื้มใจมาก  ทรรศิกาเพลิดเพลินกับงานเลี้ยงจนสุดท้ายดื่มจนเมามาย  รังสิมันต์ห้ามก็ไม่ฟัง

 

 

เรื่องย่อ ดั่งดวงหฤทัย ตอนที่ 6 วันพุธที่ 25 มีนาคม 2563

พันธุรัฐ

            ทยุติทร(ฐากูร)ประลองฝีมือง การต่อสู้ กับท่านเจ้าคุณกลาโหม(กลศ) แล้วเขาก็แพ้   แม่ทัพโควินท์(วัชรชัย) จึงอาสา รับภารกิจทางการทหารของทยุติธร นับจากนี้   ธารเทพ(โกสินทร์)เป็นห่วงทยุติธรมาก ไม่วางใจทั้งท่านเจ้าคุณกลาโหม  และโควินท์   ด้านมณิสรา(มทิรา) อยากให้มีการเจรจา เพื่อแลกเปลี่ยนเชลยศึก แต่ทยุติธรไม่ยอม  พอดีพระเทวี(จินตหรา)เสด็จกลับมาที่วังพันธุรัฐ ทยุติธรยังไม่กล้าบอกความจริง ว่าพามณิสรามาซ่อนไว้ มณิสราปลอมตัวเป็นสาวใช้ และบอกว่าเป็นหลาน ของพระนมสิริน(ปาริฉัตร)  แต่พระเทวีไม่เชื่อ สุดท้ายทยุติธรบอกว่า  มณิสราเป็นสาวชาวป่า ที่ตนหลงรัก  พระเทวีจึงให้ให้มณิสราไปอยู่ที่ตำหนักของตน เพื่ออบรมกริยามารยาทของพันธุรัฐ

กาสิก

           รังสิมันต์(เจษฎาภรณ์)พาทรรศิกา(คิมเบอร์ลี่) เดินทางโดยขบวนรถไฟ ไปวสุธารา ซึ่งเป็นสถานที่เงียบสงบ ไว้ใช้สำหรับฮันนีมูนในราชวงศ์กาสิก  ทรรศิการู้จากมาลัย(รัญญา) ว่ารังสิมันต์เสด็จพันธุรัฐบ่อยครั้ง ก็ไม่พอใจ เข้าใจว่ารังสิมันต์ต้องการเข้าไปสืบเรื่องราวทางการทหาร แต่รังสิมันต์ ยืนยันไม่มีเจตนาเช่นนั้น เขาไม่ต้องการให้มีการแบ่งแยกดินแดน เพียงแต่เห็นพันธุรัฐ เป็นเหมือนมิตรแท้ก็เท่านั้น

            รังสิมันต์พาทรรศิกามาชมดอกไม้จากวินไท ที่เขาเก็บมันเพื่อมอบให้กับเธอ และตั้งชื่อว่า ดอกหัวใจทรรศิกา เมื่อถึงวังวสุธารา พระตำหนักบนยอดเขาของกาสิก  รังสิมันต์จัดงานต้อนรับทรรศิกา อย่างสมพระเกียรติ

            ราชิด(ฉันธนะ)กับเบนลี(พิเชษไชย)ต่อสู้กันอย่างชายชาติทหาร  กระวานชวนทรรศิกาไปดูการต่อสู้ด้วย ราชิดแพ้เบนลี รังสิมันต์จึงให้ราชิดเป็นกรรมการ  ระหว่างที่เขาต่อสู้กับเบนลีต่อไป  และรังสิมันต์ก็ชนะในที่สุด รังสิมันต์พาทรรศิกาเสด็จไปที่เหมืองเพชร ด้วยขบวนรถไฟ พอดีเกิดเหตุเหมืองถล่ม รังสิมันต์เข้าไปช่วยคนในเหมืองด้วยตนเอง ทรรศิกาเป็นห่วงมาก

 

 

เรื่องย่อ ดั่งดวงหฤทัย ตอนที่ 7 วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม 2563

พันธุรัฐ
            พระเทวี(จินตหรา)อบรมมณิสรา(มทิรา)ที่พระตำหนัก ทยุติธร(ฐากูร)เป็นห่วง จึงแอบตามไปดู มณิสราถูกสั่งห้าม ไม่ให้อยู่กับทยุติธรตามลำพัง ทยุติยร ให้เจ้าคุณวิเทศน์สัมพันธ์(มาตรา) ไปเจรจากขอร้องเจ้าหลวงรังสิมันต์(เจษฎาภรณ์) เพื่อนำตัวทรรศิกา(คิมเบอร์ลี่)คืนมา เจ้าคุณกลาโหมพูดจาดูหมิ่นที่ทยุติธร จนทำให้ธารเทพทนไม่ไหว มีเรื่องชกต่อยกัน เจ้าคุณกลาโหม บอกกับพระเทวี ว่ามณิสรา ไม่ใช่หลานของพระนม แต่หญิงสาวแห่งทานตะ พระเทวีไม่พอใจมาก เจ้าคุณกลาโหมบอกกับทยุติธร ว่าจะส่งคนไปลอบสังหารรังสิมันต์

            ทยุติธรเขียนจดหมายถึงรังสิมันต์ ว่าจะส่งมอบทรัพย์สินให้ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับทรรศิกา แต่มณิสราไม่ยอม เธอบอก จะเขียนจดหมายถึงรังสิมันต์เอง เพื่อที่พันธุรัฐ จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนเพราะเธออีกต่อไป

กาสิก
            เจ้าหลวงรังสิมันต์ เข้าไปช่วยคนในเหมืองจนถึงคนสุดท้าย แล้วก็ออกมาอย่างปลอดภัย ทรรศิกาดีใจมาก เจ้าหลวงยังนำเพชรจากในเหมืองมาเป็นของขวัญให้เธอด้วย ทั้งงหมดเดินทางกลับวังวสุธาราโดยรถไฟ แต่เกิดเหตุฟ้าผ่า ทำให้หัวรถจักรเสียหาย รังสิมันต์ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนทรรศิกาที่ขบวนตลอดเวลา ทรรศิกาหนาวจัดจนเป็นไข้ รังสิมันต์ ราชิด เบนลี จึงไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ขอยามาให้ทรรศิกา รุ่งเช้าทรรศิกาอาการดีขึ้น จึงลงไปดูเหล่าทหารที่ด้านล่างขบวน รังสิมันต์ตามลงไปดู ทั้งคู่ใกล้ชิดกันมากขึ้น

ที่พระราชวังอิสินทร

            พัชรธาร(รินลณี)ไม่พอใจเมื่อรู้ข่าวว่ารังสิมันต์พาทรรศิกาไปเหมืองเพชร ซ้ำยังได้ข่าวว่าเกิดเหตุฟ้าผ่าที่รถไฟ พัชรธารเป็นห่วง แต่วายุ(เมธัส)กับชยารพี(ณัฎฐพัชร์) กลับยุแยงว่า หากไม่มีรังสิมันต์ พัชรธารจะกลายเป็นคนที่มีอำนาจที่สุด
            รังสิมันต์เปลี่ยนใจ ไม่กลับไปที่วสุธารา แต่จะไปที่อิสินธรแทน รังสิมันต์บอกว่า จะแจ้งไปทางพันธุรัฐ ว่าทรรศิกา มาพักที่อิสินทร ในฐานะราชอาคันตุกะ หากตกลงกันได้ด้วยดี ทรรศิกาก็จะได้กลับพันธุรัฐ
เมื่อมาถึงอิสินทร รังสิมันต์ มอบกุญแกเมืองอิสินทรให้ทรรศิกา พร้อมบอกว่า เธอได้เป็นพลเมืองกิติมศักดิ์ แห่งอิสินทรแล้ว ทรรศิกาจึงประกาศต่อหน้าทุกคน ว่ากาสิก เป็นเพื่อนคู่มิตรกับพันธุรัฐเสมอไป รังสิมันต์ พาทรรศิกา มาแนะนำให้รู้จักกับพัชรธาร แต่พัชรธารไม่แสดงทีท่าสนใจในตัวของทรรศิกาเท่าใดนัก

 

 

เรื่องย่อ ดั่งดวงหฤทัย ตอนที่ 8 วันพุธที่ 1 เมษายน 2563

ที่วังอิสินทร แคว้นกาสิก
               ระหว่างที่ เจ้าหลวงรังสิมันต์( ติ๊ก เจษฎาภรณ์) ทรรศิกา( คิมเบอร์ลี่) และ พัชรธาร( จอย รินลณี) กำลังพูดคุยกัน ชยารพี(ฝ้าย ณัฎฐพัชร์) ก็เข้ามาแนะนำตัว กับรังสิมันต์ ว่าตนเองเป็นเจ้าหญิงแห่งทานตะ จะมาแต่งงานกับเจ้าหลวงแทน มณิสรา(มทิรา) ที่ถูกคนพันธุรัฐ ลักพาตัวไป แต่เจ้าหลวงปฎิเสธ และบอกไปว่า ทางทานตะเข้าใจผิด พันธุรัฐไม่เคยทำเช่นนั้น มณิสราของเสด็จประพาสที่พันธุรัฐ เป็นการส่วนพระองค์ เพราะประชวร เจ้าหลวงจึงขอยกเลิกงานทั้งหมด ส่วนเรื่องของสัญญา ขอปรึกษาสภาเสนาบดีอีกครั้ง และสัญญาว่าจะรักษาสัมพันธไมตรี ของทานตะและกาสิกให้ดีที่สุด ทำให้ชยารพีเสียหน้ามาก
               กระรอกน้อย (นันทพัฒน์) กระวาน (มะปราง วิรากานต์) มาลัย(บุ๋ม รัญญา) เดินทางมาถึง วังอิสินทร ทำให้ทรรศิกาดีใจมาก พัชรธาร พบกับกระรอกน้อย และกระวานในสวน จึงเข้าใจผิด คิดว่ากระวาน จะเข้ามาโขมยข้าวของในวัง ยิ่งเมื่อ วายุ และเจ้าหญิงชยารพี ตามมาสมทบเห็นเหตุการณ์พอดี ก็ทำทีไม่พอใจใหญ่ ทำให้มีเรื่องถกเถียงกัน พอดีมาลัยมาห้ามไว้ทัน บอกว่า กระรอกน้อย และกระวาน เป็นสหายของรังสิมันต์ ห้ามไม่ให้ผู้ใดมาแตะต้องเด็ดขาด
               รังสิมันต์ขอร้องให้ทรรศิกา ไปช่วยทำภารกิจแทน เป็นการพบปะผู้คนแทนในฐานะฑูตสันทวไมตรี นำศิลปะวัฒนธรรม พันธุรัฐสู่กาสิก ทำให้คนที่พบเห็นทรรศิกา รักในตัวเธอมากยิ่งขึ้น ส่วนรังสิมันต์ ราชิด(ฉันธนะ) เบนลี(พิเชษฐไชย) ไปเยี่ยมทหารบนภูเขา โควินท์(วัชรชัย) กับหทาร บุกไปซุ่มทำร้ายรังสิมันต์ เกิดการต่อสู้กัน โควินท์บาดเจ็บ แล้วหนีรอดไปได้
               เสนาบดีวิเทศน์สัมพันธ์(มาตรา) จากพันธุรัฐ มาขอเข้าเฝ้ารังสิมันต์ที่อิสินทร รังสิมันต์จึงฝากจดหมายกลับไปให้ทยุติธร รังสิมันต์ไม่ชอบใจที่เบื้องหลังพันธุรัฐส่งคนมาลอบทำร้าย แต่เบื้องหน้า กลับส่งคนมาเจรจา รังสิมันต์ เขียนจดหมาย ปฎิเสธ การแลกเปลี่ยนตัว เพราะเขาต้องการให้ทยุติธร รับผิด แบบลูกผู้ชาย หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาก็พร้อมจะทำสงคราม เมื่อทรรศิการู้เรื่อง ก็เสียใจที่ต้องมีการสู้รบ เธอขอร้องให้รังสิมันต์ส่งตัวเธอกลับ แต่เขาไม่ยอม บอกว่าให้ทรรศิกา เป็นแขกของกาสิก อยู่ดูความเป็นไปของกาสิกให้ทั่วถึง ซึ่งอาจต้องใช้เวลาชั่วชีวิต
เจ้าหลวงรังสิมันต์ พาทรรศิกามาที่ป้อมปราการ เพื่อขึ้นไปดูวิวของอิสินทร เมืองทางใต้ของกาสิก อบอุ่น และใกล้พันธุรัฐมากที่สุด ทำให้ทรรศิกาคิดถึงบ้านมากขึ้นทุกวัน

ที่เมืองพันธุรัฐ
               ทยุติธร ไม่พอใจ ที่ท่านเจ้าคุณกลาโหม ส่งคนไปลอบทำร้าย รังสิมันต์ เพราะการทำเช่นนั้น ยิ่งใกล้คำว่า สงครามมากยิ่งขึ้น โควินท์บาดเจ็บอย่างหนัก กลับมาที่พันธุรัฐ ยืนยันว่าได้พบกับรังสิมันต์ พร้อมนำรูปให้ทยุติธรดู ทยุติธรจึงจำได้ ว่ารังสิมันต์ เคยช่วยชีวิตตนไว้
               พระเทวี(จินตหรา) รู้ความจริง ว่ามณิสราเทวี คือเจ้าหญิงแห่งทานตะ ที่ทยุติธร นำตัวมาซ่อนไว้ และรู้ว่าที่ทรรศิกาหายไป เพราะถูกจับตัวไปกาสิก พระเทวีโกรธมากที่ทยุติธร ไม่แก้ไขปัญหา แต่กลับนำตัวมณิสราหลบซ่อนไว้ แทนที่จะจัดขบวนเสด็จ ส่งมณิสรากลับอย่างสมพระเกียรติ พระเทวีออกไป จะไปช่วยทรรศิกาด้วยตนเอง ทยุติธร กับธารเทพ จึงรีบเดินทางไปที่ชายแดนกาสิก เพื่อตามหาทรรศิกาทันที
               มณิสราตัดสินใจกินยาฆ่าตัวตาย เพราะไม่มีทางออก โชคดีพระเทวีมาช่วยไว้ทัน มณิสราร้องไห้เสียใจ ที่เกิดเป็นหญิง และไม่สามารถลิขิตชีวิตของตนเอง พระเทวี จึงขอให้มณิสรา มาเป็นลูกของตัว และลุกขึ้นยืนหยัด ต่อสู้เพื่อบ้านเมืองอีกครั้ง

 

 

เรื่องย่อ ดั่งดวงหฤทัย ตอนที่ 9 วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน 2563

แคว้นกาสิก
           ที่ชายแดน ทยุติธร(ฐากูร) ได้พบกับรังสิมันต์(เจษฎาภรณ์) ยืนยันให้รังสิมันต์ ส่งตัวทรรศิกาคืนมา ไม่เช่นนั้นก็ต้องรบกัน ในขณะที่รังสิมันต์ บอกว่า สงครามไม่ใช่ทางออก เพราะเป็นกษัตริย์ อย่าให้ราษฎรต้องเสียชีวิตและเลือดเนื้อ ทั้งคู่ ต่างยืนอยู่ในจุดที่ยากจะหาทางออก
           วายุ(เมธัส) ลอบทำร้าย ทยุติธรและธารเทพ(โกสินทร์) รังสิมันต์จับได้ จึงบอกให้ชยารพีและวายุ รีบกลับทานตะโดยเร็ว พัชรธาร(รินลณี) รู้เรื่องก็ไม่พอใจ ที่รังสิมันต์เอาแต่ห่วงใยคนพันธุรัฐ จึงคิดแก้แค้น ทรรศิกา
รังสิมันต์บอกความจริงแก่ทรรศิกา เรื่องที่ไปพบกับทยุติธรมา ทรรศิกายืนยัน จะไม่ยอมแต่งงานกับรังสิมันต์แน่นอน ทั้งสองทะเลาะกัน จนทรรศิกา ล้มตกบันไดลงมา รังสิมันต์รีบให้หมอมาดูอาการ และเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด พัชรธารบอกให้รังสิมันต์ คืนตัวทรรศิกาไปโดยเร็ว ก่อนที่ทุกคนจะเดือดร้อนไปมากกว่านี้
           รังสิมันต์ นอนเฝ้าทรรศิกาอยู่สองวันสองคืน ทรรศิกาเพ้อถึงท่านพ่อ และพี่ชาย เธอร้องไห้ ที่ไม่สามารถช่วยบ้านเมืองเอาไว้ได้ รังสิมันต์ สงสารและเห็นใจ แต่เมื่อทรรศิกาฟื้นขึ้นมา ทั้งสองก็ยังไม่เข้าใจกัน รังสิมันต์ยังคงน้อยใจ ที่ทรรศิกาเห็นว่าตนเป็นคนป่าเถื่อน รังสิมันต์สั่งให้มาลัยดูแลทรรศิกาให้ดี อีก 3 วัน จะต้องเข้าพิธีอุปภิเษก
พัชรธารไล่ให้ทรรศิกากลับบ้านเมืองไปด้วยตนเอง กระวาน(มะปราง วิรากานต์) มาเล่าเรื่องเกมส์การแข่งขัน ชิงตัวเชลยศึก ให้ทรรศิกาฟัง ทรรศิกา จึงนึกแผนการณ์ จะให้ราชิด ซึ่งมีเชื้อสายพันธุรัฐ ชิงตัวเธอเพื่อไปที่ชายแดน แล้วหลบหนีไปด้วยกัน

            พัชรธาร บอกว่าจะยึดอำนาจจากรังสิมันต์ โดยให้วายุ และ ชยารพีร่วมมือด้วย วายุบอกวางแผน ว่าจะเอาทัพทานตะมาโจมตีพันธุรัฐจากทางใต้ ส่วนพัชรธาร จะนำกาสิก ตีพันธุรัฐจากทางเหนือ แล้วจะแบ่งพันธุรัฐออกเป็นสอง เพื่อแบ่งกันครอบครอง

พันธุรัฐ
           ทยุติธร ปลดเจ้าคุณกลาโหม(หมู กลศ) และนำตัวไปขังคุก โทษที่ทำงานเกินคำสั่ง ส่งโควินท์(วัชรชัย) ไปลอบทำร้ายรังสิมันต์ ทยุติธร ดูและเรื่องการทหารด้วยตนเอง และให้ธารเทพ ช่วยคุมเรื่องฝึกทหาร เตรียมสำหรับการรบกับกาสิก โควินท์เข้าไปเยี่ยมกลาโหมในคุก ทั้งคู่วางแผนร่วมกัน โควินท์อาสา เป็นคนคุมเรื่องการสู้รบกับพวกทหาร ธารเทพเริ่มไม่ไว้ใจโควินท์
           ทยุติธรถามกับมณิสรา เรื่องที่ตนเองโดนพิษ เขามั่นใจ ว่าต้องไม่ใช่ฝีมือของรังสิมันต์ หรือคนกาสิก มณิสราจึงบอกว่า มันเป็นพิษของปลาหมึกยักษ์ ที่อยู่ทางทานตะ ทยุติธร พลาดถูกพิษเข้าตา จนมณิสรา (แยม มทิรา) ต้องดูแล รักษาให้เป็นอย่างดี

 

 

เรื่องย่อ ดั่งดวงหฤทัย ตอนที่ 10 วันพุธที่ 8 เมษายน 2563

กาสิก

            เจ้าหลวงรังสิมันต์(เจษฎาภรณ์) อยากจะบอกทรรศิกา(คิมเบอร์ลี่) ถึงความรู้สึกลึกซึ้งภายในใจ ที่เขามีต่อเธอ  ราชิด(ฉันธนะ)กับเบนลี(พิเชษไชย)  จึงยุให้เจ้าหลวง พูดเปิดใจกับทรรศิกาไปให้หมด

            รุ่งขึ้น ทรรศิกาเตรียมตัวจะไปดูการแข่งขันชิงตัวประกัน   แต่ยังไม่ทันที่เธอจะออกไปด้านนอก   กระรอกน้อย(นันทพัฒน์)ก็ดื่มนม ที่กระวาน(มะปราง วิรากานต์)นำมาให้แล้วก็เสียชีวิต   กระวาน ตกเป็นผู้ต้องสงสัย เธอปฎิเสธ และเสียใจมากที่ถูกเข้าใจผิด

            รังสิมันต์ สืบจนรู้ความจริง ว่าสภานี คนสนิทของพัชรธาร(รินลณี) เป็นคนวางยา สุดท้ายพัชรธารสารภาพด้วยตนเอง ว่าเกลียดชัง จนอยากให้ทรรศิกาตาย แต่กระรอกน้อย กลับเป็นผู้โชคร้าย รังสิมันต์บอกกับพัชรธาร ว่าชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต   

            วายุ(เมธัส) และ ชยารพี(ณัฎฐพัชร์) พยายามหนีตาย  เพราะพิษร้ายที่ใส่ลงไปในนมนั้น เป็นพิษของทานตะ ราชิดและเบนลี ตามจับตัวทั้งสองคน ไปขังไว้ในคุกของวังอิสินทร  ที่หน้าหลุมศพของกระรอกน้อย  รังสิมันต์บอกกับทรรศิกา ว่าโทษของพัชรธารนั้น ก็คือต้องตายตกไปตามกัน ตามกฎของกาสิก   แต่ทรรศิกา กลับขอชีวิตของพัชรธารไว้  เพราะไม่ว่า จะทรรศิกา หรือพัชรธารตาย จะต้องเกิดสงครามระหว่างสองเมืองแน่นอน  เมื่อไม่มีกระรอกน้อยอีกต่อไป  ทรรศิกาจึงตัดสินใจ ไปจากกาสิกเสียที  ทรรศิกาขออนุญาติรังสิมันต์ กลับไปหาแม่  และสัญญา ว่าปัญหาระหว่างองค์หญิงทานตะ  พระคู่หมั้น  จะคลี่คลาย และลงเอยอย่างถูกต้อง เป็นที่พอใจทั้งสามแคว้น 

            รังสิมันต์มาสอบสวนวายุกับชยารพีด้วยตนเอง   และบอกว่า หมอหลวงพิสูจน์แล้วว่า ผงพิษมาจากอ่าวของทานตะ

            รังสิมันต์ ไปพบพัชรธารทท    สองพี่น้องคุยกัน   นึกถึงวัยเด็กที่ต่างเป็นเพื่อนเล่นกันมาแต่เล็ก   รังสิมันต์จึงบอกความจริง ว่าทรรศิกา เป็นคนขอชีวิตของพัชรธารไว้  พัชรธารร้องไห้ สำนึกผิดในทุกสิ่ง เจ้าหลวงกอดพัชรธารไว้  และให้อภัยในที่สุด   ทรรศิกาขอให้รังสิมันต์ ส่งตัววายุและชยารพี กลับไปทานตะ  เพื่อรับโทษ ในบ้านเมืองของตน เพื่อไม่ให้เกิดสงครามตามมา 

            ทรรศิกากับกระวาน ไปเล่นเกมชิงตัวประกัน กับราชิด และเบนลี  พร้อม ๆ กับเหล่าทหาร ราชิดทำที ลักพาตัวกระวาน และทรรศิกาไป   แต่พอถึงชายป่า ราชิดก็นำตัวกระวานขึ้นม้าไป ส่วนรังสิมันต์ก็พาทรรศิกากลับมาที่วังอิสินทร

            เมื่อทรรศิกา เปิดผ้าปิดตาออกมา   จึงรู้ว่า ตนได้กลับมาที่กาสิกอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ กลับมีงานต้อนรับอย่างใหญ่โต  รังสิมันต์ ยืนเด่นสง่ารอคอยเธออยู่ที่นั่น  คณะเสนาบดีพร้อมหน้า  กรมวังประกาศพิธีอุปภิเษก ถวายพระยศแด่ทรรศิกากัญญาวดีแห่งกาสิก ดำรงพระยศเทียบเท่าเจ้าฟ้าหญิงแห่งกาสิก ทุกประการ 

            ที่กาสิกเกิดแผ่นดินไหว ชาวบ้านเดือดร้อน ล้มตาย ไม่มีที่อยู่อาศัย รังสิมันต์ ไปช่วยเหลือชาวบ้านด้วยตนเอง  โดยมีทรรศิกาติดตามไปช่วยเหลือด้วย  ที่นั่น ทรรศิกา ได้เห็นความมีน้ำใจที่รังสิมันต์ มีต่อราษฎร   เธอซึ้งใจ เขียนจดหมาย ถึงทยุติธรที่ พันธุรัฐ ว่าตนเองได้รับการดูแลอย่างดี และรังสิมันต์นั้นเป็นคนดี ไม่ใช่คนโหดเหี้ยม เหมือนดังที่เล่าลือ   ขอให้พี่ชาย หยุดคิดเรื่องสงครามเสีย   ทรรศิกาให้กระวาน ลอบนำจดหมายข้ามแดนไปที่พันธุรัฐ 

พันธุรัฐ

            นับวัน ทยุติธร(ฐากูร)  จะโปรดปรานโควินท์(วัชรชัย)มากขึ้นทุกวัน ถึงขนาดแต่งตังให้โควินท์เป็นผู้บัญชาการทหารทั้งหมด  ธารเทพ(โกสินทร์)ไม่วางใจ เพราะรู้ว่าโควินท์ เคยเป็นคนของเจ้าคุณกลาโหม เขาพยายามเตือน ทยุติธร  แต่ทยุติธรไม่ฟัง

            มณิสรา(มทิรา)มาพบกับธารเทพ  ขอร้องให้ธารเทพพาไปกาสิก เพื่อไปเจรจากับเจ้าหลวงรังสิมันต์ด้วยตนเอง  ทยุติธรได้ยินข่าวเรื่องแผ่นดินไหวที่กาสิก  จึงจะเดินทางไปชายแดนพร้อมกับโควินท์ เพื่อไปพบรังสิมันต์    และให้ธารเทพ  คอยดูแลทุกคนที่พันธุรัฐแทนตนเอง

 

เรื่องย่อ ดั่งดวงหฤทัย ตอนที่ 11 วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน 2563

กาสิก

           เจ้าหลวงรังสิมันต์(เจษฎาภรณ์) ราชิด(ฉันธนะ)  เบนลี(พิเชษไชย)  พร้อมด้วยเหล่าทหาร ยังคงช่วยกันสร้างแค้มป์ที่พักให้กับชาวบ้าน โดยมีทรรศิกา(คิมเบอร์ลี่) คอยเป็นกำลังใจให้  กระวาน (มะปราง วิรากานต์)รีบเดินทางนำจดหมายของทรรศิกาไปยังพันธุรัฐ  เพื่อไม่ให้ทั้งสองแคว้นทำสงครามกัน  ราชิด จึงให้เมฆา ซึ่งเป็นสายลับ นำทางกระวานไป  ราชิดสารภาพรักกับกระวาน  และอวยพรให้เธอกลับมาอย่างปลอดภัย   แล้วสัญญาว่าจะแต่งงานกัน

            ทรรศิกาได้พบกับสภานี และพัชรธาร(รินลณี)  ที่หมู่บ้านด้วย ทั้งสองกลายเป็นนักบวช มาช่วยเหลือชาวบ้าน ทรรศิกาและพัชรธาร ช่วยแจกจ่ายอาหารให้กับชาวบ้าน รังสิมันต์ดีใจ ที่เห็นทั้งสองปรับความเข้าใจกันได้

            หลังจากที่รังสิมันต์ นำทหาร ไปช่วยเหลือราษฎร สร้างที่พัก จนสามารถช่วยเหลือตนเองได้  ทรรศิกาก็บอกกับรังสิมันต์  ว่าถึงเวลาที่ตนจะกลับไปช่วยราษฎร และบ้านเมืองของตนที่พันธุรัฐสักที  รังสิมันต์ จำนนด้วยเหตุผลของทรรศิกา  จึงเดินทางไปส่งทรรศิกาที่พันธุรัฐด้วยตนเอง ก่อนจากกัน รังสิมันต์สารภาพ ว่าก่อนหน้านี้  ที่เขาเข้าออกพันธุรัฐอยู่บ่อยครั้ง  ไม่ใช่เพื่อสืบราชการลับ แต่ต้องการเห็นหน้าทรรศิกา เพราะเขาตกหลุมรักทรรศิกา ตั้งแต่แรกพบ รังสิมันต์ เล่าเหตุการณ์ในอดีตให้ทรรศิกาฟังมากมาย จนเธอประทับใจในหัวใจของรังสิมันต์  ทั้งสอง กอดกันด้วยความรัก

 

พันธุรัฐ

          วายุ (เมธัส)  พาชยารพี(ณัฎฐพัชร์) หนีจากคุกของกาสิก   มาที่ชายแดนพันธุรัฐ และถูกทหารจับได้ ทั้งคู่ได้พบกับทยุติธร(ฐากูร)  และโควินท์(วัชรชัย)    วายุ และ ชยารพี ใส่ร้ายรังสิมันต์ ว่าจับทรรศิกาไปขัง และให้อยู่อย่างทุกข์ทรมาน  โควินท์ได้ที ยุให้ทยุติธรทำสงคราม และจะหาทางแทรกซึมเข้าไปยังพันธุรัฐ เพื่อชิงตัวทรรศิกามาให้ได้

        จดหมายที่ทรรศิกา เขียนถึงทยุติธร ถึงมือมณิสรา(มทิรา) และธารเทพในที่สุด  ทั้งสองดีใจมากที่ทรรศิกาปลอดภัยดี  มณิสราพยายามพูดให้ทยุติธรได้คิด ว่าคนที่ใช้พิษทานตะ ทำร้าย ทยุติธร ต้องเป็นวายุแน่  วายุและชยารพี  จึงถูกจับตัวขังคุกที่พันธุรัฐ ทยุติธรรู้สึกถึงความผิดพลาดครั้งใหญ่ เพราะโควินท์ เดินทางไปที่ชายแดน  เพื่อพบกับรังสิมันต์แล้ว

        เจ้าหลวงรรังสิมันต์ และทรรศิกา เดินทางมาจนเข้าเขตพันธุรัฐ  และแวะไปเที่ยวงานริมทะเลสาบกับพวกชาวบ้าน   ลูกน้องของโควินท์มาถึงพอดี ลอบยิงรังสิมันต์  เขาล้มลงต่อหน้าทรรศิกา    

 

 

เรื่องย่อ ดั่งดวงหฤทัย ตอนที่ 12 วันพุธที่ 15 เมษายน 2563

        รังสิมันต์(เจษฎาภรณ์)ถูกยิง เขาอยู่ในอ้อมกอดของทรรศิกา(คิมเบอร์ลี่) ทุกคนพากันตนใจ เบนลี(พิเชษฐไชย) กับราชิด(ฉันธนะ) จับคนร้ายได้ แต่เขากลับชิงฆ่าตัวตายเสียก่อน พอดี


        ทยุติธร(ฐากูร) มณิสรา (มทิรา) เดินทางมาถึง ทรรศิกาต่อว่า เรื่องที่ส่งจดหมายมาให้แล้ว แต่ทยุติธรไม่เชื่อ จนเกิดเหตุเช่นนี้ ทยุติธรรู้สึกผิดมาก มณิสราขอโทษทรรศิกา ที่เป็นต้นเหตุเรื่องทั้งหมด ทยุติธรสั่งให้ ธารเทพ รีบนำตัวรังสิมันต์ ไปให้แพทย์ของพันธุรัฐ รักษาทันที แพทย์จากกาสิก และมาลัย(รัญญา) ตามมาสมทบ มาลัยร้องไห้ เป็นห่วงรังสิมันต์มาก รังสิมันต์เสียเลือดมาก จนสุดท้าย ทยุติธรต้องถ่ายเลือด เพื่อช่วยชีวิตรังสิมันต์ ทรรศิกาคอยดูแลไม่ห่าง


        รังสิมันต์ฟื้นในที่สุด ทุกคนดีใจมาก ราชิด เบนลี มาลัย ขอร้องให้ทรรศิกา กลับไปอยู่กับรังสิมันต์ที่กาสิก ราชิดล้มป่วย เพราะแผลอักเสบ ที่เกิดจากการต่อสู้ กับคนร้าย กระวาน(มะปราง วิรากานต์) ร้องไห้เสียใจใหญ่ กลัวราชิดจะตาย ยังไม่ทันที่รังสิมันต์จะหายดี วายุ(เมธัส) กับชยารพี(ณัฎฐพชร์) ก็หนีออกจากคุก วายุมาลอบฆ่ารังสิมันต์ แต่รังสิมันต์รู้ตัวก่อน ทยุติธร ราชิด เบนลี รีบเข้ามาช่วย มณิสราให้ส่งตัววายุและชยารพี ไปรับโทษที่ทานตะ


       รังสิมันต์ อาการดีขึ้นมาก มณิสรา ขอโทษรังสิมันต์ ที่เป็นต้นเหตุ ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวาย รังสิมันต์ ไม่ถือโทษเรื่องที่มณิสรา ที่ไม่เต็มใจแต่งงานกับเขา เพราะเขาเองเข้าใจดีว่า การแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักนั้นทุกข์ทรมานเช่นใด ที่สำคัญ รังสิมันต์เอง ก็ดีใจ ที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดทรรศิกา จากเหตุการณ์ครั้งนี้ รังสิมันต์ขอให้เขาได้เป็นพี่ชายของมณิสรา ไม่ว่าจะเกิดเรื่องใดที่ทำให้มณิสราไม่สบายใจ ขอให้เขาได้ดูแลมณิสรา เยี่ยงน้องสาวตลอดไป มณิสราปลื้มใจมาก ข้อผูกพัน เรื่องการหมั้นหมาย หมดสิ้นกันนับตั้งแต่บัดนี้ ทยุติธร ดีใจมากที่เรื่องราวจบลงด้วยดี เขาขอมณิสราแต่งงานทันที ทั้งสองกอดกันมีความสุข

      ทหารของพระเทวี(จินตหรา) มาบอกกับทรรศิกา และทยุติธรให้กลับไปที่วังพันธุรัฐด่วน เพราะกลาโหม(กลศ) ทูลกับพระเทวี ว่าทรรศิกา ถูกรังสิมันต์จับตัวไป

      รังสิมันต์ และทรรศิกา จำใจต้องแยกจากกัน เพื่อกลับบ้านเมืองของตน ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทั้งสองสัญญา ว่าจะกลับมาพบกันให้เร็วที่สุด ทรรศิกา กลับถึงวังที่พันธุรัฐ พระเทวี ดีใจมากที่ได้พบทรรศิกา ทยุติธร และมณิสรา ขอโทษพระเทวี และทั้งคู่จะกลับไปที่ทานตะ ต่อสู้เพื่อความรัก และเผชิญกับความจริงทั้งหมดที่ต้องได้รับ

ทานตะ
      ทูตพันธุรัฐ(มาตรา) นำตัว ชยารพี และวายุ กลับมาที่ทานตะ พร้อมทั้งนำจดหมายของรังสิมันต์ เล่าเรื่องราวเลวร้าย ที่วายุ และชยารพีทำขึ้นที่พันธุรัฐ และกาสิก แต่เจ้าหลวง(เป็ด เชิญยิ้ม) กลับไม่เชื่อ ยังคงฟังคำยุยงของวายุ และชยารพี ว่ารังสิมันต์ เป็นคนโหดเหี้ยม ไม่ยอมแต่งกับชยารพี ซ้ำยังกักขังตัวทรรศิกาไว้อีก เจ้าหลวงสั่งขังคุกทูตของพันธุรัฐทันที

 

 

เรื่องย่อ ดั่งดวงหฤทัย ตอนที่ 13 วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน 2563

ทานตะ
          ทยุติธร(ฐากูร) และมณิสรา (มทิรา) กลับมาที่ทานตะ เล่าความจริงทุกอย่างให้เจ้าหลวง(เป็ด เชิญยิ้ม) ฟังจนหมดสิ้น เจ้าหลวงอับอาย ที่มณิสรากับรังสิมันต์(เจษฎาภรณ์) ถอนหมั้นกัน แต่มณิสราบอกว่า รังสิมันต์ รับตนเป็นน้องสาว ที่สำคัญ ทยุติธร บอกว่า ในไม่ช้า จะมีพิธีบรมราชาภิเษกกษัตริย์แห่งพันธุรัฐ หลังจากนั้น เขาจะขอแต่งงานกับมณิสราต่อไป
ทยุติธนส่งภาพวาดที่ตนช่วยเหลือรังสิมันต์ไว้ และยืนยันรังสิมันต์เป็นคนดี ขอให้สามแคว้นเป็นหนึงเดียวกัน แต่ชยารพี(ณัฎฐพัชร์) และวายุ(เมธัส) ทำให้ทุกคนแตกแยก สุดท้ายจึงถูกจับตัวไปลงโทษต่อไป

กาสิก
          ในที่ประชุม รังสิมันต์ ประกาศ ยกเลิกการหมั้นหมายกับมณิสรา ทหารหลายฝ่ายไม่เห็นด้วย หาว่าทานตะหยามเกียรติกาสิก และพันธุรัฐเอง ก็หยามเกียติ ด้วยการชิงตัวมณิสราไป ทหารอยากให้ทำสงคราม แต่รังสิมันต์ยืนยัน จะไม่ยอมรบ แต่จะใช้วิธีทางการทูตแทน เพราะเลือดในตัวของเขาครี่งหนึ่ง เป็นของทยุติธร เลือดของพันธุรัฐ รังสิมันต์ จะไม่ยอมทรยศต่อความดีเป็นอันขาด

พัชรธาร(รินลณี) มาหาเจ้าหลวงที่กาสิก ในที่ประชุม ขอให้เจ้าหลวงรังสิมันต์ เป็นผู้นำในการรวมแคว้น กาสิก พันธุรัฐ และทานตะ อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ทำให้เหตุการณ์คลี่คลาย ได้ในที่สุด พัชรธารขอให้เจ้าหลวงเป็นที่พึ่งของราษฎรไปตราบนานเท่านาน หลังจากประชุมเสร็จ อาการป่วยของรังสิมันต์ก็กำเริบ เขากลัวว่า จะไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าทรรศิกาอีก จึงรีบเดินทางไปพันธุรัฐ ทันที


พันธุรัฐ
       รังสิมันต์ เดินทางไปพันธุรัฐ เมื่อถึงที่นั่นอาการป่วยก็กำเริบหนัก ทรรศิกา(คิมเบอร์ลี่) ให้หมอหลวงมารักษา พระเทวี(จินตหรา) มาเจอ โกรธมากที่รังสิมันต์ ลอบมาพบกับทรรศิกา แต่รังสิมันต์บอกว่าเขารักทรรศิกาด้วยใจจริง และขอแต่งงานกับทรรศิกา พระเทวีบอกให้หมอหลวงรีบรักษารังสิมันต์ให้หายโดยเร็ว ทันงานราชาภิเษกของทยุติธร

       วันงานราชาภิเษกมาถึง ทยุติธรได้ขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งพันธุรัฐ เจ้าหลวงรังสิมันต์ มาพร้อมกับ ราชิด(ฉันธนะ) เบนลี(พิเชษฐไชย) นำเพชรกาสิกมาถวาย พร้อมขออนุญาติ แต่งงานกับทรรศิกาอย่างเป็นทางการ พระเทวีเห็นแก่ความจริงใจที่รังสิมันต์มีต่อทรรศิกา จึงไม่ขัดข้อง งานแต่งงานของทรรศิกา และเจ้าหลวงรังสิมันต์ จึงถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ และสมพระเกียรติ
ทยุติธร ได้แต่งงานกับมณิสรา ส่วนรังสิมันต์ พาทรรศิกา ไปไหว้สุสาน ของพ่อและแม่ของเขาที่กาสิกอีกครั้ง ทรรศิกาได้เป็นราชินีแห่งกาสิก อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข กับเจ้าหลวงรังสิมันต์ตลอดไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

>> บุกเบื้องหลัง!! งานเปิดตัว ดั่งดวงหฤทัย ส่องลุคสวยหล่อ ติ๊ก-คิมเบอร์ลี่

>> จัดทัพออกรบ!! เปิดผังละครเดือน มีนาคม 2563 ช่อง 3 จัดเต็มพร้อมโกยเรตติ้ง

>> เปิดโผละครปี 2563!! แต้ว-เจมส์จิ ผนึกกำลังกู้เรตติ้ง ช่อง 3 เผยทีเด็ดละคร 8 เรื่อง ห้ามพลาด