เรื่องย่อ ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง ช่อง 3HD (ตอนจบ)
เรื่องย่อละคร ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง ช่อง 3HD ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา15.00-16.30 น. เริ่มวันศุกร์ที่ 23 กันยายน 2565 นำแสดงโดย “มาริโอ้ เมาเร่อ” และ “คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ” “ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง” ละครแนวพีเรียด-คอมเมดี้ กลับมาลงจอให้รับชมกันอีกครั้ง หลังจากที่เคยสร้างความสนุกสนาน และให้ความรู้เรื่องยาสมุนไพรกับผู้ชม ทั้งยังได้กระแสตอบรับจากผู้ชมในไทยและต่างประเทศอย่างล้มหลาม จนผู้จัดละคร “ชุ ชุดาภา จันทเขตต์” และ “ก้อง ปิยะ” จากค่าย โซนิกซ์ บูม 2013 ได้จับคู่ “มาริโอ้-คิมเบอร์ลี่” อีกครั้งในละคร “หมอหลวง”
ตัวอย่างละคร
เรื่องย่อละคร ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง ช่อง 3HD
การเป็นหมอที่ดี คือคำนึงถึงคนไข้ ไม่ว่ายาไทย หรือยาเทศ ถ้าทำให้คนป่วยหายได้รักษาชีวิตไว้ได้ ยานั้นย่อมมีสรรพคุณที่ดี ไม่มีแบ่งแยกว่าอะไรวิเศษไปกว่ากัน
พุทธศักราช ๒๔๑๙ ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทองเอก หรือเจ้าเอก ถือกำเนิดมา ณ มณฑลกรุงเก่า ในครอบครัวของหมอยาที่สืบเนื่องวิชาแพทย์แผนไทยโบราณมาแต่ครั้งอยุธยายังเป็นราชธานี แต่เมื่อถึงวัยเพียง ๘ ขวบ โรคร้ายก็มาคร่าชีวิตของพ่อกับแม่ที่ยอมเอาตัวเข้าเสี่ยงในฐานะหมอยา เพื่อรักษาคนไข้โรคห่า (กาฬโรค) ที่กำลังระบาดหนักอยู่ในขณะนั้น ทิ้งเจ้าเอกที่ถูกแยกตัวให้ไปอยู่กับปู่ต้องเป็นกำพร้าแต่นั้นมา
พ่อหมอทองอิน ปู่ของทองเอก เคยเป็นหมอยาชื่อดัง แต่ครั้งหนึ่งขุนนางใหญ่แห่งกรุงเก่าได้สั่งให้ปู่รักษาลูกที่โดนหมาบ้ากัด ปู่ทองอินรักษาอย่างสุดกำลังก็ไม่อาจยื้อชีวิตของเด็กน้อย หมอยาคู่แข่งของปู่ยุยงจนขุนนางนั้นโกรธแค้นว่าปู่รักษาไม่ดี เนรเทศปู่ไม่ให้รักษาใครอีก ปู่ทองอินไม่ได้เกรงกลัวอะไรแต่รู้สึกเสียใจที่ทำให้เด็กตาย จึงย้ายมาอยู่บ้านท่าโฉลงอันไกลแสนไกลพร้อมกับวัยของทองเอกที่กำลังเป็นหนุ่มหน้ามน มีความซุกซน และรักสนุก โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง
ด้วยจรรยาแพทย์ที่มีอย่างท่วมท้น ปู่หมอทองอินก็ไม่อาจเพิกเฉยเมื่อเห็นชาวบ้านที่น่าสงสารเจ็บป่วย ปู่ยื่นมือเข้าช่วยโดยได้รับการสนับสนุนจากหลวงตาเพชร ผู้เป็นที่เคารพนับถือประหนึ่งศูนย์รวมใจของชาวบ้าน หลวงตาส่งลูกศิษย์วัดคือ เปียก กับตุ่น มาศึกษาตำรายาของปู่หมอทองอิน คู่กับทองเอก ปู่หวังว่าจะช่วยทำให้ผู้คนในบ้านท่าโฉลงสุขภาพแข็งแรง จะได้เกิดปัญญา อยู่ในศีลในธรรม แต่มันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะคนในชุมชนบ้านท่าโฉลงมีความเชื่อในภูติผีอยู่เป็นทุน และยังมีหมอผีเล่นอาคมได้ครอบงำจิตใจชาวบ้านจนแยกแยะไม่ได้ระหว่างศรัทธากับงมงาย
มีตำนานเล่าขานสืบกันมาว่าตรงท่าโฉลงนี้คือที่เอาศพลงทิ้งน้ำ คนจึงกลัวฝังใจไม่ใคร่จะมีคนกล้าย้ายมาอยู่จนกลายเป็นหมู่บ้านเงียบ ๆ เหงา ๆ ไม่ครึกครื้นเหมือนใครเขา ตกเย็นก็พากันปิดบ้านหนีผี มีแต่ความเงียบ ไม่มีใครกล้าออกมาเดินเพ่นพ่าน ทองเอก เปียก และตุ่น หนีปู่ไปเที่ยวซุกซน จนไปเจอกับผีปอบ (คนป่วย) ต้องหนีกันวุ่นวาย พอเช้ามาทองเอกก็ยังมาได้เห็นวิธีการไล่ผีอันแสนทารุณของหมอผีมั่นอีกด้วย
"กรี๊ดดด" "อีผีร้าย มึงออกไปจากร่างของเด็กสาวประเดี๋ยวนี้" หมอผีมั่นฟาดหวายอาคมไปที่สาวน้อย ยิ่งสาดน้ำมนต์ใส่นางก็ยิ่งตัวสั่น ยิ่งสั่นหมอผีก็ยิ่งฟาด ยิ่งฟาดนางก็ยิ่งกรี๊ดจนเป็นลมไป "ผีออกแล้ว" ผู้คนแซ่ซ้องสรรเสริญความเก่งกาจของหมอผีมั่น แต่ทองเอกอดรนทนไม่ได้ตะโกนบอกว่าเด็กสาวเป็นเพียงไข้สูงกำลังเพ้อ มาโดนน้ำแบบนี้จะยิ่งไปกันใหญ่ ชาวบ้านส่วนใหญ่ตกใจว่าทองเอกลบหลู่วิญญาณ แต่ก็มีบางคนเห็นคล้อยตามทองเอก ทำให้หมอผีมั่นโกรธจัดประกาศตัวเป็นศัตรูกับทองเอกแต่นั้นมา
ท่านขุนกสิกรรมบำรุง ขุนนางที่ยศใหญ่สุดในตำบล มีคุณนายสายหยุด ภรรยาหลวง และแม่เอื้อน เป็นภรรยารอง ทั้งสองต่างเป็นลูกศิษย์ที่แอบมาให้แม่หมอมั่นทำเสน่ห์ให้ขุนหลวงรักหลงด้วยกันทั้งคู่ คุณนายสายหยุดเคยเป็นพนักงานอยู่ในวังเจ้านาย เลยถือตัวเองว่าเป็นชาววัง มีความเจ้าระเบียบจู้จี้จุกจิก คุณนายมีลูกสาวกับท่านขุนชื่อชบา สายหยุดอบรมสั่งสอนชบาอย่างเคร่งครัดจนเชื่อว่าลูกเป็นกุลสตรีเรียบร้อยดั่งผ้าพับไว้เป็นที่ชื่นใจแก่บิดามารดา แต่หารู้ไม่ว่าลับหลังแล้ว ชบามีนิสัยแก่นแก้วโลดโผนเกลียดการนั่งนิ่งทำงานฝีมือเป็นที่สุด ชบาเป็นคนฉลาดรอบรู้ รักการผจญภัย สนใจใฝ่ศึกษา ต่างจากหญิงอื่นในสมัยนั้น ลับหลังพ่อแม่ชบาจะออกไปเที่ยวเตร่ซุกซน จนได้ปะทะฝีปากกับกลุ่มทองเอก เปียกและตุ่น ทองเอกทั้งทึ่ง ทั้งขยาดกับชบาที่ดูฉลาดรู้ทัน ไม่มีเขินอายลดราวาศอกให้ผู้ชายเหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ทั้งที่หน้าตาก็สะสวย แต่จะให้ทองเอกชอบอย่างคู่รักเห็นจะเป็นไปไม่ได้ เพราะชบาดูกล้าแกร่งเกินหญิง ส่วนชบาอยากศึกษาวิชาหมอยาจากปู่ทองอินจึงเพียรมาฝากตัวเป็นศิษย์ ชบาแอบชื่นชมทองเอกที่รอบรู้ฉลาดเฉลียวเรื่องยา แต่จะให้แสดงออกว่าชอบทองเอก ชบาทำไม่เป็นและไม่คิดจะทำ
ภรรยาคนที่ ๒ ของท่านขุนที่ชื่อแม่เอื้อน เข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับคุณนายสายหยุด เพราะต่างคนต่างแอบมั่นใจว่ามีมนตร์ดำยาเสน่ห์มัดใจสามีได้มากกว่าอีกฝ่าย หารู้ไม่ว่าที่ท่านขุนไม่ออกลายเพราะเห็นเมียทั้งสองกลมเกลียวสามัคคีกันเป็นพลังงานคูณสอง ท่านขุนจึงกลัวจะพลาดโดนรุม แม่เอื้อนมีลูก ๒ คน ลูกชายคนโตชื่อนายเพิ่ม หน้าตาคมเข้มแต่จิตใจอ่อนโยนและกิริยาออกจะนุ่มนวลกว่าชบาด้วยซ้ำ เพิ่มมีน้องสาวอายุ ๑๐ ขวบ ชื่อรำเพย รายนี้ก๋ากั่นเหมือนชบา เป็นพี่สาวน้องสาวคู่หูสนิทสนมกลมเกลียวยิ่งกว่าพี่น้องท้องเดียวกันบางคู่ เวลาหนีเที่ยวก็ชวนกันไป ลำบากมาถึงเพิ่มที่ต้องคอยตามไปดูแล ๒ สาวที่ลับหลังพ่อแม่จะแก่นเป็นม้าดีดกะโหลกอยู่เสมอ
ทองเอกช่วยรักษาหญิงสาวที่มีสภาพป่วยเหมือนผีปอบ หายดีจนกลับกลายเป็นสาวงามมีนามว่าผ่อง ซึ่งความจริง ผ่องคือลูกสาวของแม่หมอผีมั่นที่รักษาลูกตัวเองไม่ได้ จึงเอาลูกมาไว้ในที่สันโดษ เพราะกลัวคนจะรู้ และหมดศรัทธา เมื่อผ่องหายดี แม่หมอผีมั่นจึงดีใจ เอาลูกกลับไป และอยากให้แต่งงานกับผู้ชายรวย ๆ ผ่องเป็นคนสวย แต่ก็หัวอ่อนไม่ใคร่จะขัดใจแม่ ลึก ๆ เองแล้ว ผ่องก็มีความทะเยอทะยาน อยากจะสุขสบาย เพราะเข็ดกับความลำบากในยามที่แม่ทิ้งจนเกินทน แรกเริ่ม ทองเอกมีความชอบในตัวผ่อง ทั้งสองมีใจให้กัน แต่ต่อมา ทองเอกจึงรู้ว่าผู้หญิงที่คอยกวนใจ คอยวุ่นวายกับเขาตลอดเวลาอย่างชบาต่างหาก ที่เขามีความรักให้อย่างแท้จริง
เรื่องราวในชุมชนบ้านท่าโฉลง ที่ทองเอก ชบา และทุกคนต้องเจอ ทั้งเรื่องผีสางที่โดนหลอกกันจนต้องกลับมาให้หลวงตารดน้ำมนต์ ปู่หมอไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง แต่หลวงตาหากลวิธีรอมชอม ด้วยการเอายาไปแจกจ่ายชาวบ้านแถมผ้าห่มลงยันต์จากหลวงตา เพราะการแพทย์แผนไทยนั้นไม่ได้รักษาแค่ร่างกายแต่ฝ่ายเดียว แต่ดูแลไปถึงจิตใจด้วย ชาวบ้านเองก็ยังมีความเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ ถ้าไม่ได้ของขลังก็จะไม่รู้สึกว่าหายดี เดี๋ยวก็ต้องไปพึ่งหมอผีอีก เลยต้องอาศัยพุทธคุณมาร่วมด้วยช่วยกัน ส่วนตัวยาแม้จะเป็นยาจริง ๆ ก็ให้บอกว่าเป็นยาผีบอกเพื่อความเข้มขลัง
ทองเอกเอายามาแจกถึงบ้านท่านขุน ชบาที่กำลังอยากหนีออกข้างนอกอยู่พอดีเลยได้โอกาส ทำอุบายหลอกพ่อแม่ว่าสาวใช้ป่วยจะส่งไปรักษาที่บ้านทองเอก พอถึงเวลาทองเอกจะกลับ ชบาก็เอาผ้าคลุมหน้าปลอมเป็นสาวใช้เดินตามทองเอกออกจากบ้านไปด้วย พอมาถึงกลางทาง ทองเอกจับได้ว่าเป็นชบาปลอมตัวออกมาก็จะลากตัวไปส่งบ้าน แต่มีหรือชบาจะยอมง่าย ๆ จนทองเอกต้องเป็นฝ่ายยอมแทน
ทองเอกได้มาเจอกับผ่องอีกครั้ง หลังจากที่ผ่องหายไป แต่เจอในฐานะลูกสาวของหมอมั่นที่สวยหยาดเยิ้ม ทองเอกดีใจรีบตรงเข้าไปหา แต่ก็ได้แค่เพียงเห็นหน้ายังไม่ทันได้พูดจากัน ทองเอกกับเพื่อนก็โดนหมอผีไล่ตะเพิด ทองเอกกับพวกทนถูกไล่เหมือนหมูเหมือนหมาไม่ไหวต้องล่าถอยกลับไป ผ่องอารมณ์เสียที่แม่เอาแต่คอยไล่ อย่างนี้แล้วเมื่อไหร่เธอจะมีผัวเป็นตัวเป็นตน ทีตอนเธอเน่าเหม็นไม่เห็นแม่จะเคยสนใจ หมอผีจึงเกลี้ยกล่อมสั่งสอนลูกว่า คนงามอย่างผ่องต้องได้เนื้อคู่ที่สูงส่งจึงจะเหมาะสมกัน ให้รอไปก่อน แต่ตอนนี้ต้องมาช่วยแม่กอบกู้หน้าคืน หมอผีมั่นวางแผนเพื่อจะทวงศรัทธาชาวบ้านคืนมาให้ได้ จากที่โดนพวกทองเอกหักหน้าไปคราวก่อน
ที่ท่าน้ำ เพิ่มกับรำเพยตามมาเจอชบาที่ออกมาเที่ยวตลาด ชบากำลังตื่นเต้นกับรถถีบ (จักรยาน) ที่พ่อค้าเอาขึ้นเรือมาจากกรุงเทพฯ ขณะที่กำลังจะลองขี่ กล้าและกลิ่น ๒ พี่น้องลูกคุณนายกิ่งแข เศรษฐินีเจ้าของโรงสี ก็เข้ามา กล้าเป็นคนหล่อ มั่นใจ เรียนดี นักกีฬาบวกรวยเข้าไปอีก กล้าเลยติดจะขี้โอ่ คิดว่ารวยแล้วจะทำอะไรก็ได้ กล้าหลงรักชบา พยายามตามจีบมาตั้งแต่ชบาแตกเนื้อสาว แต่ชบาไม่มีวี่แววว่าจะรับรัก แถมบางครั้งยังกระทบกระเทียบเปรียบเปรยเอาเจ็บ ๆ ปวด ๆ แต่กล้าไม่เคยโกรธไม่เคยเข็ดหลาบ อาจจะเป็นเพราะฟังไม่เข้าใจหรือมั่นใจตัวเองจนไม่คิดว่าชบาจะปฏิเสธชายที่เพียบพร้อมอย่างเขาได้ ส่วนกลิ่น น้องสาวเป็นหญิงหงิม ๆ ซื่อ ๆ ติ๋ม ๆ ขี้อาย กลิ่นแอบชอบเพิ่มมาตั้งแต่เด็กแต่ก็ไม่เคยกล้าแสดงความในใจ เพิ่มเองก็ชอบกลิ่นอยู่เหมือนกัน แต่ความที่เป็นคนประเภทเดียวกัน ความรักของทั้งสองเลยไปไม่ถึงไหนเสียทีเพราะมัวแต่อายกันอยู่นั่นแล้ว มากสุดของสองคนคือพูดกลอนตอบโต้กันไปมา
ชบา และกลิ่น มีเพื่อนสนิทคือ ชงโค เป็นหญิงก๋ากั่น ตรงข้ามกับยุคสมัย ชอบอ้อล้อผู้ชาย ใจกล้า และยังเป็นกูรูคอยสอนชบาและกลิ่นให้เสริมมารยาหญิงให้ผู้ชายหลง สร้างความลำบากให้สาวห้าวอย่างชบา และสาวเรียบร้อยอย่างกลิ่นเป็นที่สุด
กล้าเห็นชบาชอบรถถีบ เลยอวดรวยตกลงซื้อทันทีด้วยเงินก้อนโต เป็นครั้งแรกที่ชบาแสดงความสนใจ ไม่ใช่สนใจกล้าแต่สนใจอยากลองหัดขี่รถถีบมากกว่า และยังแอบลองใช้วิธีชะม้ายชายตาที่ชงโคสอนกับกล้า เพราะอยากได้จักรยานจนกล้าเคลิ้ม
ท่านขุนและแม่สายหยุดต้องแปลกใจเมื่อชบาไม่เคยปฏิเสธเวลาถูกใช้ให้ไปธุระบ้านแม่กิ่งแข แถมยังหาเรื่องไปเองบ่อย ๆ อย่างผิดสังเกต จนท่านขุนและแม่สายหยุดมีหวังว่าจะได้กล้ามาเป็นเขย ท่านขุนดูสมใจมากเป็นพิเศษเพราะฐานะกำลังย่ำแย่ เหตุเพราะแอบไปเล่นการพนันแล้วเสียจนใกล้จะหมดตัว หากมีเขยมั่งคั่งอย่างกล้าคงจะช่วยกู้ฐานะเอาไว้ได้ ท่านขุนจึงเปิดโอกาสให้ชบาไปพบกล้าได้อย่างเต็มที่ ทองเอกเองเมื่อเห็นชบาสนิทสนมกับกล้าก็หงุดหงิดใจ บอกตัวเองว่าเพราะห่วงเพื่อนที่ไปคบกับคนไม่ดี เมื่อห้ามแล้วชบาไม่ฟัง ทองเอกก็ปล่อยไป คิดว่าชบาก็เห็นแก่เงินเหมือนคนอื่น ๆ คนที่ทองเอกสนใจตอนนี้จึงมีเพียงผ่อง คนสวยที่ต้องแอบลักลอบไปพบหลบซ่อนหมอผีมั่น ยิ่งได้เจอกันเพียงระยะเวลาสั้น ๆ ยิ่งเพิ่มความเร้าใจให้วัยหนุ่มยิ่งนัก
ครั้งหนึ่งเย็นย่ำใกล้ค่ำแล้ว ทองเอก เปียก และตุ่นจะไปช่วยงานจุลกฐินที่ต้องปั่นฝ้ายทอ ย้อมและเย็บให้เป็นผ้ากฐินภายในวันเดียว กลุ่มทองเอกมาเจอชบา เพิ่ม และรำเพย จึงออกเดินไปพร้อมกัน ระหว่างทางก็ได้ยินชาวบ้านร่ำลือกันถึงผีที่ทำให้เจ็บป่วยอีก ทองเอกไม่กลัวเรื่องโรคเพราะมียาป้องกัน แต่แล้วก็ได้เจอกับผีเข้าจัง ๆ ทั้งหมดแตกกระเจิงไปคนละทิศละทาง ทองเอกกับชบาจับคู่หนีไปด้วยกันทะเลาะกันไปตลอดทาง ฝั่งกล้ากับกลิ่นที่จะมางานเดียวกันก็เจอผีเหมือนกัน กล้าแบกจักรยานวิ่งหนีไปไม่ห่วงน้องสาวเลย ทิ้งให้กลิ่นนั่งร้องไห้ตัวสั่นอยู่คนเดียว พอดีกับเพิ่มวิ่งมาเจอกลิ่นจึงพากันหนี ทองเอกกับชบา และเพิ่มกับกลิ่นได้มีโอกาสร่วมทุกข์หนีผีด้วยกัน ห่วงใยกัน ได้ใกล้ชิดกันพอให้ใจเต้นหวั่นไหว แต่ขณะนั้นต้องหาทางเอาตัวรอดจากผีร้ายที่ทองเอกไม่แน่ใจว่าจะใช่ผีจริงหรือไม่ มีความรู้สึกกล้า ๆ กลัว ๆ อยากจะพิสูจน์แต่ผีก็หายไปอย่างลึกลับ ทิ้งปริศนาไว้ให้ชวนขบคิด
วันต่อมา หมอผีมั่นเอาของขลังมาแจกจ่ายชาวบ้าน แถมยังบอกว่ายาของทองเอกกินไปก็กันผีไม่ได้ และเมื่อชาวบ้านโดนผีหลอกแล้วเอาของขลังออกมา ผีก็หนีหายไปจริง ๆ ชาวบ้านจึงหันกลับมาศรัทธาหมอผีมั่นอีกครั้ง ทองเอก เปียก และตุ่นช่วยกันสืบโดยเข้าไปคลุกคลีกับผ่องเพื่อล้วงความลับ ทองเอกถือโอกาสจีบผ่องไปด้วย ทำเอาชบาอดขวางหูขวางตาด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้
เมื่อสืบไปได้สักพัก ทองเอกก็ได้รู้ความจริงว่าผีที่ออกอาละวาดเป็นคนของหมอผี แต่พอหลวงตาไปตักเตือนหมอผีมั่นว่าให้เลิกหลอกลวงชาวบ้านเสียที หมอผีมั่นกลับไม่ยอมรับแถมยังท้าทายให้หลวงตาหาหลักฐานมายืนยันกันต่อหน้า หากไม่มีจะถือว่าหลวงตาไม่มีความเที่ยงธรรม ทุกคนโกรธที่หมอผีมั่นจาบจ้วงหลวงตา แต่ยังหาหลักฐานชัด ๆ มามัดตัวหมอผีมั่นไม่ได้ จึงจำเป็นต้องยุติไปก่อน
วันหนึ่งนางกิ่งแข เศรษฐินีเจ้าของโรงสี เกิดป่วย หมอผีมั่นเอาของขลังคุณไสยไปลูบตามเนื้อตามตัวก็ไม่หาย เมื่อทองเอกรู้เรื่องก็เอายาไปให้ แต่ต้องเผชิญกับการดูหมิ่นดูแคลนของกล้า เพราะกล้าไม่ชอบหน้าทองเอก ทองเอกเลยฝากยาไว้กับกลิ่น ให้กลิ่นแอบผสมยาในอาหารให้กิ่งแขกิน ไม่กี่วันอาการของกิ่งแขก็ทุเลาลง หมอผีมั่นกลับยึดสมอ้างว่าเป็นฤทธิ์จากของขลังของตนเอง คราวนี้ยิ่งไปกันใหญ่ พอชาวบ้านป่วยก็พากันไปพึ่งแต่ของขลัง จนถึงตานางสายหยุด แม่ของชบา ป่วย ทองเอกร่วมมือกับชบาเพื่อให้แม่กินยาให้ได้ ทองเอกต้องไปบ้านชบาทุกวัน เกิดเป็นความใกล้ชิดเห็นอกเห็นใจกันโดยไม่รู้ตัว ชบาได้ฝึกความรู้เรื่องยาเพิ่มเติมจนสามารถปรึกษาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับทองเอกได้ ทองเอกสนุกกับการสนทนากับชบาเหมือนเพื่อนสนิท แต่ชบาไม่ได้ทำให้ทองเอกหวั่นไหวใจเต้นเลือดสูบฉีดแรงอย่างที่รู้สึกกับผ่อง ส่วนเพิ่มก็ออกจากบ้านไปเยี่ยมกลิ่นถึงที่บ้านทุกวัน จนกิ่งแขชักจะสงสัยเลยถามไปตรง ๆ ว่าเพิ่มรักกลิ่นใช่ไหม เพิ่มรีบปฏิเสธพัลวันด้วยความเก้อเขิน บังเอิญกลิ่นมาได้ยินตอนเพิ่มปฏิเสธทำให้กลิ่นเสียใจเป็นที่สุด
หมอผีมั่นทำตัวเป็นคู่แข่งขัดขวางการรักษาโรคด้วยยาสมุนไพรตำรับปู่หมอทองอินทุกวิถีทาง ศึกชิงศรัทธาเป็นไปอย่างดุเดือด แต่แล้วก็ถึงวันที่ผ่องล้มป่วย ทองเอก เปียก และตุ่นแย่งกันไปรักษา หมอผีมั่นกลัวจะเสียลูกไปต้องจำใจยอมให้มารักษา เพราะรู้ดีว่าของวิเศษของตนเองรักษาโรคไม่ได้ อาการของผ่องค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ ผ่องเริ่มมีใจเอนเอียงชอบทองเอกเพราะรักษาเก่ง ดูแลดี เปียกกับตุ่นทนไม่ได้เลยต้องหาทางลัดเพื่อให้ผ่องหันมาชอบบ้าง วิธีที่พอจะคิดออกคือเอาน้ำมันพรายมาดีดใส่ผ่องตามตำราทำเสน่ห์ที่เคยได้ยินมา แต่เรื่องนี้จะต้องแอบทำเพราะหลวงพ่อสั่งไว้นักหนาว่าห้ามยุ่งเกี่ยวกับไสยศาสตร์เด็ดขาด เปียกกับตุ่นนั้นเป็นคนปอดแหก แต่เพื่อผู้หญิงแล้วถึงกับยอมเข้าป่าช้าไปหาน้ำมันพรายเจอผีจริงผีปลอมเป็นที่โกลาหล พอได้น้ำมันพรายมาแล้วเอาไปดีดใส่ผ่องแต่ผ่องก็ยังไม่หันมาสนใจอยู่ดี แต่ตุ่นกับเปียกกลับจับไข้หนักเพราะออกไปวิ่งหนีผีมาทั้งคืน เสียเวลาเปล่าและยังเกือบเสียชีวิต
ทองเอกหายหน้าไป ไม่ได้มารักษาสายหยุดเพราะต้องดูแลทั้งผ่องและเปียกกับตุ่น และคิดว่าชบาดูแลแม่ได้เองแล้ว ชบาเป็นห่วงทองเอกจึงหาเรื่องสงสัยว่าทำไมแม่ยังอ่อนเพลีย ไอไม่หยุด แล้วมาตามทองเอก เลยได้รู้ว่าทองเอกมัวไปรักษาผ่องจนทิ้งแม่เธอ ชบาเกิดความหมั่นไส้แต่บอกตัวเองว่าไม่ได้หึงหวง แต่โกรธที่ทองเอกใจดำทิ้งคนไข้ได้ลงคอ ปู่ทองอินเองก็กำลังสงสัยว่าเหตุใดคนไข้หลายคนอย่างแม่สายหยุดและผ่องมีอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง ปู่หมอทองอิน ทองเอกและชบาช่วยกันวิเคราะห์และสรุปว่า ยาตัวอื่นรักษาไม่หาย ก็ต้องหาตัวยาสำคัญที่จะช่วยแก้อาการอ่อนเพลียบำรุงหัวใจที่หายากหาเย็นต้องข้ามน้ำไปหาแถวชายทะเล นั่นคือ อำพันทอง (ขี้วาฬ) ทองเอกอาสาจะไปหามา โดยมีชบาแอบติดตามไปด้วย
เมื่อชบาได้ใกล้ชิดทองเอกมาก ๆ เข้าก็ยิ่งรู้ตัวว่ารัก แต่ทองเอกหลงคิดว่าหัวใจของเขามีแต่ผ่อง แต่ทำไมเขากลับรู้สึกหวั่นไหวกับชบาได้ เพื่อกันไม่ให้ตัวเองหวั่นไหว และห่วงกลัวชบาเสียชื่อที่เดินทางกันเพียงลำพังสองต่อสอง ทองเอกบังคับให้ชบาแต่งเป็นชายและไม่ยอมนอนร่วมที่กับชบา แทนที่ชบาจะรู้สึกสบายใจกลับขัดเคืองที่ทองเอกไม่เคยหวั่นไหว ไม่มีใจให้ชบาเลย
ขณะที่ชบาหนีไปหาตัวยากับทองเอก ท่านขุนและแม่สายหยุดที่เพิ่งรู้ว่าลูกหายไปก็เดือดร้อนแทบลุกเป็นไฟ ปู่ทองอินพยายามชี้แจงว่าชบาทำไปด้วยความกตัญญู แต่ท่านขุนก็กลัวว่าชบาจะเสียชื่อที่ไปค้างอ้างแรมตามลำพังกับผู้ชาย กลัวว่าชบาจะขายไม่ออกเลยบีบบังคับให้ทุกคนปิดเป็นความลับ กล้าเห็นชบาหายไปก็มาหาถึงบ้าน แต่ท่านขุนให้ทุกคนโกหกว่าชบาป่วยเป็นโรคติดต่อ ห้ามเยี่ยมสักพัก เมื่อกล้ายืนยันจะพบก็ขอให้ชงโคคลุมหน้าคลุมตาสวมรอยทำเป็นป่วยแทน กล้าถือโอกาสจับไม้จับมือ ชงโคก็ไม่บ่ายเบี่ยง แถมมีปฏิกิริยาโต้ตอบ ทำให้กล้ามั่นใจว่าชบาคงมีใจให้เขาเป็นแน่
ทองเอกและชบา ได้มีโอกาสช่วยเหลือคนป่วยระหว่างทาง โดยมีชบาเป็นลูกมือ จนชาวบ้านคิดว่าเป็นผัวเมียที่เหมาะสมกันมาก และชาวบ้านยังพาไปหาขี้วาฬ ที่มักจะถูกพัดมาเกยหาดจนพบ ทองเอกกับชบาได้ตัวยาสำคัญกลับมา ทองเอกรีบปรุงยาเอาไปให้ผ่อง ยิ่งเพิ่มความน้อยใจให้ชบา เธอบอกตัวเองให้ตัดใจจะไม่สนใจทองเอกอีกต่อไป ชบาใช้เวลาดูแลแม่สายหยุดจนทุเลา เมื่อแม่สายหยุด เมียหลวง หายจากไข้ ท่านขุนก็กลับไปเข้าบ่อนอีก แต่คราวนี้โชคร้ายเสียหนักถึงขั้นหมดเนื้อหมดตัว แต่จะบอกลูกเมียไม่ได้ ท่านขุนเลยรวบรัดไปคุยกับกิ่งแขว่าจะยกชบาให้โดยหวังจะเอาค่าสินสอดมาใช้หนี้พนัน แม่กิ่งแขไม่ปฏิเสธ เห็นดีเห็นงามด้วยเพราะกล้ามาบอกไว้แล้วว่าให้แม่ไปขอชบา ชบารู้เรื่องว่าจะถูกจับแต่งกับกล้าในยามที่กำลังน้อยใจทองเอกก็ประชดว่ายังไงก็ได้
กล้าไปหาหลวงปู่ให้ช่วยผูกดวงของเขากับชบา แต่หลวงปู่ไม่รับทำ กล้าเลยไปหาหมอผีมั่น ทำให้ได้พบกับผ่อง ผ่องเห็นกล้ามั่งคั่ง ดูดีแถมมีจักรยานขี่ก็เกิดชอบ หว่านเสน่ห์จนกล้าอดเคลิ้มตามไม่ได้ หมอมั่นเห็นว่ากล้าคือผู้ชายที่เหมาะสมกับลูกรัก จึงนัดให้กล้ามาใหม่ในวันรุ่งขึ้นพร้อมกับแม่กิ่งแข แล้วแกล้งบอกว่าดวงกล้ากับชบาเป็นกาลกิณีกัน ทำเอาแม่กิ่งแขตกใจลังเลที่จะไปสู่ขอชบา หมอผีมั่นพยายามสอดแทรกชี้ช่องว่า ผู้ที่เหมาะสมกับกล้าคือคนที่มีลักษณะตรงกับผ่อง และอยู่ในทิศที่ผ่องอาศัย ท่านขุนรู้เรื่องรีบหาทางแก้ไขให้ทำพิธีสะเดาะเคราะห์แสดงออกชัดแจ้งว่ายังไง ๆ ก็จะยกชบาให้เป็นเมียของกล้าแน่นอน
หลังจากที่ได้พบกับกล้า ผ่องก็เลิกสนใจทองเอกถึงขั้นออกจะรำคาญเสียด้วยซ้ำ เลยบอกทองเอกไปว่าอยากได้จักรยานอย่างที่กล้าขี่ ถ้าหามาให้ได้จึงจะรับรัก ทองเอกจนปัญญาไม่รู้จะไปหาจักรยานมาจากไหน ขณะที่ปลีกตัวออกห่างทองเอก ผ่องก็หาโอกาสพบกับกล้าและใช้เสน่ห์เล่ห์มารยาหญิงล่อให้กล้าเคลิบเคลิ้ม ซึ่งก็ดูจะได้ผล กล้าเกิดสองจิตสองใจ เสียดายชบาแต่ขณะเดียวกันก็อยากได้ผ่อง กล้าหวังจะครองเสียทั้งสองคน กล้าเทียวไปหาชบาบ่อย ๆ ชบารู้ทันว่ากล้าไปติดพันผ่องอยู่ก็นึกรังเกียจจนสุดทน ชบาปรึกษากับเพิ่มและรำเพยว่าไม่ต้องการแต่งงานกับกล้า รำเพยคิดแผนให้ชบาล้มป่วยจะได้เลื่อนการแต่งงานออกไป และถ้ายิ่งเป็นโรคร้ายแรงกล้าอาจเปลี่ยนใจไม่อยากแต่งเลยก็ได้
วันรุ่งขึ้นชบาแกล้งป่วยนอนซม ท่านขุนตามทองเอกมาดูอาการ เป็นที่น่าประหลาดใจที่ตรวจแล้วไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ แต่ชบาบ่นปวดนู่นปวดนี่ไปทั้งตัว ปู่ทองอินมาตรวจก็หาสาเหตุไม่ได้ เลยตามหมอมั่นมาดูอาการ หมอมั่นบอกไปว่าโดนของเข้าตัวแต่แก้ไม่ได้เพราะของเขมรแรงมาก ถ้าใครแต่งงานด้วยคู่สมรสก็จะโดนของไปด้วย ที่หมอมั่นว่าไปอย่างนั้นเพราะอยากให้กล้าได้กับผ่อง ลูกสาวตนเอง ท่านขุนประกาศว่าถ้าใครรักษาชบาหายขออะไรก็จะยกให้ ทองเอกเหลือบไปเห็นจักรยานของกล้าที่เอามาให้ชบาจอดอยู่ เลยรับปากว่าจะรักษาชบาให้หายโดยขอค่าตอบแทนเป็นจักรยานคันนั้น พอชบารู้ว่าทองเอกอยากได้จักรยานเพราะจะเอาไปให้ผ่องก็เจ็บใจ ตั้งใจจะแกล้งป่วยไปเรื่อย ๆ ไม่ยอมหาย
ทองเอกมุ่งมั่นหาทางรักษาชบาด้วยความตั้งใจ ชบาเคลิ้มไปคิดว่าทองเอกเป็นห่วง แต่เปล่าเลยทองเอกแค่อยากได้จักรยานเอาไปให้ผ่อง ฝ่ายเปียกกับตุ่น ตอนที่ทองเอกกำลังยุ่งกับการรักษาชบาก็ไปเข้าทางไสยศาสตร์เพื่อให้ผ่องหันมาสนใจพวกตนบ้าง ส่วนผ่องก็หาโอกาสไปอ่อยกล้า ส่วนกล้าก็แวะเวียนมาเยี่ยมชบาด้วยความเสียดาย ความรักพันกันยุ่งอีนุงตุงนังไปหมด ระหว่างที่คนอื่นกำลังชุลมุนวุ่นรักกันอยู่นี้ มีคู่หนึ่งที่กะหนุงกะหนิงไม่ต้องแย่งกับใครคือเพิ่มกับกลิ่น ที่จับคู่หวานแหววเหมือนจะไปได้ด้วยดี แต่ก็ติดที่ทั้งสองเป็นคนเหนียมอาย ไม่มีใครกล้าบอกรักกันตรง ๆ สักที
ทองเอกจับได้ว่าชบาแกล้งป่วยเลยจะแฉ แต่ชบารู้ว่าทองเอกต้องการจักรยานไปให้ผ่อง หากทองเอกแพร่งพรายจะอดได้ ทองเอกเลยต้องร่วมมือ แต่ก็แปลกใจตัวเองว่ายิ่งได้อยู่ใกล้ชบา ความอยากได้จักรยานคันนั้นยิ่งลดน้อยลงทุกที แอบร่วมมือด้วยความเต็มใจไม่อยากให้ชบาได้แต่งงานกับกล้า ทองเอกไม่รู้เลยว่าแม้จะได้จักรยานไปให้ผ่อง ผ่องก็ไม่นำพาอีกต่อไป เพราะขณะนี้ผ่องได้ครอบครองตัวกล้า และต่อไปจะครอบครองสมบัติของกล้าซึ่งมีค่ากว่าจักรยานคันเดียวหลายเท่า
กล้าเห็นทองเอกใกล้ชิดกับชบามากขึ้นก็หาทางกำจัด โดยการแข่งขันรักษาคนกับหมอฝรั่ง คนไข้ของทองเอกอาการทรุด ทองเอกถูกจับข้อหาหลอกลวงประชาชน เคราะห์ซ้ำ ปู่ทองอินล้มป่วยลงอีกคน ทองเอกหนีคุกออกมารักษาปู่ พอใกล้รุ่งก็กลับเข้าคุก ด้วยความช่วยเหลือของชบา ยิ่งทำให้ใกล้ชิดผูกพันเห็นน้ำใจกันแน่นแฟ้น เปียกกับตุ่น ช่วยกันรักษาคนไข้คนนั้นต่อมาโดยมีชบาช่วยอยู่เบื้องหลังจนหาย ทำให้ทองเอกพ้นข้อหาได้ออกจากคุก
ตอนที่ชบาไปช่วยเปียกกับตุ่น ท่านขุนจับได้คาหนังคาเขาว่าชบาแกล้งป่วยเพื่อหนีการแต่งงาน ท่านขุนโกรธมาก บังคับให้ชบาแต่งงานกับกล้าทันที โดยไปขอให้เจ้านายพระองค์หนึ่งเสด็จเป็นประธานในพิธี ทำให้แม่กิ่งแขเองก็ปฏิเสธไม่ได้ ทองเอกที่เพิ่งพ้นโทษออกมารู้ข่าวชบาต้องแต่งงานแน่ก็ใจหายอกหักสิ้นหวัง ทองเอกรู้ตัวแล้วว่าที่ผ่านมาชบาคือหนึ่งเดียวในหัวใจมาโดยตลอด ผ่องเป็นเพียงความหลงใหลชั่วครู่ แต่จะให้ชบามาอยู่กับหมอขี้คุกยากจนอย่างเขาได้อย่างไร ก่อนวันแต่งหนึ่งวันชบาเกิดอาการหอบหืดขึ้นมากะทันหัน ท่านขุนไม่เชื่อหาว่าแกล้ง ทองเอกมาดูอาการเห็นว่าชบาป่วยจริงด้วยความเครียด ต้องรักษาด้วยการสูบยา แต่ชบาสูบไม่เป็น ทองเอกต้องสูบแทนแล้วเป่าผ่านกระบอกไม้ไผ่เล็ก ๆ เหมือนหลอดเข้าสู่ปากชบา สายตาที่ทองเอกมองชบาเมื่ออยู่ใกล้ชิดถึงเพียงนั้นเปิดเผยทุกสิ่งที่อยู่ในหัวใจ ชบาโผเข้าสู่อ้อมแขนของทองเอกแล้วร้องไห้ออกมา หมดหนทางที่จะแก้ไข ทองเอกกับชบาคงไม่ได้เกิดมาคู่กัน
ผ่องสุดทนที่กล้าจะแต่งงาน ออกมาแฉว่ากล้าได้เสียกับเธอแล้ว กล้าต้องรับผิดชอบ รับผ่องเป็นเมียจัดการตกแต่ง แต่แม่กิ่งแขไม่ยอมรับ กล้าที่นั่งอยู่กับแม่ดันเกลี้ยกล่อมให้ผ่องยอมรับการเป็นเมียรอง ทำให้ผ่องโกรธแค้น เมื่อเจ้านายเสด็จมาเป็นประธานพิธีแต่งงานระหว่างกล้ากับชบา ผ่องเข้าขวางรถม้า ทำให้รถม้าคว่ำ เจ้านายประชวรพระวาโย ทองเอกถูกตามตัวให้มารักษาเจ้านาย เมื่อทรงฟื้นขึ้นมาก็ทรงคลับคล้ายคลับคลา สอบถามไปมาจึงได้รู้ว่าที่แท้ ทองเอกเป็นลูกของหมอทองอยู่ หมอประจำวังของพระเชษฐา ซึ่งทรงเพียรตามหาเพื่อให้ล้างมลทินให้ เพราะทรงรู้แล้วว่าโรคพิษสุนัขบ้าเมื่อเป็นแล้วไม่มีทางรักษาหายได้ ไม่ว่าจะเป็นหมอเทวดามาจากไหน ทองเอกดีใจว่าครอบครัวพ้นจากมลทินแล้ว ต่อไปนี้ปู่และตัวเขาจะได้รักษาคนอย่างเป็นอิสระเสียทีไม่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ เจ้านายทรงชวนให้ทองเอกไปเป็นหมอประจำองค์ท่าน แต่ทองเอกขออยู่รักษาชาวบ้านที่บ้านท่าโฉลงต่อไป
ผ่องถูกจับ สารภาพว่าไม่ได้ตั้งใจจะมาทำร้าย เพียงแต่ต้องการร้องเรียนว่าเธอได้เสียกับกล้าแล้ว เจ้านายทรงเมตตาสงสารผ่อง รับสั่งให้กล้ารับผิดชอบตกแต่งกับผ่องให้ถูกต้อง ส่วนชบาเพื่อไม่ให้ขึ้นชื่อว่าเป็นม่ายขันหมากและทรงอ่านออกว่ามีใจกับทองเอก จึงทรงจัดการทาบทามสู่ขอไว้ให้ สมใจกันทั้งสองฝ่าย ทองเอกมีสินสอดเพียงเล็กน้อยไม่พอให้ท่านขุนเอาไปใช้หนี้พนัน เจ้านายตรัสว่าถ้าท่านขุนไม่ยอม จะเรียกกรรมการเมืองมาเอาตัวไปจองจำฐานมอมเมาประชาชน และทรงสอนให้ท่านขุนเป็นข้าราชการที่มีธรรมาภิบาล ต่อไปจะเป็นถึงพ่อตาหมอใหญ่ให้ทำตัวอยู่ในศีลในธรรม
ก่อนเจ้านายจะเสด็จกลับ พ่อเพิ่มตัดสินใจหยุดความอาย กราบทูลขอให้ท่านสู่ขอกลิ่นให้ เพราะกลัวว่าแม่กิ่งแขจะเคืองจนไม่ยอมให้เขาคบกับกลิ่น เจ้านายทรงช่วยเจรจา แม่กิ่งแขไม่ปฏิเสธเพราะผิดหวังกับกล้ามามากแล้ว หากมีลูกเขยดี ๆ อย่างเพิ่มก็ถือเป็นโชค ทุกชีวิตจึงควรจะลงเอยกันอย่างมีความสุขสงบในบ้านท่าโฉลงแห่งนี้
แต่แล้วเรื่องราวก็ไม่ได้จบเพียงแค่นั้น เพราะเมื่อถึงวันใกล้แต่งงานของทองเอก และชบา เกิดโรคห่า (อหิวาตกโรค) ระบาดขึ้นมา ณ หมู่บ้านใกล้เคียง และเริ่มระบาดเข้ามาในหมู่บ้านท่าโฉลงอย่างรวดเร็ว ทองเอก ชบา และทุก ๆ คน ต้องมาช่วยกันรักษา คนป่วยนอนกันเกลื่อน มีคนหาย และก็มีทยอยเสียชีวิตลง ความที่คนเจ็บป่วยมีจำนวนมากเกินกว่ายา โรคห่าระบาดไปทั่วทั้งพระนคร พระเกจิดังในหลาย ๆ จังหวัด ต้องลุกขึ้นมาทำพิธีขับไล่ จนมีประกาศว่าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ให้จัดการรักษาพยาบาลโดยปรุงยาขึ้นมาใหม่สองขนาน โดยนำยาวิสัมพยาใหญ่ตามตำราไทยผสมแอลกอฮอล์ ทำเป็นยาหยดในน้ำ และเอาการบูรทำเป็นยาหยดอีกขนานหนึ่ง และยังใช้การบูรโรยเสื้อผ้าเพื่อป้องกันเชื้อโรคควบคู่กันไป และตั้งโอสถศาลาขึ้นมา (ศาลาวัด) ก่อนจะจัดตั้งโรงพยาบาลเอกเทศ (สถานพยาบาลชั่วคราว เป็นกระต๊อบ) ขึ้นเพื่อรักษา เมื่อยาทองเอกหมดลง คนไข้ก็มิได้มีจำนวนน้อยลง ชบาที่ช่วยงานอย่างหนัก ก็มาติดไข้ไปด้วย ชบากำลังจะตาย ทุกอย่างจะเป็นเช่นไร ติดตามชมกันต่อได้ในละคร ทองเอกหมอยาท่าโฉลง ที่ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.00 น. ทางช่อง 3HD
รายชื่อนักแสดง ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง ช่อง 3HD
- มาริโอ้ เมาเร่อ รับบท ทองเอก
- คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ รับบท ชบา
- ปรมะ อิ่มอโนทัย รับบท กล้า
- ภูริตา สุปินชุมภู รับบท ผ่อง
- ชญานิศ จ่ายเจริญ รับบท กลิ่น
- สาริน รณเกียรติ รับบท เพิ่ม
- ณปภา ตันตระกูล รับบท ชงโค
- ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์ รับบท เปียก
- จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม รับบท ตุ่น
- ด.ญ.ภัทรภร มุกโชควัฒนา รับบท รำเพย
- รัดเกล้า อามระดิษ รับบท แม่หมอผีมั่น
- จักรกฤษณ์ อำมรัตน์ รับบท ขุนกสิกรรม
- จินตหรา สุขพัฒน์ รับบท คุณนายสายหยุด
- ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์ รับบท แม่เยื้อน
- รอง เค้ามูลคดี รับบท ปู่หมอทองอิน
- โยธิน มาพบพันธ์ รับบท หลวงตาเพชร
- เจนนิเฟอร์ คิ้ม รับบท กิ่งแข
- ธัญญา โสภณ รับบท ท่านหญิง (เสด็จ)
- ภิชาภัช มหาทิตยากุล รับบท เพิ้ง (บ้านแม่หมอ)
- สมัชญ์ เนียมสอาด รับบท ไอ้จิ๋ม (บ้านกิ่งแข)
- หน่อย เชิญยิ้ม รับบท ลุงขาว
- เจริญสุข นาคสวัสดิ์ รับบท นางอิ่ม
- กิ่งกาญจน์ ไตรยสุทธิ์ รับบท นางฉุย