รีเซต

เรื่องย่อ ประกาศิตกามเทพ ช่อง 3HD (รีรัน)

เรื่องย่อ ประกาศิตกามเทพ ช่อง 3HD (รีรัน)
Kanin_tvs
31 มีนาคม 2566 ( 00:05 )
6.4K

ประกาศิตกามเทพ ช่อง 3HD (รีรัน) ได้ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 18.00-19.00 น เริ่มวันพุธที่ 19 เมษายน 2566 นำแสดงโดย “เต้ย-พงศกร” และ “น้ำตาล-พิจักขณา” พร้อมด้วย “ณัฐ-ณัฐรัฐ” , “อาโป-ณัฐวิญญ์”, “แก๊ป-ชนกสุดา” และรุ่นใหญ่มากฝีมืออย่าง “ตู่-นพพล”, “เมฆ-วินัย”, “เพชร-กรุณพล”, “แมน-ศุภกิจ” และ “เอ็ม-อภินันท์” แม้มีจะนักแสดงล้นจอ 

ตัวอย่างละคร

เรื่องย่อ ประกาศิตกามเทพ ช่อง 3HD

 

เหม บุญญาฉัตรพงษ์ (ตู่-นพพล โกมารชุน) อัครมหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจผลิตรองเท้าบริษัท เหมทอง จำกัด ภายใต้แบรนด์ดัง "มนตรา"  มีทายาทเพียงคนเดียวคือ เหมวัต(เอฟ-ธัญนพ ตระกูลโชคดี) จึงหวังจะมอบกิจการทุกอย่างให้สืบทอด แต่เหมวัตกลับไปรักใคร่ชอบพอกับอุษา(จุ๊กกู้-สลิตา กลิ่นจันทร์)  ที่เป็นเพียงลูกกำพร้าที่ยากจน  คุณเหมกีดกันทุกวิถีทางจนเหมวัตต้องพาอุษาหนีหายไป คุณเหมโกรธมากถึงขั้นตัดขาดเหมวัตจากตระกูลบุญญาฉัตรพงษ์ โดยไม่คิดตามหา  และคิดจะยกมรดกพร้อมกิจการทั้งหมดให้แก่ลูกบุญธรรมที่ขอมาเลี้ยงก่อนเหมวัตเกิด 3 คน นั่นคือ...

ประกิต(เพชร-กรุณพล เทียนสุวรรณ) หรือ เสี่ยหนึ่ง  ต่อมาแต่งงานกับผกา(ตุ๊ก-ชนกวนันท์ รักชีพ)มีลูกสาว 1 คน ชื่อ ผาณิตา หรือน้ำตาล (น้ำตาล-พิจักขณา วงศารัตนศิลป์) 

ปราการ(แมน-ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์) หรือ เสี่ยสอง  ต่อมาแต่งงานกับอรทัย(เสียชีวิต)มีลูกสาว 1 คน ชื่อ ลาวัลย์ (แก๊ป-ชนกสุดา รักษนาเวศ)

ทัศนัย(เอ็ม-อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล) หรือ เสี่ยสาม  ต่อมาแต่งงานกับสมร(เปิ้ล-ชไมพร สิทธิวรนันท์) มีลูกชาย 1 คน ชื่อ ทศนาถ (ณัฐ-ณัฐรัฐ โมริส เลอกรอง)

                ทั้งสามครอบครัวต่างแก่งแย่งแข่งขันเพื่อช่วงชิงทรัพย์สมบัติของเหม แต่เหมก็เขี้ยวลากดินพอที่จะไม่ยกมรดกให้กับลูกบุญธรรมง่ายๆ ส่วน มนตรา(คาร่า พลสิทธิ์) ภรรยาของเหมก็มีอาการเลอะเลือนหลงๆลืมๆเพราะเสียใจที่เหมวัตหนีหายไป

                เหมวัตกับอุษาใช้ชีวิตด้วยกันอย่างยากลำบากในชุมชนแออัด ในวันที่อุษาคลอดลูก เหมวัตรู้ข่าวด้วยความดีใจรีบขี่มอเตอร์ไซด์กลับบ้าน แต่โชคร้ายเกิดอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิตก่อนจะได้พบหน้าลูกชาย ส่วนอุษาเลือดออกมากจนช็อกและเสียชีวิต ทิ้งลูกน้อยไว้กับ ชาญ(เมฆ-วินัย ไกรบุตร) หนุ่มพิการข้างบ้านที่นับถือกันเหมือนพี่น้อง  ชาญตั้งชื่อเด็กน้อยคนนี้ว่า "เหมันต์" (เต้ย-พงศกร เมตตาริกานนท์)

                ชาญเคยมีชีวิตที่รุ่งโรจน์เป็นนักมวยอาชีพที่ผ่านสังเวียนชนะมาแล้วเกือบทุกเวที แต่โชคชะตาพลิกผันเพราะโดนคนเมาชนแล้วหนีจนพิการนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิต แต่ชาญก็เป็นนักสู้ที่ไม่ยอมจำนนกับอุปสรรค เขาฝึกซ่อมรองเท้ากับช่างฝีมือดีจนสามารถนำมาประกอบอาชีพหาเลี้ยงชีวิตได้ แถมยังเป็นคนมีน้ำใจเผื่อแผ่ไปถึงคนในชุมชนสลัมจนเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนบ้าน ความดีมีน้ำใจชอบช่วยเหลือผู้อื่นของชาญกลายเป็นต้นแบบที่ดีงามให้กับเหมันต์ ลูกชายต่างสายเลือดที่ชาญรักสุดหัวใจ !!

  

                เหมันต์เป็นเด็กที่ขยันขันแข็ง เอาเวลาหลังเลิกเรียนไปรับจ้างทำงานสารพัด ทำให้เขาได้รับความรู้มากมายจากวิชาชีพเหล่านั้นตั้งแต่ยังเยาว์วัย เหมันต์อยากเรียนให้จบมหาวิทยาลัยเพื่อออกมาเป็นนักกิจกรรมบำบัด แต่ความฝันนั้นต้องสะดุดลงเมื่อชาญรับเด็กทารกที่ถูกแม่ใจร้ายทิ้งไว้หน้าบ้านมาอุปการะ เหมันต์เกิดความสงสารจึงเต็มใจเลี้ยงเด็กคนนี้เสมือนน้องชายร่วมสายโลหิต และช่วยพ่อตั้งชื่อว่า "หริทธ์" (อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์)

เหมันต์เรียนจบม.ปลาย ก็เสียสละไม่เรียนต่อ ออกไปเป็นวินมอเตอร์ไซด์ ต่อมาถูกชักชวนให้ไปทำงานที่บริษัทรับจ้างส่งของทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล หลังเลิกงานเหมันต์ก็ยังไปรับจ๊อบอีกหลายอย่างทั้งรับจ้างเก็บเงินค่าจอดรถที่ตลาดนัด , เป็นเด็กเสิร์ฟในคาราโอเกะ , ล้างเล้าหมู และอีกมากมาย  เหมันต์ไม่เคยเกี่ยงงาน ยอมเหน็ดเหนื่อยเพื่อให้พ่อได้กินอิ่มนอนหลับ และน้องชายได้เรียนจบปริญญาตรี แต่หริทธ์กลับเป็นเด็กไม่รักเรียน ชอบต่อยตี และหาเรื่องมาให้เหมันต์ปวดหัวอยู่บ่อยๆ

                 วันหนึ่ง เหมันต์ไปช่วยพ่อซ่อมรองเท้าและได้พบกับผาณิตา หรือน้ำตาล  หญิงสาวที่จะนำพาให้เขาได้ไปพบกับครอบครัวที่แท้จริง น้ำตาล(ลูกเสี่ยหนึ่ง)หกล้มส้นรองเท้าพลิก เหมันต์จึงซ่อมให้ด้วยวิธีเย็บมือ และด้วยเทคนิคการเย็บรองเท้าที่หาคนทำได้น้อยมากนี้เอง ทำให้เหมต้องการตัวเหมันต์มาทำงานให้บริษัทเหมทอง แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงคืออยากให้เหมันต์ซ่อมรองเท้าคู่หนึ่งที่เหมเก็บไว้เสมือนเป็นตัวแทนของลูกชายที่หายสาบสูญไป เหมจึงให้น้ำตาลไปชักชวนเหมันต์มาทำงาน แต่เพราะทศนาถไปก่อเรื่องทำร้ายชาญและหริทธ์ ทำให้สองครอบครัวเกิดความบางหมางอย่างรุนแรง

                เหมันต์ต้องเจอกับอุปสรรคครั้งใหญ่ เมื่อชาญป่วยเป็นโรคไตเรื้อรัง ต้องรอคิวบริจาคไต หนำซ้ำหริทธ์ยังก่อเรื่องไปช่วยลาวัลย์จากแก๊งขนของหนีภาษี เป็นเหตุให้สินค้าที่ลักลอบมาโดนตำรวจยึดไปหมด

มิตร(เอ-พศิน เรื่องวุฒิ)หัวหน้าแก๊ง โกรธแค้นหริทธ์เลยไล่ล่าหริทธ์ถึงบ้าน และขู่จะเอาชีวิตถ้าหริทธ์ไม่ชดใช้เงินเหมันต์ยอมเซ็นชื่อเป็นลูกหนี้และรับปากจะหาเงินมาคืนให้ ถ้าเหมันต์เบี้ยว หริทธ์จะกลายเป็นศพทันที เมื่อหัวหน้าแก๊งไปแล้ว เหมันต์เจอลาวัลย์หลบซ่อนตัวอยู่ในบ้าน ลาวัลย์ได้เห็นความเสียสละของเหมันต์จึงหลงรักเหมันต์จับใจ ขณะที่หริทธ์ก็แอบชอบลาวัลย์เช่นกัน

                น้ำตาลเมื่อรู้ว่าเหมันต์ติดหนี้นักเลง จึงยื่นข้อเสนอ ใช้หนี้ให้ แต่เหมันต์ปฏิเสธเพราะไม่ชอบน้ำตาลและครอบครัวที่ชอบทำตัวเหนือกฎหมายและใช้เงินฟาดหัวคนอื่น น้ำตาลเหม็นขี้หน้าความเป็นคนโลกสวยของเหมันต์จึงเลิกง้อ โชคชะตาทำให้เหมันต์ได้พบกับน้ำตาลอีกหลายครั้ง ยิ่งพบก็ยิ่งทำให้น้ำตาลได้สัมผัสกับความเป็นคนดีมีน้ำใจ  ชอบช่วยเหลือคนอื่นของเหมันต์  ซึ่งตรงกันข้ามกับทศนาถที่น้ำตาลแอบหลงรักอยู่ ส่วนเหมันต์ก็เริ่มมองเห็นว่าท่าทางที่เย็นชาและนิสัยแล้งน้ำใจของน้ำตาลเป็นเพียงภาพมายาที่ฉาบไว้ แท้จริงน้ำตาลก็เป็นคนจิตใจดี แต่ถูกอบรมมาอย่างผิดๆ เหมันต์จึงสงสารอยากช่วยเหลือน้ำตาล

  

                ในงานเลี้ยงอายุครบหกรอบของคุณเหม  น้ำตาลได้ขอให้เหมันต์มาช่วยงานฝ่ายจัดสถานที่ซึ่งเหมันต์ทำได้ดีมาก ที่นี่เหมันต์ได้พบกับคุณเหมเป็นครั้งแรก  คุณเหมรู้สึกถูกชะตาเหมันต์ในทันที  แต่ยังไม่ทันได้ทำความรู้จักกันดีนัก  ก็เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน  นั่นคือ หริทธ์ได้มาร่วมงานกับแก๊งเพื่อนของลาวัลย์  เหมันต์ไม่รู้ว่าหริทธ์ปกปิดฐานะจึงทักทายหริทธ์  ทำให้เพื่อนไฮโซของลาวัลย์ดูถูกหริทธ์จนอับอายออกจากงานไป เหมันต์ต้องรีบตามไปปลอบน้องชาย

                คุณเหมสนใจประวัติของเหมันต์มาก ขอให้น้ำตาลตามเหมันต์มาพบ  แต่ชาญเกิดป่วยหนัก  เหมันต์จึงพลาดนัด  จนกระทั่งคุณเหมรอไม่ไหวขอให้น้ำตาลพาไปหาเหมันต์ที่บ้าน  และได้เห็นรูปของแม่เหมันต์ คุณเหมจำได้ว่าเป็นเมียจนๆของเหมวัต ถึงกับช็อก  คุณเหมรีบกลับทันทีโดยอ้างกับน้ำตาลว่าไม่สบายกะทันหัน หลังจากนั้นคุณเหมก็หาทางคุยกับชาญ ตอนแรกชาญยืนยันว่าเหมันต์เป็นลูกตน แต่เมื่อรู้ตัวว่าโรคไตที่เป็นอยู่ทำให้มีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานนัก จึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวในอดีตให้เหมฟัง และมอบกำไลข้อเท้าของเหมวัตคืนให้กับเหม เหมเห็นกำไลซึ่งตนเคยซื้อให้เหมวัตตอนเป็นเด็ก จึงเชื่อว่าเหมันต์คือลูกชายของเหมวัตจริงๆ ขณะเดียวกัน เสี่ยสองกับเสี่ยสามก็มีปากเสียงกันรุนแรงเรื่องผลประโยชน์ในบริษัท ส่วนเสี่ยหนึ่งก็ถูกภรรยาครอบงำทุกอย่างจนเบื่อหน่าย แอบไปมีเมียน้อย น้ำตาลต้องช่วยปกปิดเพื่อไม่ให้ผกาและเหมรู้  ปัญหาความแตกแยกในครอบครัวทำให้คุณเหมตัดสินใจจะรับเอาเหมันต์กลับเข้ามาในตระกูลบุญญาฉัตรพงษ์  แต่เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยของเหมันต์  คุณเหมจึงขอให้กมล(อ๋อง-พัฒนะ พันธุ์เทวะ)เก็บเรื่องชาติกำเนิดของเหมันต์เป็นความลับ  ที่สำคัญคุณเหมต้องการจะทดสอบเหมันต์ว่าเป็นคนดี คู่ควรกับการเป็นทายาทของบุญญาฉัตรพงษ์หรือไม่

  

แผนการทดสอบเริ่มขึ้น โดยมีน้ำตาลเป็นผู้ดำเนินการร่วมกับทนายกมล  โดยสร้างสถานการณ์คับขันต่างๆเพื่อให้เหมันต์แก้ปัญหา  ขณะเดียวกันคุณเหมก็พยายามเสนอความช่วยเหลือมากมายให้เหมันต์  ซึ่งเหมันต์ก็ไม่ยอมรับข้อเสนอง่ายๆ จนในที่สุด  หริทธ์เกิดอยากเข้าไปฝึกงานในบริษัทของคุณเหม  เหมันต์จึงต้องยอมเข้าไปทำงานกับคุณเหม  เพื่อตามไปดูแลหริทธ์  และที่สำคัญได้ใกล้ชิดกับน้ำตาล ผู้หญิงที่เขารู้สึกห่วงใยโดยไม่รู้ตัวว่าได้รักน้ำตาลไปแล้วอย่างเต็มเปา

เหมไม่อยากให้เหมันต์เกี่ยวข้องกับชาญอีก เพราะอยากล้างอดีตที่ต่ำต้อยของเหมันต์ เหมจึงแอบไปพบชาญและมอบเงินก้อนโตให้แลกกับการให้ชาญไปเสียจากเหมันต์  ชาญไล่เหมออกจากบ้าน เป็นจังหวะเดียวกับที่โรคไตของชาญกำเริบหนักขึ้น ชาญไม่อยากเป็นตัวถ่วงของลูก จึงหนีหายไป และทิ้งจดหมายไว้ว่า วันที่เหมันต์ทำงานประสบความสำเร็จ พ่อจะกลับมา

เหมันต์จึงทำงานในบริษัทของปู่อย่างแข็งขัน เพื่อรอวันที่จะได้พบกับพ่อ ขณะที่หริทธ์ก็ประจบหัวหน้าแผนกไปทั่ว  โดยเฉพาะกับคุณเหมที่หริทธ์หาทางเข้าใกล้ทุกครั้งที่มีโอกาส  ซึ่งคุณเหมก็ทำเป็นเมตตาเอ็นดู ทำให้หริทธ์เข้าใจผิดคิดว่า คุณเหมชื่นชมตนแต่จริงๆแล้วคุณเหมต้องการหลอกถามถึงเหมันต์  ที่นับวัน   คุณเหมจะรู้สึกรักและผูกพันกับหลานชายมากขึ้นทุกที   จนในที่สุด  คุณเหมขอให้เหมันต์มาเป็นเลขาส่วนตัว  โดยให้เข้าพักในคฤหาสน์บุญญาฉัตรพงษ์  หริทธ์อิจฉาพี่ชายมาก  อยากเข้าไปอยู่ด้วยแต่ก็ไม่ได้รับอนุญาต

 เหมันต์ได้พบกับมนตราผู้เป็นย่าที่มีอาการเลอะเลือน  มนตราทักเหมันต์ว่าเป็นเหมวัตลูกชาย   ซึ่งคุณเหมก็ขอให้เหมันต์ช่วยเออออไปเพื่อความสุขของมนตราที่เฝ้าคิดถึงลูกชายตั้งแต่จากกันไป   เหมพยายามสอนเทคนิคทำธุรกิจแบบมีเล่ห์เหลี่ยม เอาชนะคู่แข่งด้วยวิธีสกปรก แต่เหมันต์กลับไม่เห็นด้วยยังคงยึดมั่นทำธุรกิจแบบมีคุณธรรม ไม่ยอมทำผิดเพื่อผลประโยชน์  ทำให้เหมขัดใจ แต่เหมก็ค่อยๆซึมซับความดีของหลานชายอย่างไม่รู้ตัว

  

 ความผูกพันของคุณเหมกับเหมันต์ทำให้ เสี่ยสองรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก และยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นไปอีกเมื่อรู้ว่า  เหมประกาศให้น้ำตาลหมั้นกับทศนาถ เพราะเสี่ยสองต้องการให้ลาวัลย์ลูกสาวลงเอยกับทศนาถมากกว่า     เสี่ยสองจึงคิดแผนการที่จะทำให้น้ำตาลเสื่อมเสียโดยการล่อลวงไป แล้วจัดฉากว่าน้ำตาลตกเป็นเมียของผู้ร้ายแล้ว (เสี่ยสองไม่ได้ต้องการให้ข่มขืนจริง) เมื่อแผนการเริ่มขึ้น....

เสี่ยสองให้สมุนโทรไปขู่น้ำตาลว่าจะทำร้ายคุณเหม และขอให้น้ำตาลไปเจรจาที่ที่นัดหมายโดยห้ามแจ้งความ  แต่เหมันต์รู้เรื่องเข้า  จึงขอตามไปคุ้มกันน้ำตาล  สมุนเห็นว่าผิดแผนจึงทำร้ายเหมันต์จนสลบก่อนจะหนีไป

เสี่ยสองรีบพาทศนาถตามไปตามแผน และก็ได้พบว่าน้ำตาลกำลังกอดอยู่กับเหมันต์  ทศนาถเสียหน้าและโกรธมากส่วนเสี่ยหนึ่งกับคุณผกาก็ต้องการแจ้งความเหมันต์ข้อหาล่อลวง  แต่คุณเหมกลับปกป้องเหมันต์ และเอาตัวเองเข้ารับรองว่าเหมันต์ไม่มีวันทำเรื่องเช่นนี้  ซึ่งยิ่งทำให้เสี่ยทั้งสามโกรธมาก  เหมันต์ขอไปจากบ้านบุญญาฉัตรพงษ์  ระหว่างโต้เถียงกันมนตราเข้ามาร้องไห้  ไม่ยอมให้เหมันต์ไป คุณเหมจึงได้ทีอ้างความจำเป็นที่จะให้เหมันต์ได้อยู่ในบ้านต่อไป

  

แม่ที่แท้จริงของหริทธ์ ปรากฏตัวขึ้นต้องการมาทวงลูกคืน ทำให้หริทธ์รู้ความจริงว่าตนไม่ใช่ลูกชาญ ไม่ใช่น้องชายของเหมันต์ หริทธ์เสียใจหนักโกรธเกลียดทุกคนบนโลก เสี่ยสองต้องการหลอกใช้หริทธ์จึงทำเป็นห่วงใยคอยช่วยเหลือหริทธ์ ทำให้หริทธ์หลงเชื่อ จนถูกเสี่ยสองหลอกใช้ให้คุมขนส่งยาเสพติดที่ซ่อนปะปนไปกับสินค้า หริทธ์ถูกจับ  เหมช่วยประกันตัวออกมา เหมันต์เดาออกว่าเป็นฝีมือคุณเหม  จึงขอปฎิเสธความช่วยเหลือ แต่คุณเหมให้เหมันต์เซ็นเป็นลูกหนี้โดยให้ทำงานชดใช้แทน และมอบตำแหน่งระดับหัวหน้าให้กับเหมันต์  ทำให้เสี่ยสองกับเสี่ยสามยิ่งเกลียดเหมันต์ และคิดหาทางกำจัดเหมันต์ไปจากตระกูลบุญญาฉัตรพงษ์  โดยเฉพาะเสี่ยสองที่จ้างคนมาดักทำร้ายเหมันต์ แต่เหมันต์ก็หลุดรอดไปได้ทุกครั้งจากความช่วยเหลือของมิตรหัวหน้าแก๊งนักเลง

เหมันต์พยายามดึงน้องออกห่างจากเสี่ยสอง แต่หริทธ์เข้าใจผิดคิดว่าเหมันต์แย่งลาวัลย์ไป หริทธ์แค้นใจขอนัดพบเสี่ยสองเพื่อขอแลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่องชาติกำเนิดของเหมันต์กับเงินก้อนใหญ่   เสี่ยสองไม่เชื่อขอให้หริทธ์หาหลักฐานมา ขณะเดียวกันก็ค้นหาหลักฐานในบ้านบุญญาฉัตรพงษ์ไปด้วย  จนเสี่ยสองแน่ใจว่า  เหมันต์คือหลานชายของคุณเหม

เสี่ยสองคิดใช้ไม้ตายจัดการกับเหมันต์  โดยใช้น้ำตาลเป็นเครื่องมือเพราะรู้ว่าเหมันต์หลงรักน้ำตาล  เริ่มจากการที่เสี่ยสองเกลี้ยกล่อมผกาแม่ของน้ำตาลให้ร่วมมือด้วย ผกากลัวมรดกจะตกไปที่เหมันต์หมดจึงตกลง  หารู้ไม่ว่า แท้จริงเสี่ยสองต้องการจะกำจัดทั้งคู่ แถมทศนาถอีกหนึ่ง  เพื่อจะให้ลาวัลย์กลายเป็นทายาทเพียงคนเดียว  แผนการคือสร้างฉากให้เหมือนกับเป็นเรื่องฆ่ากันเพราะการหึงหวง  โดยมีหริทธ์เป็นตัวช่วยด้วย  แต่ก่อนหน้าเพียงไม่กี่ชั่วโมง  หริทธ์ก็ถูกคุณเหมเรียกไปพบ  เพื่อทำเรื่องรับหริทธ์เป็นบุตรบุญธรรม  โดยบอกหริทธ์ว่า  เหมันต์เคยขอไว้ว่า ถ้าคุณเหมจะให้อะไรกับเหมันต์ขอให้มอบให้หริทธ์เท่ากัน  และไม่นานนี้  เหมันต์จะได้รับสิทธิ์บางอย่างจากคุณเหม  หริทธ์รู้ทันทีว่าคุณเหมกำลังจะเปิดเผยฐานะที่แท้จริงของเหมันต์ หริทธ์เกิดความละอายใจขึ้นมาทันที  และรีบตามไปช่วยพี่ชาย  หริทธ์เกือบโดนยิงตายแต่เหมันต์เอาชีวิตตัวเองเข้า   ทศนาถบาดเจ็บสาหัส  เหมันต์และน้ำตาลหายตัวไป  ทำให้พวกเสี่ยสองคิดว่าทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว

เหมันต์ที่หนีไปกับน้ำตาล มาเจอกับชาญที่นอนป่วยอาการหนักอยู่ในรพ. เหมันต์เสียใจมาก

ที่รู้ความจริงจาก อู๋(สมจิตร จงจอหอ)พ่อของเอม(เบสท์-ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์) ว่าชาญหนีไปเพื่ออนาคตของเหมันต์ ความลับเรื่องเหมันต์เป็นหลานของเหม จึงถูกเปิดเผย เหมันต์เฝ้าดูแลชาญ สองพ่อลูกอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขในเวลาสั้นๆที่เหลืออยู่ก่อนชาญจะตายจากไป

                ขณะที่คุณเหมไม่ปักใจเชื่อว่า เหมันต์กับน้ำตาลตายแล้ว  และสงสัยว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของเสี่ยสองจึงแกล้งประกาศจะยกทรัพย์สมบัติให้สาธารณะกุศล  เสี่ยสองโกรธมาก  จับเอาตัวคุณเหมไป ข่มขู่ให้ทำพินัยกรรมยกสมบัติให้ตนและลาวัลย์  โดยหารู้ไม่ว่า  หริทธ์ที่ยังแฝงตัวอยู่กับเสี่ยสองแอบติดต่อกับเหมันต์และน้ำตาลอยู่อย่างลับๆ และก่อนที่เสี่ยสองจะฆ่าคุณเหม  เหมันต์จึงพานักมวยในค่ายของอู๋พร้อมกับมิตรหัวหน้าแก๊ง

นักเลง เข้ามาช่วยคุณเหมได้ทัน  เสี่ยสองถูกจับดำเนินคดี  ขณะที่พฤติกรรมการฉ้อโกงของเสี่ยสามก็เปิดเผย      คุณเหมขอให้เหมันต์เป็นผู้ตัดสินว่า ควรจะแจ้งความหรือลงโทษบรรดาลูกบุญธรรมยังไง  เหมันต์ขอให้คุณเหมให้โอกาสเสี่ยทั้งสองแก้ตัว เหมก็สำนึกผิดที่ตัวเองหลอกใช้พวกเสี่ยให้ห่ำหั่นกันเองเพื่อมรดก  จึงลดตำแหน่งพวก

เสี่ยลงและทำงานหนักเป็นสองเท่าเพื่อให้บริษัทได้กำไรคืนมาชดเชยกับที่ยักยอกไป  ทำให้เสี่ยทั้งสองซาบซึ้งใจและยอมรับในตัวเหมันต์   อย่างไรก็ตาม  ระหว่างการลงโทษ  คุณเหมก็ขอให้ทั้งสองครอบครัว  ย้ายออกไปอยู่ข้างนอก  โดยให้ทรัพย์สินติดตัวไปน้อยนิด  เพื่อเป็นการดัดนิสัยหริทธ์กลับมาเป็นน้องชายที่ดีของเหมันต์ และยอมเรียนต่อ  ส่วนลาวัลย์ก็ตัดใจจากเหมันต์ได้ย้ายมาอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับหริทธ์  หริทธ์เริ่มตามจีบลาวัลย์อีกครั้ง แต่คราวนี้ลาวัลย์เปิดใจให้หริทธ์เข้ามานั่งในหัวใจ แทนที่เหมันต์

                เหมันต์ตามช่วยเหลือน้ำตาล แต่น้ำตาลก็ไม่ยอมรับเนื่องจากละอายใจที่แม่มีส่วนทำ ร้ายเหมันต์และครอบครัว แต่เหมันต์ก็เข้าใจผิดว่าน้ำตาลยังรักทศนาถอยู่  ร้อนถึงคุณเหมที่ต้องออกโรงแกล้งปล่อยข่าวว่าทะเลาะกับเหมันต์อย่างรุนแรงจนตัดขาดกันด้วยเรื่องที่เหมันต์ไปชอบพอกับหญิงสาวที่คุณเหมไม่ชอบหน้า เมื่อน้ำตาลรู้ข่าวก็ร้อนใจมาก  รีบไปเจรจาขอร้องคุณเหมให้ยกโทษให้เหมันต์ คุณเหมเลยยื่นคำขาดว่า จะยอมยกโทษให้ก็ต่อเมื่อ  เหมันต์เลือกหลานสะใภ้ที่คุณเหมยอมรับเท่านั้น  น้ำตาลกลุ้มใจมาก ออกติดตามหาเหมันต์จนพบด้วยความเข้าใจว่าเหมันต์คงไปใช้ชีวิตอยู่กับเอมหญิงสาวข้างบ้านที่หลงรักเหมันต์อยู่  แต่กลับพบว่าเหมันต์รอน้ำตาลอยู่ที่บ้านพักชายทะเลเพียงคนเดียว  เพื่อจะบอกหญิงสาวว่า  น้ำตาลคือผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวที่อยู่ในหัวใจของเขา  เพราะนับตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกันเขาก็ถูกกามเทพประกาศิตให้รักแต่เพียงน้ำตาลเท่านั้น

  

ในที่สุดอุปสรรคความรักของทั้งคู่ก็จบลง  เหมันต์ได้กลับบ้านบุญญาฉัตรพงษ์ในฐานะทายาทตัวจริงอย่างสง่างามและจับมือกับน้ำตาลบริหารบริษัทเหมทองด้วยนโยบาลใหม่ "คุณธรรมนำธุรกิจ"   ส่วน

เหมก็วางมือจากตำแหน่งและก่อตั้งมูลนิธิชาญช่วยเพื่อน เพื่อช่วยเหลือคนพิการ เป็นการระลึกถึงชาญที่ล่วงลับไป