รีเซต

เรื่องย่อ บาปบรรพกาล

เรื่องย่อ บาปบรรพกาล
fluker_tvs
24 กันยายน 2558 ( 17:52 )
31K

บาปบรรพกาล
ออกอากาศทุกทุกวันจันทร์ – อังคาร เวลา 9.00 / 19.40 น.
ทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 8 ดิจิตอลทีวี เริ่มตอนแรก 23 พฤษภาคม 2559 นี้
รวบรวมคลิปจาก : thaich8

ตัวอย่างละคร

   

เรื่องราวของโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2529 ‘เรือนไม้หอม’ ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นเรือนหอของ ‘คุณชายภาณุทัต พรหมบดินทร์’ กับ ‘แม้นมาศ เกษมบริรักษ์’ ทั้งคู่รักใคร่ชอบพอกัน โดยไม่สนใจคำคัดค้านของผู้ใหญ่ที่ต้องการจะให้คุณชายภาณุทัตแต่งงานกับ ‘คุณหญิงแขไข’ ผู้เป็นคู่หมั้นหมาย แต่แล้วกลับมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นในวันแต่งงาน เมื่อร่างของแม้นมาศลอยละลิ่วจากหน้าต่างชั้นบนของเรือนไม้หอมที่เป็นห้องหอและตกลงไปในสระบัวจนน้ำในสระกลายเป็นสีแดงฉาน มีเพียงจดหมายหล่นอยู่บนเตียงนอน เขียนว่า ‘ลาก่อน’ ทิ้งเอาไว้ โดยไม่มีใครรู้สาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม้นมาศกันแน่ เมื่องานแต่งงานถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นงานศพ คุณชายภาณุทัตก็เอาแต่เศร้าโศกเสียใจ กินเหล้าเมามายไร้ซึ่งสติ ไม่ยอมทำอะไรทั้งสิ้น จนกระทั่งวันหนึ่งก็หายสาบสูญไปอย่างลึกลับและไม่มีใครพบเห็นคุณชายอีกเลย ว่ากันว่าคุณชายได้ฆ่าตัวตายตามหญิงสาวคนรักไปเพราะทนความเสียใจไม่ไหว อีกทั้งพวกคนรับใช้ต่างได้ยินเสียงร่ำไห้ของหญิงสาว สลับกับเสียงร้องเรียกของคุณชายภาณุทัตดังมากจากเรือนไม้หอมที่ถูกปิดตาย เรื่องราวถูกเล่าขานถึงอาถรรพ์และแรงแค้นของทั้งคู่ที่ไม่สมหวังในความรัก จนไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้เรือนไม้หอมหากไม่มีเหตุจำเป็นใดๆ ปี พ.ศ. 2559 ‘รสสุคนธ์ เกษมบริรักษ์’ ซึ่งเป็นหลานแท้ๆ ของปู่แม้นเมือง (พี่ชายแม้นมาศ) ต้องการสืบเรื่องปริศนาการตายของแม้นมาศหรือย่าเล็ก และการหายตัวไปของย่าวาดในคืนแต่งงาน เธอจึงตัดสินใจสมัครเป็นเลขาของ ‘รามนรินทร์’ ลูกชายเพียงคนเดียว ‘คุณหญิงภาวิดา’ (น้องสาวของคุณชายภาณุทัต) แต่เกิดเหตุทำให้ต้องผิดหวังไป ‘แม้นศรี’ (น้องสาวแม้นเมือง พี่สาวแม้นมาศ) ย่าของรสสุคนธ์รู้จึงฝากหลานสาวกับ‘คุณชายภาณุกร’ (น้องชายคนสุดท้องของภาณุทัต) ซึ่งกำลังมองหาคนมาช่วยจัดงาน “ระลึกร้อยปีตระกูลพรหมบดินทร์” รสสุคนธ์ตอบรับงานทันที ครอบครัวของแม้นศรีได้ย้ายไปตั้งรกรากอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรีหลังจากเกิดเหตุไฟไหม้บ้านที่กรุงเทพเมื่อ 30 ปีก่อนคืนเดียวกับที่แม้นมาศตาย และในเหตุการณ์นั้นแม้นเมืองปู่ของรสสุคนธ์ก็ตายในกองเพลิง เพราะแม้นศรีช่วยมิ่งเมืองพ่อของรสสุคนธ์ออกมาได้เพียงคนเดียว ดังนั้นเมื่อจะต้องทำงานในกรุงเทพฯ รสสุคนธ์จึงต้องย้ายเข้ามาอาศัยอยู่บ้านพรหมบดินทร์ คุณหญิงภาวิดารีบคัดค้าน เพราะไม่ชอบคนจากตระกูลเกษมบริรักษ์เป็นทุนเดิมอยู่ก่อนหน้า แต่ก็ไม่อาจขัดน้องชายได้ จึงวางแผนให้รสสุคนธ์ไปอยู่เรือนไม้หอม เพื่อที่จะให้โดนผีย่าตัวเองหลอกจนไม่สามารถอยู่ได้ รามนรินทร์นั้นแอบปิ๊งรสสุคนธ์ตั้งแต่แรกพบหน้า เขาจึงแสดงความเป็นห่วงรสสุคนธ์ ‘เฟื่อง’ ซึ่งเป็นแม่นมของรามนรินทร์ เลยเสนอให้หลานสาวชื่อ ‘น้อย’ ซึ่งเป็นลูกบุตรธรรมของภาณุกรมาอยู่เป็นเพื่อนรสสุคนธ์ ในคืนนั้นเอง...รสสุคนธ์ก็ได้ยินเสียงของหญิงสาวร้องไห้คร่ำครวญดังแว่วมา ถึงแม้จะหวาดกลัวจับใจ แต่ด้วยความสงสัยจึงได้รวบรวมความกล้า จนได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งกำลังยืนร้องไห้อยู่หน้าเรือนไม้หอม รสสุคนธ์ตกใจคิดว่าเป็นผีเป็นลมไป รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็เจอหญิงสาวคนหนึ่งนั่งเฝ้าอยู่ รสสุคนธ์ก็เข้าใจว่าเป็นน้อยหลานของเฟื่อง แต่ปรากฏว่าน้อยที่เธอเข้าใจนั้น แท้จริงแล้วคือ ผีย่าเล็ก เพราะน้อยตัวจริงก็ไม่เคยกล้ามาเหยียบที่เรือนไม้หอมเลยแม้แต่สักครั้งเดียว อีกทั้งก่อนหน้านี้รสสุคนธ์ไม่รู้จักหน้าตาย่าเล็กเพราะภาพถ่ายทั้งหลายสูญหายไปหมดเมื่อครั้งไฟไหม้บ้าน และภาพถ่ายใบสุดท้ายถูกเก็บอยู่ในห้องทำงานของคุณชายภาณุกร เมื่อหญิงสาวไปขอดูด้วยความอยากรู้จึงได้พบความจริงว่าเธออยู่กับผีมาตลอดสองคืน ถึงแม้รสสุคนธ์จะหวาดกลัวเมื่อได้รู้ความจริง แต่จากที่ได้อยู่ร่วมกับคุณย่าของเธอมาตั้งแต่ต้น ทำให้หญิงสาวมั่นใจว่าผีย่าเล็กไม่ได้คิดร้ายกับเธอ และได้รู้ว่าแม้นมาศแท้จริงแล้วถูกฆาตกรรมในคืนแต่งงาน เพียงแต่ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ลงมือเพราะถูกวางยาสลบและถูกจับกดน้ำจนขาดใจตาย จากนั้นก็ถูกโยนลงมาจากห้องนอนทิ้งลงมาในสระบัว แม้นมาศได้ขอร้องให้รสสุคนธ์ช่วยตามหาแหวนแต่งงานชิ้นสำคัญที่หายไป เพราะเชื่อว่า ‘แหวนไพลิน’ ที่ได้รับจากท่านชายภาณุทัตเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวทำให้เธอไม่สามารถไปผุดไปเกิด เพราะได้ทำงานใกล้ชิดกัน รสสุคนธ์กับรามนรินทร์จึงความรู้สึกดีๆ ต่อกันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ‘จวง’ กับ ‘ปริก’ สองยายหลานที่ทำหน้าที่เป็นหูเป็นตาในบ้านพรหมบดินทร์จึงคอยส่งข่าวให้แขไขรู้ความเป็นมาของบ้านอยู่เสมอจนทำให้ ‘คุณอุณนิษา’ ลูกสาวของแขไขที่แอบหลงรักรามนรินทร์อยู่เกิดความริษยา คอยหาเรื่องรสสุคนธ์อยู่บ่อยๆ แขไขอยากให้อุณนิษาได้แต่งงานกับรามนรินทร์เพื่อพยุงฐานะทางบ้านที่กำลังจะล้มละลาย นอกจากนั้นแขไขยังส่ง ‘อธิวัฒน์’ หลานชายที่ไม่เอาไหนกับ ‘จีรนันท์’ เพื่อนสนิทของอุณนิษามาช่วยอุณนิษาทำงานอีกแรง อธิวัฒน์เห็นรสสุคนธ์ก็อยากได้เป็นเมียสร้างความไม่พอใจแก่จีรนันท์ที่แอบเป็นเมียลับๆ อย่างมาก อุณนิษากับจีรนันท์จึงจัดหนักหาทางไล่รสสุคนธ์ไปให้พ้นบ้านพรหมบดินทร์ แต่รสสุคนธ์ก็ได้รับการช่วยเหลือจากผีแม้นมาศอยู่บ่อยครั้ง ความสัมพันธ์ของรามนรินทร์กับรสสุคนธ์สร้างความไม่สบายใจแก่ภาวิดาอย่างมาก ‘ทวน’ คนขับรถที่เป็นผัวน้อยลับๆ ของภาวิดาจึงต้องขึ้นมาคอยปลอบให้ภาวิดาคลายเครียดถึงห้องบ่อยๆ ด้านอุณนิษาก็สั่งให้จวงกับปริกหาคนมาดักทำร้ายรสสุคนธ์ แต่รามนรินทร์ก็มาช่วยเหลือเอาไว้ได้ทัน ทว่าชายหนุ่มกลับเสียทีถูกทำร้ายจนสลบไป แต่ก่อนที่พวกมันจะได้ลงมือทำร้ายรสสุคนธ์ ‘ตาดำ’ ชายแก่ที่อยู่ท้ายสวนไม่ไกลจากบ้านพรหมบดินทร์ก็ปรากฏตัวออกมา สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกคนร้ายจนวิ่งหนีกระเจิงกันทั้งหมด เพราะล่ำลือกันว่าบริเวณท้ายสวนนี้มีผีเจ้าที่สุดเฮี้ยนสิงสถิตอยู่ หลังจากที่รสสุคนธ์ถูกทำร้าย คุณหญิงภาวิดาก็โทษว่ารสสุคนธ์เป็นต้นเหตุให้ลูกชายของตัวเองได้รับบาดเจ็บ และใช้เป็นข้ออ้างไล่รสสุคนธ์ออกจากบ้าน แต่รามนรินทร์และคุณชายภาณุกรได้ห้ามเอาไว้ งานรำลึกร้อยปีตระกูลพรหมบดินทร์จัดอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีรสสุคนธ์เป็นแม่งาน แต่กลับถูกภาวิดาสั่งห้ามไม่ให้เสนอหน้าในงาน เพราะตั้งใจจะประกาศการหมั้นของรามนรินทร์กับอุณนิษา แม้นมาศรู้จึงยุให้รสสุคนธ์ใส่ชุดเธอพร้อมกับเครื่องเพชรประจำตระกูลพรหมดินทร์ไปเดินอวด เมื่อภาวิดาเห็นเครื่องเพชรก็แทบกรี๊ดด่ารสสุคนธ์หาว่าขโมยมาใส่ รสสุคนธ์ตอกกลับว่านี่เป็นของหมั้นหมายของย่าเล็ก เธอก็มีสิทธิ์ใช้ ที่สำคัญย่าเล็กอนุญาตแล้ว ภาวิดาแทบลมจับด้วยความแค้นใจ จึงทำให้งานประกาศหมั้นเป็นอันล่มไป สร้างความไม่พอใจแก่อุณนิษาและแขไขอย่างมาก ปริกต้องการเงินไปจ่ายให้กับคนที่จ้างมาทำร้ายรสสุคนธ์ จึงได้มาขอเอาจากอุณนิษา แต่อุณนิษาปฏิเสธ เลยถูกปริกข่มขู่ว่าจะแฉความจริงทั้งหมดให้คนอื่นได้รู้ถึงความเลวร้าย ด้วยกลัวว่าภัยจะมาถึงตัวอุณนิษาจึงสั่งให้จวงฆ่าปริก เพราะบุญคุณของแขไขจวงจึงตัดใจฆ่าหลานสาวตัวเอง แล้วลากศพปริกไปทิ้งลงในสระบัว รสสุคนธ์คอยไปเยี่ยมตาดำอยู่บ่อยๆ จนสนิทกัน และคืนนั้นเองรสสุคนธ์ก็ฝันประหลาด ฝันว่าย่าวาดมาหาแล้วพารสสุคนธ์ไปที่บ้านตาดำพร้อมกับร้องขอให้รสสุคนธ์ช่วยให้เธอไปผุดไปเกิด พอตื่นขึ้นมารสสุคนธ์ก็ไปขอให้รามนรินทร์ช่วยขุดดินจุดที่ย่าวาดมาบอก จึงได้พบศพของวาดที่ถูกฝั่งอยู่ที่นี่นานนับ 30 ปี หลักฐานก็คือสร้อยจี้ล็อกเกตบนตัวศพนั่นเอง แม้นมาศเสียใจมากที่พี่สะใภ้ต้องมาตายในคืนที่ตัวเองถูกฆ่า เธอโกรธแค้นอย่างมาก ต้องการฆ่าพรหมบดินทร์ให้ตายตกตามกัน รสสุคนธ์จึงห้ามไว้เพราะยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนฆ่าจะฆ่าคนส่งเดชอย่างที่ผ่านมาไม่ได้ ในที่สุดรสสุคนธ์ก็สืบพบว่าคนที่ฆ่าย่าวาดก็คือทวนนั่นเอง ทวนรับคำสั่งใครบางคนปิดปากวาดที่มาเห็นการฆาตกรรมแม้นมาศ แถมยังตามไปเผาบ้านเกษมบริรักษ์ที่กทม.จนมอด ด้วยความแค้นแม้นมาศจึงปิดบัญชีด้วยการจับทวนลงไปนอนในหลุมแล้วจุดไฟเผาให้สาสมกับที่ฆ่าพี่ชายและพี่สะใภ้ของเธอ โรงแรมแกรนด์บดินทร์มีโปรเจ็กต์จะสร้างรีสอร์ตที่จังหวัดเพชรบุรี รสสุคนธ์จึงอาสาพาไปดูที่แถวๆนั้น รามนรินทร์สนใจที่ดินของแม้นศรีที่ติดกับที่ดินของคุณชายอัศวินสามีของแขไขมาก แต่ติดว่าที่ดินของแม้นศรีนั้นถูกแขไขอ้างสิทธิ์ถือครองอยู่ แขไขบอกว่ามิ่งเมืองพ่อของรสสุคนธ์เอาที่ดินมาขายก่อนที่พ่อกับแม่ของรสสุคนธ์จะประสบอุบัติเหตุรถคว่ำตาย อธิวัฒน์รู้ว่ารามนรินทร์อยากได้ที่นั้นมากเพราะต้องการจะซื้อที่ดินคืนให้แก่ครอบครัวของรสสุคนธ์ ด้วยความโลภเลยคิดจะเอาที่ดินมาขาย หาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ในที่สุดก็สืบค้นความจริงว่าพ่อกับแม่ของรสสุคนธ์ไม่ได้ตายเพราะอุบัติเหตุแต่ความจริงมีคนทำให้เกิดขึ้น รสสุคนธ์จะเอาเรื่องนี้ไปบอกตำรวจ แต่ถูกอธิวัฒน์กับจีรนันท์จับตัวไว้จะฆ่าปิดปาก รามนรินทร์มาช่วยไว้ได้ทัน ระหว่างที่ผีแม้นมาศปรากฏตัวหลอก ด้วยความกลัวตายอธิวัฒน์เลยหนีเอาตัวรอดคนเดียว จีรนันท์จึงถูกแม้นมาศฆ่าด้วยเหตุอุบัติเหตุรถคว่ำอย่างที่พ่อแม่ของรสสุคนธ์ตาย อธิวัฒน์แค้นใจมาก ย้อนกลับมาหมายจะฆ่ารามนรินทร์แต่สุดท้ายก็ถูกแม้นมาศฆ่าตายเช่นกัน ไม่นานหลังจากนั้นภาณุกรก็ได้พบหลักฐานว่าแท้จริงแล้วใครเป็นผู้ลงมือฆ่าปริก จึงได้เรียกอุณนิษาเข้ามาพูดคุยและบอกว่าเพื่อแลกกับการไม่เปิดเผยเรื่องราวทั้งหมด อุณนิษาจะต้องไม่มาเหยียบบ้านพรหมบดินทร์อีกและให้เลิกคิดถึงเรื่องแต่งงานกับรามนรินทร์ไปเสีย แต่ด้วยความโกรธ อุณนิษาจึงได้ทำร้ายคุณชายภาณุกรจนเสียชีวิต จวงมาเห็นเข้าก็ช่วยใส่ความว่ารสสุคนธ์เป็นคนลงมือทำ เพื่อจะกำจัดเสี้ยนหนามของหัวใจให้พ้นไป เมื่อสิ้นบุญของภาณุกรแล้ว รสสุคนธ์ก็ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ในบ้านพรหมบดินทร์อีกต่อไป อีกทั้งคุณหญิงภาวิดายังให้ตำรวจมาจับตัวหญิงสาวไปสอบสวน แต่ยังไม่ทันที่ตำรวจจะได้จับกุมตัวรสสุคนธ์ ตาดำก็เข้ามาช่วยเป็นพยานว่าขณะที่เกิดเหตุนั้นหญิงสาวกำลังพูดคุยกับตนที่ท้ายสวนจึงไม่มีทางที่เธอจะเป็นฆาตกรที่ฆ่าภาณุกรไปได้ การปรากฏตัวของตาดำ สร้างความตกตะลึงให้กับทุกคน เมื่อแท้จริงแล้วตาดำไม่ใช่ผี แต่กลับกลายเป็นคุณชายภาณุทัตที่หายสาบสูญไปเมื่อสามสิบปีก่อน เมื่อครั้งที่ภาณุทัตหายตัวไปเพราะเบื่อหน่ายกับวิถีชีวิตและไม่อยากรับรู้เรื่องราวความเป็นไป อีกทั้งคุณหญิงภาวิดาผู้เป็นน้องสาวกับทางบ้านก็พยายามจะให้ตนกลับมาแต่งงานกับคุณหญิงแขไข ภาณุทัตจึงหนีไปอยู่ที่บ้านท้ายสวน ห่างไกลจากสายตาผู้คน อีกทั้งยังแต่งตัวมอซอ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง คล้ายคนจรจัด ทำตัวผลุบๆ โผล่ๆ ชาวบ้านจึงเข้าใจว่าตาดำเป็นผี เนื่องจากหายไปใช้ชีวิตสันโดษไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร จับปลา เก็บผักกิน บางคืนก็แอบเข้ามาที่เรือนไม้หอม ร้องเรียกหาแม้นมาศ จนคนในเรือนเข้าใจว่าเป็นผีคุณชายภาณุทัต ก่อนที่ภาณุทัตจะหายตัวไป เขาได้มาสั่งลาน้องชายและฝากฝังเรื่องในบ้านและเรือนไม้หอมไว้จนกว่าตนเองจะทำใจได้และกลับมา เท่ากับว่าการหลบไปใช้ชีวิตในสวนนั้น คุณชายภาณุกรรู้มาตลอด ภาณุทัตที่มาปรากฏตัวขึ้นเพื่อเป็นพยานให้กับรสสุคนธ์ ได้สั่งให้เลิกขัดขวางเรื่องความรักของหลานชาย เพราะรู้ว่ารามนรินทร์นั้นรักใคร่ชอบพอกับรสสุคนธ์ อีกทั้งรามนรินทร์ยังได้พาตัว ‘สร้อย’ แม่ครัวในบ้านที่เห็นเหตุการณ์และสามารถชี้ตัวฆาตกรที่แท้จริงได้มาเปิดเผยความจริงต่อหน้าคนทั้งหมด ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวอุณนิษา แต่จวงกลับบอกว่าตัวเองเป็นคนทำทั้งหมด อุณนิษาแค่ตกกระไดพลอยโจนไปด้วยเฉยๆ การเปิดเผยตัวของจวงทำให้แม้นมาศจำได้ว่าจวงเอาน้ำมะตูมมาให้ตนดื่มก่อนที่จะหมดสติไป จึงฆ่าจวงทิ้งในห้องขัง แขไขจึงแก้เกมว่าจวงกลัวความผิดฆ่าตัวตาย ทำให้อุณนิษาหลุดคดีฆ่าคุณชายกร เรื่องราวผ่านไปได้อย่างไม่มีเรื่องวุ่นวายอะไรเกิดขึ้นอีกจนกระทั่งถึงวันที่รามนรินทร์กับรสสุคนธ์แต่งงาน ขณะที่รสสุคนธ์แต่งตัวอยู่ตามลำพังเหตุการณ์ที่เหมือนกับในอดีตก็ย้อนกลับมาอีกครั้ง เมื่ออุณนิษาเข้ามาทำร้ายหมายจะเอาชีวิตรสสุคนธ์พร้อมกับบอกว่าเธอจะฆ่ารสสุคนธ์ให้เหมือนกับตอนที่แขไขฆ่าแม้นมาศ ความจริงถูกเปิดเผยจากปากอุณนิษาว่าคนที่ฆ่าแม้นมาศนั้นแท้จริงแล้วคือแขไข และได้ขโมยแหวนไพลินที่สวมติดนิ้วของแม้นมาศไป แต่ครั้งนี้มันไม่ง่ายเหมือนครั้งก่อน เมื่อแม้นมาศโผล่ออกมาพร้อมกับผีอีปริก และมอบคนร้ายรายนี้ให้ผีอีปริกได้จัดการล้างแค้น ส่วนตัวของแม้นมาศก็มุ่งไปหาแขไขที่อยู่ในงานเลี้ยง เมื่อผีอีปริกได้ล้างแค้นจนสาสมก็หันมาหารสสุคนธ์ที่ยังติดอยู่ตรงที่เดิม วิญญาณของภาณุกรก็มาช่วยไว้และบอกให้ผีอีปริกจากไปอย่างสงบ แล้วขอให้รสสุคนธ์ไปช่วยวิญญาณของแม้นมาศไม่ให้ทำผิดไปมากกว่านี้ แม้นมาศที่เต็มไปด้วยความแค้น ทำร้ายแขไขจนสาหัส ไม่ว่ารสสุคนธ์จะพยายามพูดห้ามสักเท่าไหร่แม้นมาศก็ไม่ยอมฟัง จนในที่สุดคุณชายภาณุทัตก็ได้พูดเพื่อหยุดเธอเอาไว้“ถึงแม้ว่าเขาคนนั้นจะทำให้กายของเราพรากจากกัน แต่สิ่งที่เขาไม่มีวันพรากไปได้ก็คือ ความรักที่ฉันมีให้ต่อแม่เล็กเสมอ ไม่ว่าจะชาตินี้หรือชาติไหน เชื่อฉันเถอะนะแม่เล็ก ปล่อยเขาไปเถอะ วันหนึ่งบาปกรรมของเขาจะติดตามไปทวงเขาเอง อย่าไปอยู่ร่วมบ่วงกรรมบ่วงเดียวกับเขาต่อไปอีกเลยนะ” คำพูดของชายที่รักทำให้แม้นมาศยอมปล่อยวางซึ่งความแค้น กระนั้นแขไขถึงแม้จะรอดตายแต่ก็ต้องลงเอยกลายเป็นคนสติฟั่นเฟือนไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกต่อไป หลังจากนั้นในวันที่คุณชายภาณุทัตได้มาเยือนเรือนไม้หอม ราวกับว่าโชคไม่เข้าข้างนัก เพราะถึงทั้งคู่จะได้พบกันแต่ทั้งแม้นมาศกับภาณุทัตกลับไม่สามารถสัมผัสกันได้ จนกระทั่งคุณชายภาณุทัตหลั่งน้ำตาที่ไหลจากความรัก ปาฏิหาริย์ก็บังเกิดขึ้นจนทั้งสองสามารถสัมผัสกันได้อีกครั้ง และระบายความอัดอั้นตันใจที่ค้างคากันมานานแสนนาน จนในที่สุดแล้วแม้นมาศก็จากไปสู่สุคติโดยไม่มีอะไรค้างคาอีกต่อไป ภาวิดาเสียใจที่เชื่อคนผิดอย่างแขไขมาตลอดจนเกิดบาปต่อเนื่อง จึงยอมให้รสสุคนธ์แต่งงานกับรามนรินทร์ ถัดจากนั้นเวลาผ่านไปอีกห้าเดือน รสสุคนธ์ก็ออกมายืนหน้าเรือนไม้หอมที่ถูกตกแต่งใหม่อย่างสวยงาม หากแต่ยังคงอนุรักษ์โครงสร้างแบบเดิมเอาไว้ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับหวนคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา รามนรินทร์เดินมาโอบกอดหญิงสาวจากด้านหลังและบอกว่าเขาอยากจะอยู่กับรสสุคนธ์แบบนี้ตลอดไป ทั้งคู่กอดกันด้วยความรักและเดินจูงมือกลับเข้าไปในบ้านพร้อมกับสมาชิกใหม่ที่อยู่ในท้องของเธอ ซึ่งเป็นลูกที่เกิดจากความรักของคนทั้งคู่...และด้วยความรักของรสสุคนธ์และรามนรินทร์ ทำให้เรือนไม้หอมแห่งนี้...ไม่ใช่เรือนหอร้างรักต้องอาถรรพ์อีกต่อไป 
ชมทีวีออนไลน์ช่อง 8 แบบสดๆ ได้ที่นี่