รีเซต

เรื่องย่อ ปลาหลงฟ้า ช่อง 7HD

เรื่องย่อ ปลาหลงฟ้า ช่อง 7HD
26 ธันวาคม 2564 ( 01:35 )
6.5K

เรื่องย่อ ปลาหลงฟ้า ช่อง 7HD (รีรัน) ทุกเช้าวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.20 น. เริ่มออกอากาศตอนแรก วันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคมนี้ นำแสดงโดย นิว-วงศกร ปรมัตถากร และ  เชียร์-ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ กับการกลับมาของละครโรแมนติกคอมิดี้ เรื่องราวของ น่านฟ้า (นิว วงศกร) ชายหนุ่มที่จำเป็นต้องขึ้นมารับหน้าที่ เป็นประธานบริษัทต่อจากพ่อ ซึ่งเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ในสายตาของทุกคน น่านฟ้าเป็นเพียงชายหนุ่มเสเพล ไม่เอาถ่าน ไม่เป็นโล้เป็นพาย ไม่มีความน่าเชื่อถือ การจะทำให้น่านฟ้ากลายเป็นประธานบริษัทที่ทุกคนเชื่อใจและให้ความเคารพนั้น เขาจะต้องปรับตัวหลายสิ่งหลายอย่าง ซึ่งนั่นคือหน้าที่สำคัญของ มัศยา (เชียร์ ฑิฆัมพร) ผู้ช่วยที่ถูกส่งมาดูแลเขา เมื่อความต่างสุดขั้วมาเจอกัน ไฟจะสปาร์ค สร้างความวุ่นวายได้ขนาดไหน ต้องติดตาม

ตัวอย่างละคร

เรื่องย่อ ปลาหลงฟ้า ช่อง 7HD

          ติ๊ดติ๊ดติ๊ดติ๊ดปิ้วปิ้วปิ้วปิ้ว เสียงจากสมาร์ทโฟนดังตลอดเวลาในห้องทำงานของประธานบริษัทมีโชคคนใหม่ ประสานรับกับเสียงเปิดประตูดังโครม! "แกทำอะไรของแก ไอ้น่าน!" นางวิภา (ทัศน์วรรณ เสนีย์วงค์ ณ อยุธยา)แผดเสียงดังก้อง อีกฝ่ายตอบไม่ยี่หระ"กำลังลับสมองอยู่ครับ" นางวิภาทนไม่ไหวแล้ว! "น่านฟ้า" (วงศกร ปรมัตถากร) ลูกชายของสามีผู้วายชน มาทำงานได้ 2 เดือนแต่ยังทำตัวเหลวไหล และไม่ว่านางวิภาจะส่งเสียงแว้ดๆๆๆมากแค่ไหน อีกฝ่ายก็ต่อปากต่อคำด้วยน้ำเสียงยียวน กวนประสาท แถมยังชวน"แม่ใหญ่"มาฝึกเล่นเกมกับเขาจะได้ไม่เป็นอัลไซเมอร์ นี่ยังไม่รวมชุดทุเรศๆบ้าๆบอๆที่น่านฟ้าใส่มาทำงานในฐานะประธานคนใหม่ของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผลิตข้าวเกรียบมีโชคออกสู่ตลาดมานานกว่า 30 ปี

           นางวิภาไม่ได้อยากบังคับน่านฟ้าเลย นางไม่เคยอยากให้"ไอ้เด็กเหลือขอ"ลูกเมียรองอย่างเขามารับตำแหน่งนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะคำขอสุดท้ายของ"นายโชค"อดีตประธานบริษัท สามีของนางที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อ 3 เดือนก่อน อุบัติเหตุครั้งนั้นพราก"วิชญะ"ลูกชายของนางไป เขาเสียชีวิตคาที่ ส่วนนายโชคเสียชีวิตอีก 1 สัปดาห์ต่อมา ก่อนจากไปสามีของนางทิ้งคำขอสุดท้ายไว้ว่าให้น่านฟ้าลูกของเขากับนางสุกัญญา (กชกร นิมากรณ์) มาสานต่อกิจการข้าวเกรียบมีโชค ความจริงนางวิภาหมายมั่นปั้นมือหวังให้วิชญะลูกชายของนางเป็นประธานคนต่อไปของบริษัทแต่ก็เป็นไปไม่ได้แล้ว นางวิภาไม่มีทางเลือกจึงต้องยอมให้อาณาจักรมีโชคตกอยู่ในมือของน่านฟ้า ที่นอกจะไม่เอาถ่าน เสเพลแล้ว ยังยียวนกวนประสาทไม่หยุดหย่อน

    

          "ไม้เด็ด"ของนางวิภาคือการหา"ผู้ช่วย"มาสอนงานและควบคุมพฤติกรรมของน่านฟ้า แม้ผู้ช่วยจะเป็น"ผู้หญิง"ตามความต้องการที่น่านฟ้าหนุ่มเพลย์บอยขอไว้ แต่ทันทีที่น่านฟ้าเจอ"มัศยา" (ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์) ฝันของเขาก็สลายลงทันทีเพราะเธอห่างไกลสเปกของเขาเหลือเกิน นี่มันร่างอวตารของแม่ใหญ่ชัดๆ! อายุก็มากกว่าเขาตั้ง 2 ปี หุ่นก็อวบ ดูอึด ถึก ทนและแข็งแรง หน้าตาก็แทบจะไม่มีเครื่องสำอางค์ ผมก็เพียงรวบๆหางม้าไว้ แถมน้ำเสียงก็ดังฟังชัดและหนักแน่นราวกับนายทหารหญิง แม้ผิวหน้าจะดูอ่อนเยาว์แต่แววตานั้นแสนจะเข้มงวดและพร่องความไร้เดียงสา ทำให้หนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์วัย 27 ปีอย่างน่านฟ้ายิ่งหมดอารมณ์ในการทำงาน

           มัศยาอายุ 29 เธอทำงานที่บริษัทข้าวเกรียบมีโชคมา 7 ปีแล้ว ปัจจุบันเธอเป็นผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด เธอตั้งใจถ่ายทอดประสบการณ์ทั้งหมดให้น่านฟ้าและพร้อมทำทุกวิถีทางให้เขาเหมาะสมกับตำแหน่งประธานเพื่อมาช่วยกอบกู้สถานการณ์อันย่ำแย่ของบริษัทตามคำสั่งของนางวิภา แต่แค่เริ่มภารกิจลูกชายคนเล็กของอดีตประธานก็ปั่นหัวและสร้างปัญหาให้เธอต้องออกแรง อาทิเช่น น่านฟ้าพยายามหลบเลี่ยงการสอนงานของมัศยาด้วยการอ้างว่าท้องเสีย มัศยาจึงตามล่าเขาไปถึงในห้องน้ำชาย ปีนขึ้นไปที่ประตูดูให้เห็นกับตา นี่ถ้าเขาไม่ใจกล้าหน้าด้านจะถอดกางเกงให้ดู เธอไม่มีวันปล่อยหนีไปแน่ๆ ไม่มีทางที่คนอย่าง "เจ๊หยี” (ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์) ณ มีโชคจะยอมแพ้ง่ายๆ เธอต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จเพื่อประธานโชค ผู้มีพระคุณต่อเธอและครอบครัว

          "เสเพล ไม่เอาถ่าน ไม่เป็นโล้เป็นพาย" เหล่านี้คือคุณสมบัติแค่"บางส่วน"ของประธานคนล่าสุดที่ทุกคนในบริษัทรู้จักกัน การวางอนาคตของข้าวเกรียบมีโชคไว้ในมือของน่านฟ้าเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ โดย เฉพาะสำหรับ"นายสุกิจ"น้องชายบุญธรรมของนางวิภา นายสุกิจ (สันติสุข พรหมศิริ) พยายามหว่านล้อมให้นางวิภาทบทวนอีกครั้งเรื่องตำแหน่งประธาน นี่ไม่ใช่ตำแหน่งที่"เด็กอมมือ"อย่างน่านฟ้าจะมาทำได้ เพราะนายสุกิจหมายมั่นปั้นมือจะ"ฮุบ"อาณาจักรนี้ไว้เสียเอง

 

          "เมื่อไหร่น่านจะเลิกแกล้งแม่ใหญ่ซะที" นางสุกัญญาถามลูกชายด้วยน้ำเสียงอบอุ่นใจดี นางรู้ว่าที่น่านฟ้าทำตัวเหลวไหล บ้าๆบอๆเพราะไม่อยากเป็นประธานบริษัทของพ่อ พ่อที่ไม่เคยไยดีเขาและแม่ น่านฟ้าไม่เคยลืมว่าเขาและแม่ต้องใช้ชีวิตดิ้นรนกระเสือกกระสนขนาดไหน ผิดกับแม่ใหญ่และวิชญะพี่ชายต่างแม่ที่ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย เพียงเพราะพ่อไม่กล้าคัดง้างกับแม่ใหญ่ สุดท้ายพ่อก็เกรงใจเมียแรกจนยอมเห็นเมียและลูกอีกคนลำบาก ตั้งแต่น่านฟ้าจำความได้ แม่ใหญ่ขอพ่อให้เตรียมพินัยกรรมยกหุ้นและตำแหน่งประธานบริษัทให้วิชญะไว้แต่เนิ่นๆ แม่ใหญ่ยืนกรานเสียงแข็งเสมอว่าผู้บริหารธุรกิจนี้คนต่อไปต้องเป็นวิชญะลูกชายคนเดียวของนางเท่านั้น นางจึงกีดกันน่านฟ้าไม่ให้เข้าไปยุ่งกับอาณาจักรมีโชค และตัวน่านฟ้าเองก็ไม่ได้อยากสานต่อธุรกิจที่ไร้อนาคตอย่างข้าวเกรียบที่มีชื่อเชยๆว่ามีโชค!

          "โอ๊ย!"น่านฟ้าร้องเสียงหลง เป็นเสียงที่สองของน่านฟ้าที่ดังขึ้นในห้องประชุม นอกจากเสียงกรน"คร่อกฟี้ คร่อกฟี้"ของเขา อันเกิดจากการกระทำของมัศยาที่ทนไม่ไหวจึงใช้เท้าที่สวมคัตชูสีดำกระทืบลงบนรองเท้าผ้าใบสีส้มแปร๊ดของน่านฟ้า ประธานคนใหม่หลับตลอดการประชุม ทันทีที่ตื่นขึ้นเขาก็สั่งเลิกประชุมโดยไม่สนใจใคร นางวิภาจึงสั่งให้มัศยารายงานผลการประชุมให้น่านฟ้าฟัง แต่มัศยาก็ทำภารกิจ “พลาด!"อีกครั้ง น่านฟ้าแกล้งทำไฟดับและหนีไปอีกจนได้

          วันต่อมามัศยาอาละวาดน่านฟ้าที่ทำให้เธอถูกนางวิภาเฉ่งเป็นชั่วโมงเพราะปล่อยให้เขาหนีกลับบ้าน มัศยาเดือดดาลขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่น่านฟ้าสนุกขึ้นทุกที "ฉันเหลืออดกับคุณแล้วนะ!"มัศยาแว้ดใส่จนน่านฟ้าต้องอุดหู คงเป็นเรื่องประหลาดถ้าผู้หญิงขี้บ่น ปากจัดและเสียงดังอย่างมัศยาจะมีแฟน น่านฟ้าคิดและพูดใส่หน้าเธอ เขาเรียกมัศยาว่า"เจ๊"ตลอดเวลายิ่งทำให้มัศยาอารมณ์ขึ้น มัศยาไม่ชอบที่น่านฟ้าเรียกเธอว่า"เจ๊"เพราะทำให้เธอนึกถึง"เจ๊เกียว"เจ้าแม่รถทัวร์! ผู้ชายทำตัวไร้สาระ ไม่เอาไหนอย่างน่านฟ้า ก็คงไม่มีผู้หญิงคนไหนเอาเหมือนกัน น่านฟ้าไม่ลดละคุยโอ่ว่าผู้ชายหล่อๆอย่างเขามีแต่สาวติดตรึม มัศยาตอกกลับไปว่ามีแต่ผู้หญิงโง่ๆไร้สมองถึงจะมาติดผู้ชายอย่างน่านฟ้า เขาไม่ยอมจบโต้กลับว่าโง่ ไร้สมองรึเปล่าไม่รู้ แต่สวยกว่ามัศยาแน่นอน ศึกน้ำลายเหมือนจะจบลงเพราะมัศยาต้องขับรถพาประธานคนใหม่ออกไปพบลูกค้า แต่เขาก็ยียวนประสาทเธอตลอดเวลาที่อยู่ในรถด้วยกัน ซ้ำยังนัด"แอนนา" (เตย กัญญกร พินิจ) สาวสวยหุ่นนางแบบให้ไปรับเขาระหว่างทางเพื่อเลี่ยงการไปพบลูกค้าแต่ไปกินข้าวกลางวัน กับผู้หญิงแทน

          "เราต้องการประธานสุกิจ เราต้องการประธานสุกิจ เราต้องการประธานสุกิจ!" เสียงประกาศผ่านโทรโข่งดังก้องอย่างต่อเนื่องบนเวทีหน้าอาคารบริษัทมีโชค ภูริช (ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์) ผู้จัดการฝ่ายการตลาดลูกน้องมือขวาของนายสุกิจทำหน้าที่เป็นแกนนำปลุกระดมพนักงานสองร้อยกว่าชีวิตมารวมตัวกัน ไม่ใช่แค่ม็อบพนักงานเท่านั้นแต่ที่ประชุมผู้บริหารก็พร้อมใจกันลงมติให้นายสุกิจดำรงตำแหน่งแทนน่านฟ้า

          นางวิภารู้ดีว่านายสุกิจอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ นางไม่มีทางยอมยกบริษัทให้น้องชายบุญธรรมที่ฉลาดแกมโกงอย่างนายสุกิจแน่ นางวิภาพยายามเกลี้ยกล่อมน้องชายบุญธรรมแต่ไม่เป็นผล สุดท้ายนางจึงไปอาละวาดน่านฟ้าถึงที่บ้าน ความเหลวไหลของน่านฟ้าทำให้พนักงานทุกระดับก่อม็อบปลดน่านฟ้าและกดดันให้ยกตำแหน่งให้นายสุกิจ น่านฟ้าไม่เดือดร้อน เขาว่าก็ให้นายสุกิจเป็นประธานไปเพราะเป็นน้องแม่ใหญ่อยู่แล้ว หากนางวิภาบอกว่านายสุกิจไม่ใช่สายเลือดเดียวกันกับนางหรือนายโชค น่านฟ้าตอกกลับทันทีว่า "ผมก็ไม่ใช่สายเลือดแม่ใหญ่เหมือนกัน!" "แต่แกสืบสายเลือดของคุณโชค!" คำพูดนี้ของนางวิภาและคำขอของนางสุกัญญาทำให้น่านฟ้าใจอ่อน ยอมให้สัญญาลูกผู้ชายว่าเขาจะเอาตำแหน่งประธานและบริษัทของพ่อกลับคืนมาให้ได้

          "จะกอบกู้สถานการณ์ที่ตกต่ำมาตลอดหลายปีของข้าวเกรียบมีโชคโดยกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้น 50% ภายในเวลา 3 เดือน ถ้าทำไม่ได้จะยกตำแหน่งประธานให้น้าสุกิจอย่างไม่มีเงื่อนไข" ข้อเสนอของน่านฟ้าที่ยื่นให้ม็อบ พนักงานทุกคนยอมรับเงื่อนไขโดยมีนายสุกิจอยู่เบื้องหลังเพราะคิดว่ายังไงน่านฟ้าก็ไม่มีทางทำได้สำเร็จ แต่พอน่านฟ้าออกปากว่าจะมีใครช่วยงานเขาในเวลา 3 เดือนต่อจากนี้บ้าง กลับมีแต่ความเงียบงันจากพนักงาน แล้วก็มีเสียงตอบจากสวรรค์ "ฉันเอง!" แม้น่านฟ้าจะสุดแสนประหลาดใจกับการกระทำของมัศยา ร่างอวตารของแม่ใหญ่ แต่อย่างน้อยเขาก็ดีใจที่ไม่ต้องต่อสู้เพียงลำพัง

          ศึกใหญ่ครั้งสำคัญเริ่มต้นขึ้น ศึกย่อยๆระหว่างน่านฟ้าและมัศยาจึงสงบลง"ชั่วคราว" ภารกิจกอบกู้บริษัทมีโชคมีเพียง"เขา"และ"เธอ"ที่จำเป็นต้องร่วมมือกัน น่านฟ้าเสนอให้มีการ"รีแบรนด์"สินค้าใหม่ แม้มัศยาจะไม่เห็นด้วยที่น่านฟ้าจะเปลี่ยนชื่อข้าวเกรียบมีโชค แต่ไอเดียของน่านฟ้าในการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของสินค้าและการเตรียมตัวทำการบ้านมาอย่างดีโดยการอ่านแผนการตลาดเดิมที่ประธานโชคและวิชญะเคยวางไว้ร่วมกับฝ่ายการตลาดของเธอ ทำให้มัศยาทั้งอึ้ง ทั้งทึ่ง ทั้งเสียว แล้วน่านฟ้าก็เริ่มเห็นว่ามัศยานั้น"น่ารักดี"จึงปฏิบัติการ"หมาหยอกไก่" แต่มัศยาเองระวังตัวตลอดเวลา"ถ้าคิดจะจีบฉัน เลิกคิดได้เลยนะ ฉันมีแฟนแล้ว" น่านฟ้าหัวเราะคิก เขาจะจีบมัศยาได้ยังไงในเมื่อ"เจ๊"ไม่ใช่สเปกของเขาเลย ผู้หญิงของน่านฟ้าต้องหุ่นนางแบบเท่านั้น!

          "ข้าวเกรียบสาหร่ายสมุนไพร" สูตรใหม่ที่น่านฟ้าเสนอไอเดียนอกจากการรีแบรนด์สินค้า เขาและเธอจึงต้องออกตามล่าหาคนทำสูตรนี้ น่านฟ้าเป็นคนพามัศยาไปหา"ป้ามะลิ" (นฤมล เปี่ยมพงษ์ศานติ์) เจ้าของสูตรข้าวเกรียบรสเลิศสุดโหด ที่หน้าบ้านป้ามะลิน่านฟ้ากับมัศยาพนันกันว่าถ้าน่านฟ้ากอบกู้สถานการณ์ของข้าวเกรียบมีโชคได้สำเร็จภายในสามเดือนเขามีสิทธิ์จะขออะไรเธอก็ได้อย่างหนึ่งแต่ถ้าน่านฟ้าทำไม่สำเร็จมัศยาจะเป็นคนได้สิทธิ์ในขออะไรก็ได้จากเขาแทน

          ความโหดของป้ามะลิทำให้ทั้งคู่ต้องปฏิบัติการตื้อเท่านั้นที่ครองโลกโดยนอนข้ามคืนตากน้ำค้างอยู่หน้าบ้านป้ามะลิอย่างไม่ย่อท้อแม้จะถูกเขวี้ยงปาของไล่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุดท้ายป้ามะลิก็ใจอ่อนยอมช่วยเพราะบังเอิญป้าจอมโหดรู้ว่ามัศยาเป็นลูกของนางสมใจหรือ"เจ๊สมใจ ณ มีโชค" (อลิษา ขจรไชยกุล)เพื่อนของเธอ เมื่อติดต่อป้ามะลิเรียบร้อย น่านฟ้าจึงแวะไปส่งมัศยาที่บ้านเพื่อขอบคุณนางสมใจ นอกจากจะได้รู้ว่านางสมใจแม่ของมัศยาจงรักภักดีต่อบริษัทมีโชคมากขนาดไหน ยังพบว่ามัศยาเป็นแม่ม่ายเรือพ่วง เธอมีลูกแล้ว เป็นเด็กน้อยแสนน่ารักวัย 6 ขวบชื่อนะดี(น้องณัชชา ชวัลรัตน์เจนจิตรานนท์)ที่ติดใจน่านฟ้าตั้งแต่แรกพบ

          ป้ามะลิเริ่มดูแลเรื่องสูตรข้าวเกรียบใหม่โดยมีน่านฟ้ากับมัศยาเป็นผู้ช่วยหลัก และมีไพศาล (บอส เดชบดินทร์ ฉายทองดี) ลูกน้องของมัศยาแอบมาช่วยกันผสมสูตรจนเช้ามืด น่านฟ้าและมัศยาต้องอยู่ค้างคืนด้วยกันอีกครั้งที่ห้องทำงานของน่านฟ้า เขาซักมัศยาเรื่องนะดี พ่อของนะดี และสงสัยว่าทำไมเขาไม่เห็นสินธุ (เจจินตัย อันติมานนท์) แฟนของเธอโทรหาเลย มัศยาตอกกลับว่าไม่เห็นน้องแอนนาโทรหาเขาเหมือนกัน น่านฟ้าบอกว่าน้องแอนนาไปถ่ายแบบที่สิงคโปร์ 3-4 เดือน คืนนั้นมัศยาทวงสัญญาจากน่านฟ้าว่าต้องนวดต้นคอให้ชดเชยที่เธอต้องนอนคอห้อยทั้งคืนที่หน้าบ้านป้ามะลิ น่านฟ้าไม่ลืมที่จะโปรยเสน่ห์ใส่ "ระวังจะติดใจฝีมือผมจนถอนตัวไม่ขึ้นนะ ผู้หญิงหลงผมจนหัวปักหัวปำทุกราย" แต่ก่อนที่น่านฟ้าจะล่วงเกินเธอมากไปกว่าการนวด มัศยาก็ออกอาวุธหมัด ศอก เข่าใส่จนเขาต้องหยุดเจ้าชู้ใส่เธอ

          หลังผ่านขั้นตอนการผลิตโดยฝีมือเพียงไม่กี่คน ในที่สุดข้าวเกรียบสาหร่ายสมุนไพรล็อตแรกทั้งรสกะเพรา ตะไคร้ และ อัญชัญก็ออกมาให้พนักงานบริษัทมีโชคได้ชิมกัน ทุกคนต่างฟันธงว่าข้าวเกรียบสูตรนี้ต้องติดตลาดในไม่ช้า อีกทั้งน่านฟ้ายังทำเรื่องเซอร์ไพรส์ด้วยการติดต่อกับห้างดังไว้เพื่อวางขายสินค้า ทั้งหมดนี้ทำให้นางวิภาเปี่ยมไปด้วยความหวัง ในขณะที่นายสุกิจดิ้นพล่าน เขาและภูริชวิ่งไปหา ปารณ (ซัน พิชยดนย์ พึ่งพันธ์) หนุ่มหน้าเข้มวัย 30 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัทเอ็นพีอาร์กรุ๊ปบริษัทที่ปรึกษาการตลาดชื่อดังซึ่งมีซีอีโอชื่อมิสเตอร์คิน นายสุกิจใช้บริการบริษัทนี้อยู่ เขาวางแผนโละข้าวเกรียบมีโชคทิ้งมาพักใหญ่แล้ว และกำลังแอบปลุกปั้นข้าวเกรียบยี่ห้อใหม่ "ข้าวสาหร่ายมันฝรั่งทอดโอกิมิ!"

           "วิธีการกำจัดคู่แข่งที่ดีที่สุดคือฆ่าให้ตายเสียแต่เนิ่นๆ"คำพูดของปารณที่สนับสนุนความคิดของ นายสุกิจในการทำให้งานของน่านฟ้าสะดุดเพื่อกันไว้ดีกว่าแก้ และปารณแนะนำว่านายสุกิจต้องทำให้เครื่องจักรในการผลิตข้าวเกรียบเสีย หลังเลิกประชุมปารณไปหาเพื่อนที่ผับดัง เขาสะดุดตาที่ผู้หญิงสวยรูปร่างดีคนหนึ่ง เธอน่าจะอายุไม่เกิน 20 ในที่สุดปารณก็พาผู้หญิงคนนั้นมาที่คอนโดของเขาได้ แต่เขากลับถูกวางยาและปลดทรัพย์ เธอเป็นนางนกต่อ!

          "เจ๊จะไม่ให้รางวัลผมหน่อยเหรอ" น่านฟ้าขอรางวัลจากมัศยาหลังบอกข่าวดีว่าเขาจะทำตามใจเธอไม่เปลี่ยนชื่อข้าวเกรียบมีโชคแล้ว โดยให้เหตุผลว่าชื่อมีโชคมีต้นทุนอยู่แล้วเพราะอยู่ในตลาดมานาน ความจริงในใจมัศยาก็อยากกระโดดหอมแก้มเขาเหมือนกันแต่เธอมีคนรักอยู่แล้ว และถึงแม้น่านฟ้าจะหล่อเร้าใจขนาดไหน แต่เขาไม่ใช่สเปกของเธอ สเปกของมัศยาต้องเป็นหนุ่มมาดภูมิฐานดูเป็นผู้ใหญ่อย่างสินธุ ไม่ใช่เด็กไม่รู้จากโตอย่างน่านฟ้า

          "ผมสังหรณ์ใจว่าอาจจะมีคนเล่นไม่ซื่อ" ซิกซ์เซนส์ของน่านฟ้าแม่นซะด้วย ครั้งแรกน่านฟ้ากับมัศยาเห็นคนร้ายผ่านกล้องวงจรปิดในไอแพด แม้คนร้ายจะหนีไปได้แต่รปภ.ก็ขัดขวางภารกิจการทำลายเครื่องจักรไว้ทัน จากนั้นน่านฟ้าบอกให้มัศยา ไพศาลและพนักงานอีกคนช่วยกันขนย้ายที่เก็บข้าวเกรียบสมุนไพรมีโชคที่เพ่ิงผลิตเสร็จสดๆร้อนๆ เช้าวันต่อมาโกดังใหญ่ที่ใช้เก็บผลิตภัณฑ์ของโรงงานเปียกชุ่ม มีคนร้ายใช้สายยางฉีดน้ำเข้าไปในโกดัง น่านฟ้าคาดการณ์ได้แม่นยำอีกครั้งราวกับเป็นผู้หยั่งรู้อนาคต!

          ปารณแปลกใจเมื่อภูริชมาบอกว่าน่านฟ้ารู้ทันแผนการของพวกเขาหมดทุกอย่าง ภูริชเสนอให้ใช้"จุดอ่อน"ของน่านฟ้าเล่นงานตัวเขา โดยหาผู้หญิงเข้าไปทำให้เสียงานและคอยรายงานความคืบหน้าของน่านฟ้าทุกฝีก้าว ผู้หญิงคนที่ภูริชหามาเป็นนางนกต่อแสนสวยชื่อนิรชา ปารณจำได้เธอคือคนที่ปลดทรัพย์เขาเมื่อคืนนั้นนั่นเอง ปารณต้อนนิรชาจนมุม เขาจำเธอได้แม่นและยังมีหลักฐานทั้งพยานปากอย่างยามประจำคอนโดและภาพในกล้องวงจรปิด แม้นิรชาจะหน้าเสียแต่ก็ยังสวนกลับว่า"ก็คืนนั้นคุณมันหื่นเองนี่" และบอกว่าถ้าเขาแจ้งตำรวจเธอก็จะบอกตำรวจว่าเขากับภูริชจ้างเธอเป็นนางนกต่อให้ทำร้ายน่านฟ้า สุดท้ายปารณจึงเลือกที่จะเอาคืนด้วยการตอแยเธอแทนที่จะได้เงินกับของคืน เขาบังคับให้นิรชาต้องทำทุกอย่างตามคำสั่งเขา

          "โครม!" รถหกล้อที่น่านฟ้าต้องขับไปส่งสินค้าเองชนรถญี่ปุ่นสีขาวของสาวน้อยนางหนึ่งที่ทั้งสวย น่ารักและรูปร่างดีสุดๆ น่านฟ้าผู้ชายบ้างานกลับมาเป็นผู้ชายหื่นกามในทันที เพียงลงไปเคลียร์กันไม่นานเขาและเธอก็ปฏิบัติการขอใจแลกเบอร์โทรกันเรียบร้อย ท้ายที่สุดตลอดเส้นทางที่ไปส่งสินค้าน่านฟ้าก็โทรศัพท์คุยกับ"น้องนิ้ม"จนแบตมือถือแทบระเบิด แต่รถหกล้อยังคงมุ่งหน้าไปร้านค้าส่งร้านแล้วร้านเล่า ของถูกลำเลียงจากรถบรรทุกสู่ร้านค้าจนฟ้ามืด น่านฟ้าก็ยังไม่วางโทรศัพท์ โดยผู้ปฏิบัติภารกิจขับรถหกล้อแทนน่านฟ้าและขนของอันหนักอึ้งอยู่เพียงคนเดียวก็คือมัศยา!

          มัศยาทั้งเหนื่อยทั้งหงุดหงิด น่านฟ้าจึงไถ่โทษด้วยการพาเธอไปเลี้ยงที่โรงแรมห้าดาว แม้มัศยาจะอึดอัดเพราะสารรูปของเธอยับเยินจนดูไม่ได้ แต่การที่น่านฟ้าตามใจเธอด้วยการยอมให้เธอสั่งอาหารที่เธอต้องการและสวาปามทุกอย่างบนโต๊ะเรียบวุธก็ทำให้เธอกลับมายิ้มได้ ขากลับน่านฟ้าขับรถหกล้อมาส่งมัศยา ที่บ้านฝ่ายหญิงน่านฟ้าเจอสินธุที่ยังคงใช้รถของมัศยาไม่ยอมคืน

          นะดีตามมัศยาออกมาส่งน่านฟ้าที่รถบรรทุกหกล้อ ขณะที่นะดีปีนไปเล่นบนท้ายรถ น่านฟ้าเตือนมัศยาที่สินธุยังไม่คืนรถให้เธอและว่ามัศยาหลงแฟนไม่ลืมหูลืมตา มัศยาโต้กลับให้น่านฟ้าเตือนตัวเองที่ทั้งเจ้าชู้ทั้งกะล่อน สักวันจะโดนดี น่านฟ้าอ้างว่าน้องแอนนาอยู่สิงคโปร์ น้องนิ้มก็เลยต้องมาช่วยแก้เหงาเพราะมัศยานั่นแหละที่ไม่ไยดีเขา ก่อนกลับมัศยาอุ้มนะดีส่งน่านฟ้า ลูกสาวมัศยาส่งยิ้มหวานโบกมือลาและส่งจูบให้เขา น่านฟ้ายิ้มหวานโบกมือลาและส่งจูบกลับให้นะดี พร้อมกระเซ้ามัศยาว่า "คืนนี้ฝันถึงผมบ้างนะเจ๊!"

          นายสุกิจพอใจที่ภูริชมารายงานว่าแผนการใช้นางนกต่อกำลังไปได้สวย ส่วนนางวิภาเดือดดาลเพราะน่านฟ้าผิดนัดรายงานความคืบหน้าผลการทำงาน นางรอน่านฟ้ามา 3 ชั่วโมงแล้ว แถมยังได้ภาพที่ภูริชส่งต่อมาเป็นภาพน่านฟ้าถ่ายคู่กับนิรชาอย่างสนิทสนมในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ความซวยตกอยู่ที่มัศยา นางวิภาสั่งว่าถ้ามัศยาปล่อยให้น่านฟ้าเหลวไหลอีก นางจะเอาเรื่องเธอ

          ปฏิบัติการตามล่าน่านฟ้าที่ผับยามค่ำคืนจึงเป็นอีกหนึ่งภารกิจของมัศยา เธอฉุดกระชากน่านฟ้าจากน้องนิ้มหรือนิรชา และรีบลากเขาออกจากฟลอร์เต้นรำด้วยเรี่ยวแรงราวกับช้างสาร มัศยาทำให้น่านฟ้าทึ่งต่อเมื่อเธอบอกว่าจะไปนอนเฝ้าเขาที่คอนโด จะได้ไม่หนีเที่ยว ไม่นอนตื่นสาย "เจ๊จะไปนอนค้างกับผมที่คอนโด คิดมิดีมิร้ายกับผมรึเปล่า"น่านฟ้าถามมัศยาด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มแห่งความสนุกสนาน มัศยาตอกกลับว่าถ้าน่านฟ้าคิดจะทำอะไรเธอ เธอเอาเลือดหัวเขาออกแน่แม้นางสมใจแม่ของเธอจะเป็นคนออกไอเดียให้มัศยามานอนเฝ้าและดูแลน่านฟ้าเป็นอย่างดี ปลาอย่างมัศยาไม่มีทางหลงรักน่านฟ้าแน่นอน เพราะเธอเกิดมาคู่สินธุ ไม่มีอะไรมาพรากเธอและเขาได้

          เกิดเรื่องจนได้! มัศยาไม่ได้ไปนอนเฝ้าน่านฟ้าทุกคืน น่านฟ้าจึงมาสายอีกแล้ว ครั้งนี้มีนัดถ่ายทำโฆษณา ซ้ำร้ายเขายังบอกว่านัดนางแบบผิดวัน การถ่ายทำโฆษณาชุด"ตุ่ม"จึงล้มไม่เป็นท่า นางวิภากำลังจะอกแตกตาย น่านฟ้ากลับมาทำตัวเหลวไหลอีกแล้ว ภูริชเล่นงานน่านฟ้าต่อโดยให้นิรชาทิ้งน่านฟ้ากลางอากาศเอาให้อกหักดังเป๊าะ นิรชาทำตามนั้น น่านฟ้าเสียใจดื่มจนเมาเละเทะ มัศยาตามไปหาน่านฟ้าที่ผับเพื่อปลอบใจ แต่ที่นั่นมัศยากลับเจอเรื่องช้ำใจเสียเองเมื่อเจอสินธุอยู่กับสาวน้อยผิวขาวจั๊วะ และได้ยินกับหู สินธุว่าเธอเป็นผู้หญิงน่าเบื่อ ผู้ชายที่อยู่ด้วยทุกคนต้องหมดอารมณ์ทางเพศ เขาอยากเลิกจะตายอยู่แล้ว ที่คบไว้ผ่อนคอนโด เสร็จเมื่อไหร่จะขอเลิก มัศยาโกรธจัดทั้งตบ เข่า ถีบสินธุไม่ยั้ง น่านฟ้าสร่างเมาพุ่งเข้าไป ล็อกตัวและลากมัศยาออกมาแทบไม่ทัน

          ตอนนี้กลายเป็นน่านฟ้าปลอบใจมัศยาแทน สำหรับผู้ชายสุขนิยมอย่างน่านฟ้า อกหักแป๊บเดียวก็หาย คนเมาแอ๋กลายเป็นมัศยา โดยมีน่านฟ้าดื่มเป็นเพื่อน น่านฟ้าไม่กล้าพามัศยาในสภาพเละเทะกลับบ้านเลยต้องหิ้วมัศยาไปที่คอนโดเขา มัศยาเมามายจนเผลอเผยความในใจว่าน่านฟ้าทำให้เธอใจหวิว น่านฟ้าเลยจะประทับจูบบนริมฝีปากอิ่ม แต่สัญชาตญาณในการป้องกันตัวของมัศยายังใช้การได้ดี หน้าแข้งของมัศยาเตะป๊าบเข้าที่ต้นขาของเขา ตามด้วยฝ่ามือขวาของเธอเหวี่ยงเข้าที่ใบหน้าของน่านฟ้า ในที่สุดเขาก็หมดแรงสลบสไหลอยู่ข้างตัวเธอ

          ภูริชไปหานิรชาที่คอนโด เขาใช้กำลังหวังจะขืนใจเธอ โชคดีที่ปารณแวะหามาหานิรชาพอดี แม้หญิงสาวจะไม่ได้เอ่ยปากบอกอะไรปารณเพราะภูริชขู่ไว้ว่าถ้านิรชาพูดอะไรเขาจะทำร้ายแม่ของเธอ แต่ปารณรู้ทัน จึงไล่ภูริชกลับไป และดูแลนิรชาที่หน้าบวมฉึ่งเพราะถูกภูริชทำร้าย นิรชานัดนางนารีแม่ของเธอไว้จึงต้องออกไปทั้งๆที่ยังเจ็บหน้าอยู่ เธอไปเยี่ยมแม่ที่ร.พ.รัฐแห่งหนึ่ง นางนารีเป็นมะเร็งมดลูกกำลังรักษาด้วยการให้เคมีบำบัดหลังจากรักษาด้วยการฉายรังสี ปารณแอบตามเธอมา และเข้าไปเยี่ยมแม่ของนิรชาด้วย ปารณได้รู้ความจริงว่านิรชาต้องทำงานเป็นนางนกต่อเพื่อเอาเงินมารักษาแม่ เขาช่วยปิดนางนารีเรื่องงานที่เธอทำให้เขาและบอกนางนารีว่าเธอทำงานเป็นเลขาของเขา ปารณคุยกับนิรชาว่าเมื่อจบงานนี้ เขามีงานเลขาจริงๆให้เธอทำ

          น่านฟ้าไปปรึกษาหารือเรื่องการประชาสัมพันธ์กับมัศยาที่บ้านของเธอ โดยมีนะดีนั่งอยู่ข้างๆน่านฟ้า ภาพตรงหน้ามัศยาประหนึ่งสายใยผูกพันระหว่างพ่อและลูกสาว นางสมใจก็มาดูแลเอาใจน่านฟ้าตลอดเวลา เมื่อนางสมใจพานะดีขึ้นนอน น่านฟ้าออดอ้อนอยากให้เธอหลงรักเขาจนมัศยาใจสั่นระรัว กว่าจะกลับมาคุยกันได้มัศยาต้องตีน่านฟ้าดังผัวะ ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปเรื่องงานว่าจะจัดงานการกุศลเพื่อระดมทุนช่วยเด็กด้อยโอกาสด้วยการขายกอด หอม จุ๊บ โดยเชิญนายแบบหล่อๆมาให้เหล่าคุณหญิงคุณนายได้ร่วมทำการกุศล

          มัศยาตั้งใจไปบอกข่าวดีน่านฟ้าเรื่องยอดขายกระเตื้องขึ้น 10% เพราะการเพิ่มช่องทางกระจายสินค้าไปตามห้าง แต่น่านฟ้ามีข่าวใหม่ล่าสุดกว่านั้นคือ รายการดังจะเชิญข้าวเกรียบมีโชคเป็นหนึ่งในสปอนเซอร์ร่วมทำกิจกรรมด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกับเหล่าคนดัง ข่าวนี้ทำให้มัศยาดีใจจนเผลอกระโดดกอดน่านฟ้า เขาสวมกอดสาวหุ่นเต็มไม้เต็มมือแล้วลูบไล้บั้นท้ายของเธออย่างย่ามใจ มัศยาตบศีรษะน่านฟ้าดังป้าบ! แล้วทุกอย่างก็ถูกขัดจังหวะด้วยการโทรมาขอคืนดีของนิรชา มัศยารีบห้ามทัพ แต่น่านฟ้าอ้างว่าเขาเป็นคนขี้เหงา ขาดน้องนิ้มไม่ได้ แต่ถ้ามัศยายอมเป็นกิ๊กกับเขา น่านฟ้าจะไม่กลับไปคบกับน้องนิ้ม มัศยาต้องจำใจยอมเป็นกิ๊กกำมะลอของน่านฟ้า

          "ข้าวเกรียบมีโชค กอด หมอ จุ๊บ" งานระดมเงินทุนช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสเพื่อประชาสัมพันธ์แถลงข่าวเปิดตัวข้าวเกรียบสาหร่ายสมุนไพรมีโชค จัดขึ้นที่โรงแรมริมแม่น้ำแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ โดยต้องเจอกับอุปสรรคมากมาย พนักงานที่รับปากมาช่วยแสดงเปิดงานเปลี่ยนใจไม่แสดงเพราะภูริชโทรมาขู่ว่าจะไล่คนที่ช่วยงานนี้ออก จึงเหลือเพียงไพศาลหรือต๋อง ดังนั้นจึงกลายเป็นว่า 3 คนที่ต้องสวมชุดมาสคอตตุ๊กตาหมีลายอัญชัญ กะเพรา และตะไคร้ ก็คือต๋อง มัศยาและนางวิภา! โดยน่านฟ้าก็ต้องรับหน้าที่แทนพิธีกรที่ติดธุระโดยบังเอิญ

          งานในค่ำคืนนั้นเกือบจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แต่หลังจากน่านฟ้าให้ต๋องไปส่งนางวิภากลับไปพักผ่อนที่บ้าน นายแบบ 3 คนที่ตกลงมาขายกอด หอม จุ๊บ ก็ยังเดินทางมาไม่ถึงและติดต่อไม่ได้ด้วย แต่ปัญหาก็ถูกแก้ด้วยการสลับให้มัศยาไปทำหน้าที่พิธีกรและน่านฟ้าสวมบทแทนนายแบบ มัศยาและน่านฟ้าถูกแปลงโฉม โดยน่านฟ้ากลายเป็นนายแบบหนุ่มหล่อล่ำที่แสนจะน่ากิน แต่นายแบบจำเป็นกลับกลืนน้ำลายเอื้อกเมื่อเห็นมัศยาในลุคสวยโฉบเฉี่ยวเซ็กซี่ในชุดเกาะอกเข้ารูปสีทองอร่าม เน้นความเต็มอิ่มของทรวงอกและส่วนเว้าส่วนโค้ง

          ค่ำคืนนั้นน่านฟ้าโดนปู้ยี่ปู้ยำจากเหล่าแขกเหรื่อสาวแก่ แม่ม่ายและสาวประเภทสองอยู่นานนับชั่วโมงแลกกับการได้ยอดบริจาคสูงถึง 5 ล้านบาท โดยมีพิธีกรสาวอย่างมัศยาช่วยขายและปั่นราคาด้วยความสนุกสนาน แล้วงานการกุศลก็จบลงอย่างดงาม จากโชว์สุดท้ายที่แสนเซอร์ไพรส์สร้างความประทับใจให้คนมาร่วมงาน นั่นคือการจุมพิตอันดูดดื่มของนายแบบหนุ่มหล่อล่ำกับพิธีกรสาวหุ่นอึ๋มที่คนในงานประสานเสียงเชียร์เพื่อแลกกับการเพิ่มยอดบริจาคขึ้นอีก 1 ล้านบาท

          การจัดงานเปิดตัวประสบความสำเร็จเกินคาด และในคืนเดียวกันนั้นหนังโฆษณาข้าวเกรียบสาหร่ายสมุนไพรมีโชคชุด"ตุ่ม"ก็ออกอากาศเป็นครั้งแรกด้วยสโลแกนฮาๆ"ข้าวเกรียบสาหร่ายสมุนไพรมีโชค อร่อยได้ทุกที่แม้ตอนหนีผีลงตุ่ม" ทุกคนเซอร์ไพรส์ว่าน่านฟ้าไปถ่ายโฆษณาตอนไหน ทั้งหมดเป็นการวางแผนการตลาดอย่างแยบยลของประธานคนใหม่ของบริษัทมีโชคนั่นเอง

          นายสุกิจโวยวายใส่ภูริชเมื่อเห็นทั้งโฆษณาและข่าวพีอาร์งาน"ข้าวเกรียบมีโชค กอด หอม จุ๊บ"ลงว่อนทั้งในแมกกาซีน น.ส.พ.และข่าวบันเทิงในทีวี โดยเฉพาะโฆษณาชุด'ตุ่ม"ที่เป็นที่กล่าวขวัญถึงในโซเชียลมีเดีย นายสุกิจรีบโทรปรึกษาปารณ เขาบอกให้นายสุกิจเดินหน้าให้ข้าวเกรียบสาหร่ายมันฝรั่งทอดโอกิมิ ออกสู่ตลาดโดยเร็วที่สุดและแนะนำให้ลงทุนซื้อเครื่องจักรราคาเป็นสิบๆล้านเพื่อสร้างภาพลักษณ์ความทันสมัยเป็นจุดขายในโฆษณาและทำกิจกรรมให้ลูกค้าเยี่ยมชมโรงงาน นายสุกิจกระวีกระวาดว่าเขามีที่ดินที่ประธานโชคให้ไว้เหมาะสำหรับทำโรงงานใหม่พอดี

          ความสัมพันธ์ของน่านฟ้าและมัศยารุดหน้าเพราะเธอและเขาต้องเดินสายทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง มีการจัดบูทแสดงสินค้าตามที่ต่างๆ แล้วมัศยาก็ได้เห็นและสิ่งที่เห็นทำให้มัศยาพุ่งเข้าไปหาสินธุที่เดินโอบกอดมากับสาวน้อยหน้าใส เธอด่าเสียงดังลั่นเรื่องที่เขาขายคอนโดทิ้งแล้วเอาเงินไปใช้สบายใจเฉิบ น่านฟ้าหยุดการโวยวายของมัศยาด้วยการชกหน้าสินธุอย่างเต็มแรง มัศยาประทับใจที่น่านฟ้าทำเพื่อเธอ ทั้งคู่ไปดื่มเบียร์กันต่อที่คอนโดของน่านฟ้า ที่นั่นเขาบอกอยากรู้จักเธอมากขึ้นกว่าที่เคยรู้จักและขอมีความสัมพันธ์กับเธอ มัศยาถามอย่างตรงไปตรงมาว่าเขาและเธอจะคบกันเพื่อลงเอยด้วยการแต่งงานใช่หรือไม่ น่านฟ้าตอบว่าจะคิดมากไปทำไม แค่ตอนนี้เราสนุกและมีความสุขด้วยกัน พรุ่งนี้มีแต่เรื่องไม่แน่นอน อย่าเพิ่งไปคิดถึงมัน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของจุดจบ!

          น่านฟ้ากลับไปทำงานที่บริษัทมีโชคในฐานะประธานคนใหม่ใส่แว่นตาดำอย่างภูมิฐาน แต่ในใจเขานั้นกลับโหวงเหวง โต๊ะทำงานของมัศยาว่างเปล่า ผู้ช่วยของเขาไม่มาทำงาน เธอลาป่วย เมื่อคืนเรื่องของเขาและเธอจบลงด้วยมัศยาชกน่านฟ้าจนตาเขียวช้ำเป็นหมีแพนด้า น่านฟ้าตามไปง้อมัศยาที่บ้าน มัศยาไม่ฟังคำอธิบายใดๆจากปากน่านฟ้า เมื่อเขาตอแยเธอมากๆ เธอก็ตั้งท่าจะชกตาน่านฟ้าอีก ทั้งยังขับรถไล่ชน และเตรียมจะใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าหากเขายังเข้ามาใกล้ แต่เมื่อน่านฟ้ายอมถอยกลับไป มัศยาก็น้ำตานองหน้า เขาไม่เคยคิดจะจริงจังกับเธอเลย

          วันต่อมาเมื่อน่านฟ้าไปทำงาน เขาเดินผ่านโต๊ะมัศยา เธอมาทำงานแล้ว แต่ไม่เหลียวมองมาทางเขาแม้แต่นิดเดียว น่านฟ้าเจ็บจี๊ดๆเหมือนมีมดแดงกัดที่หัวใจ เขาเรียกมัศยาเข้าไปพบ เธอมีท่าทีเย็นชาเฉยเมยกับเขา น่านฟ้าขอสงบศึก มัศยารับปาก เธอบอกไม่ต้องห่วงเพราะระหว่างเธอและเขาจะมีแต่เรื่องงานไม่มีเรื่องส่วนตัวใดๆเข้ามาเกี่ยวข้อง น่านฟ้ารู้สึกหน่วงๆในอกทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น

          น่านฟ้าเดินหน้าต่อด้วยการขยายไลน์ข้าวเกรีบสาหร่ายมันฝรั่งทอดมีโชค บอร์ดทุกคนเห็นดีเห็นงามกับน่านฟ้า แต่นั่นหมายถึงการลงมา"ฆ่า"ผลิตภัณฑ์ใหม่ของนายสุกิจโดยตรง นายสุกิจพยายามคัด ค้านหัวชนฝาแต่ไม่เป็นผล นายสุกิจและภูริชจึงไปหาที่ปรึกษาทางการตลาด ปารณมีสีหน้าคิดหนักและถามนายสุกิจว่าน่านฟ้าไม่ได้รู้แผนการของสุกิจใช่มั้ยเพราะทุกอย่างบังเอิญจนน่าแปลกใจ แล้วภูริชก็แจ้งข่าวร้ายอีกอย่างว่าในเยอรมนีไม่มีบริษัทขายเครื่องจักรที่นายสุกิจโอนเงินไป นายสุกิจโดนหลอก เขาโวยวายเสียงดังที่ต้องเสียเงินไปเป็นสิบๆล้าน ในขณะที่ปารณกำลังอธิบาย มิสเตอร์คินก็ปรากฎตัวขึ้น.....น่านฟ้าคือมิสเตอร์คิน นายสุกิจและภูริชตะลึงงัน

          น่านฟ้ารู้เรื่องราวทั้งหมดที่นายสุกิจคิดจะเปิดตัวข้าวเกรียบยี่ห้อใหม่ โละข้าวเกรียบมีโชค แอบไปเปิดโรงงานอีกแห่ง ยักยอกเงินของบริษัทไปเป็นสิบๆล้าน เขามีหลักฐานมัดตัวนายสุกิจ แต่โชคดี เงินที่นายสุกิจโอนไปเพื่อซื้อเครื่องจักรใหม่ นายสุกิจโอนให้น่านฟ้านั่นเอง นายสุกิจโกรธมากจนพูดแทบไม่ออก เขาทิ้งท้ายด้วยความเคียดแค้น "ฝากไว้ก่อนเถอะ!"

          ภูริชมุ่งหน้าไปจัดการนิรชา หนึ่งในคนที่หักหลังเขา เธอโดนภูริชตบหน้าอย่างแรง 2 ทีรวด โชคดีที่ปารณมาช่วยไว้ทัน และไล่ภูริชออกไป ปารณมาพร้อมป้ามะลิ มาบอกความจริงว่าป้ามะลิเป็นยายของเธอ ปารณและนิรชาพาป้ามะลิไปหานางนารีที่ร.พ. 2 แม่ลูกกอดกันกลม นิรชาซาบซึ้งในสิ่งที่ปารณทำให้ ปารณขอดูแลนิรชาไปตลอดชีวิต แต่คงไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะป้ามะลิออกโรงกันท่าหลานสาวคนสวยสุดตัว

          น่านฟ้าบอกมัศยาให้ออกไปด้วยกัน เขามีนัดสำคัญเรื่องงาน มัศยาจึงยอมออกมาด้วย เขาพามัศยามาพบนิรชากับปารณ สรุปเรื่องให้มัศยาฟังว่าทั้งหมดเป็นแผนของเขากับปารณ ส่วนเรื่องนิรชาบังเอิญรู้จักกับปารณจึงมาร่วมมือด้วย มัศยาทั้งเคืองทั้งงุนงงเมื่อรู้ความจริงทั้งหมด นี่หมายความว่าน่านฟ้าไม่ไว้ใจเธอ แต่น่านฟ้าแก้ต่างว่าเขากลัวข่าวจะหลุดจากแม่ใหญ่เพราะมัศยาไม่มีความลับกับแม่ใหญ่ ส่วนนิรชาบอกถึงความจำเป็นที่เธอต้องทำเพราะแม่ไม่สบายมาก ปารณเล่าให้ฟังว่าเขากับน่านฟ้าและเพื่อนอีกคนเปิดบริษัทที่ปรึกษาด้วยกันตั้งแต่อยู่เมืองนอก ชื่อบริษัทเอ็นพีอาร์มาจากชื่อต้นของพวกเขา 3 คน ส่วนมิสเตอร์คินเป็นฉายาที่เพื่อนตั้งให้เพราะน่านฟ้าบ้าคินนิคุแมนมาตั้งแต่เด็ก ลึกๆแล้วมัศยาก็สะใจที่นายสุกิจกับภูริชทำเรื่องจุดไต้ตำตอแต่ก็หมั่นไส้น่านฟ้าที่เก็บงำความลับทุกอย่างไว้เสียมิดชิด

          เมื่อน่านฟ้าได้เป็นประธานแล้ว มัศยาจึงขอไม่เป็นผู้ช่วยเขาอีกต่อไป น่านฟ้าไม่ยอมขอทวงสัญญาที่เคยพนันกันว่าถ้าเขากอบกู้ยอดขายข้าวเกรียบมีโชคได้ เขาจะขออะไรจากมัศยาก็ได้และเขาขอให้มัศยายกโทษให้ มัศยาทำเป็นไขสือจำไม่ได้ว่าเขาไปพนันไว้กับเธอตั้งแต่เมื่อไหร่"ฉันไม่เคยพนันอะไรกับผู้ชายห่วยๆอย่างคุณ"น่านฟ้าทักท้วงทันที ถามมัศยากลับว่า "ทำไมคุณจะต้องใช้อารมณ์คุยเหมือนผู้หญิง วัยทองด้วย!" เขาและเธอคุยกันไม่รู้เรื่องอีกแล้ว

          น่านฟ้าพาป้ามะลิมาหานิรชาซึ่งตอนนี้ทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาให้ปารณ แม้ป้ามะลิจะแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ปลื้มที่ปารณใกล้ชิดนิรชา แต่น่านฟ้าก็ดีใจแทนเพื่อนที่ได้เจอผู้หญิงที่ใช่ซะที น่านฟ้าปรึกษาปารณเรื่องมัศยา ผู้หญิงที่เขา"รักเล่นๆแต่เอาจริง" ปารณแนะนำให้น่านฟ้าลองจินตนาการถึงมัศยาตอนเป็นคุณแม่ลูกสาม หุ่นอวบกว่านี้อีกห้าเท่า ถ้าผู้ชายที่หลงรูปลักษณ์สวยๆภายนอกอย่างน่านฟ้ารับได้ก็ให้น่านฟ้ากลับไปง้อมัศยาอีกครั้ง หลังจากคุยกับปารณ น่านฟ้าครุ่นคิดอย่างหนักหน่วงแล้วก็ได้ข้อสรุป!

          กลางดึกน่านฟ้ามาจอดรถหน้าบ้านมัศยา ง้อเธอโดยเขียนคำขอโทษใส่กระดาษ A 4 ตามด้วย วาดรูปคินนิคุแมนชูมือทำท่าซารางเฮโยและรูปคินนิคุแมนทำมือเป็นรูปหัวใจไว้ที่อกซ้าย จากนั้นก็หยิบช่อกุหลาบสีแดงออกมา แต่มัศยาก็ทำเป็นใจแข็งไม่ยอมลงไปหาน่านฟ้า สุดท้ายเป็นนางสมใจที่ไปรับช่อกุหลาบสีแดงจากน่านฟ้าแทนมัศยา

          น่านฟ้าเรียกมัศยาเข้าพบ "ท่านประธานมีธุระอะไรไม่ทราบ"มัศยาเรียกน่านฟ้าด้วยสรรพนามที่สุดแสนจะห่างเหิน ทั้งที่เมื่อคืนเขาอุตส่าห์ลงทุนไปง้อเธอขนาดนั้น มัศยาถามน่านฟ้าว่าเขาแน่ใจหรือว่าพร้อมจะจริงจังกับใครสักคน ไม่รังเกียจแม่ม่ายเรือพ่วงอย่างเธอเหรอ น่านฟ้าให้คำมั่น มัศยาจ้องอีกฝ่ายหนึ่งอย่างชั่งใจ"คุณคงไม่ได้คิดอยากเอาชนะหรือพอได้แอ้มฉันแล้วก็พร้อมจะโละทิ้งได้ทุกวินาทีเหมือนถุงเท้าเก่าๆหรอกนะ" น่านฟ้าอมยิ้มกับความตรงไปตรงมาของเธอ เขาเริ่มจะชอบเธอมากขึ้นทุกวัน"ผมสัญญาว่าผมไม่มีวันจะโละทิ้งคุณเด็ดขาด" แต่มัศยาไม่หยุดแค่นั้น เธอขอให้น่านฟ้ารับปากว่าเขาจะไปปฏิบัติธรรมอย่างน้อย 7 วัน 7 คืน

          หัวหน้าคนงานในโรงงาน คือตำแหน่งของภูริชในตอนนี้ นายสุกิจเรียกภูริชไปพบและวางแผนเผาโกดังสินค้าเพื่อแก้แค้น แต่ในใจภูริชนั้นไม่เห็นด้วยเพราะถ้าเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นอีก ยังไงนายสุกิจก็เป็นน้องชายบุญธรรมนางวิภา เขาต่างหากที่จะเดือดร้อนอยู่เพียงคนเดียว ภูริชโทรหาน่านฟ้าขณะที่น่านฟ้ากำลังปฏิบัติการง้อมัศยาต่อจนสำเร็จ เขาบอกให้น่านฟ้าไปพบเพราะมีธุระสำคัญ มัศยาขอไปด้วย

          ภูริชให้น่านฟ้าและมัศยาฟังคลิปเสียงที่นายสุกิจบอกจะเผาโกดังและชี้แจงว่าเขาไม่เต็มใจร่วมมือกับนายสุกิจ พร้อมขอให้น่านฟ้าย้ายเขากลับไปทำตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายการตลาดเหมือนเดิม เมื่อภูริชออกไป น่านฟ้าและมัศยาปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรและจะไม่ให้นางวิภาต้องมาปวดหัวกับเรื่องนี้ แต่คงไม่ได้แล้ว นางวิภาบังเอิญเดินมาได้ยินเรื่องทั้งหมด

          "รับเช็คนี่ไปซะ"นางวิภายื่นเช็คเงินสดสองล้านบาทให้น้องชายบุญธรรม และบอกให้เขาลาออกจากบริษัทมีโชคแล้วไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับที่นี่อีก นางวิภารู้ความจริงทั้งหมดพร้อมคลิปเสียงสนทนาระหว่าง นายสุกิจและภูริช แม้นายสุกิจจะแก้ตัวว่าถูกใส่ร้ายแต่นางวิภาไม่ฟัง สุดท้ายนายสุกิจจำต้องยอมรับเช็คเงินสดจากพี่สาวบุญธรรมมาและเดินก้มหน้าจากไปพร้อมความแค้นใจ

          นายสุกิจไปอาละวาดภูริชที่บ้าน ภูริชพานายสุกิจไปคุยในห้องทำงาน ทั้งคู่เกิดมีปากมีเสียงชกต่อยกันล้มลงบนพื้นชนข้าวของล้มระเนระนาด จนขวดเหล้าแตกกระจายเต็มพื้นห้อง นายสุกิจจะชกภูริชซ้ำแต่ต้องชะงักเมื่อเห็นเลือดไหลนองจากแผ่นหลังของอดีตลูกน้องคนโปรด ขวดเหล้าที่แตกปากฉลามปักลึกเข้ากลางหลังภูริช นายสุกิจหน้าซีดเผือดด้วยความตกใจก่อนจะวิ่งหนีหายไป ภูริชนอนจมกองเลือด เห็นภรรยายืนมองอยู่จึงร้องให้เธอช่วย"อีโง่ มาช่วยกูสิ!"

          นางวิภาแทบช็อคเมื่อทราบข่าวจากตำรวจว่าพบศพภูริชนอนเสียชีวิตอยู่ในห้องทำงาน มีบาดแผลฉกรรจ์อยู่กลางหลัง โดยภรรยาของผู้ตายให้การว่าเมื่อคืนนายสุกิจมาหาสามีเธอซึ่งทำงานเป็นลูกน้องให้นายสุกิจมานานสิบกว่าปีแล้ว บ่อยครั้งที่ทั้งคู่มีเรื่องปรึกษาหารือกัน ส่วนเธอเข้านอนเพราะดึกมากและกินยาแก้หวัดไปด้วยจนเผลอหลับจนเกือบรุ่งสาง ตื่นมาก็พบสามีนอนจมกองเลือดไม่หายใจแล้ว

          ไม่กี่วันต่อมานายสุกิจหนีไปหานางวิภาที่บ้าน บุกไปที่ห้องนอนขอเงินจากนางวิภาห้าล้านเพื่อหลบไปอยู่ชายแดน นางวิภาบอกไม่มีเงินสด นายสุกิจจึงใช้มีดขู่ให้นางวิภาเปิดตู้เซฟและเอาเครื่องประดับกับเงินสดไปแล้วทุบท้ายทอยนางวิภา มัศยาซึ่งเพิ่งมาส่งนางวิภาหลังจากไปงานศพภูริชมาด้วยกันเห็นนายสุกิจมีท่าทีลับๆล่อๆจึงไปซ่อนตัวอยู่ท้ายรถนายสุกิจคิดแผนว่าจะทำยังไงดี

          มัศยาส่งข้อความบอกน่านฟ้าว่าเธอซ่อนตัวอยู่บนรถนายสุกิจ เขาเพิ่งออกมาจากบ้านนางวิภา รถนายสุกิจแล่นไปบนถนน สุดท้ายนายสุกิจได้ยินเสียงกุกๆกักๆและเห็นมัศยาอยู่เบาะหลัง จึงใช้ท่อนแขนทุบท้ายทอยมัศยาจนสลบไป เขาพามัศยามาที่บ้านร้าง มัดมือมัดเท้าเธอผูกติดกับเก้าอี้ นายสุกิจตั้งใจเผามัศยาให้ไหม้เกรียมเพราะแค้นใจที่เธอช่วยน่านฟ้ากลับมาเป็นประธานจนเขาต้องกระเด็นออกมาจากบริษัท นายสุกิจบ้าคลั่งไร้สติ จุดไฟแช็คโยนไปยังกองกระดาษที่อยู่บนโซฟา เขาเดินออกจากบ้านร้างทิ้งมัศยาไว้กับกองเพลิงที่กำลังลุกลาม

          "ปั้ง!" เสียงใครบางคนถีบประตูเข้ามา ฮีโร่สุดที่รักของมัศยา น่านฟ้ามาแล้ว เขาช่วยแก้มัดให้เธอ แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ฝ้าเพดานผุกร่อนร่วงใส่น่านฟ้าเต็มเปา เขาทรุดฮวบและหมดสติคาตักมัศยาทันที ภาพทอล์คออฟเดอะทาวน์เด่นหราบนหน้านสพ.ชื่อดังและกระจายไปทุกหย่อมหญ้า เป็นภาพมัศยาหน้าตาเสื้อผ้ามอมแมมกำลังแบกร่างไร้สติของน่านฟ้าไว้บนหลังก้าวออกมาจากกองเพลิงในบ้านร้าง เธอกลายเป็นฮีโร่หญิง!

          "น่านขา เป็นยังไงบ้าง แอนนาเป็นห่วงที่รักมากเลย" แอนนาสาวสวยหุ่นนางแบบกลับจากสิงคโปร์รีบกลับมาเยี่ยมน่านฟ้าที่ร.พ.และออดอ้อนน่านฟ้า มัศยาจ้องหนุ่มสาวที่กอดแนบชิดกันบนเตียง และได้ยินแม่สาวหุ่นบางพร่ำพรรณาว่าน่านฟ้าเคยอยากให้เธอเป็นแม่ของลูก ยังไงน่านฟ้าก็ชอบผูัหญิงสวยหุ่นนางแบบอยู่ดี มัศยาเปิดประตูออกจากห้องทันทีโดยไม่เหลียวหลังฟังเสียงเรียกแสนร้อนใจของน่านฟ้าอีกเลย

          นายสุกิจถูกตำรวจจับตัวไว้ได้ เขามีอาการเครียดจัดแต่ก็มีนางวิภากับภรรยาคนแรก และลูกสาวคนโตไปเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ ส่วนน่านฟ้าหน้านิ่วหนักตลอดสัปดาห์เพราะนอกจากมัศยาจะเฉยชา ปั้นปึ่ง หมางเมินและแยกเขี้ยวใส่เขาเป็นระยะแล้ว เขายังมีแอนนาเกาะติดเขาหนึบหนับ แต่ในที่สุดน่านฟ้าระเบิดหัวเราะออกมาได้หลังจากแอนนาไลน์มาบอกว่าขอเลิกความสัมพันธ์กับเขา แอนนาเจอหนุ่มไฮโซคนใหม่ เพื่อนของน่านฟ้านั่นเอง เขาวิงวอนให้เพื่อนไปจีบแอนนาเพื่อสลัดเธอหลุดจากตัว

          ง้อจนท้อแล้ว น่านฟ้าโทรง้อมัศยาไม่สำเร็จจนจะถอดใจแต่เมื่อเห็นปารณยอมนั่งปักผ้าเช็ดหน้าที่ป้ามะลิให้ปารณทำเพื่อพิสูจน์รักแท้ที่มีต่อนิรชา อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องลงทุนทำงานฝีมือ น่านฟ้ามีแรงฮึดขึ้นอีกครั้ง เขาปฏิบัติการง้อมัศยาครั้งใหม่โดยขอให้นางวิภารับนางสุกัญญา นางสมใจ และหนูนะดีไปบ้านพักตากอากาศที่หัวหิน ส่วนตัวเขาเองไปดักรอมัศยาอยู่ที่บ้านของเธอ แม้ทาวน์เฮาส์ของมัศยาจะเล็กเพียงใด เธอก็ยังพยายามวิ่งหนีน่านฟ้า เขาวิ่งไล่ตามเพื่ออธิบายให้เธอฟังเรื่องแอนนา มัศยายังไม่เชื่อใจ จนน่านฟ้าบอกว่าเขาไม่ได้รักแอนนา "แล้วคุณรักใคร"มัศยาถาม "ก็รักเจ๊ไง!"น่านฟ้าบอกรักมัศยาและให้สัญญาลูกผู้ชายว่าเขาจะไม่มีทางเปลี่ยนใจไปหาผู้หญิงคนไหนอีก และไม่มีวันทิ้งมัศยา ไม่ว่าจะผ่านไปกี่เดือนกี่ปี พร้อมขอเธอแต่งงาน มัศยาใจอ่อนแล้ว คืนนั้นเธอตั้งใจบอกน่านฟ้าเรื่องนะดีแต่น่านฟ้าเผลอหลับไปเสียก่อน

          วันรุ่งขึ้นมัศยายืนด่าผู้ชายคนนึงอย่างบ้าคลั่ง พ่อของนะดีนั่นเอง เขามาขอยืมเงินมัศยา แล้วน่านฟ้าก็ได้รู้ความจริงเมื่อมัศยาตะโกนขึ้นดังลั่น"ไอ้พี่บ้า!" แท้จริงพ่อนะดีคือพี่ชายแท้ๆของมัศยา เขายกนะดีให้เป็นลูกของเธอ น่านฟ้าตกลงให้พ่อนะดียืมเงิน มัศยาร้องห้าม แต่พ่อของนะดียืนยันว่าเขากลับตัวแล้ว จะเอาเงินไปใช้เพื่อนและลงทุนทำธุรกิจ พร้อมสัญญาว่าจะเอาเงินมาคืนอย่างแน่นอน

          ถึงทีน่านฟ้าบ้าง เขาทำเป็นงอนที่มัศยาไม่บอกความจริงเขาเร็วกว่านี้ มัศยาขอโทษ เธอบอกอยากพิสูจน์ว่าน่านฟ้ารักเธอและนะดีจริง มัศยาเลยต้องง้อน่านฟ้าด้วยการหอมแก้มไปหลายฟอด น่านฟ้ารับปากว่านับแต่นี้เขาจะช่วยเป็นพ่อให้นะดี มัศยามองน่านฟ้าด้วยความรักและความตื้นตัน เขาและเธอมุ่งหน้าไปหัวหิน โดยมัศยาไม่ลืมทวงสัญญาว่าหลังจากค้างหัวหินสามสี่วัน เขาต้องไปปฏิบัติธรรมกับเธอ 7 วัน 7 คืนเพื่อพิสูจน์ว่าปลาไม่ได้หลงฟ้าอยู่ฝ่ายเดียว ฟ้าก็รักปลาเช่นเดียวกัน

กดเลย >> community แห่งความบันเทิง 📸เมาท์ข่าวดารา กับเจ๊รุงรังขังรวม
ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ 🍿ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล 😍ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี