[US Box Office] ฮัลโหลความสยอง "Black Phone 2" กอบกู้หน้าให้บ้านบลัมเฮาส์ในรอบปี
![[US Box Office] ฮัลโหลความสยอง "Black Phone 2" กอบกู้หน้าให้บ้านบลัมเฮาส์ในรอบปี](https://avatar.dmpcdn.com/p320x320/1044/789044.png)
Box Office Black Phone 2
บ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกา รายงานอันดับหนังทำเงินประจำสุดสัปดาห์วันที่ 17-19 ตุลาคม 2025 - บรรยากาศของบ็อกซ์ออฟฟิศในเดือนตุลาคมปีนี้ก็ยังค่อนข้างหงอยเหงา ไม่มีอะไรที่หวือหวาอยู่ต่อไป แม้ว่าสุดสัปดาห์นี้จะมีทัพหนังใหม่เปิดโปรแกรมแทรกเข้ามาเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ก็ไม่ค่อยกระตุ้นความร้อนแรงได้มากสักเท่าไหร่นัก แต่กระนั้นเราก็ได้ต้อนรับแชมป์หนังเรื่องใหม่ "Black Phone 2" ภาคต่อหนังเขย่าขวัญเรื่องฮิตจากปี 2021 ที่กลับมาสานต่อความสยอง พร้อมกับฟีดแบกที่ยังน่าประทับใจอยู่อีกครั้ง และถือว่าเป็นการมาที่กอบกู้สถานการณ์ให้กับ บลัมเฮาส์ ค่ายหนังผีที่ซบเซาไปเป็นปี ๆ ได้ฟื้นตัวอีกหน
Black Phone 2 ออกสตาร์ทด้วยตัวเลขที่น่าพอใจ 26.5 ล้านเหรียญ จาก 3,411 โรงฉาย คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงประมาณ 7,700 เหรียญ นับว่าเป็นตัวเลขที่ทำได้สูงกว่าที่ The Black Phone ภาคแรกเคยทำเอาไว้ที่ 23.6 ล้านเหรียญ เมื่อฤดูร้อนปี 2021 ที่หนังต้องแข่งกับหนังสายแข็งในปีนี้ ตอกย้ำว่าเฟรนไชส์หนังเรื่องนี้ยังคงมีแฟน ๆ ผูกพันและให้การต้อนรับเป็นอย่างดีอยู่ แม้ว่าจะเรืองรองอยู่ในปีที่หนังสยองขวัญมีเส้นทางที่ขรุขระและไม่มีอะไรเป็นใจสักเท่าไหร่นัก
การมาของ Black House 2 ยังเหมือนเป็นการช่วยกอบกู้สถานการณ์ให้กับค่ายหนัง บลัมเฮาส์ ที่แทบจะไม่มีหนังเปิดตัวได้ปังต่อเนื่องมาราว ๆ 2 ปีเต็มแล้ว หากนับผลงานในปีนี้ก็ไม่มีผลงานทำเงินเข้าตาได้เลยสักเรื่องเดียว ไล่มาตั้งแต่ Wolf Man จนมาถึง M3GAN 2.0 ที่ต่างเป็นหนังที่ทำเงินล้มเหลวกันทั้งสิ้น นี่จึงเป็นหนังสยองเรื่องล่าสุดของบลัมเฮาส์ ที่ออกสตาร์ทได้ดีเกือบจะเทียบเท่าทุนสร้าง 30 ล้านเหรียญ และคาดว่าจะเป็นหนังสยองอีกเรื่องที่รอดพ้นจากความตายไปได้
แต่ไม่ใช่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับหนังตลก "Good Foutune" ที่ทำได้ดีที่สุดกับการเปิดตัวในอันดับที่ 3 กับรายได้แค่ 6.2 ล้านเหรียญ จาก 2,990 โรงฉายทั่วอเมริกา คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงเพียง 2,000 เหรียญเท่านั้น กลายเป็นอีกหนึ่งผลงานจากสตูดิโอ ไลอ้อนสเกต ที่ยังเผชิญหน้ากับความล้มเหลวบนบ็อกซ์ออฟฟิศอย่างต่อเนื่อง โดยที่ปีนี้ค่ายหนังแห่งนี้ยังไม่เจอหนังทำเงินได้ฮิตฮอตของตัวเองได้เลยสักเรื่องเดียว
Good Fortune เป็นหนังตลกแฟนตาซีจากฝีมือการกำกับหนังเรื่องแรกของ "อาซิซ อันซาริ" ที่้เขายังร่วมแสดงนำด้วย โดยที่มี "คีอานู รีฟส์", "เซ็ธ โรแกน" และ "แซนดรา โอ" สมทบเป็นนักแสดงด้วย แต่กลับไม่สามารถดึงดูดผู้ชมได้อย่างเพียงพอ แม้ว่ากระแสคำวิจารณ์ของหนังเรื่องนี้จะค่อนข้างน่าพอใจ เพราะมีนักรีวิวชอบถึง 78% เลยทีเดียว แต่ก็ไม่พอที่จะสร้างกระแสปากต่อปากออกมาหนุนนำตัวหนังเอาไว้ได้
ทางด้านแชมป์เก่า "Tron: Ares" ก็เผชิญหน้ากับอาการช้ำหนักในสัปดาห์ที่ 2 ของการฉาย เพราะหนังทำเงินร่วงไปถึง -66% เก็บไปเพิ่มอีก 11.1 ล้านเหรียญ หลังจากที่หนังค่อนข้างเปิดตัวได้ต่ำกว่าที่คาดการณ์เอาไว้เมื่อวีคก่อน ดังนั้นตอนนี้ก็ได้สะสมรายได้ 10 วันแรกไปที่ 54.5 ล้านเหรียญ กับยอดรวมทั่วโลกที่เพิ่งจะแตะ 103 ล้านเหรียญไปหมาด ๆ ยังคงห่างไกลจากทุนสร้างของหนังที่ใช้ไปถึง 180 ล้านเหรียญ โดยที่ยังไม่รวมงบโปรโมตหนังเฉียด ๆ อีกร้อยล้าน เรียกได้ว่าต้องทำใจแล้ว
"Roofman" หนังหวังรางวัลของ แชนนิง เททั่ม ร่วงมาอีก -54% ในวีคที่ 2 ทำเงินไปเพิ่ม 3.7 ล้านเหรียญ กลายเป็นอีกหนึ่งสายรางวัลที่ไม่เรียกคนดูเท่าไหร่ เพราะล่าสุดทำเงิน 10 วันแรกไปได้ช้า ๆ ที่ 15.5 ล้านเหรียญ โดยที่ "One Battle After Another" ยังคงยืนโรงและทำเงินได้ต่อเนื่องมากกว่า เก็บไปอีก 4 ล้านเหรียญ ลดลงไปแค่ -41% แม้ว่าหนังจะยังเสี่ยงสูงที่จะขาดทุนในตอนนี้ แต่ดูทรงจะสามารถยืนโรงฉายได้ยาว ๆ ไปจนถึงช่วงเวลาประกาศรางวัลต้นปีหน้า
ขณะที่หนังดรามาฟีลศรัทธา "Truth & Treason" จากค่ายแองเจิ้ล สตูดิโอ เปิดตัวเบา ๆ ที่ 2.7 ล้านเหรียญ จาก 2,106 โรงฉาย คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงเกือบ ๆ 1,300 เหรียญ ไม่ใช่ตัวเลขที่หวือหวาอะไรนัก แต่เรตคำวิจารณ์เรื่องนี้ค่อนข้างใช้ได้อยู่ ทางด้าน "After the Hunt" หนังหวังรางวัลอีกเรื่องจากอะแมซอน ได้ทำการเปิดฉายวงกว้างเพิ่มเป็น 1,238 โรงฉายทั่วอเมริกา ก็ทำให้ขยับเข้ามาอยู่ Top 10 กับรายได้ 1.55 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น +881% แต่อาจจะไม่ใช่ตัวเลขที่น่าประทับใจเท่านั้น เพราะสถานการณ์เข้าข่ายเป็นหนังรางวัลอีกเรื่องที่เสี่ยงแป้กสูง
ทางฝั่งหนังฉายแบบจำกัดโรงก็มี "The Mastermind" ที่นำแสดงโดย "จอช โอคอนเนอร์" ออกสตาร์ทกับรายได้ 104,000 เหรียญ จากการฉายแค่ 5 โรงเท่านั้น ขณะที่หนังเจ้าของรางวัลปาล์มทองคำจากเมืองคานส์ปีนี้ "It Was Just an Accident" ได้ฤกษ์แค่ในอเมริกาแค่ 3 โรง เปิดตัวที่ 68,000 เหรียญ และเก็บเงินจากการฉาย 5 วันแรกตั้งแต่วันพุธไปได้แล้วที่ 115,000 เหรียญ ดูทรงน่าจะยืนโรงฉายได้ยาว ๆ และอีกเรื่อง "Blue Moon" หนังดรามาสายมิวสิค เปิดตัวที่ 63,000 เหรียญ จาก 5 โรงฉาย ทำรายได้เฉลี่ยต่อโรงไป 12,600 เหรียญ มีลุ้นที่จะได้ฉายล่ารางวัลอีกเรื่อง
สัปดาห์ถัดไปย่างใกล้เข้าสิ้นเดือน ก็เติมเต็มด้วยทัพหนังใหม่ที่อาจจะไม่เข้าธีมใกล้วันฮาโลวีนมากนัก นำมาโดย " Springsteen: Deliver Me From Nowhere" หนังชีวประวัติตำนานคนดนตรีชื่อดัง ที่หมายจะหวังรางวัลอีกเรื่อง ร่วมด้วยอนิเมะ "Chainsaw Man - The Movie: Reze Arc" พร้อมระเบิดความมันส์ฝั่งอเมริกา หนังรักน้ำเน่าโดนโจ "Regretting You" แทรกความกลอมกล่อมเป็นทางเลือก และ Blue Moon หนังดรามาสายดนตรีที่เพิ่งเปิดตัวไปจะทำการฉายเป็นวงกว้าง โดยที่จะมี "Bugonia" หนังตลกเขย่าขวัญกระแสดี จะฉายแบบวงจำกัด กับ "Frankenstein" จากเน็ตฟลิกซ์ ที่จะฉายความสยองงานนี้ครั้งใหม่ในโรงแบบวงแคบ ๆ เพื่อให้มีสิทธิ์ลุ้นชิงรางวัล และ "ParaNorman" แอนิเมชันผจญภัยกลิ่นอายหลอนจากทศวรรษก่อน จะกลับมาฉายใหม่อีกครั้ง
Source: TheNumbers
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- [US Box Office] สยายปีกครบไตรภาค "Tron: Ares" ออกสตาร์ทกับตัวเลขชวน..อืมมม
- [US Box Office] เทย์เลอร์ขอขึ้นแชมป์ "Party of a Showgirl" โกยเงินเจิดจ้าในอเมริกา
- [US Box Office] ส่งท้ายกันยา "One Battle After Another" โฉบเข้ามาปฏิวัติอันดับหนังทำเงิน
- [US Box Office] เสาหลักแข็งยังแกร่ง "Demon Slayer: Infinity Castle" บังรัศมีแก๊งหนังใหม่ไม่ได้เกิด
- TrueID BoxOffice 5 หนัง 5 ซีรีส์ออนไลน์ฮิตจากแอป TrueID
-------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa