รีเซต

Movie.TrueID Picks: 12 หนังน่าประทับใจที่สุดแห่งปี 2021 ของเรา

Movie.TrueID Picks: 12 หนังน่าประทับใจที่สุดแห่งปี 2021 ของเรา
Jeaneration
2 มกราคม 2565 ( 15:00 )
721

ข่าวสารวงการหนัง หนังแห่งปี 2021

อำลาส่งท้ายปี 2021 ด้วยบทสรุปผลงานอันยอดเยี่ยมของวงการภาพยนตร์โลกในรอบปีที่ผ่านมาอีกเช่นเคย แม้ว่าปีนี้จะเป็นปีที่ได้ไปดูหนังที่โรงภาพยนตร์ได้น้อยลง เพราะการล็อคดาวน์ควบคุมโรคระบาด แต่ก็ยังมีหนังจากสตรีมมิ่งออนไลน์เข้ามาเป็นทางเลือกในการเสพความบันเทิงอีกช่องทาง แม้ว่าอรรถรสการรับชมจะค่อนข้างต่างกันก็ตาม แต่ปีนี้ก็จัดได้ว่ามีผลงานหนังหลายๆ เรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกประทับใจ ไม่ว่าจะหนังฟอร์มเล็กฟอร์มใหญ่ที่ต่างสร้างสีสันให้ทั้งปีเป็นอย่างดี

และนี่คือ 12 ผลงานที่ Movie.TrueID ได้ตั้งใจคัดเลือกออกมาแล้วว่าเป็นหนังที่มีความโดดเด่นและน่าประทับใจที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา...

อันดับที่ 12 - Zack Snyder's Justice League

และนี่คือแฟนเซอร์วิสที่ยอดเยี่ยมเรื่องหนึ่งแห่งปีจากทางฝั่งดีซี การตัดสินใจหยิบเอา Justice League กลับมาปรุงแต่งใหม่ด้วยฝีมือเจ้าของเมนูเองก็ทำให้ออกมามีรสชาติที่กลมกล่อมกว่าต้นฉบับเป็นหลายเท่า ถือว่าเป็นความกล้าของค่ายหนังที่ทำเช่นนี้ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาก็ถือว่าน่าพอใจ เพราะตลอดเวลา 3 ชั่วโมงที่ขยายเรื่องราวได้เต็มๆ ตาของเหล่าฮีโร่จากดีซีเรื่องนี้ ก็ทำให้คนดูอย่างเราๆ ตราตรึงใจเป็นอย่างมาก และสัมผัสได้ถึงทุกอนูที่นักสร้างหนังอยากจะเล่าจริงๆ กลายเป็นหนังเรื่องราวที่มีแต่ความดีงาม...

อันดับที่ 11 - West Side Story

แม้ว่าจะเป็นความกล้าเสี่ยงตายในการหยิบเอาหนังมิวสิคัลคลาสสิกแบบขึ้นหิ้ง ทิ้งเอาไว้บนนั้นมา 60 ปีแล้ว นำมาปัดฝุ่นสร้างใหม่อีกครั้ง แต่เพราะพลังของพ่อมดฮอลลิวูด "สตีเวน สปีลเบิร์ก" น่าจะต้องเป็นเขาคนเดียวเท่านั้น ที่จะแตะต้องและทำออกมาได้ถึงรสชาติ กลายเป็นงานรีเมคที่เต็มไปด้วยความงดงาม แม้ว่าโครงเรื่องจะค่อนข้างดูเชยไปสักหน่อย แต่เมื่อนำมาประกอบร่างเข้ากับงานสร้าง, งานเพลง, งานแสดง รวมทั้งการออกแบบท่วงท่าเต้นต่างๆ นี่จึงการเป็นการยกระดับความเก่าให้เป็นหนังเพลงที่่น่าจดจำในปีนี้ไปอีกเรื่อง

อันดับที่ 10 - No Time to Die

เพราะว่ามันมีโมเมนต์ที่ผู้ชมจะต้องประทับใจอยู่เป็นทุนเดิมแล้ว เพราะจะเป็นการปรากฏครั้งสุดท้ายของ "แดเนียล เคร็ก" ในฐานะเจมส์ บอนด์ 007 ที่จะมาทิ้งทวนกับหน้าที่ในภาคสุดท้ายของเขา และภาพรวมก็คือออกมาดีงามตามที่ใจหวัง ภายในหนังที่ยาวกว่า 2 ชั่วโมงเรื่องนี้ได้พาไปดื่มด่ำกับความเป็นฮีโร่ในคราบเจ้าหน้าที่ของบอนด์ ภารกิจอันเสียสละ กับชีวิตส่วนตัวที่เขาแทบจะหาไม่เคยได้ อาจจะยังไม่ใช่หนังบอนด์ที่ดีที่สุด แต่ก็เป็นการปิดฉากให้กับแดเนียลได้อย่างสวยงามตามท้องเรื่อง...

อันดับที่ 9 - Spider-Man: No Way Home

ทางฝั่งมาร์เวลก็ไม่น้อยหน้า...เพราะก็มีบริการแฟนเซอร์วิสออกมาไล่ๆ กันแบบไม่ยอมแพ้ และนี่คือภาคที่ 3 ของไอ้แมงมุมในเวอร์ชั่นล่าสุด ที่ต้องยกย่องให้กับความเป็นหนึ่งในการเอาใจแฟนๆ เป็นอย่างยิ่ง กับเนื้อหาของหนังที่ไม่อาจจะพูดอะไรออกมาได้เลย เพราะจะเป็นการสปอยล์เนื้อเรื่องได้ง่ายๆ แต่พวกเขาก็ถือว่าจัดหนักจัดเต็มให้กับภาคนี้ ประหนึ่งว่าจะไม่ทำภาคใหม่ออกมาอีกแล้ว แม้ว่าในองค์ประกอบอื่นๆ ของหนังจะยังรู้สึกเฉยๆ โดยเฉพาะบทหนังที่ดูโดยรวมแล้วค่อนข้างอ่อนกว่าภาคอื่นๆ เสียอีก แต่คะแนนความเซอร์วิสของหนังโดดเด่นมาก และนับว่าเป็นการทวงคืนประสบการณ์ดูหนังแบบมีเสียงหวีดร้องเซอร์ไพรส์ออกมาได้อีกครั้ง หลังจากที่ห่างหายไปหลายปี

อันดับที่ 8 - Don't Look Up

ถึงแม้ว่าฝั่งนักวิจารณ์อเมริกาจะค่อนข้างสับเละหนังเรื่องนี้กันเป็นแถบๆ แต่หนังกลับได้ใจทางฝั่งผู้ชมเป็นอย่างยิ่ง และแน่นอนว่าถูกใจทางเราด้วยเช่นกัน หนังที่จะมาเพื่อสร้างความโบ๊ะบ๊ะและขายสายรางวัลไปควบคู่กัน ออกมาเป็นหนังหายนะโลกแตกที่แฝงประเด็นเสียดสีสังคมและการเมืองเอาไว้ได้อย่างแสบสันต์ แน่นอนว่าแค่ทีมนักแสดงหลักของเรื่องก็ได้ใจไปกระบุงแล้ว เมื่อมาผนวกรวมกับโครงเรื่องของหนังด้วยแล้ว กลายเป็นความบันเทิงแบบเกินคาด และแน่นอนว่า...เราก็อยากแนะนำให้ดูหนังเรื่องนี้แบบฉบับพากย์ไทยกันด้วย เพื่ออรรถรสและอารมณ์ที่จะได้กลับคืนมาแบบเต็มๆ

อันดับที่ 7 - Nomadland

และนี่ก็คือหนังเจ้าของรางวัลออสการ์ในปีที่ผ่านมา ที่เรียกได้ว่าดีงามแบบไม่ได้บรรยายอะไรมาก ถึงหนังจะเป็นเพียงหนังชีวิตที่ดำเนินไปเรื่อยๆ ของผู้หญิงวัยกลางคนที่แสนโดดเดี่ยวคนหนึ่ง แต่การแสดงในลักษณะน้อยแต่มากของเจ้าป้า "ฟรานเซส แม็คดอร์มานด์" ก็คือเอาโล่ไปได้เลย ยิ่งมาผนวกเข้ากับมุมมองและงานถ่ายภาพงามๆ ของผู้กำกับ "โคลอี้ เจา" มันคืองานระดับมาสเตอร์พีชที่แฝงเอาไว้ข้อคิดภายใต้ทิศทางใหม่ของการเดินทางที่ต้องไปให้ทันแรงหมุนของโลกใบเดิม

อันดับที่ 6 - CODA หัวใจไม่ไร้เสียง

เป็นงานรีเมคจากเรื่องดังของฝรั่งเศสที่ถูกบัญญัติเอาไว้ถึงความฟีลกู้ด แต่เมื่อมาเป็นฉบับอเมริกันสร้างขึ้นใหม่นั้น มันไดบียอนด์เหนือจากนั้นกลายเป็นหนังที่แฝงไว้ด้วยการเยียวยาหัวใจคนดู นี่คือหนังดราม่าเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยพลังอันแรงกล้ากับโจทย์หลักของเรื่องที่ทำอย่างไรก็มีความทรงพลังอยู่แล้ว เพียงแค่ว่าจะเล่าและถ่ายทอดออกมาอย่างไรให้น่าประทับใจ และหนังเรื่องนี้ก็ยึดหัวใจผู้ชมเอาไว้ได้อยู่หมัด กับเรื่องราวเกือบ 2 ชั่วโมงของหนังที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย เหมือนถูกชกหมักฮุกแค่เปรี้ยงเดียวและแทรกซึมรู้สึกได้ดีไปตลอดทั้งเรื่อง พร้อมกับงานแอคติ้งที่ดีเด่นเป็นหนึ่ง

อันดับที่ 5 - 4Kings อาชีวะยุค 90

เป็นหนังในไม่กี่เรื่องที่ได้มีโอกาสได้เข้าฉายในปีที่ผ่านมา และเป็นเพียงหนังไทยเรื่องเดียวที่สามารถติดเข้าลิสต์แห่งความประทับใจในปีนี้ด้วย ถือว่าเป็นความเซอร์ไพรส์อยู่ไม่น้อย เพราะต้องยอมรับว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้มีหน้าหนังเป็นจุดขายใดๆ เลย ซ้ำยังหนังค่ายใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว แต่เมื่อได้สัมผัสกับเนื้อหาข้างในก็พบว่าหนังค่อนข้างกลมกล่อมและดีเกินกว่าที่คิดเอาไว้เยอะมาก ความดราม่ากำลังดี ใส่จังหวะเข้ามาได้ลงล็อก แม้ว่ายังมีจุดบกพร่องประปรายอยู่บ้าง แต่ก็ไม่แปลกใจที่หนังจะได้รับเสียงชื่นชมแบบปากต่อปากเป็นวงกว้าง และกลายเป็นหนังไทยที่ทำเงินสูงที่สุดในรอบปีเช่นนี้

อันดับที่ 4 - tick, tick...Boom!

ปีนี้เป็นปีที่มีหนังมิวสิคัลปล่อยออกมาค่อนข้างเยอะมาก แต่ปรากฏว่าหลายๆ เรื่องค่อนข้างประสบความล้มเหลวในด้านรายได้และกระแสต่างๆ เช่นเดียวกับเรื่องนี้ ที่อาจจะไม่ใช่หนังเพลงที่เป็นหนังแมสสำหรับทุกคน แต่มันกลายเป็นหนังมิวสิคัลที่ยอดเยี่ยมที่สุดของปีนี้ ด้วยเนื้อหาอันทรงพลังและแรงกล้าเป็นจุดขายอยู่แล้ว เมื่อได้มาเห็นปล่อยพลังการแสดงของ "แอนดรูว์ การ์ฟิลด์" ในเรื่องนี้แล้ว ยิ่งต้องลุกขึ้นยืนปรบมือให้จากใจจริง นี่คือผลงานการแสดงที่ดีอีกเรื่องในอาชีพของเขาเลยทีเดียว และหนังก็ทิ้งเอาไว้ด้วยแรงบันดาลใจที่น่าจดจำ

อันดับที่ 3 - The Mitchells vs. the Machines

คงจะต้องยกให้เป็นหนังแอนิเมชั่นที่ดีที่สุดในปีนี้เลย เพราะหนังเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับเราไม่น้อย จากหน้าหนังที่อาจจะดูเฉยๆ ไปสักหน่อย แต่กลายเป็นว่าเนื้อในของหนังเต็มไปด้วยอรรถรสความบันเทิงแบบบ้าบอเกินคาด และทำให้ตลอดระยะเวลาชั่วโมงเศษๆ ของหนังเรื่องนี้ได้นั่งดูไปหัวเราะไปอย่างเต็มคำเต็มอารมณ์ ถือว่าเป็นการผสมผสานองค์ประกอบต่างๆ เอาไว้ได้ดี ทั้งบทที่เกินจริงแต่เต็มไปด้วยความจริงใจ และงานสร้างที่ทำออกมาง่ายๆ แต่กลับสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจ

อันดับที่ 2 - The Power of the Dog

และนี่คงจะเป็นหนังดราม่าที่มีความ contrast ในตัวเองค่อนข้างสูง เพราะดำเนินไปแบบอ่อนช้อยควบคู่กับอารมณ์ดุดันที่กลายเป็นจุดตัดกันของตัวลงด้วย แน่นอนว่านี่คือหนังหวังรางวัลที่น่าจะได้มีบทบาทเด่นบนเวทีต่างๆ ได้อย่างแน่นอน งานระดับคุณภาพของผู้กำกับ "เจน แคมเปียน" ที่กลับมาท็อปฟอร์มอีกครั้ง พ่วงด้วยทีมนักแสดงคุณภาพที่สามารถยกทั้งชุดไปนั่งรอหน้าเวทีออสการ์ได้เลย โดยเฉพาะ "เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์" จากหนุ่มผู้ดีอังกฤษกลายมาเป็นคาวบอยอารมณ์พยศ ที่นับว่าเป็นผลงานการแสดงที่ดีที่สุดอีกเรื่องหนึ่งในอาชีพของเขาเช่นกัน และเราก็เชียร์ให้เขาได้รางวัลด้วย

อันดับที่ 1 - Drive My Car สุดทางรัก

หนังที่คงจะต้องยกขึ้นเอาไว้บนหิ้งในปีนี้ก็คงจะต้องเป็นหนังจากเอเชีย ประเทศใกล้ๆ เรานี่แหละ หนังญี่ปุ่นที่กลายเป็นปรากฏการณ์อันน่าทึ่งของวงการหนัง ไม่ใช่แค่เพียงว่าเป็นหนังที่มีความยาวเกือบ 3 ชั่วโมง แต่เป็นหนังที่มีความลงตัวในทุกๆ องค์ประกอบอย่างยอดเยี่ยม แม้ว่าจะเป็นหนังดราม่าธรรมดาๆ แต่บทหนังไม่ธรรมดาเลยแม้แต่น้อย ทั้งใส่สัญญะ ทั้งนัยยะ และอารมณ์ที่คมคายตลอดทาง กลายเป็นสัญลักษณ์ที่ค่อนๆ บาดซึมลึกเข้าไปในหัวใจผู้ชมทีละเรื่อยๆ ไม่ต่างกับการนั่งอยู่บนรถคันหนึ่งที่ผู้โดยสารแต่ละคนมีเรื่องราวและมุมมองต่างกัน พร้อมทั้งเต็มไปด้วยบาดแผลแห่งความสูญเสีย เป็นหนังญี่ปุ่นที่ขยายจากหนังสั้นเป็นหนังเรื่องยาวได้อย่างน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง

----------------------------------------------------

กดเลย >> community แห่งความบันเทิง 📸เมาท์ข่าวดารา กับเจ๊รุงรังขังรวม
ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ 🍿ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล 😍ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa