"โอ๋ ภัคจีรา" เปิดใจยังให้เกียรติสามีเก่า แฮปปี้รักครั้งใหม่ "ทนายเบียร์" ลงตัว
"โอ๋ ภัคจีรา" นักแสดงสาวสุดแซ่บอารมณ์ดี ที่วันนี้จะมาเปิดเผยเส้นทางความรักครั้งใหม่กับ “เบียร์ สรณัฐ” แฟนหนุ่มรุ่นน้องที่อายุห่างกันถึง 7 ปี พร้อมเปิดความน่ารักของลูกสาว “น้องแสนดี” ที่ฉายแววซูปตาร์แบบเต็ม ๆ โอ๋จะผลักดันน้องแสนดีเข้าวงการบันเทิงหรือไม่ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ เบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
"โอ๋ ภัคจีรา" เปิดใจยังให้เกียรติสามีเก่า แฮปปี้รักครั้งใหม่ "ทนายเบียร์" ลงตัว
ลูกสาวน้องแสนดีมาเต้นอีเวนต์ที่แล้ว?
“ก็ไปเชียร์นางนิดนึง ตอนนี้ก็ยังไปเรียนอยู่นะ เขาชอบเต้นจริงจัง สิ่งหนึ่งที่รู้สึกว่าเวลาเขาทำแล้วมีประกาย มีแพชชั่นออกมาคือเต้น อย่างเขาเล่นเปียโนก็นาน ๆ จะบอกว่าให้มาฟังหน่อยเขาจะเล่นเปียโน แต่เต้นนี่เห็นเกือบทุกวัน เขาชอบ”
ถ้าเขาบอกว่าหนูจะไปลองเดบิวต์ที่เกาหลี?
“ขอให้บอกเถอะ (หัวเราะ) แม่อยากเป็นแม่ศิลปิน อย่าถามโอ๋เลย คำถามนี้ต้องถามคุณพ่อ เรารู้สึกว่าคนที่ไปยืนอยู่ตรงนั้นได้ เราอยู่ในวงการเรารู้ ทั้งโอกาส ความสามารถทุกอย่าง เด็กคนนึงจะไปไกลถึงจุดนั้นได้ต้องผ่านอุปสรรคมาก่อน เราชอบ แต่ก็ต้องถามคุณพ่อเขาด้วย เราไม่รู้ว่าคุณพ่อเขาโอเคหรือเปล่า แต่สำหรับคุณแม่ไปเถอะจ๊ะ เราไม่กลัว เราพร้อมซัปพอร์ตลูกในความสามารถของเด็กคนนึงก็ไปได้ ถ้าลูกชอบ ในอนาคตก็ต้องอดทนมากกว่านี้ แล้วถ้าประสบความสำเร็จเราก็โอเค ถ้าไม่ประสบความสำเร็จ ย้อนกลับมาอายุก็ไม่ได้เยอะมาก อายุ 11 ขวบ”
อนาคตอยากให้เขาเป็นอะไร?
“ไม่มีนะ เอาจริง ๆ อยากให้เขาชอบแล้วมีความสุข ในฐานะแม่ไม่เคยคิดเลยว่าต้องมาเลี้ยง ขอแค่มาจูงแม่ตอนแก่ก็พูดไป แต่แค่เห็นเขามีความสุข มีรอยยิ้มในทุกวันก็พอใจแล้ว มีอย่างเดียวเลยที่โอ๋ไปลงให้คือตีขิม ที่โรงเรียนที่เขาเรียนอินเตอร์จะมีอะไรแบบนี้ พูดจริงๆ ว่าเราก็อยาก ก็เลยให้ไปลงเรียน เขาก็ไปได้ดีนะ เขามีพื้นฐานที่ดี เขาบอกว่าแม่สบายมาก ถ้าเล่นเปียโนได้ ขิมก็ง่ายมาก เราก็ว่ามันต้องใช้ทักษะนะ ตอนนี้หน้าตาเขาคล้ายโอ๋ในวัยรุ่น (หัวเราะ) มองเขาเหมือนเห็นโอ๋ตอนเด็กๆ ที่ไม่แต่งหน้า”
นอกจากหน้าคล้าย นิสัยเหมือนกันมั้ย?
“นิด ๆ ขี้เล่นเหมือนกัน อาจพูดจาคล้าย ๆ กัน แต่โดยรวมลึก ๆ เขาเหมือนคุณพ่อมากกว่า ความเป็นผู้หญิง นิสัยเขาจริง ๆ คล้ายพ่อ”
ตอนโตเขาดื้อมั้ย?
“นิดนึง เหมือนเราเลี้ยงลูกตอนเด็กอะไรก็แม่ เราเป็นที่หนึ่ง แต่ตอนนี้เขาเริ่มมีสังคม มีชีวิต เขามีเพื่อน ตอนนี้แม่อาจเป็นที่สาม (หัวเราะ) ลูกดื้อก็ไม่ตี เคยตีครั้งเดียว ยัวะนิดนึง ปรากฏว่าฉันเข้าห้องเย็น (หัวเราะ) พ่อเขาบอกว่าไม่ควรตี การตีไม่ได้ตอบโจทย์ทุกอย่าง เขารักลูกเขาแหละ การสอนก็คนละแนว เราก็ชาวบ้าน เลี้ยงลูกเรามา”
พ่อแม่เลี้ยงกันคนละแบบ?
“ตอนนี้พยายามแนวทางเดียวกันนะ เอาจริง ๆ แยกกันก็มีนิดนึง โอ๋พยายามไปแนวทางคุณพ่อเขาแหละ โอ๋ให้เกียรติเขานะ คุณพ่อเขาก็มีความละเอียดอ่อนมากกว่าโอ๋ มีอะไรก็จะบอก เขาทุ่มเทให้ลูกเหมือนกัน เรื่องเรียนเรื่องอะไรเราคุยกัน แต่ว่าให้พ่อตัดสินใจ”
เวลาลูกดื้อจัดการยังไง?
“โอ๋แทบจะทะเลาะกับพ่อเขาบ่อยมาก ด้วยความเราเลี้ยงไม่เหมือนกัน ก็จะมีบ้าง โอ๋ก็เลี้ยงธรรมชาตินี่แหละ ดุบ้าง ว่าบ้าง ตีได้บ้าง แต่ถ้าพ่อเขาไม่ชอบก็หยุด โอ๋เชื่อในสัญชาตญาณแม่ทุกคน ไม่มีใครหวังร้ายหรืออยากทำอะไรให้ลูกคิดมาก ฉะนั้นในเมื่อเรากับพ่อเขารวมกัน ก็พยายามคุยกันให้โอเคที่สุด เพื่อถ่ายทอดให้ลูกคนเดียวให้ดีที่สุด ซึ่งมันยาก”
เวลาพูดถึงคุณพ่อแสนดี โอ๋พูดถึงดีมาก ให้เกียรติ?
“เอาจริง ๆ โอ๋กับพี่เฟี๊ยต เรารู้จักกันเกือบ 20 ปี ทั้งตอนเป็นแฟน แต่งงาน จนถึงวันนี้ เราไม่เคยคิดจะเลิกกัน ตอนนี้ถ้าปัญหาถูกจัดการในรูปแบบนี้ได้ โอ๋ว่าตอนนี้เริ่มโอเคแล้ว เราก็ปะทะกันน้อย ส่วนเรื่องลูกเราก็พยายามมองไปในแนวทางเดียวกัน อะไรยอมได้ อะไรคุยกันได้ ถ้าเขาตัดสินใจได้ ก็ให้เกียรติเขา”
เรื่องส่วนตัวอาจมีปะทะกันบ้าง แต่เรื่องลูกให้พ่อเป็นคนนำ ตอนนี้ทะเลาะอะไรกับลูกมากที่สุด?
“(หัวเราะ) ก็ทุกเรื่อง เราอยู่กับลูกตลอด เราเพิ่งแยกกับลูก มันจะจุกจิก มันเป็นความสุขของแม่อยู่แล้ว ถ้าถามว่าเม้งเรื่องอะไรกับ แม่กับลูกผู้หญิง รู้ว่าสนิทกัน รักกัน แต่ก็จะเป็นอย่างนี้ ถ้าพ่อเขาเข้ามา เขารู้แล้วว่าพ่อต้องการอะไร แต่กับแม่จะเถียงกัน เด็กๆ ช่วง 1-5 มันคือดวงใจ ลูกติดเรา เวลาไปโรงเรียน ร้องไห้ แสนดีไม่มีวันจากแม่ พูดแล้วเหมือนน้ำตาจะไหล แต่ตอนนี้เหรอ วิ่งไปหาเพื่อนแล้ว เราต้องคอยเดินตาม เราไม่ได้อิจฉา แต่เป็นความใจหาย เรายังคิดเลยว่ามีลูก 2-3 คนก็ดีนะ ยังมีตัวทดแทน”
ขอบคุณคลิปจากรายการ คุยแซ่บ Show
ตอนนี้ลูก 11 เด็กเดี๋ยวนี้โตเร็วขึ้น?
“ด้วยเห็นอะไรมากกว่าเรา เมื่อก่อนเรากระโดดหนังยางอยู่หน้าบ้าน ไม่ได้มีโซเชียล เราถือว่าเราโตเร็วในยุคนั้นนะ แต่เดี๋ยวนี้อายุ 11 เขาเห็นโซเชียลไง เขาเต้นตาม รู้ว่าโลกเป็นยังไง”
ห่วงอะไรเขา?
“ห่วงความปลอดภัย ห่วงเรื่องอะไรของผู้หญิง โอ๋ห่วงตามสเต็ป ไม่ได้ห่วงเรื่องผู้ชายเลย ดูข่าวเยอะ ออกไปหน้าบ้านจะปลอดภัยหรือเปล่า ห่วงความรู้สึก แต่เราคิดว่าเราใกล้ชิด ไม่ค่อยอะไรมาก”
จะห่วงเรื่องหนุ่ม ๆ เมื่อไหร่?
“คิดว่าน่าจะประมาณ 15 (หัวเราะ) ตอนนี้เขาก็มี โอ๋ก็แอบถามเขาเหมือนกันว่ามีหนุ่มมาจีบหรือเปล่า”
มีกฎอะไรมั้ย?
“ไม่มีเลย โอ๋เฉย ๆ เลย สำหรับเพื่อนที่เราเคยเจอและสนิท แล้วเขาขอก็ให้ไปนอนบ้านเพื่อนบ้าง แต่ไม่ให้ไปบ่อย ต้องถามพ่อก่อน พ่อโอเคมั้ย บ้านนี้เคยเจอหรือเปล่า ต้องดูว่าเขามีลูกชายหรือเปล่า ต้องสนิท แต่จะบอกว่าน้อย”
เบียร์เขาน่ารักยังไง?
“เอาจริง ๆ ไม่เคยคิดแผนการว่าเราจะมีแฟนใหม่ ไม่เคยคิดเลย เราแต่งงานมาจะ 12-13 ปี โอ๋เจอเบียร์ เหมือนเพื่อนเรารู้จักกัน โอ๋ไปร้านนึง ซึ่งโอ๋รู้จักเจ้าของร้าน แล้วโอ๋ก็รู้ว่าเขาทำงานอะไร มีต้นสายปลายเหตุยังไง แค่นั้น ในร้านนั้นมีไม่กี่อาชีพ เพราะเป็นร้านเล็ก มีคนประมาณ 6-7 คน เราก็จะรู้ว่าอ๋อ คนนี้เมื่อก่อนอยู่หลังสวน
รู้แล้วว่าเขาทำงานนี้”
รู้ก่อนหน้าเจอเขา?
“ในกลุ่มนี้ก็จะมีน้องที่รู้จักเรา เพราะเราไปร้านนี้บ่อย มันอยู่หน้าบ้านเรา เราก็เดินไป”
แต่ไม่คลิก?
“ตอนนั้นมีผัว”
แล้วคลิกกันได้ยังไง?
“เรารู้สึกว่าเขาเป็นน้อง ๆ ในกลุ่มที่เรารู้จัก เขาทำงานอันนี้ จริง ๆ รู้จักกันหลายปีแล้ว โอ๋เชื่อว่าเป็นจังหวะชีวิตของโอ๋มากกว่า ที่ทำให้เราได้คุยกันมากขึ้น”
ไม่ใช่สไตล์หาแฟนให้หน่อย?
“ไม่เคยบอกให้ใครหาแฟนให้เลย ตั้งแต่ในชีวิต”
พอประกาศออกมาก็เซอร์ไพรส์มาก วันที่เปิดตัวลงรูป มันยังไง?
“ผู้ชายเขาลง โอ๋ไม่ได้ลง โอ๋อยู่ในวงการ โอ๋รู้ว่าวันที่เราจะตอบคำถามอะไร มันมีความอึดอัดใจนิดนึงนะ เราไม่รู้ว่าคนอื่นจะคิดกับเรายังไง มีทั้งคนรักเราและไม่ชอบเรา โอ๋รู้ว่าเรื่องแบบนี้มันเซนซิทีฟ เกือบเป็นเรื่องเลิกกับสามีหรือมีแฟนใหม่ มันนิดนึงนะ เราก็รู้สึก แต่ว่าเราคบกับคนนี้ เราตอบได้แหละว่าเราคบ แต่เราคงไม่สามารถไปบอกได้ว่าเบียร์อย่าลงรูปนะ มันก้าวก่าย เขารักเรา เขาชอบเรามันก็โอเค ถูกมั้ย หรือให้ลบอันนั้น โอ๋ก็ให้เกียรติเขา เราคบก็บอกว่าคบ แต่หลังจากนั้นโดนอะไรมาเอง ช่วยไม่ได้นะจ๊ะ (หัวเราะ)”
เขาน่ารักยังไง ถึงชนะใจเรา?
“หนึ่งหน้าตาก่อน เขาเป็นคนหน้าตาน่ารัก ชอบตี๋ ๆ เขาก็น่ารักดี พอคุยกับเรา โอ๋รู้สึกว่าชอบคนเก่ง ตอนหลังเขามีเอาใจแหละ ดูแลกันไป ไม่เหมือนปั๊บปี้เลิฟ ขอให้เข้าใจ คุยกัน เรามีลูกเป็นเมนเนอะ”
ตอนเปิดแรก ๆ กระแสบวกกับลบเป็นยังไง?
“เอาจริงๆ นะ โอ๋โชคดีมีคนรักเยอะกว่า โอ๋ไม่ได้มายด์หรอก ถ้าคนจะว่าโอ๋เข้าใจได้ แต่โอ๋ไม่ให้ค่าคนที่ไม่เห็นความทุกข์ของเรา เราให้ค่าความสุขตัวเราเองและคนที่รักเรา แค่นั้น”
ล่าสุดหนุ่มเบียร์เปิดบริษัทใหม่ S A P สรณัฐ แอนด์ ภัคจีรา?
“ไม่ใช่ เรามีเสี้ยวนึงอยู่ในนั้น เขาเป็นที่ปรึกษากฎหมาย เป็นทนายนั่นแหละ เป็นทนายที่ส่วนมากเขียนเป็นเปเปอร์”
ทำไมตอนแรกโอ๋ไม่เปิดกับสังคม?
“ก็เฉย ๆ อีกอย่างเราโตแล้ว เราเลิกกับสามีมา ไม่ได้คิดอะไรในหัวว่าจะเปิดหรือไม่เปิด ไปไหนกันปกติ เพียงแต่คนบางคนไม่รู้ แม้แต่เรื่องส่วนตัวที่เราเลิกกับสามี บางทีโอ๋ก็ยังไม่เล่าให้ใครฟังเลย ทุกอย่างเราอยากจะมีพื้นที่ส่วนตัวเหมือนกัน แต่เราก็เข้าใจคนอื่นนะ ว่าอยากรู้เรื่องในพาร์ตของเราบ้างว่าเกิดอะไรขึ้น เราก็อยากบอก อยากคุยแหละ เรื่องเบียร์โอ๋ก็อยากบอกแหละ โอ๋อยากสรุปกับตัวเองเลย ถ้าวันนึงมันโอเค เขาเดินมาขอ ฉันจะประกาศให้เธอรู้ จะเชิญมาเองเลย เราเป็นคนแบบนี้ แต่เราไปไหนมาไหนกันปกติอยู่แล้ว ไม่ได้ปิด แต่บางทีการพูดอะไรออกไป วันนี้นั่งพูดอยู่เนี่ย มันทุกช่องทาง หลายเหตุผล หลายฝ่าย”
แสดงว่าไม่เข็ดกับความรัก?
“ไม่มีใครเข็ดหรอก มันเป็นเรื่องสวยงาม ทุกอย่างเป็นเรื่องจริงในชีวิต เรารักกันจริงๆ แต่งงานกันจริงๆ เรามีปัญหาโดยที่เราแก้กันไม่ได้จริง ๆ ฉะนั้นเราก็ต้องเข้าใจความจริงก่อน ถ้าจบแบบนี้มันก็อาจจะดี มันก็คือเรื่องจริงทั้งหมด”
เราเห็นด้วยทั้งคู่ว่าไปต่อไม่ได้?
“เอาจริง ๆ นะโอ๋ว่าอย่างนั้น”
ดิ่งมั้ยตอนนั้น?
“นิดนึงนะ”
เห็นร่าเริง คิดว่าคงไม่เป็นไร?
“ช่วงนั้นโอ๋ไม่ค่อยได้ออกไปไหนเหมือนกัน เราอยู่แค่แถวบ้าน”
ดิ่งหนักเป็นยังไง?
“เราไม่ค่อยมีแรงอยากทำอะไร ไม่มีกำลังใจ พอดีเรามีลูก เราตื่นไปส่งเขา อยากยิ้มให้เขา อยากเล่นกับเขา แต่บางทีเหมือนหมดพลัง เหมือนในหัวเราคิดเรื่องนี้วนไปวนมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
ณ จุดนี้ โอ๋ยังพูดถึงอดีตสามีได้อย่างดีมาก?
“เขาเป็นคนดี”
ตอนนั้นเราออกมาจากความเศร้าได้ยังไง?
“มันอาจเป็นความคิดของโอ๋คนเดียว ว่ามันวนอยู่อย่างนี้บ่อยมาก ย้อนไป วนไปวนมาแล้วรู้สึกมันหายใจไม่ได้ เราก็รู้สึกว่าลูกเราต้องการพลังจากเรา มันก็แค่ลุกขึ้นมาออกไปเจอผู้คนบ้าง ก็ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง มันเรื่องครอบครัว สิ่งสุดท้ายเราก็ตัดสินใจเองนี่แหละ แล้วก็พูดกับเขา แล้วมันก็ตกลงได้แบบนี้”
หลังจากมีคนรู้ว่าต้องแยกกัน โอ๋ก็โดนคอมเมนต์หนัก ๆ เหมือนกัน?
“โอ๋เฉย ๆ นะ ไม่ค่อยแคร์เรื่องคอมเมนต์ แต่ก็มีแหละ อย่างเรื่องแฟนใหม่ดีกว่า เรื่องอดีตโอ๋ว่าเป็นเรื่องจริง ชีวิตเราคือเรื่องจริง ไม่ใช่นิยาย คนมาเมนต์ก็ไม่ได้อยู่กับเรา ให้เราทำอย่างนั้นอย่างนี้ หยุดก่อน เขาไม่ได้รู้ปัญหาแท้จริงของเราด้วยซ้ำ แต่แฟนใหม่เสียอีก อ้าว จะไหวมั้ย อายุห่างกัน พูดไปเดี๋ยวจะยังไง เราเข้าใจ คนนอกอาจคิดอย่างนั้นได้ แต่เราจะตัดเลยเหรอว่าคนนี้เดินเข้ามาในชีวิต สมมติเบียร์เดินมาจีบเรา เราจะตัดเลยเหรอ มันดันเจอ โอ๋ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง”
ความรักอยู่ดี ๆ ก็โผล่ขึ้นมาเอง?
“โอ๋ไม่ได้อยากโอ้อวด ถ้าวันนึงมันโอเค ฉันจะอวดให้เธอดู (หัวเราะ) แต่ถ้าวันนึงฉันอกหักก็ไม่เป็นไร”
โดนบูลลี่เรื่องอะไร?
“อ้วนไง ไม่รู้นะ โอ๋ได้ยินคำบูลลี่หนัก ๆ ในช่วงนี้ เหมือนตอนเด็ก ๆ โอ๋ไม่ค่อยได้แคร์เรื่องความอ้วนสักเท่าไหร่ เพราะเราผอมมาก เราก็โดนล้อ อีโอลีฟ ผอมบาง อีจิ้งจก อีกุ้งแห้ง เราก็ผอมมาตลอด เข้าวงการก็ไม่เคยอ้วน เพิ่งมาอ้วนตอนแก่นี่แหละ ถามว่าแฮปปี้มั้ย ถ้าถึงขนาดใส่ชุดไม่ได้มันก็เริ่ม แต่เราไม่ได้แคร์กับโซเชียลที่เขาว่าสักเท่าไหร่ เราแค่แคร์กับการใส่ชุดเท่านั้น ตั้งแต่มีลูกมา มีแต่ขึ้นๆ เราก็มีความสุข เราก็กิน ไม่ได้โทษกรรมพันธุ์อย่างเดียว เราก็มีความสุขในการกินด้วย การกินคือเรื่องใหญ่ในชีวิต”
ตอนนี้อวบกว่าปกติ?
“อวบค่ะ (หัวเราะ)”
เบียร์โอเคมั้ย?
“เราก็แคร์เหมือนกันนะ เราก็ไปถามว่าเธอฉันอ้วนขึ้น เธอรู้สึกอะไรหรือเปล่า เขาก็บอกว่าเดี๋ยวก่อน ตัวเองรู้จักเขา ตัวเองก็ไม่ได้ผอมนะ (หัวเราะ) ถ้าสบายใจตรงไหนก็ทำ เขาก็หิ้วเราไปออกกำลังด้วยนะ แต่เราก็บอกว่าตัวเองไปเลย แต่ถ้าชวนกินข้าวไม่เคยปฏิเสธเลยนะ (หัวเราะ) เขาไม่เคยห้าม ไม่ได้ว่า เอาที่สบายใจเรา แต่สุขภาพก็สำคัญ”
อยากบอกอะไรคนบูลลี่?
“โอ๋ว่าคนที่คิดว่าคนอื่นได้หรือทักคนอื่นว่าอ้วนขึ้นนะ โอ๋ว่าประหลาดนิดนึงนะ ถ้าโอ๋เจอใคร โอ๋จะทักว่าสวยขึ้น คงไม่มาทักว่าอ้วนขึ้นเนอะ แสดงว่าจิตเขาคงไม่ปกติ เราก็แอบสงสารเขาด้วยซ้ำ เดี๋ยวนี้เขาพูดกันตั้งหลายเรื่อง ว่าการบูลลี่ทำให้อีกคนเป็นยังไง โอ๋คิดว่ามันคือมารยาท เราจะไม่ให้ค่าคนแค่นั่งพิมพ์แล้วทำให้เราไม่สบายใจ มันไม่ใช่โอ๋ แต่ถ้าเด็กเราเข้าใจเขานะ มันเป็นโลกของเขา เขาอ่อนโยนและบอบบาง ก็ช่วยกรุณาเห็นใจกับคนที่เป็นเด็ก”
ไม่เล่นละครกี่ปีแล้ว?
“เกือบ 10 กว่าปีแล้ว ก็อยากกลับไปเล่นนะ แต่รอบท แล้วก็อยากเล่นอะไรที่อยากทำ เมื่อก่อนเราทำเพราะเลี้ยงครอบครัว แต่ตอนนี้เราอยากมีแพชชั่นในการที่จะทำ อยากเล่นละครแต่รอบท จริงๆ บทอะไรก็ได้นะ แต่ขอให้มีความสำคัญในนั้น เรายังชอบดูละคร เป็นแม่ก็ได้ แต่ขอให้อยู่เบื้องหลัง มีความสำคัญในเรื่องนั้นๆ”
มีโอกาสเห็นโอ๋เล่นละคร?
“ก็อยาก ก็มีคนคิดว่าเราไม่เล่น จริงๆ ถ้ามีบทอะไรดี ๆ ก็ติดต่อโอ๋ได้เลยค่ะ”
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
อ่าน ข่าวบันเทิงวันนี้ ที่เกี่ยวข้อง :