รีเซต

Be On Cloud แถลงปมลิขสิทธิ์ บุปผาราตรี เตรียมฟ้องกลับ ต้อม ยุทธเลิศ

Be On Cloud แถลงปมลิขสิทธิ์ บุปผาราตรี เตรียมฟ้องกลับ ต้อม ยุทธเลิศ
TNN ช่อง16
27 กันยายน 2568 ( 08:06 )
16

ค่ายดัง Be On Cloud พร้อมด้วย พิง ลำพระเพลิง จัดแถลงข่าวเคลียร์ดราม่า หลังผู้กำกับดัง ต้อม ยุทธเลิศ เดือดอ้างถูกละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ บุปผาราตรี เผยเตรียมฟ้องกลับ ใช้กฏหมายพิสูจน์ความจริง

จากกรณีของภาพยนตร์ในตำนาน บุปผาราตรี ที่ค่ายดังอย่าง Be On Cloud และผู้กำกับมากความสามารถ พิง ลำพระเพลิง วางแพลนนำกลับมาทำอีกครั้งแบบตีความใหม่ โดยมีนักแสดงดังร่วมนำแสดง อาทิ อาโป ณัฐวิญญ์, อิงฟ้า วราหะ, เจษ เจษฎ์พิพัฒ, ฟรีน สโรชา และ แจ๊ส ชวนชื่น

แต่เกิดดราม่าลกลามบานปลาย หลังผู้กำกับเจ้าของเจ้าของต้นฉบับอย่าง ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค ออกมาโพสต์เดือดอ้างถูกละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ บุปผาราตรี และเตรียมฟ้องเรียกค่าเสียหายหลัก 100 ล้าน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ต้อม ยุทธเลิศ ส่งโนติสเรียก 100 ล้าน ปมผิดสัญญา บุปผาราตรี

ภาพจาก : beoncloud.official

ล่าสุด ปอนด์ กฤษดา เจ้าของค่าย Be On Cloud พร้อมด้วย พิง ลำพระเพลิง ผู้กำกับภาพยนตร์ และทนายความ ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ของ BeOnCloud #หนังที่ยังไม่ตั้งชื่อ เพื่อชี้แจงปมดราม่าดังกล่าว

โดย ปอนด์ กฤษดา ได้กล่าวว่า "จริงๆ โปรเจกต์ชื่อ "บุปผาราตรี มาลีรัตติกาล" เป็นของพี่พิง ลำพระเพลิง ทำกับอีกบริษัทหนึ่ง แล้วเข้ามาคุยกับผมโดยในช่วงนั้นประมาณปีที่แล้วจุดประสงค์พี่พิงเข้ามาตอนนั้นคือ อยากได้เจษฎ์พิพัฒไปร่วมงานด้วย ซึ่งตอนนั้นเจษฎ์พิพัฒเป็นนักแสดงช่องวันและอยู่ในการดูแลของ บี ออน คลาวด์ด้วยเช่นกัน

ระหว่างนั้นผมมีความรู้สึกอยากมั่นใจว่านักแสดงจะอยู่ในพื้นที่ที่ทาง บี ออน คลาวด์ สบายใจ เลยบอกพี่พิงว่าขอนัดคุยกับกลุ่มทุนของพี่พิงได้ไหม เพื่อคุยว่าเป็นไปได้ไหมว่าผมอาจจะขอร่วมลงด้วย

ตอนนั้นเป็นเรื่องราวที่พี่พิงเขียนขึ้นมา และเป็นบทร่างแรก ที่เห็นคือสัญญาตัวแรกของพี่พิงกับบริษัทเก่าและของฝั่งบริษัทของพี่ต้อมที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์บุปผาราตรี"

ภาพจาก : beoncloud.official

หลังจากนั้น พิง ลำพระเพลิง ได้อธิบายต่อว่า "ผมไปเดินที่ออสการ์อพาร์ตเมนต์ ผมรู้สึกว่าอยากเขียนบทหนังผี ถ่ายที่นี่ ผมก็นึกในใจว่าเพื่อนผมเคยทำหนังผี ผมโทรหาเพื่อนแล้วบอกว่าอยากทำหนังผีที่ออสการ์พาร์ตเมนต์จะขอซื้อชื่อบุปผาราตรีก็คือขอลิขสิทธิ์ในการใช้ชื่อบุปผาราตรี เพื่อนผมก็บอกว่าเอาสิ

ผมขออนุญาตไม่บอกนะครับว่าเพื่อนผมเปิดมากี่ล้าน ผมก็บอกว่าผมไม่มีตังค์เยอะขนาดนั้น(ยกมือชู4นิ้ว) สุดท้ายตกลงกันที่ 1.2 ล้านบาทกับระยะเวลาที่ผมมีสิทธิ์ใช้ชื่อบุปผาราตรี 2 ปี อันนี้มียืนยันในเอกสารหลักฐานครบถ้วน

เพราะฉะนั้นถ้าใครเข้าใจว่าผมขโมยชื่อของเพื่อนมาใช้ฟรีๆ ขออนุญาตชี้แจงตรงนี้ว่าผมติดต่อซื้อโดยถูกกฎหมาย และเพื่อนก็โอเค แต่ประเด็นคือพอทำไปทำมาเงินผมไม่พอ ผมเลยบอกเพื่อนว่าผมจะไปคุยกับบี ออน คลาวด์ จะขอแก้สัญญาเพื่อนโอเคไหม ผมก็ส่งสัญญาเอกสารให้เพื่อนดู เพื่อนก็เซ็นกลับมาทุกหน้า

เพื่อนถามผมบี ออน คลาวด์เขาเป็นใคร ผมก็บอกว่าเป็นบริษัททำ อีเวนต์ คือผมมีหลังฐานในการคุยเมสเสจ ตอนนั้นผมเข้าใจว่าพี่ปอนด์ทำอีเวนต์จริงๆ เขาบอกว่าเขาไม่รู้จัก ไม่เป็นไร ก็เลยได้สัญญาฉบับที่ 2 ซึ่งเซ็นรับทราบทุกหน้า ผมมีสิทธิ์ในการใช้ที่เพื่อนให้ใช้ในราคา 1.2 ล้านบาท 2 ปีกับชื่อบุปผาราตรี"

ภาพจาก : beoncloud.official

ปอนด์ กฤษดา บอกว่า "บุปผาราตรี มาลีรัตติกาล มีความเกี่ยวเนื่องกับภาคแรก แต่ผมเองที่คิดเองว่า อะไรที่มันดีอยู่แล้ว เอาไว้ตรงนั้นดีแล้ว ผมชื่นชอบภาคแรกมาก ด้วยใจบริสุทธิ์ ผมเลยเปลี่ยนบทใหม่แทบทั้งหมด ทำให้เกิดการเลื่อนเปิดกล้อง เพื่อความสบายใจของผู้ลงทุนด้วย

ยืนยันว่ามีหลักฐานครบ ไม่ได้มีการละเมิด หรือขโมยสิทธิ์ภาพยนตร์ แต่อย่างใด ตามข้อตกลงในสัญญา ก็ไม่มีกรณีการเรียกร้อง 100-200 ล้านตามที่เป็นข่าว

หลังจากนั้น ปอนด์ติดต่อผ่านบุคคลที่ 3 ไปหาพี่ต้อม แต่เขาบอกไม่สะดวกเดี๋ยวจะโทรกลับ แต่ช่วงเย็นเขาโพสต์ตัวสัญญา ฉบับที่ยกเลิก ในภาวะนั้นถือว่ากระทบกับ BeOnCloud แล้ว มันเลยกลายเป็นความเข้าใจผิด"

ในส่วนของบัญชีโซเชียลที่ใช้ชื่อว่า "ผู้กำกับเลว" พิง ลำพระเพลิง เผยว่า "ยอมรับว่าตกใจมาก เพราะเป็นข้อความที่ผมไม่ได้พูด แล้วผมต้องกลับไปกำกับภาพยนตร์ต่อ ใครก็ตามที่กุเรื่องนี้ขึ้นมา ผมยอมไม่ได้จริงๆ ถูกใส่ร้ายประโยคที่ผมไม่ได้พูด

22 สิงหาคม มีชื่อเพื่อนผมโทรเข้ามา คุยกัน 9 นาที ว่าใจเย็นๆ เขาไม่ได้ปลดผมออก เคลียร์กับเขาได้ เดี๋ยวนัดกินข้าว คุยดีๆ อย่าเป็นข่าวเลย สุดท้ายเพื่อนผมวางสายไป โดยไม่เคลียร์อะไรชัดเจนเลย

คืนวันที่ 23 สิงหาคม แอคเคานต์ผู้กำกับเลว ยังโพสต์ต่อ ซึ่งเป็นข้อความที่ผมไม่ได้พูด แต่ผมโชคดีว่าคนที่กองถ่าย เขาก็เห็น และเขาก็เชื่อว่าผมไม่ได้พูด แต่พอผมกลับมา ในวันที่ไม่ได้มีกองถ่าย ผมโดนด่าทุกวัน

ผมเชื่อว่าเพื่อนไปรับข้อมูลผิดๆ มา แต่พอผมเห็นแอคเคานต์ผู้กำกับเลว ที่ก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร รู้สึกมันมาไกลเกินไปแล้ว แต่เชื่อว่าลึกๆ เขาเป็นห่วงผม แต่แค่โพสต์ใน X มันเกินกว่าจะรับได้"

ปอนด์ เสริมว่า "มีอีกเรื่องคือสิ่งที่แอคเคานต์ผู้กำกับเลว นำเรื่องราวผลงานอื่นๆ ของ BeOnCloud มาโพสต์และมีความเหยียดเพศสภาพ มองว่าสิ่งนี้ค่อนข้างจะไม่น่ารัก ไม่อยากให้เอาภาพนักแสดงมาว่า ว่าสิ่งนี้มันผิด เรื่องไหนติดค้างใจกันมาคุยกันดีกว่า"

ด้านทนายความยืนยัน บริษัท BeOnCloud เขาไม่ได้ละเมิดข้อสัญญาที่ให้ใช้ลิขสิทธิ์ เมื่อมีหลายโพสต์ส่งผลให้ชื่อเสียงบริษัท ในการทำงานต่างๆ เราจึงจำเป็นต้องรวบรวมหลักฐานเพื่อฟ้องคดีซึ่งเราก็ฟ้องไปแล้ว ส่วนคดีเป็นเรื่องของศาล

ภาพจาก : beoncloud.official

ภาพจาก : beoncloud.official

ภาพจาก : yuthlert.ig


อ้างอิงที่มาภาพจาก :
อินสตาแกรม beoncloud.official
อินสตาแกรม yuthlert.ig