[US Box Office] กลับมาทวงบัลลังก์ "Avatar: Fire and Ash" ยึดแชมป์ แม้ว่าแรงแผ่วลงบ้าง
Box Office Avatar: Fire and Ash
บ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกา รายงานอันดับหนังทำเงินประจำสุดสัปดาห์วันที่ 19-21 ธันวาคม 2025 - เป็นสุดสัปดาห์ที่ยิ่งใหญ่ที่คอหนังทั่วโลกเฝ้ารอคอย กับการกลับมาของเฟรนไชส์หนังแอคชันไซไฟฟอร์มมหึมาแห่งยุค ที่ปีนี้กลับมาในภาคที่ 3 "Avatar: Fire and Ash" เป็นหนังบล็อกบัสเตอร์เรื่องยิ่งใหญ่เรื่องสุดท้ายของปีนี้ที่กระหึ่มโรงฉายในช่วงปลายปี ท่ามกลางความเป็นกังวลใจของหลายฝ่าย ที่ห่วงว่าการคัมแบ็กครั้งนี้จะไม่ร้อนแรงเท่ากับที่หนัง 2 ภาคก่อนหน้านี้เคยทำเอาไว้ ในฐานะหนังระดับ 2 พันล้านที่เกรียงไกร
แต่กระนั้นแชมป์หนังของสัปดาห์นี้ก็คือ Avatar: Fire and Ash จะเป็นเรื่องอื่นไม่ได้ สามารถทำรายได้เปิดตัว 3 วันแรกได้น่าประทับใจที่ 88 ล้านเหรียญ จาก 3,800 โรงฉายทั่วอเมริกา คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงประมาณ 23,000 เหรียญ แม้ว่าจะเป็นภาคที่ไม่สามารถเปิดตัวกลับขึ้นแตะหลักร้อยล้านได้อีก แต่ถือว่าเป็นภาคที่เปิดตัวได้ใกล้เคียงกับภาคแรกเคยทำไว้ในปี 2009 ที่ 77 ล้านเหรียญ โดยที่ยังตามหลังภาคที่ 2 ที่เปิดตัวได้งดงามถึง 134 ล้านเหรียญ เมื่อปี 2022
รายได้เปิดตัวของ Avatar: Fire and Ash ก็ถือเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์และหลาย ๆ ฝ่ายคาดการณ์กันไว้ สถานการณ์อาจจะยังไม่น่าเป็นห่วงขนาดนั้น แม้ว่าความร้อนแรงของหนังจะดร็อปลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากกระแสที่แผ่วบางลงไปของหนัง เนื่องจากความยาวของหนังถึง 3 ชั่วโมง ที่ส่งผลกระทบต่อการแบ่งรอบฉาย รวมทั้งระยะห่างจากภาคที่แล้ว แค่ราว ๆ 3 ปีก็เริ่มเข้าสู่มาตรฐานปกติของเฟรนไชส์หนังทั่ว ๆ ไป
Avatar: Fire and Ash ยังสามารถโกยรายได้จากตลาดหนังทั่วโลกไปได้อีก 257 ล้านเหรียญ เท่ากับว่าสุดสัปดาห์แรกหนังสามารถเปิดตัวได้สูงถึง 345 ล้านเหรียญ ขึ้นแท่นเป็นอีกหนึ่งหนังที่เปิดตัวได้ระดับโลกได้สูงอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งยังตามหลังสถิติที่ Avatar: The Way of Water เคยเปิดตัวไว้ 435 ล้านเหรียญจากทั่วโลก แต่คงจะต้องลุ้นในระยะยาวว่าหนังภาคที่ 3 จะยังรักษามาตรฐานเป็นหนังระดับ 2 พันล้านเหรียญได้อีกหรือไม่ และยังเป็นการชี้ชะตาอนาคตของหนังชุดนี้ในอนาคตด้วย
และไม่ใช่แค่เพียง Avatar 3 เท่านั้นที่ทำเงินได้ร้อนแรง เพราะสัปดาห์ก่อนการมาของวันคริสต์มาสปีนี้ ก็สร้างผลลัพธ์ได้น่าประทับใจอยู่หลายเรื่อง ที่เซอร์ไพรส์ไม่เบาก็คงจะเป็นหนังแอนิเมชันอิงศาสนา ถูกใจคนทั้งครอบครัว อย่าง "David" ที่แตกยอดมาจากมินิซีรีส์ Young David ที่สามารถออกสตาร์ทรายได้ได้งดงามที่ 22 ล้านเหรียญ จาก 3,118 โรงฉาย คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงที่ 7,000 เหรียญ ขึ้นแท่นเป็นหนังจาก Angel Studios ที่เปิดตัวได้สูงสุดเรื่องใหม่ แซงหน้าหนังฮิตพลิกล็อก Sound of Freedom (19.6 ล้านเหรียญ) ไปเรียบร้อย หนังได้กระแสรีวิวที่น่าประทับใจถึง 70%
เปิดตัวตามมาติด ๆ ในอันดับที่ 3 ก็คือหนังแซ่บส่งปั่นประสาทส่งท้ายปี "The Housemaid" ออกสตาร์ท 3 วันแรกได้น่าพอใจที่ 19 ล้านเหรียญ จาก 3,015 โรงฉาย กับรายได้เฉลี่ยต่อโรงที่ราว ๆ 6 พันเหรียญ ถือว่าต้อนผู้ชมกลุ่มสาว ๆ มาตีตั๋วหนังเรื่องนี้ได้เพียบ การโคจรมาประชันบทบาทกันระหว่าง อแมนด้า ไซฟรีด กับ ซิดนีย์ สวีนีย์ เป็นความปังระดับที่ใช้ได้ ซึ่งหนังก็ได้คำรีวิวออกมาได้น่าประทับใจถึง 75% เลยทีเดียว มีลุ้นเก็บเงินยาว ๆ ในช่วงข้ามปีนี้
ในอันดับที่ 4 ก็เป็นหนังเข้าใหม่อีกเรื่อง ถึงคิวของหนังการ์ตูนภาคล่าสุดของ "The SpongeBob Movie: Search for Squarepants" คอนเทนท์ฮิตตลอดกาลของ Nickelodeon ที่เปิดตัวด้วย 16 ล้านเหรียญ จาก 3,557 โรงฉาย กลายเป็นว่าเจ้าฟองน้ำผจญภัยกลับมาหนนี้โดนแย่งซีนไปเต็ม ๆ ทำให้เป็นภาคที่เปิดตัวได้ตามหลังทุก ๆ ภาคที่ผ่านมาทั้งหมด แม้ว่าจะยังเป็นหนังที่ครองใจผู้ชมทั้งครอบครัวได้อยู่ก็ตาม หนังใช้ทุนสร้างกว่า 60 ล้านเหรียญ แต่ก็น่าจะมีลุ้นไม่เจ็บตัว เพราะช่วงเทศกาลหยุดยาวที่รออยู่น่าจะสามารถประคองตัวเลขได้ยาว ๆ
"Zootopia 2" เจอถาโถมด้วยกลุ่มหนังเข้าใหม่ชุดใหญ่ ก็ทำให้กระเด็นร่วงตกจากแชมป์มาอยู่อันดับที่ 5 กับรายได้เพิ่มที่ยังน่าพอใจที่ 14.5 ล้านเหรียญ ลดลงไป -44% จากวีคก่อน โดยภาพรวมล่าสุดฟันรายได้ในบ้านแตะหลัก 280 ล้านเหรียญ กับตัวเลขทั่วโลกที่กำลังจะทะลุ 1.3 พันล้านเหรียญ ขณะที่ "Five Nights at Freddy’s 2" ก็ยังหมดแรงต่อเนื่อง ทำเงินลดลงไปอีก -63% เก็บเพิ่มไป 7.3 ล้านเหรียญ แต่ตอนนี้ก็โกยแต่กำไรแล้ว เพราะรายได้ในบ้านลอยลำไปที่ 108 ล้านเหรียญ
และยังมีอีกเรื่องที่เปิดตัวได้กระหึ่มและประทับใจในวีคนี้ นั่นก็คือหนังสายรางวัล "Marty Supreme" จากค่าย A24 การแสดงเรื่องล่าสุดของดาราหนุ่มฮอต ทิโมธี ชาลาเมต์ ที่เขามีโอกาสได้เฉียดใกล้ออสการ์อีกปี หนังลงโรงฉายแบบวงจำกัดแค่เพียง 6 โรงฉายในอเมริกา แต่ฟันรายได้เปิดตัวได้สูงถึง 875,000 เหรียญ คิดเป็นราไยด้เฉลี่ยต่อโรงมากระดับ 145,000 เหรียญ ขึ้นแท่นเป็นหนังที่เปิดฉายแบบวงแคบ ๆ ที่สูงที่สุดในรอบปีนี้ โดยหนังมีแผนจะฉายวงกว้างในวันคริสต์มาสนี้ตามลำดับ
ส่วนที่เปิดตัวใหม่แบบวงแคบ ๆ อีกเรื่องก็คือ "Is This Thing On?" หนังดรามาโรแมนซ์สายหวังรางวัล ผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดของดาราหนุ่ม แบรดลีย์ คูเปอร์ ออกสตาร์ทด้วยรายได้ 145,000 เหรียญ จาก 6 โรงฉายทั่วประเทศ ทำรายได้เฉลี่ยต่อโรงไปที่ราว ๆ 24,000 เหรียญ นับว่าเป็นการเปิดตัวที่ค่อนข้างน่าพอใจ แม้ว่าบทบาทเวทีรางวัลของหนังเรื่องนี้ยังไม่เด่นมากก็ตาม แต่ก็มีแผนจะขยายวงฉายให้กว้างขึ้นอีกในช่วงต้นปีหน้า
สำหรับสัปดาห์ถัดไป..ก็จะเป็นสุดสัปดาห์สุดท้ายของปี 2025 ยังเสริมด้วยกองทัพหนังใหม่ที่มาเติมเต็มหรรษาในช่วงส่งท้ายปี นำมาด้วยหนังที่ปัดฝุ่นตีความใหม่จากตำนานงูยักษ์ "Anaconda" ที่เวอร์ชันนี้ยังสะพรึง แต่เพิ่มเติมด้วยความฮาระดับลั่นป่า พร้อมกับหนังชีวประวัติสายเพลง "Song Sung Blue" ที่พร้อมจะก้าวขึ้นมาเฉิดฉายในฐานะอีกตัวเต็งรางวัล และ "Marty Supreme" ก็จะได้ฤกษ์ฉายวงกว้างแบบเต็ม ๆ ตาทั่วอเมริกา ส่วนหนังที่จะฉายวงจำกัดก็มีหนังตัวเต็งรางวัล "The Testament of Ann Lee" ร่วมลงสนามอีกเรื่อง ร่วมด้วย "The Choral" หนังสงครามโลกครั้งที่ 1 จากฝั่งอังกฤษ และ "No Other Choice" หนังปังจากเกาหลีที่จะได้ฤกษ์ฉายในอเมริกาอย่างเป็นทางการ หลังรอมาหลายเดือนเพื่อจะเดินเกมแคมเปญสู่เวทีรางวัลนั่นเอง
Source: TheNumbers
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- [US Box Office] "Zootopia 2" หวนกลับขึ้นแชมป์ พ่วงตำแหน่งหนังพันล้านเรื่องใหม่
- [US Box Office] หลอนคำราม! "Five Nights at Freddy’s 2" คัมแบ็กภาคต่อ..ยังท็อปฟอร์ม
- [US Box Office] ซู..ครองโลก “Zootopia 2” เปิดตัวประทับใจ สร้างสถิติใหม่ชวนว้าว
- [US Box Office] พลังขับขานเสียงสูง "Wicked: For Good" โบยบินโกยเงินกระหึ่มสุดสัปดาห์!
- TrueID BoxOffice 5 หนัง 5 ซีรีส์ออนไลน์ฮิตจากแอป TrueID
-------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa