"ธัญญ่า อาร์สยาม" ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอพ่อ เคยวางแผนตาย รอดมาได้เพราะหนังเรื่องเดียว

เมื่ออดีตคู่จิ้น "ธัญญ่า อาร์สยาม" และ "เบิ้ล ปทุมราช" โคจรมาพบกันในรายการ "เบิ้ล AM" เจาะลึกชีวิตปัจจุบัน และเผยเรื่องราวส่วนตัวที่ไม่มีใครรู้มาก่อน ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอพ่อ ยอมรับชีวิตคู่เหมือนอยู่คนละบ้าน พร้อมเปิดแผลในใจที่เจ็บจนแทบไม่ไหว เผยชีวิตพัง เคยคิดจบชีวิต แต่หนังเรื่องแรกของตัวเองคือสิ่งที่ยื้อไว้
"ธัญญ่า อาร์สยาม" ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอพ่อ เคยวางแผนตาย
ชีวิตคู่บางครั้งโฟกัสเรื่องงานเกินไปต่างคนต่างใช้ชีวิต เหมือนไม่ได้อยู่ด้วยกันเป็นเรื่องจริงไหม ?
ธัญญ่า : เรื่องจริง เวลาไลฟ์สดด้วยกันมันก็เหมือนโอเค แต่พอปิดไลฟ์ไปเหมือนต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างเล่นโทรศัพท์ โฟกัสที่งานเหมือนแยกกันอยู่ด้วย
แล้วปรับยังไงถึงอยู่ด้วยกันได้จนมีลูกทุกวันนี้ ?
ธัญญ่า : พยายามบอกเขาว่าให้บอกรักทุกวันได้ไหม เพราะอย่างน้อย ๆ เราก็ยังได้รู้ในทุก ๆ วันว่าเรายังรักกันอยู่ แต่ว่าถ้าทำไม่ได้บอกเรานะ อยากจะบอกเขาว่าชีวิตเรามันเจออะไรมาเยอะมาก เพราะฉะนั้นการที่เข้ามาในชีวิตหนูไม่ได้ขออะไรเยอะเลย ขอแค่ซัพพอร์ตจิตใจเวลาที่เราไม่ไหว เวลาที่เสียใจ หรือร้องไห้ รู้สึกแค่ว่าอยากมีคนเดินเข้ามาปลอบแค่นี้ก็รู้สึกดี
เคยทะเลาะกันหนัก ๆ ไหม ?
ธัญญ่า : เคย ก็หนักสุดคือขึ้นกูมึง ตอนนั้นมีลูกแล้ว มันเหมือนรู้สึกว่าทำไมจูนกันยากจัง ทำไมเข้ากันยากจัง ด้วยนิสัยต่าง ๆ การสื่อสารด้วย เราเติบโตกันมาคนละแบบ
ธัญญ่า อาร์สยาม ชื่อเก่าที่พ่อแม่ต้องให้คือ ?
ธัญญ่า : กัญญาภัทร ทวินันท์ ชื่อเล่น กุ๊กกิ๊ก บอกที่แรกเลย
อันนี้ยังไม่มีใครรู้คือ ธัญญ่า ไม่เคยเจอพ่อเลย ?
ธัญญ่า : ไม่เคยเจอ คือพ่อกับแม่เลิกกัน ตั้งแต่ช่วงประมาณตอนอายุ 3 ขวบ แม่ก็คือพาหนีเลย ก็ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างใช้ชีวิต มารู้อีกทีหนึ่งว่าพ่อเสียแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเสียเพราะอะไร รู้ตอนอายุ 17 คือแม่ประกาศในโซเชียลตามหาพ่อ ก็เลยมีญาติพ่อมาเจอแล้วก็บอกว่าเขาตายยังไง สรุปคือเขาเสียใจแล้วก็ไม่กินข้าวกินน้ำ กำรูปภาพเราแน่น ตรอมใจที่แม่พาหนี แต่เขาตามจากภาคใต้มาร้อยเอ็ด ขี่มอเตอร์ไซค์มา แล้วแม่ก็ไปแจ้งความไว้ว่าไม่ให้มายุ่งกัน
รู้สึกเสียใจไหม ?
ธัญญ่า : คือมันไม่ได้มีความผูกพันมาตั้งแต่แรก แล้วมันไม่รู้สึกถึงว่าความเป็นพ่อคืออะไร แต่พอได้ยินข่าวก็รู้สึกว่าในตอนที่เขากำลังร้องไห้หาเรา คิดถึงเรา แล้วเขากำมือเราแน่น ๆ แล้วเขาจะหมดลมหายใจ นึกถึงเรา นึกถึงแม่ เราทำอะไรอยู่ แต่ว่าพอตอนที่รู้ก็ร้องไห้นะ รู้สึกว่ามันคงเจ็บปวดมาก
เป็นคนที่เซนซิทีฟกับความรักมากทั้งเรื่องครอบครัวมีปํญหากับแม่หรือรักครั้งเก่าบ้าง ตอนนั้นเราตัดสินใจแก้ปัญหาได้ยังไงถึงผ่านจุดนั้นมาได้ ?
ธัญญ่า : มันต้องค่อย ๆ ทีละเรื่อง แล้ว ณ ตอนนั้นก็มีโควิด เราต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ด้วยแรงตัวเองแค่ 1 แรงเลย มีปัญหากับคุณแม่ก็เป็นเรื่องที่หนักสาหัสมาก ๆ ในตอนนั้นที่มีความรักเขาเหมือนเป็นเกราะป้องกันที่เซฟโซนของเรา พอเสร็จเรื่องคุณแม่เราโอเคแล้ว กลับกลายเป็นว่าเซฟโซนของเรามาทำร้ายเราเอง เป็นจุดหักมุมที่รู้สึกว่าชีวิตจะไปยังไงต่อ เหมือนไม่มีใครบนโลกในนี้ที่ รักแล้วก็หวังดีกับเราจริง ๆ เลย ช่วงนั้นปี 64-65 เป็นช่วงเวลาที่ความสดใสหนูหายไปทั้งหมด แล้วเราก็ต้องดึงตัวเองกลับมาไปหาหมอจิตเวช ประมาณปีกว่าถึงสองปี
จุดกำเนิดที่คิดว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า ?
ธัญญ่า : ก็ตอนนั้นมีการวางแผนการตายแล้ว มีการวงแผนมาตลอดว่าเราจะต้องทำยังไง สิ่งหนึ่งที่ยื้อหนูไว้ได้คือ หนูจะบอกทุกคนตลอดว่ารอดมาได้เพราะหนังเรื่อง LOVE เลยร้อยเอ็ด ที่เราเล่นไว้แล้วมันไม่ได้ฉายสักที ติดโควิด ก็เลยยื้อเวลาเรามาได้ เพราะเราอยากดูหนังเรื่องนั้นมาก เพราะเป็นนางเอกเรื่องแรก ก็เคยบอกพี่หม่ำนะว่าหนังเรื่องนี้ยื้อชีวิตหนูจริง ๆ แล้วพอหนังฉายก็เป็นช่วงเวลาที่หนูไปหาหมอแล้วพอดี ก็เลยไม่ได้คิดเรื่องการตายแล้ว แต่ ณ จุดนั้นที่เจอปัญหาหนัก ๆ คนที่เรารักมากที่สุดมาทำร้ายเรา ไม่มีจุดที่คิดว่าจะใช้ชีวิตต่อเพื่อใคร ทำทุกอย่างเพื่อใคร รู้สึกว่าไปต่อไม่ได้ แล้วหนูไม่ได้คุยกับใครเลยนะที่ตัดสินใจไปหาหมอเพราะว่ามีคนบอกเรา ไม่รู้จักคำว่ารักตัวเอง เรารักคนรอบข้าง
สามารถติดตาม "เบิ้ล AM" ได้ที่ช่องทาง Facebook : WE DO, Youtube : WE DO วันพฤหัสบดี เวลา 19.00 น. และสามารถรับชมย้อนหลัง ได้ที่นี่
อ่าน ข่าวบันเทิงวันนี้ ที่เกี่ยวข้อง :