รีเซต

"อั้ม อธิชาติ" เตรียมผุดโปรเจ็กต์ใหญ่ จากความตั้งใจสุดแรงกล้า

"อั้ม อธิชาติ" เตรียมผุดโปรเจ็กต์ใหญ่ จากความตั้งใจสุดแรงกล้า
EntertainmentReport3
31 กรกฎาคม 2566 ( 17:46 )
135

หลังจากที่พระเอกหนุ่ม "อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์" ไปออกรายการดัง พร้อมเผยเรื่องในอดีตเคยถูกบูลลี่ว่าเป็นเกย์ จนไม่กล้าออกจากบ้าน ล่าสุดมีโอกาสได้เจอพระเอกหนุ่ม อั้ม อธิชาติ ที่เดินทางมาร่วมพิธีบวงสรวงเหรียญปาฏิหาริย์เหนือดวง วาระ 2 พร้อมกับเผยโปรเจ็กต์ใหญ่ที่กำลังจะทำร่วมกับ "ป๋อง สุพรรณ"

"อั้ม อธิชาติ" เตรียมผุดโปรเจ็กต์ใหญ่ จากความตั้งใจสุดแรงกล้า 

กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง หลังเราไปออกรายการ ?
อั้ม : จริง ๆ ก็ไม่มีอะไรเลยครับ จริง ๆ ข่าวนี้มันนานมาก ตั้งแต่เราเด็ก ๆ ช่วงที่เราเป็นวัยรุ่นก็เจอคำถามมากมาย ทำไมเขาเข้าใจแบบนั้น ทำไมเราถึงเป็นแบบนี้ ทำไมพูดแล้วถึงไม่เข้าใจ ก็น่าจะ 10 กว่าปีแล้ว แต่ว่าเราไม่เคยผู้ที่ไหนเท่านั้นเอง คือด้วยวันนั้นเราคุยกันแบบสบาย ๆ ก็เลยคุยว่ายุคนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว เมื่อก่อนพูดยังไงคนก็จะเข้าใจในสิ่งที่เป็นตรงกันข้าม อย่างวันนั้นเราคุยกับพี่วู้ดดี้ มันเป็นเรื่องของประสบการณ์แล้วกัน เรามองว่าทุกอย่างมันมีคุณค่าเมื่อเราผ่านมันมาได้ เราก็เอาประสบการณ์นั้นมาบอกกับคนอื่น ว่าเราเจอเรื่องราวแบบนั้น และมันจะเป็นแบบนั้นตลอดไป ยุคนี้เราจะเห็นว่ามีคนเป็นโรคซึมเศร้า จากการที่เราคิดว่าคนอื่นมองเรายังไง คนอื่นพูดถึงเรายังไง โซเชียลมันอันตรายมากจริง ๆ เรามองว่ามันเป็นพิษอย่างหนึ่งสำหรับคนในยุคนี้ เราก็เคยมีวิธีการถอนพิษนะ จริง ๆ มันไม่ต้องถอนที่คนอื่นหรอก ใครจะเข้าใจแบบไหน เราไปห้ามเขาไม่ได้ มันอยู่ที่เราว่าเราจะถอนมันออกยังไง ถ้าสมัยก่อนกับสมัยนี้ จริงๆสมัยนี้มันแรงกว่านะ เพราะข้อมูลมันเข้าทุกวันทั้งเช้าและเย็น ธรรมชาติมนุษย์เวลาข้อมูลเข้า เราก็เข้าไปอ่าน ใครพูดถึงกู กูก็ต้องเข้าไปกดอ่านให้ได้ ก็เหมือนคนเอาขยะมาทิ้งหน้าบ้าน ปกติเราต้องเดินหนีขยะ แต่วันนี้เราต้องเดินไปขุ้ยขยะว่าในขยะมีใครเขียนชื่อเราไหม มีใครทิ้งของของเราที่เป็นชื่อเราหรือเปล่า จริงๆมันก็เป็นการแก้ปัญหาที่ผิดวิธี ถามว่ารุนแรงกว่าไหม มันก็รุนแรงกว่าเยอะแหละ ทุกคนมีมือถือหมดนะ สมัยก่อนสื่อจะได้ข่าวก็ต้องมาเจอกัน ต้องพูดคุยกัน แต่เดี๋ยวนี้อ่านโซเชียล เราก็เขียนข่าวได้แล้ว 

ตอนนั้นปล่อยผ่านยังไง มันหนักขนาดไหน ?
อั้ม : คือจริง ๆ ไม่ได้รู้สึกว่ามันหนักขนาดไหน เรามองแค่ว่ามันวันนึงมันก็มีเรื่องที่เราไม่สบายใจ เราก็มองว่าเราไม่ค่อยอยากจะสังคมกับใคร ปกติเราเป็นคนไม่ค่อยสังคมกับคนมากอยู่แล้ว เรามองว่าถ้าเราเข้าไปในสังคมที่เขาไม่เข้าใจ หรือเขานินทาเราลับหลัง สู้ไม่ต้องเจอกันบ่อย ๆ ก็เท่านั้นเอง จริง ๆ ก็ไม่เชิงเปลี่ยน เพราะเราเป็นคนมีเพื่อนน้อยอยู่แล้ว ไม่ค่อยคบเพื่อนในกลุ่มเยอะ ๆ ใหญ่ ๆ มันก็เลยใช้ชีวิตค่อนข้างเป็นธรรมชาติมากกว่า 
ถ้าตอนเด็ก ๆ ก็คงรู้สึกแบบ รู้สึกผิด เมื่อก่อนนักข่าวถามทุกวัน ทั้งที่เราก็เพิ่งบอก เคยพูดคำนึงว่า ว่ามันไม่ใช่เรื่องของไข้หวัดใหญ่ ที่บอกว่าหายแล้วมันไม่เป็น ก็คือไม่เป็น ช่วงเด็ก ๆ ก็มีคำถามหลายอย่าง ที่ไม่เข้าใจ เป็นเรื่องที่คุยกับนักข่าวไม่เข้าใจ แต่ตอนหลังก็เป็นเพื่อน เป็นพี่กัน เป็นเรื่องปกติ

เห็นทำบุญเข้าวัด ? 
อั้ม : ต้องบอกว่าหลายสายครับ เพราะเราใช้ชีวิตตามสิ่งที่เราชอบ อย่างเรื่องของงานตอนนี้ก็ทำเกี่ยวกับสมุนไพร เกี่ยวกับสุขภาพ ก็จะมีโครงการที่เราเข้าไปพัฒนาชุมชน นำของไปถวายพระบ้าง นำของไปช่วยคนบ้าง จะได้เจอตามที่ต่าง ๆ วัดวาอารามที่ไหนที่เรามองว่ายังขาด ถ้ามีโอกาสสนับสนุนเราก็จะไป อย่างวันนี้ก็ได้มางานกับพี่ป๋อง ก็เป็นงานบวงสรวงเหรียญปาฏิหาริย์เหนือดวง วาระ 2

เห็นว่าจะมีโปรเจ็กต์ด้วยกันกับพี่ป๋อง? 
อั้ม : จริง ๆ ก็เป็นความตั้งใจระหว่างการทำเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ผมมีความตั้งใจจะทำภาพยนตร์ เป็นรากของแผ่นดิน เราอยากเห็นที่มาที่ไป และความเสียสละต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้น เราอยากจะเล่าในยุคปัจจุบัน ก็ได้พบกับทางพี่ป๋อง เราก็มีความศรัทธาและชื่นชมในตัวพี่ป๋อง เหมือนกับผู้รู้จริงในเรื่องของพระเครื่อง ผมมองพระเครื่องคือเรื่องของศิลปะ เพราะพระเครื่องมีการเล่าที่มาที่ไป มีพลังงานของครูบาอาจารย์ที่เรานับถือ เพราะฉะนั้นเรามีโอกาสได้ศึกษาและได้พูดคุย พี่ป๋องมองว่าสิ่งที่เรากำลังจะทำนี้ แกเห็นว่าเป็นประโยชน์ ก็เลยจะมีโปรเจ็กต์ใหญ่ร่วมกัน

จะเกิดขึ้นช่วงไหน? 
อั้ม : จริง ๆ ก็เริ่มต้นเบา ๆ เล็ก ๆ มาแล้ว พี่ป๋องก็เริ่มให้คำปรึกษามาแล้ว ก็เริ่มไปทำพิธีบอกกล่าวอย่างถูกต้อง ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชมาแล้ว และพี่ป๋องก็ช่วยออกแบบ 

โปรเจ็กต์นี้ใหญ่ไหม? 
ป๋อง : โปรเจ็กต์นี้พลาดไม่ได้เลย คุณอั้มปณิธานตั้งใจกุศลล้วน ๆ ทำโรงพยาบาล ซื้อเครื่องมือแพทย์ แล้วก็หอฉันท์ วัดเขาขุนพนม แล้วก็รู้สึกอีก 4-5 ที่นะ ถ้าทำบุญนะผมทำ แต่ถ้าทำเอาตังค์ผมไม่เอา อันนี้เราทำบุญ และเดี๋ยวก็มีพิธีใหญ่ บวงสรวงใหญ่ที่อนุสาวรีย์พระเจ้าตาก ที่วัดอุทัย เป็นวัดเก่าแก่ที่สมัยกรุงศรีอยุธยา ที่ยังหลงเหลือ และเป็นประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ อย่างพระนเรศวรมาอาบน้ำที่หน้าโบสถ์ พระในโบสถ์จะมีชื่อว่าพระพุทธนเรศวร เพราะฉะนั้นวันนี้ความเป็นสิริมงคล อยากให้รอติดตามงานใหญ่ของคุณอั้ม อธิชาติ เขาตั้งใจ และผมจะเป็นอีกคนหนึ่งที่มาช่วยงาน อยากให้ทุกคนรอติดตาม

ร่วมกันครั้งแรกเลยไหม?
อั้ม : ครั้งแรกเลยครับ จริง ๆ ก็ปรึกษาพี่ป๋อง เพราะผมมีความตั้งใจแบบนี้ พี่ป๋องก็บอกว่ายินดีให้คำแนะนำ และให้คำสนับสนุน ก็ขอขอบคุณพี่ป๋องด้วยนะครับ คือนับถือพี่ป๋องครับ ศรัทธาความรู้ความตั้งใจของพี่ป๋อง ในเรื่องของพระเครื่องที่ผมมองว่าเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ที่มีความลึกและซับซ้อนต่าง ๆ และกำลังเป็นที่นิยมของคนทั่วโลกมาก ๆ พี่ป๋องมีความรู้มาก ๆ แล้วสิ่งที่สำคัญ ผมศรัทธาและชื่นชอบในตัวพี่ป๋อง เราเห็นงานต่าง ๆ ที่พี่ป๋องไปสนับสนุน โรงพยาบาลคนเจ็บคนป่วย เรามองว่าของอย่างนี้มนุษย์เราใช้ได้เลย เพราะเราเจ็บเราป่วยเราก็ต้องเข้าโรงพยาบาล ซึ่งพี่ป๋องทำมามากมาย
ป๋อง : ผมเองเห็นเจตนาของอั้ม ไม่ได้คิดเลย รับปากทำเลย เราต้องเสียสละก่อนแล้วมันจะสำเร็จ ไม่เคยคิดเรื่องเงินทองเลย คิดว่าจะทำบุญและเราก็ได้ร่วมกัน ชาติก่อนเราเคยอาจทำบุญร่วมกันมาก็ได้ ชาตินี้ก็เลยหนีเทวดามาทำบุญด้วยกัน ก่อสร้างจำกัดครับรอติดตามแล้วกัน

 

อ่าน ข่าวบันเทิงวันนี้ ที่เกี่ยวข้อง :