[US Box Office] เปิดใหญ่สั่นสะท้าน! "Demon Slayer: Infinity Castle" สร้างตำนานในอเมริกา
![[US Box Office] เปิดใหญ่สั่นสะท้าน! "Demon Slayer: Infinity Castle" สร้างตำนานในอเมริกา](https://avatar.dmpcdn.com/p320x320/1044/789044.png)
Box Office Demon Slayer: Infinity Castle
บ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกา รายงานอันดับหนังทำเงินประจำสุดสัปดาห์วันที่ 12-14 กันยายน 2025 - และก็เป็นอีกหนึ่งสุดสัปดาห์ที่ทำให้เดือนกันยายนไม่เงียบเหงา กับวีคเอนท์ที่ทั่วโลกเฝ้าจับตามองการมาเยือนของเหล่าเสาหลัก ที่คืบคลานเข้าสู่แผ่นดินอเมริกาอย่างเป็นทางการ ปรากฏการณ์จากคอนเทนท์อนิเมะญี่ปุ่นที่โด่งดังเปรี้ยงปร้างที่สุดในโลก ณ เวลานี้ ที่ได้ฤกษ์พุ่งทะยานเยือนโลกฝั่งตะวันตกอย่างเต็มตัว ก็มาพร้อมกับการสร้างสถิติใหม่ระดับมหึมาอย่างน่าภาคภูมิใจ
เพราะหนังทุก ๆ เรื่องต้องพากันหลีกทางให้กับการมาของ "Demon Slayer - Kimetsu no Yaiba: Infinity Castle" หรือ "ดาบพิฆาตอสูร ภาคปราสาทไร้ขอบเขต" ที่ได้ฤกษ์ลงโรงฉายทั่วอเมริกาอย่างเป็นทางการแล้ว มาพร้อมกับการสร้างตำนานครั้งใหม่ด้วยการโกยรายได้ 3 วันแรกได้ยิ่งใหญ่ถึง 70 ล้านเหรียญ จาก 3,315 โรงฉาย คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงที่สูงถึง 21,000 เหรียญ เลยทีเดียว
Demon Slayer: Infinity Castle มาพร้อมกับสถิติใหม่ ๆ เยอะไปหมด กลายเป็นหนังอนิเมะที่เปิดตัวในอเมริกาได้แรงที่สุดตลอดกาลเรื่องใหม่ โค่นสถิติเดิมของ Pokémon: The First Movie – Mewtwo Strikes Back (31 ล้านเหรียญ) ที่เคยครองสถิติมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1999 โดยหนังได้เข้าฉายที่อเมริกาในรูปแบบเสียงออริจินัลและเสียงพากย์ภาษาอังกฤษควบคู่กันไป อีกทั้งหนังยังไปได้ด้วยในการฉายระบบจอยักษ์ IMAX
การเปิดตัวในอเมริกาของ ดาบพิฆาตอสูร ภาคปราสาทไร้ขอบเขต ในสุดสัปดาห์นี้ ก็ช่วยผลักดันยอดรวมทั่วโลกให้ดีดตัวขึ้นไปอีก ล่าสุดหนังมุ่งหน้าสู่การโกยรายได้จวนจะแตะหลัก 400 ล้านเหรียญทั่วโลก ต้องยกความดีความชอบที่ โซนี พิคเจอร์ส เลือกที่จะบริหารโปรโมตหนังเรื่องนี้ในฐานะตัวแทนจัดจำหน่ายหนังทั่วโลก ทำให้มีแรงประชาสัมพันธ์ที่แข่งแกร่งกว่าแบรนด์ Crunchyroll ในเครือของตัวเอง
รายได้เปิดตัวของหนังอนิเมะเรื่องนี้ในอเมริกา ก็ทำให้โซนีเพิ่งจะมีหนังเปิดตัวแรงที่สุดในอเมริกาในรอบปีกว่า ๆ ให้กับสตูดิโอ นับตั้งแต่ Bad Boys: Ride or Die (56.5 ล้านเหรียญ) เมื่อปี 2023 เพราะหนังซัมเมอร์ที่ผ่านมานั้น โซนีก็จัดได้ว่าไม่มีผลงานหนังเรื่องไหนที่ทำเงินได้เข้าตาและเป็นปรากฏการณ์ได้เลยสักเรื่องเดียว กระทั่งเหล่าเสาหลักมากอบกู้ได้ในที่สุด
แชมป์เก่า "The Conjuring: Last Rites" หลังจากเปิดตัวได้แรงแบบหักปากกาเซียน วีคนี้ก็หมดแรงไปตามกำลังของหนังสยองขวัญ ทำเงินไปอีก 26.1 ล้านเหรียญ ตัวเลขร่วงไปเกือบ -70% แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะหนังโกยเงิน 10 วันแรกไปได้งดงามแล้วกว่า 130 ล้านเหรียญ กับยอดรายได้ทั่วโลกที่พุ่งไปสู่ 350 ล้านเหรียญได้อย่างน่าประทับใจแล้ว ถือว่าเป็นการปิดตำนานที่จบจือได้อย่างน่าประทับใจ และก็ทำให้เดือนกันยายนไม่เหงาไปอีกปี
อันดับที่ 3 เป็นการเปิดตัวใหม่ของ "Downton Abbey: The Grand Finale" หนังพีเรียดยอดนิยมในหมู่คนดูฝั่งตะวันตก เพราะแตกยอดความสำเร็จมาจากทีวีซีรีส์เรื่องดังนั่นเอง ภาคนี้เป็นการทิ้งทวนปิดฉากเป็นภาคสุดท้าย ทำเงิน 3 วันแรกไปได้น่าพอใจที่ 18.1 ล้านเหรียญ จาก 3,694 ล้านเหรียญ คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อที่ 4,900 เหรียญ แสดงให้เห็นว่าคนอเมริกันยังให้การต้อนรับหนังชุดนี้ได้เป็นอย่างดี โดยหนังเปิดตัวได้ดีขึ้นจากภาคที่แล้ว Downton Abbey: A New Era (16 ล้านเหรียญ) แต่ยังตามหลังห่าง ๆ จากภาคแรก Downton Abbey (31 ล้านเหรียญ) อยู่พอประมาณ
เปิดตัวใหม่ตามมาอีกเรื่องก็คือ "The Long Walk" หนังระทึกขวัญจากนิยายดังของ สตีเฟน คิง ที่ทำเงินไป 11.5 ล้านเหรียญ จาก 3 วันแรก กับ 2,845 โรงฉาย คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงประมาณ 4,000 เหรียญ ถือว่าเป็นตัวเลขเปิดตัวที่ธรรมดาไปสักนิด แต่อย่างน้อย ๆ หนังเรื่องนี้ก็ใช้ทุนสร้างไม่เยอะ แต่ก็ยังตอกย้ำสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงให้กับปัญหาการเงินของสตูดิโอ ไลอ้อนสเกต เพราะพวกเขายังไม่มีหนังทำเงินสักเรื่องเลย มาเป็นระยะเวลาแรมปีแล้ว แม้ว่ากระแสตอบรับของหนังเรื่องนี้จะค่อนข้างมีรีวิวที่ดีมาก แต่ก็ยังไม่ดึงดูดใจคนดูได้มากพอ
ดิสนีย์-พิกซาร์ได้ทำการส่ง "Toy Story" ภาคแรกหวนกลับมาสู่จอใหญ่อีกครั้ง ในวาระฉลองครบรอบ 30 ปีของหนัง ก็สามารถทำเงินไปอีก 3.5 ล้านเหรียญ จาก 2,375 โรงฉาย ถือว่าแอนิเมชันสุดคลาสสิกเรื่องนี้ก็ยังมีแฟน ๆ ให้การต้อนรับกลับสู่โรงหนังอยู่เสมอ และที่เปิดตัวใหม่อีกเรื่องท้ายตารางก็คือ "Spinal Tap II: The End Continues" หนังภาคต่อตำนานเพลงร็อกที่หวนกลับมาสานต่อในรอบ 40 ปี ที่คัมแบ็กครั้งนี้ออกสตาร์ทเบา ๆ ที่ 1.6 ล้านเหรียญ จาก 1,920 โรงฉาย ถือว่าไม่น่าอภิรมย์สักเท่าไหร่
"The Sound of Music" ก็กลับสู่จอใหญ่อีกครั้งเช่นกัน ฉลองครบรอบในตำนาน 60 ปีเต็ม ทำเงินไปอีก 1.4 ล้านเหรียญ จาก 1,178 โรงฉาย ถือว่ายังมีแฟน ๆ หวนกลับมาขับคลานบทเพลงประทับใจ ส่วนหนังที่เข้าฉายจำกัดโรงก็มี "The History of Sound" เปิดตัวใหม่กับรายได้ 85,000 เหรียญ จากการฉาย 4 โรงเท่านั้น คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงประมาณ 21,000 เหรียญ นี่คือหนังย้อนยุคโรแมนซ์ดรามา LGBTQ+ ของ 2 ดาราหนุ่มสุดฮอต พอล เมสคัล กับ จอช โอคอนเนอร์
สำหรับสุดสัปดาห์ถัดไปที่จะถึง เป็นคิวของ 2 หนังเสาหลักใหม่ 2 สไตล์ ระหว่างหนังเขย่าขวัญวงการกีฬา "Him" การันตีหนังจากค่ายของ จอร์แดน พีล กับหนังผจญภัยโรแมนซ์จากนิยายดัง "A Big Bold Beautiful Journey" ที่ได้คู่ซุปตาร์ คอลิน ฟาร์เรลล์ กับ มาร์โกต์ ร็อบบี้ นำแสดง ร่วมด้วยหนังทางเลือก "In Whose Name?" สารคดีของคานเย เวสต์ "The Senior" หนังดรามากีฬาที่สร้างมาจากเรื่องจริง และการกลับมาสู่จอ IMAX ของหนังอวกาศในตำนาน "Apollo 13" หวนคืนจอฉลองครบรอบ 30 ปีเต็ม
Source: TheNumbers
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- [US Box Office] ปิดตำนาน..สตรอง "The Conjuring: Last Rites" หลอนเฮี้ยนแรงส์ โกยเงินขนลุกซู่!
- [US Box Office] "Weapons" หวนขึ้นแชมป์ แก๊งหนังใหม่ปิดซัมเมอร์กอดคอทำเงิน..กริบ
- [US Box Office] พลังเคป็อบ! "KPop Demon Hunters" ปังขึ้นแชมป์ จากการฉายแค่ 2 วัน
- [US Box Office] อาวุธลับยังแข็งปึ้ก! "Weapons" ยึดแชมป์ต่อ แซงลุงขาโหด "Nobody 2"
- TrueID BoxOffice 5 หนัง 5 ซีรีส์ออนไลน์ฮิตจากแอป TrueID
-------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa