รีเซต

อิ๋งอิ๋ง สิทธิณี เปิดใจสามีง้อขอคืนดีแล้ว ยอมรับมีส่วนผิด ทำให้อีกฝ่ายไม่มีที่ยืนในสังคม (มีคลิป)

อิ๋งอิ๋ง สิทธิณี เปิดใจสามีง้อขอคืนดีแล้ว ยอมรับมีส่วนผิด ทำให้อีกฝ่ายไม่มีที่ยืนในสังคม (มีคลิป)
Entertainment Report_2
25 กุมภาพันธ์ 2565 ( 20:50 )
514

ข่าวบันเทิงวันนี้

เปิดใจครั้งแรก "อิ๋งอิ๋ง สิทธิณี" พิธีกรชื่อดังยุค 90 ที่วันนี้จะมาเคลียร์ทุกประเด็นดราม่า ทั้งโดนอดีตสามีสวมเขา หนีออกจากบ้านไปอยู่กับหมอนวด เรื่องพฤติกรรมชายรักชาย เบี่ยงเบนทางเพศ ขอมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก เป็นเหตุให้แยกห้องนอนยาวนานกว่า 15 ปี พร้อมอัปเดตอาการป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะสุดท้าย ทำคีโมยาวนานกว่า 24 ครั้ง ผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่องวัน 31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และบูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

พี่อิ๋งอิ๋งเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย?
อิ๋งอิ๋ง : ใช่ค่ะ ก่อนอื่นต้องขอโทษทำให้ทุกคนตกใจ จริง ๆ พี่อิ๋งแค่ต้องการเขียนบันทึกส่วนตัว เป็นบันทึกสุดท้ายของชีวิต ไม่คิดว่าเป็นเรื่องราวใหญ่โต ไม่คิดจะทำร้ายจิตใจของอดีตคนรักขนาดนั้นด้วยไม่คิดว่าทำให้เขาไม่มีที่ในสังคมไม่คิดว่าเรื่องมันจะบานปลายแล้วรุนแรงเกินกว่าที่เราจะเข้าใจว่ามันไปได้ขนาดนี้ได้ไง

 

ขอบคุณคลิปจากรายการ คุยแซ่บShow

อาการพี่ข้างในเป็นยังไงบ้าง?
อิ๋งอิ๋ง : ไปฟังคุณหมอดูผลเลือดของมะเร็งที่มันขึ้นมาอีกเท่าตัว คุณหมอจะให้เลือด จริง ๆ ตั้งใจจะไปอเมริกาสัก 3 อาทิตย์ ตอนนี้หมอสั่งห้ามเดินทางแล้วก็นัดให้เลือด เตรียมผ่าตัด

เขาบอกไหมว่าเราต้องเตรียมตัว ดูแลร่างกายของเรายังไงบ้าง?
อิ๋งอิ๋ง : ให้กินเยอะ ๆ ทานไข่เยอะ ๆ แล้วก็ทำใจให้สบาย

ช่วงนี้ทานได้ไหม?
อิ๋งอิ๋ง : ไม่ได้ แต่ขนาดทานไม่ได้ยังบวมขนาดนี้เลย

เร็ว ๆ นี้พี่อิ๋งอิ๋งจะไปทำคีโม ซึ่งเป็นครั้งที่24?

อิ๋งอิ๋ง : คุณหมอบอกว่าเดี๋ยวจะให้ดูว่าจะผ่าตัดเลยไหมหรือยังไง เพราะถ้าทำคีโมอีก มัน 24 ครั้งแล้ว มันก็ยังทรง ๆ อยากให้ผ่าตัด ก็จะไปคุยกันวันพฤหัสนี้ว่าจะให้คิวผ่าตัดเมื่อไหร่ แต่ต้องให้เลือดก่อน

แสดงว่าใจพี่อยากผ่าตัดแล้ว พี่เบื่อคีโมมากแล้วใช่ไหม?
อิ๋งอิ๋ง : เจ็บมาก เจ็บทั้งตัว เวลาให้คีโมทีนึงมันจะทำลายกล้ามเนื้อ ทำลายเซลล์ดี ๆ ทั้งหมด แล้วหลังจากให้คีโมเสร็จก็ต้องฉีดกระตุ้นเม็ดเลือดขาวอีก 7 เข็ม วันละเข็ม ซึ่งมันจะปวดตั้งแต่ท้ายทอยถึงก้นกบเลย ก็จะนอนเป็นผักไปอีก 15 วัน มันลุกไม่ไหว กรณีที่แพ้ มีผื่นคันขึ้น แล้วก็อาเจียนด้วย

ตอนนอนอยู่บนเตียง 15 วันใครเป็นคนดูแล?
อิ๋งอิ๋ง : เมื่อก่อนพี่ตั้มดูแล ปัจจุบันก็แม่บ้าน น้องสาวจะทำอาหารส่งมาให้ เพราะเราไม่ยอมไปนอนบ้านเขา เราอยากนอนบ้านเรา เราอยากอยู่กับแมว

ทรมานไหม นอนอยู่บนเตียง 15 วัน?
อิ๋งอิ๋ง : ทรมานค่ะ แต่หมอให้กินยาแล้วจะหลับทั้งวันเหมือนเจ้าหญิงนิทรา ไม่ให้เราขยับมาก ให้นอนทั้งวันเราก็ชินแล้ว เพราะมันเป็นอย่างนี้มานานแล้ว

ตอนที่พี่ทราบว่าเป็นมะเร็ง ตอนนั้นเกิดเหตุการณ์อะไรทำให้พี่ไปหาหมอ?
อิ๋งอิ๋ง : ไม่ได้ทราบว่าเป็นมะเร็งมาก่อนเลยค่ะ คือจะเดินทางไปอิหร่าน เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เดือนกุมภาพันธ์นี่แหละ แล้วปวดท้องอย่างหนัก ทนมา 2 วัน หาหมอ หมอบอกว่ามันไม่ใช่ไส้ติ่ง เพราะอยู่คนละข้าง ก็ทนกินยาแก้ปวดมา 2 วัน จนไม่ไหวแล้ว คุณหมอบอกว่าไปเข้าเครื่องสแกนเถอะ เข้าเครื่องสแกนเสร็จปั๊บเขาก็ผ่าตัดเลย 
บอกว่าตัวเนื้องอกที่งอกออกมามันแตก มันอยู่ที่รังไข่ หลังจากตัดเสร็จแล้วปัจจุบันมันลามมาที่ปอดกับต่อมน้ำเหลือง

มันลามไปที่ต่อมน้ำเหลืองได้ยังไง?
อิ๋งอิ๋ง : ไม่ทราบเหมือนกัน มันกระจาย

เห็นว่าครั้งแรกที่รู้ว่าเป็นมะเร็งพี่ปฏิเสธการรักษา?
อิ๋งอิ๋ง : ปฏิเสธการรักษา คุณหมอกุมขมับเลย เป็นคนไข้คนแรกที่เซ็นปฏิเสธการรักษา คือเซ็นขอไม่รักษา ขออยู่เงียบ ๆ คนเดียว

ทำไมตอนนั้นถึงไม่ยอมรักษา?
อิ๋งอิ๋ง : มันเจ็บ เวลาถูกเจาะหาเส้นเลือดดำแขน 2 ข้างมันจะเป็นอย่างนี้ มันทรมานมาก มันหาเส้นไม่เจอ ตอนแรกคุณหมอจะกรีดหาหลอดเลือดดำที่ต้นคอ แล้วต่อท่อเวลาจะให้เลือดหรืออะไรก็ต้องเปิดจุกตรงนี้ มันสยอง ตัวเองก็รับไม่ได้ ก็เลยยอมให้จิ้มที่แขนแทน ก็มันจะเละทั้งสองข้าง อย่างนี่

แล้วอะไรทำให้พี่เปลี่ยนใจยอมรับการรักษา?
อิ๋งอิ๋ง : พี่ตั้ม อดีตสามีบอกว่าอยู่เป็นเพื่อนเขาเถอะ จะมาก จะน้อย เวลาเหลือแค่ไหนก็จะทำให้ดีที่สุด จะอยู่เป็นเพื่อนจนลมหายใจสุดท้าย

พอเราเริ่มเจ็บมาก ๆ จากการรักษา มีคิดไหมว่า ถ้ามันทรมานขนาดนี้ฉันไม่มีชีวิตอยู่ก็ได้?
อิ๋งอิ๋ง : ถ้าวันไหนหลับไม่ตื่นจะดีใจมาก คือเราต้องทำแบบนี้ซ้ำๆ จนกว่าค่ามะเร็งจะลง

เห็นว่ามีเหตุการณ์ที่ทรมาณที่สุด คือเอาน้ำออกจากปอด?
อิ๋งอิ๋ง : ปลายปี 63 ตอนนั้นนั่งก็ไม่ได้ นอนก็ไม่ได้ ต้องเอน 45 องศาตลอด ซึ่งไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร ต้องกระทั่งหมอไปสแกนดูปอด ปรากฏว่าน้ำอยู่ในปอด 3 ลิตร อยู่ในปอด 2 ข้าง หายใจไม่ได้ ตะแคงก็ไม่ได้ ต้องเอนตัวแล้วเอาหมอนดันเอาไว้

เจ็บไหมพี่?
อิ๋งอิ๋ง : มันเหมือนเอาเข็มมาจิ้มข้างใน เวลาหายใจทีมันจะแปลบๆ

คุณหมอได้บอกไหมว่าทำไมถึงมีน้ำ?
อิ๋งอิ๋ง : เอ็กซ์เรย์เสร็จ หมอบอกว่าข้างในมีแต่น้ำทั้งหมดเลย

หมอเจาะสด ๆ เลย?
อิ๋งอิ๋ง : เจาะสด เกาะมือจิกมืออิ่งอ้อย เขาก็ท่องเจ้าแม่กวนอิม หมอให้ตะแคงหลัง หมอเจาะเข้าไปเลย หมอบอกให้ยาสลบไม่ได้ เพราะเราต้องมีความรู้สึกตลอดเวลา เจาะเสร็จเอาน้ำออกครั้งแรก คิดว่าหมดแล้ว อยู่โรงพยาบาลไปพักนึง น้ำมันมาจากไหนก็มารู้ รอบ 2 เราก็ห้อยติดตัวไว้เลยระบายน้ำออก สุดท้ายได้มา 3 ลิตร 
คุณหมอบอกว่าน่าจะเป็นเอฟเฟ็กต์จากมะเร็ง มะเร็งมันทำให้ตัวระบายน้ำได้เหมือนคนปกติ

พี่ต่อสู้กับมันมา 5 ปี เคยมีวันไหนไหมที่ไม่เอาแล้ว?
อิ๋งอิ๋ง : พี่ยังอยากดูแมว ยังอยากดูหน้าพี่ตั้ม อยากดูบ้านสวย ๆ อยากดูดอกไม้ พี่ศรัทธาในเรื่องของความดี และเชื่อในเรื่องความรักจะทำให้เราเนี่ยอยู่ได้ เราจะทนได้ทุกอย่างเพื่อความรัก

ตอนนั้นอดีตสามีพี่เขาให้กำลังใจยังไง?
อิ๋งอิ๋ง : ดีมากค่ะ อยู่คอยให้กำลังใจ หมอบอกว่าอดทนนะ ๆ 

วันนั้นเกิดอะไรขึ้นถึงทราบว่าอดีตสามีนอกใจไปแอบคบกับหมอนวด?
อิ๋งอิ๋ง : 21 ธันวาคม เหมือนฟ้าผ่าลงกลางหัวใจเลย เขาเข้ามานั่งกับเราเหมือนดูอาการว่าเช้านี้ทานข้าวหรือยัง โทรศัพท์มันดังขึ้นมา แล้วเขาก็เปิดสปีกเกอร์โฟนไว้ มีเสียงผู้หญิงลอดมาว่าที่รักทานข้าวหรือยัง เท่านั้นแหละบ้านแตกเลย จากคนที่นอนอยู่กับเตียงลุกขึ้นมาได้ มาโวยวาย ร้องห่ม ร้องไห้เหมือนผีบ้า อาละวาด ไล่เขาออกจากบ้านเอาของทุกอย่างของเขาที่อยู่ในบ้านทิ้งหมดเลย ตัดรูปงานแต่งงานที่ไปถ่ายด้วยความตั้งใจทิ้งหมด

ความรู้สึกที่ได้ยินประโยคนั้น?
อิ๋งอิ๋ง : ชีวิตมันไม่เหลืออะไรแล้ว คือเราเองก็เหมือนนับถอยหลังแล้ว เพราะหมอบอกว่าเราจะอยู่ได้อีกไม่กี่วัน แล้วเรามาเจอเหตุการณ์ที่ทำร้ายจิตใจได้ขนาดนี้ ชีวิตมันไม่เหลืออะไรแล้ว

ตอนที่พี่ได้ยินเสียงจากโทรศัพท์พี่ได้ถามเขาไหม?
อิ๋งอิ๋ง : ถามเขาก็สารภาพ พี่ก็ไม่ฟังอะไร ตอนนั้นด้วยอาการที่เรียกว่าเราป่วย เจ็บหนัก แล้วเราก็แบบร่างกายเราอยู่ในภาวะที่รับอะไรได้แล้ว เรามีความรู้สึกว่าเราสูญสิ้นหมดทุกอย่าง เพราะเราศรัทธาในความรัก เชื่อว่าความรักเป็นรักแท้ และเป็นรักที่แบบว่าเราจะอยู่ด้วยกันจนตาย คนอายุครึ่งค่อนคนอย่างพวกพี่มันไม่มีสิทธิที่จะเลือกหรือเริ่มต้นชีวิตใหม่แล้วนะ

พอเรื่องมันแตกเขามีข้ออ้าง ข้อแก้ตัว หรือบ่ายเบี่ยงไหม?
อิ๋งอิ๋ง : เขาทำผิด เขายอมรับ เขาก็รู้ว่าเขาทำลายชีวิตพี่

เขาได้บอกจุดเริ่มต้นไหมว่ายังไง?
อิ๋งอิ๋ง : พี่ไม่ถาม เพราะยิ่งถามยิ่งตอกย้ำให้พี่เจ็บปวด มันไม่มีประโยชน์เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ตอนนั้นคิดอยู่อย่างเดียวว่าชีวิตฉันจะอยู่ยังไง

วันนั้นพี่อิ๋งอิ๋งก็สั่งให้เลือกเลยว่าจะเลือกฉันหรือเลือกคนในสาย?
อิ๋งอิ๋ง : ใช่ ๆ เขาเลือกคนในสาย เพราะเขาไม่ให้เบอร์โทรศัพท์พี่โทร.ไปอาละวาดคนนั้น

วันนั้นเขาเก็บของไปเลยไหม?
อิ๋งอิ๋ง : เขาเก็บของไปเลยวันนั้นเลย แล้วพี่ก็เผาของวันนั้นเลย

แสดงว่าวันนั้นพี่โกรธมาก?
อิ๋งอิ๋ง : เขาเป็นคนที่พี่เชื่อมั่นว่าเขาจะเป็นรักสุดท้าย และรักเดียวที่พี่มีอยู่จนวันตาย

โกรธหรือเจ็บใจมากกว่ากัน?
อิ๋งอิ๋ง : ทั้งโกรธ เสียใจและผิดหวัง

เขาไปพี่อิ๋งอิ๋งก็ยังใจดีให้สมบัติไปด้วย?
อิ๋งอิ๋ง : ของอะไรที่เป็นของเขา มันก็ควรที่จะติดตัวไปด้วย พี่ถือว่าพี่เป็นหัวหน้าครอบครัวตั้งแต่เริ่มแต่งงาน เพราะฉะนั้นอะไรที่ทำให้ครอบครัวมีความสุข อะไรที่ทำให้คนในบ้านอยู่กันอย่างสันติ พี่ว่านั่นคือหน้าที่ของหัวหน้าครอบครัว แบ่งหน้าที่กันคนนึงออกทำงานนอกบ้าน อีกคนนึงดูแลความเรียบร้อยภายในบ้าน ดูแลแมว ดูแลในส่วนที่ยามพี่เจ็บป่วยพาพี่ไปหาหมอ

ของที่เขาหยิบไปพี่บอกเขาไหมว่าเธอเอาอันนี้ไปได้ หรือ?
อิ๋งอิ๋ง : ไม่ถาม ไม่สนใจเลย อะไรที่เขาใช้อยู่คือให้หมด เพราะฉะนั้นจะไม่ตามไปดูว่าเขาเอาอะไรหรือไม่เอาอะไรไปบ้าง แต่ของที่เขาไม่เอาไปคือพี่เผาเรียบชุดกอล์ฟของเขาร้อยกว่าชุด ของที่เขารักมากจากต่างประเทศพี่เผาไม่เหลือเลย ทุกอย่างทั้งหมดเผาเรียบ

หลังจากที่เหตุการณ์เกิดขึ้น พี่มีโอกาสคุยกับเขาทางไลน์?
อิ๋งอิ๋ง : หลังจากที่เลิกกันไปประมาณเดือนนึง เรามีความรู้สึกว่าเรายังตัดเขาไม่ได้ เขาไลน์มาหาเรา เราก็เลยตอบเขาไปว่า พี่เคยรักหนูไหม เคยมีหนูอยู่ในใจบ้างไหม

ตลอดหนึ่งเดือนที่ไม่เจอกันเขาพยายามติดต่อมาไหม?
อิ๋งอิ๋ง : เขาบอกว่าขอโทษที่ทำให้ครอบครัวแตกสลาย แต่หนู (หมายถึงตัวพี่) ทำให้ครอบครัวเละ จริง ๆ เรื่องมันเกิดขึ้นมันน่าจะคุยกันในครอบครัวได้ เพราะว่าเป็นอย่างนี้ทุกบ้าน ไม่ใช่เป็นแค่ครอบครัวเรา แต่พี่ยอมไม่ได้ รับไม่ได้เพราะว่าพี่ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้  เขาบอกครอบครัวอื่นเขาโดนหนัก เละกว่านี้ ทำไมเมียเขาไม่เห็นออกมาโพสต์ด่าผัวเลย พี่บอกว่าไม่เหมือนกัน เพราะว่าพี่คือคนไม่มีทางเลือก สุดท้ายคือตัวคนเดียวอยู่แล้ว

ไลน์วันนั้นจบยังไง?
อิ๋งอิ๋ง : พี่ไม่ตอบ เขาพูดว่าเขารักหนูคนเดียว เขายังยืนยันว่าหนูคือที่ 1 คือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตพี่ แล้วเราก็ไม่ตอบ

แล้วพี่มารู้เมื่อไหร่ว่าจริง ๆ เขานอกใจเรามานานมากแล้ว?
อิ๋งอิ๋ง : วันที่ออกไปวันนั้น ถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้ ทำมานานหรือยัง 

เขาคุยกันมานานแล้ว?
อิ๋งอิ๋ง : นานแล้วค่ะ

พฤติกรรมของเขาก่อนหน้านี้มีทำให้พี่ระแคะระคายเหมือนกัน?
อิ๋งอิ๋ง : ใช่ค่ะ คือบ่าย 2 ตื่น บ่าย 3-4 แต่งตัวออกทุกวัน แล้วกลับบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ ออกนอกบ้านไม่รับสายเลย

ปกติกลับบ้านกี่โมง?
อิ๋งอิ๋ง : ปกติจะกลับมาให้ยาพี่ตอน 20.30 น. ก็ออกไปข้างนอกอีก เขาทำหน้าที่ให้ยาพี่ทานเสร็จแล้วก็ไป เขาบอกว่าไปหาเพื่อน ตอนนั้นเราไม่ได้ระแคะระคายอะไร ไม่สนใจด้วย เพราะว่าพี่เชื่อมั่นว่าความรักที่พี่ให้กับเขาและสิ่งที่อยู่ยืนยาวมาเป็น 15 ปี มันไม่มีอะไรที่วิเศษดีกว่านี้แล้ว เพราะว่าครอบครัวเราอบอุ่น เรามีพร้อมทุกอย่าง พี่ไม่คิดว่าจะมีมือที่สามเข้ามาทำลายครอบครัวพี่ได้

พี่เคยพูดไว้ว่าพี่เป็นคนให้ชีวิตผู้ชายคนนี้?
อิ๋งอิ๋ง : ใช่ค่ะ คือชีวิตของเขาที่ผ่านมา เขาไม่เคยมีความสุข ได้รับความรักหรือความอบอุ่นจากครอบครัวเลย แต่เมื่อมาอยู่กับพี่ พี่มาเติมเต็มในสิ่งที่เขาขาดให้ได้ทุกอย่าง อย่างนึงที่พี่เห็นแล้วสงสารเขามากที่สุดคืออาการเกาะตู้เย็นตอนสมัยที่คุณพ่อเขาแต่งงานใหม่ แล้วอยู่กับบ้านแม่สอง พ่อเขาไปทำงานต่างจังหวัด เด็กๆ เขาไม่ได้ทานอะไร ที่เขาอยากทานเลย เพราะว่าแม่เลี้ยงใจร้ายเหมือนในหนัง เอาของดี ๆ เก็บไว้ให้ลูกตัวเองกิน แต่ว่าลูกเลี้ยงไม่ให้กิน เขาเป็นโรคติดอย่างนึง พอมาอยู่กับพี่แล้ว ชอบซื้อของมาเก็บในตู้เย็นแล้วกินไม่หมด ให้มันเน่าคาตู้เย็น ออกนอกบ้านทุกวัน ซื้อทุกวัน แล้วเป็นโรคชอบเกาะตู้เย็น มันเป็นโรคติด ขอบซื้อของมาใส่ในตู้เย็น เพราะแม่เลี้ยงไม่ให้เขากินอะไร อยากกินอะไรก็จะไปเกาะตู้เย็นไม่กล้าเปิด ถ้าทานแม่เลี้ยงจะด่าจะว่า นั่นคือวัยเด็กของเขา ที่เขาเผชิญมาตั้งแต่คุณพ่อ คุณแม่เขาเลิกกัน พี่สงสารมาก แล้วคิดว่าเราเป็นทุกอย่างให้เขาได้ เราเป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งแม่ เป็นทั้งคนคอยโอบอุ้มให้กำลังใจเขา เขาเองก็เหมือนเป็นโรคที่มีจิตใต้สำนึกแล้วแบบว่าฝังลึกกับอดีต

อีกหนึ่งโพสต์ที่พี่บอกว่าอดีตสามีมีพฤติกรรมผิดปกติเรื่องของอาจจะชายรักชาย จนทำให้พี่แยกห้องนอน?
อิ๋งอิ๋ง : ตอนนั้นแต่งงานใหม่ ๆ เขาขอร่วมเพศทางทวารหนัก แล้วพี่ไม่ยอมก็เลยแยกห้องนอน พอแยกเสร็จก็ไม่ได้คุยกัน พอไม่ได้คุยกันมันก็เลยยาวมาถึง 15 ปี เวลาผ่านเลยมาพี่ก็ไม่ได้ทำหน้าที่ภรรยาเลย ไม่เคยปฏิบัติต่อสามี ไม่เคยดูแลสามี ไม่แปลกหรอกที่เขา พี่ก็ผิดอีกครึ่งนึงเหมือนกันอย่างที่ชัชญ่าบอก ชัชญ่าคือน้องรัก
 และเป็นคนที่ให้กำลังใจในยามที่ว่าพี่กำลังเศร้า และมืดมน ไม่คิดเหมือนกันว่าชีวิตจะหมดหนทางถึงขนาดที่ว่าไม่รู้จะคุยอะไร กับน้องก็ไม่อยากคุย พี่จะอยู่คนเดียว นอนมองเพดานแล้วร้องไห้

ตอนที่อดีตสามีมาขออะไรแบบนี้ ตอนนั้นพี่เริ่มเอะใจว่าเขาเบี่ยงเบนทางเพศหรือเปล่า?
อิ๋งอิ๋ง : เขาหาว่าพี่คอยจ้องจับผิดเขา เพราะว่าพี่ไม่ลืมอดีตว่าแฟนเก่าเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า 

เขาบอกไหมว่าเขาไม่ใช่?
อิ๋งอิ๋ง : เขาบอกว่าไม่ใช่ เขาไม่ชอบผู้ชาย พี่บอกอะไรก็ได้ที่ทำให้ครอบครัวมีความสุขพี่แบบรับได้

หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้มีพฤติกรรมอะไรให้เราเห็นอีก?
อิ๋งอิ๋ง : ไม่ค่ะ พี่ไม่จ้องจับผิดคน ไม่ตามจี้ ตามจิก พี่เป็นคนที่โลกส่วนตัวสูงเหมือนกัน พี่ชอบอยู่ในส่วนที่พี่อยู่แล้วสบายใจ แล้วบางทีก็แอบร้องไห้คนเดียว

พี่บอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ครึ่งนึงก็เป็นของพี่?
อิ๋งอิ๋ง : ครึ่งนึงเป็นของพี่ จริง ๆ พี่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหน้าที่ภรรยาคือต้องดูแลสามี ต้องนอนกับสามีด้วย พี่มัวแต่ทำงานแล้วก็ยุ่งอยู่กับงาน อยู่กับตัวเอง สนุกกับการท่องเที่ยว คือลืมเขาไปเลย

พี่คิดอย่างนี้ได้ตอนไหน?
อิ๋งอิ๋ง : ชัชญ่าบอกพี่ พี่คุยกับชัชญ่าแทบทุกวัน คุยกับน้องแตง น้องรักอีกคนที่สุพรรณ เขาบอกพี่ก็ผิดครึ่งนึงนะ พี่คิดดูสิ เหมือนเด็กอยากกินข้าว มาหาแม่หนูหิวข้าว แม่บอกเอาเงินไปซื้อกินแล้วกัน พอวันนึงแม่กลับมาจะทำกับข้าวให้ลูกกิน ลูกบอกว่ากินข้างนอกบ้านอร่อยกว่า มันก็จริงของเขา ถ้าพี่ไม่ละเลยในหน้าที่ภรรยา  หันหน้ามาคุยกับเขาสักหน่อย เหตุการณ์มันคงไม่บานปลายถึงขนาดมีมือที่สามเข้ามาวุ่นวายแบบนี้

พอพี่คิดได้แบบนี้ความเกลียดเขามันน้อยลงไหม?
อิ๋งอิ๋ง : จากที่พี่เคยบอกว่าจะไม่อโหสิกรรมให้เขาเนี่ย มันก็เบาบางขึ้น ชัชญ่าบอกว่าพี่อย่าไปผูกเจ็บใจแค้นกับเขาเลย ไม่งั้นชาติหน้าเกิดมาพี่ต้องมาเจอปัญหาอย่างนี้อีกซ้ำไปซ้ำมาทุกชาติ พี่ก็บอกว่าพี่ยอมให้อภัยผู้ชายคนนี้ แต่พี่ก็ไม่ได้บอกเขา จนกระทั่งเมื่อวานนี้เขาไลน์มาว่าขอมาหาได้ไหม พี่บอกได้ ก็เลยนัดคุยกัน เขามารับพี่ออกไปมาขอคุยด้วยเขาก็พาวนไปไหว้พระแก้วมรกตกับศาลหลักเมือง มันก็เป็นอะไรที่เรียกว่าไม่ได้เจอหน้ากันเกือบ 2 เดือน มันก็เหมือนคนแปลกหน้าดีเหมือนกัน

วันวาเลนไทน์อดีตสามีพี่ตัดสินใจไลน์มาหาบอกว่าขอคุยด้วยหน่อย?
อิ๋งอิ๋ง : ค่ะ 

บทสนทนาในรถและที่วัดพระแก้วเป็นยังไง?
อิ๋งอิ๋ง : เหมือนคนที่เพิ่งรู้จักกันมาเจอกันวันแรก พี่บอกไม่ถูกถามว่าตื้นตันไหมก็ตื้นตัว คนที่อยู่ด้วยกันมา 14-15 ปี ไม่ได้เจอกันมา 2 เดือน แล้วกลับมาเจอกัน มันก็ตื่นเต้น มันก็ประหม่าเหมือนกันนะ มีความรู้สึกว่าใจนึงก็ดีใจ อีกใจนึงก็กลัว ไม่รู้ว่าเราจะเจออะไรอีก พี่คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตลอด 2 เดือนนี้กับ 15 ปีที่อยู่ด้วยกันมามันคงจะบอก อะไรกับเขาได้บ้างแหละว่าความรัก ความศรัทธา ความเอื้ออาทรมันคืออะไร ครอบครัวคืออะไร

ในรถเขาพูดกับพี่ว่าอะไร เขาขอความรักใหม่ไหม?
อิ๋งอิ๋ง : ไม่ค่ะไม่ได้พูดขอความรัก คือพูดง่าย ๆ ว่าเขาเสียใจที่ทำให้ครอบครัวพัง พี่ก็ขอโทษเขา ขอโทษที่ทำให้เขาไม่มีที่ยืนในสังคม ทำให้เขาถูกตราหน้าเป็นผู้ชายชั่ว พี่ไม่คิดหรอกว่าเรื่องที่พี่เขียนไว้ เก็บไว้ในบันทึกส่วนตัวมันจะทำให้เขาเดือดร้อนขนาดนี้ มันจะทำให้ใหญ่โต ซึ่งแบบพี่ก็ไม่อยากให้แฟนคลับของพี่เขาจะรักและเมตตาสงสาร พี่ขนาดนี้ต้องพลอยเกลียดพี่ตั้มไปด้วย


โมเมนต์ที่เขาติดต่อมา ตอนนั้นเรารู้สึกให้อภัยเขาไปแล้ว?
อิ๋งอิ๋ง : คือหลังจากที่พี่คุยกับชัชญา คุยกับน้องแตง พี่ก็รู้ว่าพี่ไม่ได้ถูกร้อยเปอร์เซ็นต์ พี่ไม่ได้ทำหน้าที่ภรรยาที่สมควรทำให้กับสามี ผู้ชายมันไม่ได้เหมือนกับผู้หญิง คือผู้หญิงมันไม่ได้คิดถึงเรื่องการจะต้องมีเพศสัมพันธ์ แต่ผู้ชายคงมีจึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แล้วพี่ก็ไม่ใช่ครอบครัวแรก ครอบครัวอื่นเขาก็จะเป็นและหนักกว่านี้ แต่เขาไม่พูดกัน เขาอดทน ผู้หญิงเขาอดทนยอมให้ผู้ชายยอมให้เขาทำในสิ่งที่เขาต้องการ แต่พี่ไม่อดทนไงเรื่องก็เลยบานปลายแบบนี้


สุดท้ายแล้วพี่ก็ยังรักอดีตสามีคนนี้อยู่?
อิ๋งอิ๋ง : พี่เชื่อมันในความรัก แล้วพี่ก็เชื่อมั่นว่าสิ่งที่เราต่างชดเชยให้กันและกัน เราจะรู้ว่าเขาต้องการอะไร ชีวิตที่เหลือของพี่ที่ไม่รู้ว่ายาวนานแค่ไหนได้มีเขาดูแลช่วงสุดท้ายคงจะดี

ตอนนี้คืนดีกันหรือยัง?
อิ๋งอิ๋ง : คืนดีค่ะ แต่ยังเรียกว่าถอยกันคนละครึ่ง คือคุยดีกันแล้ว แต่ยังไม่ได้กลับมาเป็นเหมือนเดิม เราขอช่วงเวลาทำใจและให้เขาทำใจด้วย เพราะตอนนี้เขาเองอับอาย ถูกสังคมตราหน้า แม้แต่ไปธนาคารหรือไปซื้อของ ทุกคนมองหน้าเขาหมด แล้วคนที่เคยทัก เคยพูดกับเขาดี ๆ ไม่ยกมือไหว้เขา ไม่มองหน้าเขา แค่นี้เขาก็เจ็บปวด การที่เขาถูกสังคมตราหน้าขนาดนี้พี่ว่ามันก็มากพอนะ มากพอสำหรับคนคนนึงซึ่งไม่คิดว่าวันนึงจะเป็นจำเลยของสังคม เดินถนนก็มีคนมองหน้า ไปทำงาน ไปติดต่อเรื่องราชการก็ถูกเขาพูดจาไม่ค่อยดีใน ไม่เหมือนเก่า เราก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้มันจะเกิดขึ้นกับเขา เขาก็คิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของพี่ แล้วคิดว่ามันเขียนอยู่ในบันทึกของพี่ มันจะทำร้ายเขาได้ขนาดนั้น

แอบกลัวไหมว่าวันนึงมันจะกลับไปเหมือนเดิม?
อิ๋งอิ๋ง : คิดว่าคราวนี้คงรอให้พี่ตายก่อนแหละ เขาถึงจะคิดทำอะไรอีก เพราะสิ่งที่มันปรากฏเด่นชัดมาก สังคมก็คอยจับจ้องมองเขา ถ้าเขากลับไปทำอีก พี่ว่าเขาก็จะยิ่งแย่กว่าเก่านะ แล้วสิ่งที่เขากลับมาขอโทษ เพื่อกลับมาดูพี่ยามสุดท้าย เขาบอกว่ามันเป็นอะไรที่แก้ความผิดที่มันอยู่ในจิตใจเขาได้ ไม่งั้นถ้าพี่เป็นอะไรตายไป เขายังไม่ได้ทำอะไรในสิ่งที่เขาอยากทำให้พี่เลย ยังไม่ได้บอกรักพี่เลย

พี่ได้คาดหวังไหมว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก?
อิ๋งอิ๋ง : คงต้องใช้เวลา อย่าว่าแต่เขาเลย ใจพี่เองก็เหมือนกัน ใจพี่แตกสลายมันถูกทำลายไปหมดแล้ว ต้องกลับมาเริ่มต้นนับ 1 ใหม่ เพื่อให้ชีวิตที่เหลือมันกลับมาสดใสอีกครั้ง แล้วก็จะอยู่ทำให้ครอบครัวมีความสุขยังไง เราไม่มีลูกเรามีแมว 4 ตัว เราจะใช้ชีวิตอยู่ยังไง พี่ไม่ปกติเหมือนกับผู้หญิงทั่ว ๆ ไป ป่วยขนาดนี้ ต้องให้เลือด ต้องผ่าตัด ก็ต้องประคับประครองชีวิตใหม่หมดเลย

มันก็จะมีบางกลุ่มที่คิดว่าสามีเงินหมดถึงกลับมาหาเรา?
อิ๋งอิ๋ง : เขาไม่หรอกค่ะ เชื่อไหมว่าการกลับมาของเขาครั้งนี้ เมื่อวานไปทานข้าวเขาไม่ยอมให้พี่ออกเงิน เขาบอกว่าเขามาคราวนี้เขามาด้วยใจ มาขอไถ่โทษ มาขอรับผิด มาขอแก้ตัวในส่วนที่เขาเนี่ยทำพลาดไป แต่กลับไม่คิดอย่างนั้นนะพี่เป็นผู้นำครอบครัว ถ้าเขาจะกลับมาก็ต้องให้พี่ดูแลเขาด้วย มันถึงจะถูก เพราะพี่เป็นหัวหน้าครอบครัว การปฏิเสธที่ไม่รับเงินจากพี่ แล้วขายของที่มีทุกอย่างเพื่อมาเอาใจอยู่กับพี่ พี่ว่ามันไม่ใช่ 

ตอนนี้เราเข้าใจปัญหา?
อิ๋งอิ๋ง : เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ให้การดูแล ไม่สนใจเขา เรื่องมันถึงเกิดและบานปลายขนาดนี้

พออดีตสามีกลับมาขอคืนดีน้องสาวว่ายังไงบ้าง?
อิ๋งอิ๋ง : ทุกคนดีใจมาก เพราะเขารู้ว่าพี่แบบวาระสุดท้ายแล้ว อะไรที่ทำให้พี่มีความสุข เขาอยากให้พี่มีความสุข

ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.05-14.05 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama