"เป็ด เชิญยิ้ม" ย้อนเล่าสูญเสียพ่อแม่ จากโควิด-19 ตอบปมเป็นมาเฟียตลก!
ชีวิตตลกที่ไม่ได้ได้ตลก! สำหรับตลกอาวุโสชื่อดัง “เป็ด เชิญยิ้ม” ที่เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่ คุณพ่อและคุณแม่ จากไปในระยะเวลาไล่เลี่ยกันด้วย โควิด-19 ซึ่งเจ้าตัวได้มาย้อนเล่า เหตุการณ์ในตอนนั้นให้ฟัง ผ่านทางรายการโต๊ะหนูแหม่ม กับพิธีกรตัวแม่ “หนูแหม่ม สุริวิภา” พร้อมเคลียร์ดราม่าหลังถูกทั้งวงการมองว่าเป็นมาเฟียตลก
เคยดูถูกตลกคาเฟ่ ไม่คิดจะมีวันนี้
กว่าจะมีวันนี้ได้มาก่อนดูถูกอาชีพตลกคาเฟ่มาก มองว่าเป็นอาชีพไม่มีการศึกษา ซึ่งเราก็ดีใจที่สามารถเป็นคนเปลี่ยนภาพของตลกได้อย่างชัดเจนมากที่สุด เรียนจบปริญญาตรีที่รามคำแหงเรียนจบปริญญาโทที่ศรีปทุม เรียนจบปริญญาเอกที่เกษตรศาสตร์ เป็นคนเปลี่ยนภาพลักษณ์ของอาชีพตลกที่ก่อนหน้านั้นหลายคนเรียกตลกว่าไอ้ ซึ่งตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว และเป็นคนที่สร้างลูกหลานในเข้ามาทำอาชีพตลกจนหลายคนเรียกเราว่ามาเฟีย
“มาเฟียตลก” มาจากไหน?
จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่ คือการที่เราจะสร้างตลกให้เป็นภาพจำให้กับคนดูได้ดีและต้องจริงจังไปกับมัน และเราต้องประทับใจกับแบรนด์ที่เราสร้างขึ้นมา กับแบรนด์ดิ้ง “เชิญยิ้ม” ที่เราทำขึ้นมา ซึ่งพอเราดังแล้วเราก็สามารถจะต่อรองกับใครได้ทั้งหมด ยกตัวอย่างเราสามารถต่อรองแทนลูกน้องได้ ต่อลองแทนเด็กเด็กได้ ถ้าเด็กเด็กมีปัญหาอะไรเราก็สามารถเข้าไปต่อรองแทนในร้านอาหารได้ คนก็เลยคิดว่าเราเป็นมาเฟีย ซึ่งจริงๆ แล้วเราไม่ใช่คนดุแต่เราเป็นคนจริงจังกับการทำงานมากกว่า
เป็นตลกสร้างเสียงหัวเราะก็จริงแต่ก็มีความเศร้าอยู่?
สูญเสียพ่อแม่ คุณพ่ออายุ 95 คุณแม่อายุ 90 ซึ่งทั้งคู่ก็อยู่แต่ในบ้าน ซึ่งเกิดจากโควิด ซึ่งคุณแม่มาเสียก่อน และคุณพ่อก็เสียตาม เหมือนคู่นี้เค้าจะรู้กัน เหมือนพอเริ่มรู้ว่าใครเป็นอะไรอีกคนก็จะเริ่มทรุด ตอนนั้นคุณแม่ไปแล้วแต่เราก็ยังบอกคุณพ่อว่าคุณแม่หายแล้วนะ ก็บอกเขาว่าต้องต่อสู้นะเดี๋ยวออกมาเจอแม่ข้างนอกนะ พ่อก็บอกว่าไม่ได้ และเหมือนเค้ารู้ สัมผัสด้วยด้วยเซ้นท์เหมือนจิตเขาสื่อถึงแม่ได้ หลังจากนั้นพ่อเลยมีอาการเฉาลงและจากไป ซึ่งห่างกันกับแม่แค่อาทิตย์เดียวเท่านั้น
การสูญเสียครั้งนี้ สอนอะไรให้กับเรา?
มนุษย์ต้องช่วยตัวเอง อย่าไปรอให้ใครช่วย อย่าไปโทษตัวเอง อย่าไปโทษบ้านเมืองขอโทษตัวเองมากกว่าว่าเราดูแลพ่อแม่ไม่ดี ถ้าไปคิดถึงแต่เรื่องอื่นมันจะทำให้เราโกรธและไม่จบ ที่บอกว่าหมอพร้อมแต่เราไม่พร้อมก็มัวแต่ทะเลาะเรื่องวัคซีนกันนี่แหละ ก็เลยได้ส่งแม่เรียบร้อย พอส่งพ่อแม่เสร็จก็เอารูปไปไว้ที่ฐานพระประธาน ที่วัดดารา ทำเสร็จเรียบร้อยแล้วเอาพ่อกับแม่ไปอยู่ และเราจะไม่เก็บกระดูกไว้เป็นภาระของลูกหลานก็ตัดสินใจเอาไปลอยอังคารหมดเลยเหลือเพียงแค่รูปพ่อกับแม่ และเอารูปท่านหนังสอนไปเก็บไว้ใต้ฐานพระซึ่งก็ได้ทำเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็ถือว่าสบายใจ
อ่าน ข่าวบันเทิงวันนี้ ที่เกี่ยวข้อง :