รีเซต

สวยสง่าออร่าจับ! ส่อง 8 ชุดไทยเวดดิ้งสุดปัง ของเหล่าคนคนดังแถวหน้าของเมืองไทย

สวยสง่าออร่าจับ! ส่อง 8 ชุดไทยเวดดิ้งสุดปัง ของเหล่าคนคนดังแถวหน้าของเมืองไทย
EntertainmentReport3
22 มกราคม 2566 ( 11:48 )
575

ก้าวเข้าสู่ปี 2023 เรียบร้อยแล้ว หลังจากสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย หลายอย่างเริ่มกลับมาเป็นปกติ ไม่ว่าจะเป็น การใช้ชีวิตประจำวัน หรือ เรื่องของการขับเคลื่อนธุรกิจของหลาย ๆ แบรนด์ โดยเฉพาะธุรกิจในวงการเวดดิ้งบ้านเรา ที่เคยซบเซาขั้นสุดก็กลับมาฟื้นตัวขึ้นได้ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ชุดแต่งงานของเหล่าคนดังกลายเป็นสีสันและโดยเฉพาะชุดไทยที่กลับมาเรียกกระแสความนิยมได้อย่างล้นหลามอีกครั้ง วันนี้เราจะพามาส่องชุดเจ้าสาวของ 8 คนดัง ที่รังสรรค์โดยดีไซน์เนอร์มือทอง สรรค์ สุดเกตุ เจ้าของห้องเสื้อ วนัช กูตูร์ จะมีใครบ้างนั้น ไปติดตามกันเลย

ส่อง 8 ชุดไทยเวดดิ้งสุดปัง ของเหล่าคนคนดังแถวหน้าของเมืองไทย

เริ่มต้นด้วยชุดไทยของนางเอกลูกครึ่ง "แพทริเซีย กู๊ด" ที่พึ่งลั่นระฆังวิวาห์ไปเมื่อที่ผ่านมา สำหรับชุดไทยชุดนี้ต้องบอกเลยว่าสวยโดดเด่นหรูหราสมเจ้าสาวมาก ๆ เป็นชุดไทยศิวาลัย ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากดอกบัวหลวงสีขาวขอบชมพู (ดอกสัญลักษณ์แห่งความสะอาดและบริสุทธิ์ ที่นิยมใช้เป็นพุทธบูชา) ความพิเศษอยู่ที่ผ้าไหมยกใหญ่ลำพูนที่มีความยาวถึง 7 เมตร ที่ถักทอร้อยเรียงด้วยเส้นไหมทีละเส้นไล่สีกว่า 9 เฉดสี โดยใช้เทคนิคการเปลี่ยนสีเส้นใหม่แทนการย้อมแบบจุ่มสี เอกลักษณ์อยู่ตรงรูปแบบลวดลายบนผืนผ้าสุดเลอค่า ที่มีความซับซ้อน งดงาม และประณีตขั้นสุด ช่วงคอตั้งของชุดถูกออกแบบใหม่ให้มีความโค้งมนดูอ่อนหวานมากขึ้น เพิ่มความหรูหราด้วยงานปักคริสตัลสวารอฟสกี้สีขาวมุกและสีชมพูอ่อนทั้งชุด นับว่าเป็นอีกหนึ่งชุดไทยศิวาลัยที่สวยงดงามและหรูหรามาก ๆ และความปังยังไม่หยุดแค่นั้น เพราะนิตยสารชื่อดังอย่าง L’officiel ยังได้นำภาพชุดไทยชุดนี้ไปขึ้นแพลตฟอร์มออนไลน์ให้แฟน ๆ ได้ชมกันอีกด้วย

 

ชุดที่สองนี้ ต้องยกให้เป็นชุดไทยสุดอาร์ตแห่งปีจริง ๆ เพราะ "เนะ อโณทัย" ศิลปินอาร์ติสต์ชื่อดังเป็นผู้ออกแบบร่วมกับทางห้องเสื้อ วนัช กูตูร์ ในครั้งนี้ด้วย แน่นอนว่าชุดที่ออกมาก็ต้องชิค ๆ คูล ๆ เก๋ไก๋ไม่ซ้ำแบบใครแน่นอน ด้วยไอเดียของเจ้าสาวที่อยากให้ชุดที่ใช้ในพิธียังคงรูปแบบของความเป็นชุดไทยอยู่ น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ คือคอนเซ็ปต์ของชุดแต่งงานชุดนี้ ไฮไลท์อยู่ที่การออกแบบชายกระโปรงให้เป็นทรงเมอร์เมด และนำลวดลายของ "อะโนะ" ซึ่งถูกออกแบบและวาดขึ้นมาด้วยฝีมือเจ้าสาวนำมาลงบนชายประโปรง ลวดลายเน้นความเป็นมาและทรงคุณค่า เป็นความงดงามที่มีลายเซ็นเฉพาะของสาว เนะ อโณทัย เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น 

 

ชุดที่สาม เป็นชุดของ "วิกกี้ พีมนต์ญา" เจ้าสาวคนสวยของพระเอกหนุ่มมาดเข้ม "เวียร์ ศุกลวัฒน์" เป็นชุดไทยประยุกต์ที่ตัดเย็บจากผ้าไหมที่สั่งทอขึ้นมาใหม่เป็นพิเศษ โดยตั้งชื่อลายทอผ้าไหมผืนนี้ว่า "พีมนต์ญาคณารศ" ตัวเสื้อแขนยาวตัดเย็บจากผ้าซีทรูเนื้อดี เพิ่มลวดลาย กิ่ง ก้าน ใบ แบบฝรั่งเศส พร้อมกับนำมาประดิษฐ์ทำเป็นสไบที่มีความโปร่งใส ส่วนของตัวผ้านุ่งนั้นนำผ้าไหมที่สั่งทอพิเศษนำมาตัดเย็บเป็นรูปทรงเมอร์เมด แต่ยังคงมีจีบหน้านางไว้เพื่อคงอัตลักษณ์ของความเป็นชุดไทยอยู่ และเพิ่มความหรูหราให้กับชุดไทยศิวาลัยด้วยงานปักด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ทั้งชุด เป็นอีกหนึ่งชุดไทยประยุกต์ที่งดงามหรูหราเหมาะกับเจ้าสาวมาก ๆ ทีเดียว

 

ชุดที่สี่ เป็นชุดไทยจักรพรรดิสีโรสโกลด์ ของสาวสวย "โบวี่ อัฐมา" ที่ตัดเย็บจากผ้าไหมลำพูนสอดดิ้นทองที่สั่งทอขึ้นมาใหม่ทั้งผืน สไบปักลวดลายดอกดาวเรือง และเพิ่มความหรูหราให้สไบด้วยงานปักลูกปัดสีแดง งานปักนี้ดีไซน์ขึ้นตามความเชื่อของชาวจีนที่ยกให้ดอกดาวเรืองเป็นดอกไม้มงคล สีเหลืองทองอร่ามของดอกดาวเรืองเปรียบเสมือนเงินทองเต็มบ้านที่ช่วยเสริมความเจริญรุ่งเรือง เงินทอง โชคลาภ กิจการใด ๆ ก็จะก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไปนั้นเอง เป็นชุดไทยอีกหนึ่งชุด ที่นอกจากจะสวยงามเลอค่าแล้วยังซ่อนความหมายดี ๆ เอาไว้อีกด้วย

 

ชุดที่ 5 เป็นชุดไทยเวดดิ้งของสาว "จักจั่น อคัมย์สิริ" โดยเลือกใช้ชุดไทยจักรพรรดิ แบบโบราณสีนาค ที่ซ่อนความหมายมงคลไว้ได้อย่างแนบเนียนเช่นกัน ตัวสไบมีความพิเศษ คือ การนำโอบิผ้าไหมที่ทอออกมาเป็นลวดลายของดอกเบญจมาศ (Kiku) เป็นสัญลักษณ์แห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น สื่อความหมายเพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว รวมถึงขจัดสิ่งไม่ดีออกไป นำมาปักด้วยดิ้นทองคำลักษณะคล้ายกับงานโขนของไทยแบบโบราณ ตัวผ้าไหมอัดกลีบทำมาจากผ้าไหมพื้นเมือง จากอำเภอปักธงชัย ผ้านุ่งใช้เป็นลักษณะนุ่งสดเน้นทรวดทรงของเจ้าสาว ปักด้วยคริสตัลทองคำทั้งผืนและประดับตกแต่งด้วยเครื่องประดับทองคำแบบโบราณที่ทำขึ้นโดยครูช่างทองระดับบรมครู ทำให้ชุดนี้ช่วยเสริมลุคให้สาวจั๊กจั่นดูงดงามและน่าจับตามองมากขึ้นไปอีก

 

ชุดที่ 6 นี้ เป็นชุดแต่งงานสุดต๊าชของสาวมาดเท่เสียงทรงพลัง "ดา เอ็นโดรฟิน" ชุดที่เลือกใช้เป็นแบบหญิงสาวในสมัยรัชกาลที่ ๕ โดยสวมใส่เสื้อแบบตะวันตก ซึ่งทางห้องเสื้อได้เลือกใช้ผ้าลูกไม้ฝรั่งเศสแท้นำเข้ามาตัดเย็บทำเป็นเสื้อคอตั้งสูง ประดับด้วยคริสตัลและไข่มุก ช่วงแขนยาวมีลูกไม้ฝรั่งเศสเนื้อบางทำเป็นระบายทรงระฆังคว่ำ 3 ชั้น และแต่งระบายชายเสื้อเพื่อความอ่อนช้อยสวยงาม ส่วนโจงกระเบนได้เลือกใช้ผ้าไหมแพรวาจังหวัดกาฬสินธุ์สีน้ำเงินลายเชิงซิ่นลายเรือหงส์ ซึ่งเป็นผ้าทอที่มีเอกลักษณ์ เพียงหนึ่งเดียวที่ไม่เหมือนใคร นำมาตัดเย็บออกแบบให้เป็นโจงกระเบนกึ่งชุดราตรี เป็นชุดไทยในสมัยรัชกาลที่ ๕ ที่ทำให้เจ้าสาวดูโดดเด่นโก้หรูและแฝงไปด้วยความงดงามอย่างมีเอกลักษณ์ตามสไตล์ของสาวดาอีกด้วย

 

ชุดที่ 7 เป็นชุดของ "เมษา กิตติมา" เจ้าสาวของพระเอกหนุ่ม "นิว ชัยพล" ชุดที่เลือกใช้เป็นชุดไทยศิวาลัย ตัดเย็บจากผ้าไหมยกดอกลำพูนสีขาวโทนงาช้างความยาวกว่า ๙ หลา ลายผ้าไหมสั่งทอขึ้นมาใหม่ เพื่อใช้ในการทำผลงานและเป็นอัตลักษณ์เพิ่มความเป็นสิริมงคลของคู่บ่าวสาว โดยตั้งชื่อลายทอผ้าไหมยกลำพูนผืนนี้ว่า "กิตติยาพล" รูปแบบของชุดไทยศิวาลัยในส่วน  ของผ้านุ่งถูกออกแบบให้เป็นทรงเมอร์เมดเข้ารูป เพิ่มความหรูหราให้ชุดด้วยการบรรจงปักคริสตัลผลึกแก้วทั้งชุด ประดับด้วยเครื่องเพชรและไพลินเข้าชุดกัน ซึ่งเป็นสมบัติเก่าแก่ประจำตระกูลสุดเลอค่า เป็นลุคเจ้าสาวที่นอกจากสวยโดดเด่นแล้ว ยังหรูหราอลังการสุด ๆ ไปเลย

 

ชุดที่ 8 เป็นชุดไทยศิวาลัยสีชมพูโอรสของสาวสวยเสียงดี "ปุยฝ้าย ณัฎฐพัชร์" ตัดเย็บจากผ้าไหม ยกดอกลำพูนสุดพรีเมียมที่สั่งทอขึ้นเป็นพิเศษ ลักษณะทอยกไหมสลับดิ้นเหลือบเงินอ่อนเต็มผืน ขึ้นลายยกดอกเล็กดูวิจิตรงดงาม มีมิติ หรูหรา และประณีตไร้ที่ติ นอกจากนี้ยังแต่งกรวยเชิง แบบโบราณที่เป็นเอกลักษณ์ของทางห้องเสื้อโดยเฉพาะ อีกทั้งยังเพิ่มความหรูหราให้กับชุดด้วย งานปักคริสตัลสีขาวลวดลายดอกพิกุล ด้วยความสมบูรณ์แบบของชุดไทยสีชมพูช่วยขับผิวให้ สาวปุยฝ้ายดูผุดผ่องมีออร่างดงามสมกับวันสำคัญที่สุดของเธอจริง ๆ