จับเข่าคุย "ภูมิ ภูริพันธ์" พระเอกดาวรุ่งช่อง 8 ไม่เคยด้อยค่ากับคำว่าโอกาส
ขึ้นแท่นเป็นพระเอกเต็มตัว ในละคร "มงกุฎกรรม" ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 สำหรับ "ภูมิ ภูริพันธ์ ทรัพย์แสงสวัสดิ์" หลังจากที่ซุ่มเก็บประสบการณ์อยู่พักใหญ่ ก็ขอพิสูจน์ตัวเองในบท ไม้ บทบาทดราม่าที่สุดในชีวิตการแสดงของภูมิ และได้ร่วมงานฟาดฟันฝีมือการแสดงกับนักแสดงมืออาชีพอย่าง "แอน สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์" ที่งานนี้หนุ่มภูมิถึงขั้นบอกว่า ทำการบ้านหนักและกดดันมาก พร้อมทั้งเผยเรื่องราวก่อนเข้าวงการ ว่ากว่าจะมีวันนี้ชีวิตไม่เคยง่าย และตั้งเป้าหมายชัดเจนว่า จะขอทุ่มเททุกหยาดเหงื่อเพื่อครอบครัว พร้อมใช้โอกาสนี้ขอบคุณผู้ใหญ่ และแฟน ๆ ที่คอยสนับสนุนและเห็นความตั้งใจของหนุ่มน้อยคนนี้ตลอดมา
จับเข่าคุย "ภูมิ ภูริพันธ์" พระเอกดาวรุ่งช่อง 8 ไม่เคยด้อยค่ากับคำว่าโอกาส
เป็นอย่างไรบ้างกับการรับบท ไม้ ใน มงกุฎกรรม?
ภูมิ : รู้สึกตื่นเต้นมากเลยครับ ตั้งแต่รู้ว่าจะได้แสดงบท ไม้ ยิ่งได้เห็นรายชื่อนักแสดงอย่าง พี่แอน สิเรียม, ออย ธนา, อ่ำ อัมรินทร์ แล้วก็นักแสดงคนอื่น ๆ ซึ่งภูมิก็ค่อนข้างรู้สึกกดดันด้วยนะครับ เนื่องจากตัวละครที่ได้รับนี้เป็นตัวละครที่มีความสำคัญ เรียกได้ว่าเป็นตัวนำของรุ่นลูกเลยก็ว่าได้ครับ
ไม้ เป็นตัวละครที่มีคาแรคเตอร์ยังไง?
ภูมิ : ไม้เป็นตัวละครที่ตรงไปตรงมา ชอบทำตามใจตัวเองซะส่วนใหญ่ครับ ไม่ค่อยคิดว่าผลที่ตามมาจากการกระทำคืออะไร ส่งผลต่อใครบ้าง อย่างตอนที่ไม้ไปช่วยเพื่อน ก็มีการเข้าไปต่อยเลย ลุยเข้าไปเลย ซึ่งผลที่ตามมาก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ อีกอย่างไม้เป็นคนรักครอบครัวครับ เพาะฉะนั้นใครที่มาทำอะไรกับครอบครัวก็จะไม่ยอมเด็ดขาด
กดดันไหมที่ต้องมารับบท ไม้ ซึ่งเป็นตัวละครนำและถือว่าเป็นพระเอกของเรื่องเลย?
ภูมิ : กดดันครับ เพราะอย่างที่บอกไปว่าบทนี้เป็นบทนำของเรื่องเลย ค่อนข้างมีความสำคัญต่อการดำเนินเรื่องมาก แต่ไม่ได้รู้สึกกดดันกับคำว่าพระเอกนะครับ เพราะตัวภูมิเองก็ไม่ได้โฟกัสกับคำนั้นมากครับ เราจะมองว่าเราได้รับบทอะไร มีความสำคัญยังไงกับเรื่องมากกว่า เรื่องนี้ตัวละคร “ไม้” ก็สำคัญกับเรื่องมากครับ ซึ่งมีเส้นเรื่องของตัวเองที่ชัดเจนมากกว่าบทก่อน ๆ ที่ภูมิเคยรับ เพราะก่อนหน้านี้ภูมิก็จะได้แสดงเป็นน้องพระเอก หรือ น้องนางเอกบ้าง เส้นเรื่องของตัวละครก็จะไม่ชัดเจนเท่าไหร่ ซึ่งตอนนี้ก็คือว่าเป็นบทที่ต้องทำการบ้านหนักเลยครับ
มีไปปรึกษาพี่ ๆ คนไหนเป็นพิเศษมั้ย?
ภูมิ : ถ้าเอาที่สนิทกันในกองก็จะมี พี่ปรัชญ์ ปรมิณ ครับ เราเข้าฉากด้วยกันบ่อยก็มีโอกาสได้ปรึกษากับพี่เขาอยู่ตลอดครับ แล้วก็มี พี่โอ อนุชิต ด้วยครับ เพราะพี่โอ อนุชิต ก็เคยรับบทนี้มาก่อนด้วยครับ เลยมีโอกาสได้ปรึกษาเรื่องการแสดงกัน ซึ่งภูมิเองก็รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้รับบทเดียวกับ พี่โอ อนุชิต ครับ
แล้วรับบทเดียวกันแบบนี้กลัวกระแสเปรียบเทียบบ้างมั้ย?
ภูมิ : ไม่กลัวเลยครับ เพราะตัวภูมิเองเห็นพี่โอเป็นต้นแบบทางด้านการแสดงอยู่แล้วครับ แค่เราได้เล่นบทเดียวกันก็รู้สึกเป็นเกียรติมาก ๆ แล้วครับ คือพี่โอเป็นนักแสดงที่เก่งมาก ๆ ส่วนเราเองก็ยังค่อนข้างใหม่ เอาจริง ๆ ภูมิว่าเปรียบเทียบกันไม่ได้ครับ ส่วนผลผลจะออกมาเป็นยัง ภูมิก็น้อมรับคำวิจารณ์เพื่อจะได้เอาไปปรับปรุงแล้วก็พัฒนาต่อครับ
มารับบทคู่ น้ำตาล ทิพนารี เป็นยังไงบ้าง?
ภูมิ : ตื่นเต้นมากครับ ด้วยความที่เราก็เคยเห็นผลงานเขามาก่อนแล้วอีกอย่างหนึ่งเราก็ไม่เคยร่วมงานการแสดงแบบเป็นคู่อย่างงี้มาก่อน เรื่องอื่น ๆ ภูมิก็ยังไม่เคยเล่นเข้าพระเข้านางเลยครับ ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องแรกเลยครับ ตื่นเต้น ไม่รู้จะทำตัวยังไง จะไปทิศทางไหนดี ค่อนข้างที่จะยากเลยครับ แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนคุยเก่ง น่ารัก อัธยาศัยดี ก็เลยไม่มีปัญหากับการทำงานครับ แถมเวลามีอะไรเราก็ปรึกษาขาเลยครับ เพราะน้ำตาลก็เรียนทางด้านนี้มาโดยตรงด้วยครับ
บทบาทของ ไม้ ให้อะไรกับภูมิบ้าง?
ภูมิ : ตัวบทบาทก็สอนหลาย ๆ อย่างนะครับ ในส่วนของนอกจอ บทนี้ก็ช่วยพัฒนาศักยภาพของเราหลาย ๆ ด้านครับ ด้วยความที่บทนี้มีความยากและเป็นตัวนำของเรื่องครับ ส่วนในจอบทบาทนี้ให้ข้อคิดในการใช้ชีวิตมาก ๆ เลยครับ มันทำให้เราได้เห็นถึงผลของการกระทำ เราทำอะไรลงไป จะได้รับผลยังไงครับ ไม่ใช่แค่ตัวละครของไม้ แต่ทุกตัวละครเลยครับ
ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้ ภูมิ ภูริพันธ์ ไม่ได้มีความฝันในการเป็นนักแสดงตั้งแต่แรก?
ภูมิ : ใช่ครับ เราเคยรู้สึกว่าเราไม่เหมาะกับตรงนี้ เราไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำครับ เราคงไม่สามารถทำได้หรอก ทั้งเรื่องหน้าตา ความสามารถ แล้วก็ปัจจัยอื่น ๆ ครับ แต่มีคนเสนอมาให้ลองไปแคสดู ภูมิก็เลยตัดสินใจไปลองดูครับ แล้วก็ได้มีโอกาสเซ็นสัญญากับทางช่อง 8 ตั้งแต่ช่วงประมาณปี 1 ครับ ซึ่งช่วงหลังจากที่เซ็นแล้วก็ไม่ได้ง่ายเลยนะครับกว่าจะมีงานเข้ามา
ช่วงนั้นเป็นยังไงบ้างเล่าให้ฟังหน่อย?
ภูมิ : เป็นช่วงที่ค่อนข้างกระอักกระอ่วนครับ ตลอด 4 ปี ภูมิมีงานเข้ามาแค่ 2 งาน ซึ่งมันก็ทำให้เรารู้สึกท้อมากครับ ตอนนั้นคิดเลยว่าเราควรหยุดแค่นี้ดีกว่า ช่วงนั้นภูมิอยู่ในช่วงฝึกงานพอดี ซึ่งที่ฝึกงานที่เราได้ก็เป็นที่ที่เราคิดเอาไว้ด้วยว่าอยากจะมาทำงานต่อที่นี่ ตอนนั้นก็คิดไว้แล้วว่าจะคืนสัญญากับทางช่อง แล้วก็มาตั้งใจทำงานที่นี่ดีกว่า เพราะได้ทำวงานแน่นอน แล้วก็น่าจะทำให้เรามีรายได้ไปดูแลครอบครัวมากกว่าการเป็นนักแสดงในตอนนั้น แต่ก็เหมือนเป็นจังหวะชีวิตนะครับ ทางช่องก็ติดต่อเข้ามาว่ามีซีรีส์ให้ไปแคส ซึ่งภูมิก็คิดว่าไม่ไปดีกว่า เพราะ 4 ปี มีซีรีส์เรื่องเดียว แล้วต้องรออีกกี่ปีกว่าจะมีเข้ามาใหม่ รายได้คงไม่พอช่วยเหลือครอบครัวแน่ ๆ แต่พอได้ปรึกษาพี่ ๆ แม่ ๆ เขาก็บอกให้ลองไปดูก่อน สุดท้ายภูมิก็ได้รับโอกาสนั้น แล้วก็มีเข้ามาเรื่อย ๆ เลยครับ ต้องขอบคุณทุกคนมาก ๆ ครับ
แล้วก่อนหน้าที่จะมาเป็นนักแสดง ภูมิ ภูริพันธ์ ทำอะไรมาก่อน?
ภูมิ : ก่อนหน้านี้เรียนครับ ส่วนใหญ่ที่ทำมาก็จะเกี่ยวข้องกับคณะที่เรียน คือ การสอนว่ายน้ำ แล้วก็เทรนเนอร์ฟิตเนสครับ แต่ก็ไม่ได้ทำจริงจังนะครับ เพราะตอนนั้นเราก็ยังเรียนอยู่ครับ คือ จุดประสงค์ของการทำงานของภูมิ คือ การอยากมีรายได้ครับ เพราะพูดตามตรงก็คือครอบครัวภูมิค่อนข้างที่จะลำบาก ทางไหนมีรายได้เราก็ทำหมดครับ ได้มากได้น้อยก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลยครับ
แล้วอะไรเป็นจุดที่ทำให้เราตัดสินใจว่าจะมุ่งเดินในเส้นทางสายนักแสดง?
ภูมิ : เพราะความชอบเลยครับ พอมีโอกาสได้แสดงมากขึ้น มันก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าชอบ แล้วก็สนุกกับมัน ทุก ๆ ครั้งที่ไปทำงานก็จะรู้สึกท้าทายแล้วก็ตื่นเต้นที่จะได้เจออะไรใหม่ ๆ บทใหม่ ๆ คาแรกเตอร์ใหม่ ๆ ภูมิรู้สึกโชคดีมากครับทำงานที่รู้สึกสนุกแล้วก็หารายได้จากมันได้ด้วยครับ
เห็นว่าตอนเรียนก็ทำงานไปด้วย เรียนจบก็คิวงานแน่นเลย อย่างนี้เรารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ใช้ชีวิตบ้างมั้ย?
ภูมิ : คือคำว่า ใช้ชีวิต มั้ยขึ้นอยู่กับว่าเรามีมุมมองต่อมันแบบไหนครับ อย่างตัวภูมิเองก็รู้สึกว่าตัวเองได้ใช้ชีวิตแล้ว มันอาจจะไม่ใช่ชีวิตที่ได้ไปเที่ยว ได้ไปสังสรรค์ แต่มันคือชีวิตที่เรามีประสบการณ์ในการทำงาน รู้จักความลำบาก รู้จักค่าของเงิน เพราะฉะนั้นในอนาคตถ้าเราได้เจอกับเหตุการณ์ที่มันลำบาก เราคือว่าเรามีภูมิคุ้มกันและพร้อมจะรับมือกับมันครับ ส่วนกิจกรรมในมหาวิทยาลัย หรือการเล่นกีฬา ก็นับเป็นการใช้ชีวิตได้เหมือนกันครับสำหรับภูมิ ไม่จำเป็นต้องเป็นการเที่ยว ปาร์ตี้สังสรรค์อย่างเดียว
จากวันนี้ไปมองเป้าหมายในวงการไว้อย่างไรบ้าง?
ภูมิ : จริง ๆ ก็ไม่ได้วางไว้ชัดเจนนะครับ แค่คิดอยากจะทำทุกงานที่เราได้รับมอบหมายให้เต็มที่ครับ ไว้ว่าจะเป็นบทอะไรภูมิก็อยากจะเต็มที่กับมัน ไม่ว่าจะเป็นบทอะไรก็อยากจะทำให้ดีที่สุด ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องเป็นเท่าคนนั้น ต้องได้เล่นบทนี้ ไม่ได้มองตรงนั้นเลยครับ และภูมิขอบคุณทุก ๆ โอกาส ขอบคุณผู้ใหญ่ ขอบคุณช่อง8 ขอบคุณแฟนคลับที่เชื่อมั่น และให้โอกาสภูมิได้พิสูจน์ตัวเอง เสมอครับ
พูดถึงเรื่องเป้าหมายในการดูแลครอบครัวค่อนข้างบ่อย อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เราอยากทำสิ่งนั้น?
ภูมิ : ด้วยความที่ครอบครัวเราค่อนข้างที่จะขัดสนทางด้านการเงินมาก ๆ ตั้งแต่เรายังเด็กแล้วครับ เราก็รู้ว่าพ่อแม่เราเหนื่อย แล้วเราก็รู้ดีว่าเวลาที่มันขัดสนเงินมันลำบากขนาดไหน ขนาดเรายังรู้สึกเครียดเลย เชื่อว่าพ่อแม่เราต้องรู้สึกมากกว่าหลายเท่าแน่นอน ภูมิสงสารพ่อแม่ครับ เขาพยายามเลี้ยงเรามาให้ดีที่สุด ไม่เคยทำให้เราลำบาก แต่ ณ ตอนนั้นด้วยสถานะทางการเงินมันก็ไม่สามารถทำได้อะครับ เราทำให้เรามีความคิดว่า เราจะทำอาชีพไหนก็ได้ที่จะช่วยเหลือครอบครัวเราให้สบายขึ้นได้ครับ
แล้วตอนนี้ได้ทำความฝันนี้ไปถึงไหนแล้ว?
ภูมิ : ณ ตอนนี้เป้าหมายหลักคือการปลดหนี้ให้กับครอบครัวครับ เป้าหมายนี้ของภูมิค่อนข้างชัดเจนตั้งแต่ก่อนเข้าวงการแล้ว เพราะเท่าที่จำความได้คือบ้านเราก็มีหนี้มาตั้งแต่เด็กครับ แล้วการมีหนี้แน่นอนว่ามันคือความทุกข์มาก ๆ เราก็เลยอยากที่จะปลดหนี้ให้กับครอบครัว แล้วก็มีบ้านสักหลังครับ
ให้กำลังใจคนที่เจอเรื่องราวคล้าย ๆ กับเราหน่อย?
ภูมิ : ถ้าเกิดว่าคนที่มีเรื่องราวใกล้เคียงกัน เราก็น่าจะเข้าใจกันดีที่สุดนะครับ ตัวภูมิเองก็ไม่เคยที่จะท้อกับมันครับ ที่บ้านเราคุยกันตลอดว่าสักวันเราต้องดีขึ้นให้ได้ อยากให้ทุกคนสู้ครับ อย่าหมดกำลังใจ ไม่ว่ามีโอกาสอะไรเข้ามาก็อยากให้ทุกคนคว่ามันเอาไว้ให้หมด ถ้าไม่มีโอกาสก็อย่าอยู่เฉยครับวิ่งหามันแล้วก็ทำทุกโอกาสให้ดีที่สุดครับ ภูมิเชื่อว่าสักวันหนึ่งความพยายามมันจะต้องตอบแทนเราแน่นอนครับ
เห็นว่าช่วงนี้ทำงานเยอะมาก ครอบครัวว่ายังไงบ้าง?
ภูมิ : ใช่ครับ คือถ้าละครเปิดอีกเรื่องคิวก็น่าจะ 7 วันเลยครับ แต่ทางบ้านก็ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ ตัวเราเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าเหนื่อยเกินไปด้วย เพราะ เราก็รู้สึกสนุกกับมัน
แล้วเวลาว่างชอบทำอะไร?
ภูมิ : นอกจากนอนก็จะมีดูละคร ดูซีรีส์ ดูตลก แล้วที่ขาดไม่ได้ก็คืออกกำลังกายครับ เพราะเราเองก็อยู่ในวงการ การดูแลตัวเองให้สุขภาพดีอยู่ตลอดก็เป็นสิ่งที่สำคัญครับ
ฝากผลงานกับแฟน ๆ หน่อย?
ภูมิ : ฝากละครเรื่องมงกุฎกรรม ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ด้วยนะครับ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ภูมิและนักแสดงทุก ๆ คนเต็มที่กันมาก ตอนนี้เรื่องราวเป็นไปปอย่างเข้มข้น กำลังสนุกเลยครับ นอกจากดึความสนุกก็ได้ข้อคิดและกำลังใจในการใช้ชีวิตด้วย ต้องติดตามเลยครับ ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี 19.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 กดหมายเลข 27 ครับ แล้วก็ฝากติดตามละครเรื่อง ศีรษะมาร ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ที่กำลังจะออกอากาศด้วยนะครับ ส่วนผลงานอื่น ๆ ก็ติดตามได้ทาง IG: poompps ครับ
อ่าน ข่าวบันเทิงวันนี้ ที่เกี่ยวข้อง :