รีเซต

"ตูมตาม ยุทธนา" เล่าชีวิตเคยลำบาก รับจ้างล้างจาน กู้ กยศ.ไม่เคยทิ้งครอบครัว

"ตูมตาม ยุทธนา" เล่าชีวิตเคยลำบาก รับจ้างล้างจาน กู้ กยศ.ไม่เคยทิ้งครอบครัว
EntertainmentReport2
29 มิถุนายน 2566 ( 11:30 )
153

เพราะเคยผ่านชีวิตที่ลำบาก “ตูมตาม ยุทธนา” จึงอินถ่ายทอดชีวิตดอกหญ้าที่ต้องมาหาเช้ากินค่ำในเมืองหลวงผ่านละคร “ดอกหญ้าป่าคอนกรีต” ได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่ง “ตูมตาม” ได้แชร์ประสบการณ์ช่วงชีวิตที่ยากลำบากต้องกู้เงินกยศ. และหารายได้เสริมด้วยการเป็นเด็กล้างจานค่าแรงวันละ 150 บาท ผ่านรายการ “วันบันเทิงTalk” ทางช่องยูทูบ “วันบันเทิง” ว่า 

“ผมเข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ ใช้เงินเดือนละ 4,000 บาท จริง ๆ มี 6,000 บาทแต่ 2,000 บาทมาจากการกู้ยืม กยศ.มา เพราะว่ามันไม่พอจริง ๆ แต่กู้มาก็คือเอาไปจ่ายที่จำเป็นคือที่พักอาศัย เหลือ 4,000 บาท ก็ลองจัดการว่าจะทำยังไงให้เงิน 100 บาทอยู่ได้จริง ก็เดินไปถามป้าที่ร้านข้าวแกงว่า ป้าครับผมจะขอซื้อกับข้าว 1 ถุง แบ่งกินได้ 3 มื้อ ซึ่งได้มาในราคา 30 บาท ขอซื้อข้าว 20 บาทเพื่อแบ่งให้ได้ 3 มื้อ ซึ่งป้าเขาก็ใจดีตักให้เท่ากับว่า 1 วันผมใช้เงิน 50 บาทในการกิน ตอนนั้นสนุกมากกับการบริหารจัดการเงิน 100 บาท ผมเติบโตมากับครอบครัวเรารู้ดีในความลำบากทุกสเต็ป รู้ดีว่าช่วงนี้พ่อแม่ไม่มีเงิน ก็ได้ไปทำงานรับจ้างล้างจาน เพราะว่าหน้าที่ในบ้านของผมคือล้างจาน ซึ่งผมล้างจานเก่งมาก แม่มอบหมายหน้าที่นี้ให้เราเป็นหลัก ผมเคยพูดเล่นกับแม่ด้วยว่าใช้ผมล้างจานจังเลย ซึ่งแม่ก็บอกว่าเผื่อวันนึงไม่มีงานไปรับจ้างล้างจานก็มีเงินนะซึ่งมันจริงนะ ก็โทรไปบอกแม่ว่าหาเงินจากการล้างจานได้จริง ๆ นะ  ซึ่งงานล้างจานผมทำวันนึง 8 ชั่วโมง แทบไม่ได้หยุดเพราะลูกค้าก็กินตลอด ผมเหนื่อยสายตัวแทบขาด หัวถึงหมอนแล้วหลับ ตื่นไปไม่ทันสอบผมก็ต้องดรอปเรียน ที่เล่าเพราะมันเป็นประสบการณ์ที่สำคัญในชีวิตผม เข้าใจในชนชั้นแรงงานมันได้เงินน้อย ตอนนั้นผมทำงานได้เงินประมาณวันละ 150 บาท ยิ่งผมทำงานพาร์ทไทม์มันก็ได้น้อยอยู่แล้ว”

เคยรู้สึกไหมว่าถ้าเราทำงานหนักมากจนคนในครอบครัวไม่อยู่รอเห็นความสำเร็จเรา?
“ผมกลัวว่าวันนึงที่เราประสบความสำเร็จ วันนึงที่เราเดินไปถึงฝันแล้ว กลัวมากกับการหันหลังมาแล้วไม่มีใครร่วมชื่นชมแล้วจริงๆ นี่คือประเด็นที่คนเข้ามาตาม หาฝันแล้วบางคนพ่ายแพ้ก็มี บางคนยังสู้อยู่ ในขณะที่เราสู้ เราประจันหน้ากับปัญหาตลอดเวลาจนเราลืมที่จะหันไปดูที่บ้าน เราต้องการความสำเร็จไปถึงไหนเพื่ออะไร มันมีโอกาสเกิดขึ้นเยอะมากครับกับการที่เราวิ่งๆ อยู่ตามหาฝันอยู่พอได้ฝันแล้วไม่เหลือใครเลยครับ เพราะเวลามันผ่านไปเสมอ พ่อแม่รอเราไม่ได้ครับ วันนึงผมมีกิจวัตรประจำวัน ตื่นตี 5 ไปถ่ายละครกลับมาเที่ยงคืน พ่อแม่อยู่บ้านด้วยแต่ผมเจอแค่ 10 นาที แล้วมีวันนึงผมเดินไปเปิดประตูและเห็นหน้าแม่แล้วเกิดคำถามทำไมจำไม่ได้ ทำไมไม่ใช่แม่อย่างที่เราจำได้ ทำไมแม่ดูแก่ดูโทรม ทำไมเหมือนเราไม่ได้เจอกันนานมากเลย ทั้ง ๆ ที่อยู่บ้านเดียวกัน ผมเลยรู้สึกว่าไม่ได้แล้ว อย่างน้อยผมต้องคุยกับเขาให้มากขึ้น ให้ความสำคัญกับพ่อแม่มากขึ้น ให้เวลากับครอบครัวมากขึ้น ผมก็มาย้อนถามตัวเองว่าที่ทำทุกวันนี้ทำไปเพื่ออะไร” 

บอกตัวเองว่าทำเพื่อพ่อแม่? “แต่ก็ไม่เคยทำเพื่อพ่อแม่จริง ๆ เพราะเขาต้องการเวลากับเรา และผมก็ได้เห็นคำตอบว่าตอนนี้เราทำมากไปแล้ว เวลาตั้งหลายปีผมไม่ได้คุยกับคนในครอบครัวเลย ไม่รู้ว่าเขาเป็นยังไง ไม่ได้ถามเขาตรง ๆ ไม่ได้กอดกัน หอมกันด้วยความคิดถึงจริงๆ เลย พ่อแม่เหงาไหม มันเหมือนอยู่ด้วยกันแต่ทิ้งกัน ผมเลยปฏิญาณตนว่าจะไปทำงาน เฉพาะที่มันตอบโจทย์เรื่องของความสุขของผมได้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเงินเยอะรึเปล่า ไม่ใช่ว่างานนี้ดังรึเปล่า มันไม่สามารถกลับมาได้ยินเสียง ไม่สามารถกลับมาได้กอดอีกครั้ง มันไม่สามารถกลับมาทำอะไรได้อีกเลยถ้ามันเสียไปแล้ว” 

เรื่องของตูมตามเตือนหลายคนว่าอย่าหลงลืมครอบครัว?

“อย่าชะล่าใจครับ ชีวิตมีอยู่ 2 แบบ คือมันมีเงื่อนไขของสิ่งที่แก้ไขได้ กับสิ่งที่แก้ไขไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าเราเอาชีวิตมาแขวนไว้กับเวลา วันนี้โอกาสในการได้เจอใครซักคนนึง โอกาสในการคุยกับใครซักคนนึง โอกาสในการร่วมงานกับใครซักคนนึง ทำอะไรบางสิ่งบางอย่างกับใครซักคนนึง มันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายเสมอ สิ่งนี้เลยเป็นเหมือนไฟกระตุ้นเตือนให้ผมใช้แรงให้เต็มที่ทำให้ดีที่สุด ทำให้เต็มที่ในทุกวัน เพราะผมกลัวจะไม่ได้มีโอกาสเล่นกับพวกเขาแล้ว”

ติดตามบทสัมภาษณ์นี้ได้ในรายการ “วันบันเทิง Talk” ทางช่องยูทูบ “วันบันเทิง” >>> https://youtu.be/BtY-hD4Te48

อ่าน ข่าวบันเทิงวันนี้ ที่เกี่ยวข้อง :